31/10/2021
หลวงพระบาง ยังคงมาตรการ Lock Down ต่อไปอีก 15 วัน มีผลวันที่ 31 ต.ค.-14 พ.ย.64 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ได้ผ่อนผันให้กิจการบางอย่างสามารถเปิดดำเนินการโดยจะต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
นับตั้งแต่คณะเฉพาะกิจฯ แขวงหลวงพระบาง ได้ออกมาตรการ Lock Down เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 64 เป็นต้นมา เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนมาถึงวันที่ 12 ต.ค. 64 ได้มีประกาศเพิ่มเติมเพื่อยกระดับการควบคุมอย่างเข้มงวดสูงสุด ตามที่ “เพจครบเครื่องเรื่องลาว” ของเราได้นำเสนอให้ทราบไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 30 ต.ค.64 เจ้าครองนครหลวงพระบางได้ออกประกาศคำสั่งคงมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ต่อไปจนถึงวันที่ 14 พ.ย.64 มีสาระสำคัญโดยสรุปดังนี้
1. ห้ามประชาชนเข้า-ออกหมู่บ้านในเขตที่มีการแพร่ระบาดอย่างเด็ดขาด
2. เร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมจำนวนประชากรเป้าหมาย โดยเพิ่มการจัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ลงไปฉีดวัคซีนให้ประชาชนยังหมู่บ้านที่มีพื้นที่ห่างไกล
3. คงมาตรการปิดสถานบันเทิง ผับ-บาร์-คาราโอเกะ ร้านเกมส์-ร้านอินเตอร์เนต, สระว่ายน้ำ, ศูนย์กีฬาในร่ม, Fitness Center และห้ามการจัดแข่งขันกีฬาทุกประเภท
4. คงมาตรการเคอร์ฟิวห้ามการสัญจรบนท้องถนน และออกนอกเคหสถานในเวลากลางคืน ตั้งแต่ 22.00-04.00 น.ของวันถัดไป ยกเว้นผู้ได้รับอนุญาตจากทางคณะเฉพาะกิจฯ
5. คงมาตรการห้ามจัดงานชุมนุม, งานเลี้ยง, งานแต่งงาน, งานบุญประเพณีหรือกิจกรรมทางศาสนา
6. ห้ามเดินทางไปต่างแขวง ( เขตที่ยังมีการแพร่ระบาด ) และห้ามบุคคลจากแขวงอื่นที่ยังมีการแพร่ระบาดเดินทางเข้ามาในหลวงพระบาง
7. อนุญาตให้เปิดตลาดสด, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ, ซุปเปอร์มาร์เกต, ร้านค้าส่ง-ค้าปลีกทุกประเภท แต่ต้องมีมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด เช่น
- ผู้ขาย-พนักงาน และผู้มาใช้บริการต้องฉีดวัคซีนครบเรียบร้อยแล้วเท่านั้น
- ต้องมีการตรวจวัดอุณหภูมิลูกค้าทุกคนก่อนเข้ามาใช้บริการ
- ทุกร้านต้องจัดให้มีเจลแอลกอฮอล์ ล้างมือให้ลูกค้า และต้องมีการเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร
- ต้องปิดบริการไม่เกิน 20.00 น.
หากไม่สามารถปฏิบัติตามมาตรการควบคุม ทางแขวงสามารถสั่งปิดร้านได้ทันที เป็นต้น
- ยังไม่อนุญาตให้เปิดบริการสำหรับร้านอาหารประเภทหมูกระทะ-หมูจุ่ม, ร้านชาบู และร้านประเภทปิ้ง-ย่างต่าง ๆ ฯลฯ ที่ต้องใช้เวลารับประทานอยู่ในร้านค่อนข้างนาน
- ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร
8. อนุญาตการส่งอาหารเดลิเวอร์รี่ได้ทุกประเภท แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการนี้อย่างเคร่งครัดเช่นเดียวกัน
9. ผู้ที่ละเมิดหรือฝ่าฝืนคำสั่งข้างต้น กรณีบุคคลธรรมดาจะโดนปรับครั้งละ 2-10 ล้านกีบ ( 6,000-30,000 บาท ) และหากมีการแพร่ระบาดเกิดขึ้นโดยพิสูจน์แล้วว่าต้นเหตุมาจากการละเมิดคำสั่งนี้ ผู้ละเมิดจะต้องชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น และจะต้องถูกดำเนินคดีอาญา ( จำคุก ) ตามกฎหมายควบคุมโรคด้วย
10. ผู้ที่ออกจากบ้านโดยไม่สวมใส่หน้ากากป้องกัน จะถูกปรับครั้งละ 1 แสนกีบ ( 300 บาท )
ประกาศฉบับนี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 31 ต.ค. 64 เป็นต้นไป
หมายเหตุ : รายละเอียดเพิ่มเติมของประกาศฉบับนี้ ( ภาษาลาว ) กรุณาอ่านต่อใน comment
#โควิด19ลาว
#สถานการณ์โควิดในลาว
#ครบเครื่องเรื่องลาว