ซิ่นสัญจร

  • Home
  • ซิ่นสัญจร

ซิ่นสัญจร สร้างแรงบันดาลใจให้คนออกเดินทาง - I read.. I travel.. I become.

Page ที่แบ่งปันการเติมเต็ม "ความรัก/ความสำเร็จ/ความสุข" ผ่านการเล่าเรื่องราวจากประสบการณ์ที่ตนเองค้นพบจากกิจกรรมหลายรูปแบบ
บางเรื่องได้จากการอ่าน การพูดคุย
บางเรื่องจากการเดินทาง ทั้งข้างนอกและข้างใน
บางคราวแทบจะไม่ต้องใช้เงินทองซื้อหาอะไรมากนัก
ความรัก/ความสำเร็จ/ความสุข แต่ละอย่างมีเส้นทางของมัน ไม่ว่าจะสุขสั้นๆ หรือสุขอย่างยั่งยืน ล้วนเต็มไปด้วยการเรียนรู้ที่สนุกและมหัศจรรย์
ความดี ความง

าม
การค้นพบ
และการเติบโตทั้งร่างกาย จิตใจ
แล้วสักวันเราคงมีโอกาสได้ร่วมกิจกรรมเติมเต็มสิ่งดีๆ ด้วยกันนะคะ

🏝 Phuket: Beyond the Sea                      - ภูเก็ตมีมากกว่าทะเล 🙏 ขอบคุณจักรวาลอีกครั้งที่จัดสรร “หนึ่งในของขวัญที่ด...
07/05/2022

🏝 Phuket: Beyond the Sea
- ภูเก็ตมีมากกว่าทะเล

🙏 ขอบคุณจักรวาลอีกครั้งที่จัดสรร “หนึ่งในของขวัญที่ดีที่สุด”

🙏 ขอบคุณตนเองที่เลือกบินกลับเข้าเมืองไทยทางช่องทาง Phuket Sandbox เมื่อต้นปี เป็นการติดเกาะภูเก็ตที่อยู่ในความทรงจำอันงดงาม

อยากเล่าถึงช่วงเวลาดีๆ ของชีวิตอีกช่วงหนึ่ง เผื่อเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆ คนหันมาดูแลเอาใจใส่ตนเองบ้าง
1.
ฉันตั้งใจว่าช่วงเทศกาลคริสต์มาส เราใช้เวลากับครอบครัว คนรัก เพื่อนฝูงแล้ว เมื่อกลับมาเมืองไทยอยากให้ของขวัญตนเอง อยากใช้เวลากับตัวเองทั้งกายและใจ

การเดินทางกลับเข้าประเทศไทยในช่วงโควิด ด้วยกฎเกณฑ์ของประเทศไทย การเข้ามาทาง Phuket Sandbox หากวันแรกผลตรวจ PCR – RT เป็นลบแล้ว สามารถออกนอกห้องพักได้ แต่ต้องอยู่ในเกาะภูเก็ต 7 วัน

เราจึงเลือกที่พักที่เป็นแนวได้พักผ่อนจริงๆ จึงเลือก The Life Co Phuket เพราะคิดว่าเป็นสถานที่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของเรามาก
2.
“TheLifeCo Phuket” ฉันเชื่อว่าหลายๆ คน ต้องไม่เคยรู้จักที่นี่เหมือนฉัน ถึงแม้ว่าเราจะมาภูเก็ตนับครั้งไม่ถ้วนแล้วก็ตาม ช่วงเวลา 7 วันที่อยู่ที่นี่สำหรับฉันมันคือของขวัญการเริ่มต้นปีที่ดีที่สุดจริงๆ
เรามาทำความรู้จักที่นี่ไปพร้อมๆ กันค่ะ

“TheLifeCo Phuket” เป็นสถานที่พัก ที่เน้นกิจกรรมการดูแลร่างกายแบบองค์รวมทั้งกายและใจ กิจกรรมมีเยอะแยะมาก ๆ เช่น โยคะ การไปเดินเล่นริมทะเล อินฟาเรด & สตีม ซาวน่า, ฟิตเนส และสระว่ายน้ำ การบำบัดต่างๆ (Sound Healing Therapy, Breath Work Therapy / Weekly) และอื่นๆ อีกมากมาย

ส่วนการทำ Detox นั้นก็มีให้เลือก ( Juice Fasting, Nutrition Program, Water Fasting ขึ้นอยู่กับการแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ), การล้างลำไส้ด้วยเครื่อง Angle of water,
เวิร์คช็อปทำอาหาร
เล่ามากิจกรรมยังไม่ครบเลยนะเนี่ย😁

สถานที่ ฉันก็ชอบมาก เพราะเป็นแนวรีสอร์ทขนาดกำลังดี มีห้องพัก 20 ห้อง ทำให้แขกเข้าพักไม่วุ่นวาย การดูแลของพนักงานก็ทั่วถึง

ช่วงที้ฉันมา มีแขกทั้งหมด 12 คน เลยมีโอกาสได้คุย ได้ยิ้ม พูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเกือบทุกๆ คน
3.
ฉันลือกทำ water fasting อดด้วยน้ำเปล่า 5 วัน ที่อยากทำ เพราะมั่นใจว่าในสิ่งแวดล้อมดีๆ แบบนี้ และมีทีมงานที่เรามั่นใจ ทั้งคุณหมอ พยาบาล เราทำได้ จะบอกว่าเวลาผ่านไป 5 วันเร็วมาก สิ่งที่เราภูมิใจคือเราทำได้ มันเป็นความท้าทายตนเอง
4.
“เราทำได้ ใครๆ ก็ทำได้จริงๆ”
ฉันอยากแบ่งปันสิ่งดีๆ และต้องการให้ทุกคนได้รับรู้หรือมีโอกาสดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ฉันเชื่อว่า ทุกคนไม่ปฏิเสธที่จะหาสิ่งดีๆ ให้กับชีวิต

คำนิยาม คำว่า “สิ่งดี” ของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน อาจเป็น รถคันใหม่ กระเป๋าใบใหม่ แต่สิ่งเหล่านั้นเป็นของนอกกาย
5.
คนเรามักมองข้าม “การมีสุขภาพกายและใจที่ดี” แต่สำหรับฉันการมีสุขภาพกายและใจที่ดีเหมือนเป็นสินทรัพย์ที่เราไม่ต้องซื้อหา เราสามารถสร้างได้ด้วยตนเอง
6.
สำหรับคนไทยหลายๆ คนที่ไม่มีเวลามากนัก อยากให้มาลองใช้ชีวิตที่นี่อาจเป็น 3 วัน 2 คืน ซึ่งภูเก็ตเรามาได้ตลอดทั้งปีอยู่แล้ว
กิจกรรมของที่นี่มีเยอะมากจริงๆ จนไม่รู้สึกเบื่อเลย อยากอยู่ต่อด้วยซ้ำ น้องๆ ทีมงานทุกคนน่ารักมากๆๆๆๆ เอาใจช่วยทุกวัน 😁
7.
“แค่เปลี่ยนวิธีคิด วิถีชีวิตก็เปลี่ยน”
เรามักคิดว่า เราทำไม่ได้หรอก ไม่จริงค่ะ ทุกอย่างคือ can do attitude มนุษย์เรามีศักยภาพและความสามารถมากกว่าที่เราคิด
8.
อยากชวนจริงๆ นะคะ เราคนไทยมีของดีในเมืองไทย ลองมาใช้เวลาพักผ่อนที่นี่ ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ ถึงแม้ช่วงเวลาสั้นๆ 2 – 3 วันก็จะเห็นถึงความแตกต่าง
ยิ่งช่วงนี้ใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกันได้ คุ้มค่ามากๆ ค่ะ ยังอยากซื้อเก็บไว้แล้วกลับมาอีกเลยค่ะ
9.
อย่าลืมนะคะ หากจะให้ใครมารัก เราต้องรู้จักรักตนเองก่อน ยิ่งเมื่อมาเจอช่วงเวลาโควิด เราจึงคิดว่าเราต้องให้ความสำคัญกับสุขภาพให้มากยิ่งขึ้น จะได้ไม่เป็นภาระของใครด้วย
10.
🙏 ขอบคุณจักรวาลอีกครั้งที่ทำให้ได้รู้จัก TheLifeCo Phuket และได้เห็นภูเก็ตมากยิ่งขึ้น
“ยิ่งรู้จัก ยิ่งรักเธอ”
แล้วเราจะกลับมาเจอกันอีกแน่นอน ❤

#หาดในทอน #โยคะภูเก็ต #ไดเอท

01/01/2021

สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๔

Happy New Year 2021

❤ 🌸 🌄

Stay tuned. ... in. Satun !! ทริป '"กินตามมีตามเกิด"      ทริปนางงาม  ทริปที่อยากจะตะโกนดังๆๆ ว่า รัก ❤ เมืองไทยมากมายขน...
05/12/2020

Stay tuned. ... in. Satun !!

ทริป '"กินตามมีตามเกิด"

ทริปนางงาม

ทริปที่อยากจะตะโกนดังๆๆ ว่า

รัก ❤ เมืองไทยมากมายขนาดไหน

อีกหนึ่ง dots ที่ฉันสะสมประสบการณ์จากการเดินทางครบ 77 จังหวัดทั่วเมืองไทย มีสิ่งดีๆ ความรัก ความสุขมากมายที่ฉันอยากให้เพื่อนๆ ได้สัมผัสอย่างที่ฉันเห็น จึงเกิดการป้ายยาทริปชวนเพื่อน พี่ เพื่อนพี่เที่ยว
เราชวนพี่ๆ ไปใช้ชีวิตตกระกำลำบาก ดิบๆ ขึ้นเขาลงห้วย ออกทะเล ใช้ชีวิตแบบวิถีชาวบ้าน กินอยู่อย่างอดมื้อกินมื้อ อาหารทะเลสด ๆ ไม่ปรุงแต่ง

กินข้าวหุงจากกระบอกไม่ไผ่ กินผักลวก จิ้มน้ำพริก บ้านๆ เด็ดผักเด็ดหญ้า ข้างๆ ริมลำธาร ชวนสอยผลไม้จากต้น

และที่ห้ามพลาดคือโรตี ชาชัก แบบออริจินอล ต้องขอบคุณบังและก๊ะที่ดูแลสาวๆ วัยใสเป็นอย่างดี

ในความเป็นนางงาม 💃

เราคิดถึงเด็กๆ ชนเผ่ามันนิ คิดถึงผมหยิกหยอยๆ ไกด์ผีอย่างอิชั้นเลยชวนพี่ๆ ไปเยี่ยมหาและชวนทำกิจกรรมร้อยลูกปัด เด็กๆ ชอบมาก นั่งได้นิ่งๆ นานๆ จนแปลกใจ
ขอบคุณครูณัฐ ช่วยประสานงาน วันนี้เลี้ยงก๋วยเตี๋ยว ซื้อไข่ ช้อน มัน กล้วย ให้เด็กๆ ไว้ พร้อมปัจจัยที่พี่ๆ ช่วยกันบริจาค ฝากครูไว้ซื้ออาหารเพิ่มเติม
ปันสุข ....สุขใจ❤
สมเป็นทริปนางงาม

ส่วนการเที่ยวแบบสาวรักษ์โลก 🏝

เราพายเรือคายัค ... ชวนเก็บขยะ ...
การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยชุมชนที่เกิดรายได้ให้กับคนในชุมชนและนำไปพัฒนาชุมชนต่อคือสิ่งที่ฉันมี passion

วันนี้จึงชวนสาวๆ เก็บขยะ อย่างขวดโค้กที่เจอคือพัดพามาจากมาเลเซีย มีภาษามลายูเป็นหลักฐาน😁
การรับผิดชอบการท่องเที่ยวด้วยการเก็บขยะกลับขึ้นฝั่งด้วยเสมอ เป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในฐานะนักท่องเที่ยว ฉันขอเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลท้องทะเลไทยอย่างยั่งยืน ✌

เที่ยวแบบนักท่องเที่ยว ทริปมนุษย์ถ้ำ จ้ำเรือคายัค....🐳🐠🏜

เราออกไปล่องทะเล ดูซากฟอสซิล พายเรือคายัค ชมปราสาทพันยอด สูดอากาศสดชื่นไปเต็มปอด ท่องทะเลกันเต็มวัน

Unseen หนึ่งเดียวในไทย ปราสาทหินพันยอด
เราจะต้องพายเรือคายัคล่องถ้ำลอดเข้าไปด้านใน เพื่อชมความงามของชายหาดและน้ำทะเลสีเขียวมรกตที่แอบซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหินยอดนับพัน ที่ดูแล้วคล้ายรูปทรงปราสาทสุดแปลกตา

ว่าไปแล้ววิถีของชาวสตูลช่างดีนัก

คิดถึง ร. 9 ที่ท่านสอนเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง การไม่ต้องพึ่งพาใคร เนื่องจากชาวสตูลไม่ได้ยึดการท่องเที่ยวเป็นรายได้หลัก แต่เป็นการประมง การทำสวน ถึงแม้เศรษฐกิจจะหยุดชะงักไปบ้างในช่วงโควิด แต่ชาวบ้านก็พอมีพอกิน กินอาหารตามมีตามเกิด ตามที่จัดมาให้ชาวคณะ อิ่มท้องอิ่มใจกันถ้วนหน้า

เขียนถึงสตูล post เดียวไม่จบ เป็นว่าอาทิตย์นี้ชวนเที่ยวสตูลกันดีกว่านะคะ

#ซิ่นสัญจร
#ผ้าไทยท่องโลก


Dec 5, 2020

สุขกาย VS สุขใจ  - เรื่องราวจากการเดินทาง ที่มักสร้างความสุขแบบง่ายๆ  นึกถึงคราวใดก็อดอมยิ้มไม่ได้ เอ็นดูความจริงใจของชา...
28/11/2020

สุขกาย VS สุขใจ - เรื่องราวจากการเดินทาง ที่มักสร้างความสุขแบบง่ายๆ นึกถึงคราวใดก็อดอมยิ้มไม่ได้ เอ็นดูความจริงใจของชาวบ้าน ถือเป็นสิ่งเสพติด ถ้าอยู่ในเมืองมากเกินไปก็อดโหยหาชีวิตแบบนี้

อิชั้นมักใช้ 7 – 11 เป็นเครื่องชี้วัดว่าพื้นที่นั้นๆ มีความเจริญขนาดไหน บางชุมชนแค่ข้ามถนนก็มีร้านสะดวกซื้อทั้งสองฝั่ง แต่คราวนี้ ในหมู่บ้านขนาดกลางๆ ที่มีประมาณ 130 ครัวเรือน หมู่บ้านที่มีเพียงคนแก่และเด็กเล็ก คนหนุ่มสาวไปทำงานในเมืองใหญ่ เป็นชุมชนที่ไม่มี 7-11 มีร้านขายของชำ 2 ร้าน เห็นว่าร้าน 7-11 ที่ใกล้สุดห่างออกไป 30 กิโลเมตร

กำไรชีวิตจากการทำงานที่ได้ลงพื้นที่คงเป็นการได้เปิดประสบการณ์ ได้เห็นโลกกว้างมากกว่าแค่ชีวิตในเมืองบนตึกสูง ได้มากระจายรายได้ให้คนหัวเมือง😁

ทริปนี้ได้ซิ่นลายมะม่วง เพราะอำเภอที่อิชั้นลงไปเก็บข้อมูล เค้ามีสวนมะม่วงน้ำดอกไม้สุกที่ส่งออกตลาดเมืองนอกเป็นหลัก แม่ๆ พ่อๆ ชาวบ้านน่ารักเสมอ ได้พาเยือนถึงสวน เห็นวิถีชาวบ้าน เสน่ห์ชุมชน @ บ้านกุดหมากไฟ อ. หนองวัวซอ จ. อุดรธานี

การทำงานลงพื้นที่ที่ไม่สะดวกสบายมากนัก เราต้องนอนกับชาวบ้าน เพราะไม่มีที่พักในหมู่บ้าน คืนสุดท้ายจะเรียกว่า homestay ก็ว่าได้ เป็นคืนที่นอนหลับไม่ค่อยดีนัก เสียงหมาหอนขานรับกันทั้งหมู่บ้าน

ตอนตีหนึ่ง เสียงฝนตกหนักมาก จนคิดไปว่าเอร้ย หลังคาน่าจะพังลงมาแน่นอน ละอองฝนกระเด็นมาถึงที่นอน ตีสี่กว่าๆ ไก่เริ่มขัน นอนหลับๆ ตื่นๆ ทั้งคืน

ตื่นมาในสภาพแบบโหวงๆ ตั้งแต่ยังไม่ตีห้า เพราะเสียงตามสายแบบคนตจว.

คิดบวกตื่นเช้าดีแล้ว ได้ใส่บาตร ถือเป็นโอกาสอันดีได้ทำบุญแต่เช้า ทำงานเสร็จค่ำนี้จะได้กลับบ้าน แอบคิดถึงที่นอนที่บ้าน หมอนเน่าๆ ของตัวเอง เย้ๆๆๆ

ทำงานเสร็จช่วงบ่ายๆ อิชั้นจับเรือบินกลับจากอุดรรอบค่ำๆ เอ็นดูชาวบ้าน แม่ๆ น่ารักมากๆ จะมาส่งขึ้นเครื่องทั้งคณะมีเกือบสิบคน ประหนึ่งมาส่งอิชั้นไปทำงานเมืองนอก มิใช่กลับบางกอก อิชั้นรีบบอกว่าไม่ต้องๆ เพราะระยะทางเป็นชั่วโมง ขอแค่รถไปส่งคันเดียวพอ

แม่ๆ ไม่ยอม บอกไม่ได้ๆ มากันเกือบสิบคน พาแวะเที่ยววัดก่อน พอมาใกล้ถึงสนามบิน คิดดูแล้วว่าหากกว่าแม่ๆ จะกลับถึงบ้านคงเลยสองทุ่มแน่นอน จึงขอเลี้ยงข้าวเย็น แม่ๆ ก็เกรงใจ บอกไม่กินๆ เลยบังคับให้หาร้านเอาที่สบายใจ เลยจบที่ร้านแถวข้างทาง

ที่อยากเล่าสู่กันฟัง คงเป็นมิตรภาพและความน่ารักของคนต่างจังหวัด สนนราคาที่อิชั้นเลี้ยงข้าวแม่ๆ หากเทียบกันแล้วเรากิน starbucks ไม่กี่แก้ว แต่ความสุขใจมันยิ่งใหญ่มากนัก

ถึงบางกอกจะเป็นเมืองที่ทันสมัย แต่อาจไม่พัฒนาทางใจเท่าวิถีของชาวบ้าน

เราแตกต่างกันเพียงสำเนียงภาษา และสิ่งฉาบทาภายนอก
แท้จริงแล้วเราเสมอเหมือนในความเป็นมนุษย์เช่นเดียวกัน

เสน่ห์ของ homestay หมู่บ้านกุดหมากไฟ อุดรธานี อยู่ที่น้ำใจไมตรีและมิตรภาพของชาวบ้าน หากใครอยากไปสัมผัส ลองหาข้อมูลได้ เพราะหมู่บ้านนี้ได้รับรางวัลมากมายจริงๆ

#ซิ่นสัญจร
#ผ้าไทยท่องโลก


Nov 28, 2020

“Everyday is Covid”“อยู่เป็น & อยู่เย็น” สวัสดีพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ นะคะ ห่างหายไปนานกับการขีดๆ เขียนๆ อะไรใน fanpage จากท...
23/11/2020

“Everyday is Covid”

“อยู่เป็น & อยู่เย็น”

สวัสดีพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ นะคะ ห่างหายไปนานกับการขีดๆ เขียนๆ อะไรใน fanpage จากที่ตั้งใจเปิด page ในช่วง covid – 19 เพื่อต้องการให้กำลังกันและกันว่า อุปสรรคต่างๆ ที่เหนือการควบคุมของเรา สิ่งสำคัญที่สุด คือทุกเหตุการณ์เป็นบทเรียนที่สอนให้เรามี growth mindset มีการเติบโตจากข้างใน 🌷

Covid – 19 สอนให้เราหยุดหันกลับมามองตนเองมากขึ้น และเมื่อเรายังต้องอยู่กับกับภาวะแบบนี้ เราจะมีมุมมองการใช้ชีวิตยังไง

ในเมื่อเราออกเดินทางไปต่างประเทศไม่ได้ การเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสครานี้ น่าจะทำให้เรารักเมืองไทย รักคนไทยด้วยกันมากขึ้น

จึงอยากชวนออกเดินทาง เลือกเส้นทาง ที่เปิดพื้นที่ใหม่สำหรับเราทุกคนจริงๆ

“การเดินทาง” ทำให้เราได้คุยกับคนที่เราไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความคิดเพราะเส้นทางเราขนานกันเหลือเกิน
เราจะไปในชนบทมากกว่าที่เคยไปทุกครั้ง วางแผนเรื่องที่พักไม่ได้ ต้องกะระยะเอา และมีเรื่องฮาๆ ให้ได้หัวเราะเสมอ เช่น ค่ำแล้วเห็นที่พักใช้คำว่ารีสอร์ท ดูโอเค พอขับเข้าไป ทีมบอก เอร้ยที่มันม่านรูด เป็นหลังๆ มีที่จอดรถพร้อมม่าน กรี๊ด ๆ ไม่อยากนอนทับที่นอนใคร รีบถอยหลังกลับไม่ทันเลยทีเดียว

ต้องขอบคุณการเดินทาง ที่สอนให้ฉันเป็นคนปรับตัวง่าย ฉันสามารถนั่งปั้นข้าวเหนียวจิ้มปลาร้า หรือกินตูดกบกับชาวบ้านได้อย่างสบายใจ แต่ขณะเดียวกัน การนั่งกินข้าวกับนักการทูตต่างชาติหรือระดับท่านรัฐมนตรี ฉันก็ว่าตนเองทำได้อย่างไม่เคอะเขิน รู้จักมารยาทบนโต๊ะอาหาร จะหยิบช้อนส้อม แก้วไวน์ แก้วน้ำยังไง หรือจะหาบทสนทนา ได้ไม่ยาก
หรือแม้แต่เรื่องที่พัก อิชั้นก็สามารถนอนได้ตั้งแต่คืนหลักหมื่นถึงหลักร้อย คิดเสมอว่าเดี๋ยวก็เช้าแล้ว อย่าไปสร้างเงื่อนไขอะไรให้มากนัก

วันนี้นึกอยากจะแบ่งปัน ไม่ได้มาบอกว่าตนเองดียังไง เพราะไม่มีใครสมบูรณ์แบบ เพียงแต่อยากให้ทุกๆคนนึกว่า “Everyday is Covid”

ในยุคที่ใครๆ ให้ความสำคัญกับ Lean, Agile, Productivity และ Efficiency เราทุกคนต้องแข่งขันกับความไม่แน่นอน ซับซ้อน และสภาวะถดถอย
เมื่อเรายังเป็นมนุษย์งานอยู่ อยากให้ทำตัวเหมือนคนใกล้ตกงาน อย่าทำแค่งานเดียว มีงานฟรีแลนซ์ หางานรองรับไว้ เมื่อต้องออกไปแล้วอาจจะกลับมาทำเป็น Part Time หรือรับงานเป็นรายโปรเจกต์ๆ ก็ได้

เมื่อมาเจอวิกฤตโควิด – 19 นึกขอบคุณทุกๆ บทเรียน ประสบการณ์ที่เคยผ่านมา ในแต่ละบท แต่ละ chapter ของชีวิต ไม่เคยเห็นตนเองเติบโตแบบเส้นตรง ไม่เคยมองเห็นตนเองเติบโตเป็น senior หรือเป็นผู้อำนวยการ คิดว่าชอบจะเติบโตออกด้านข้างได้ลองทำอะไรสารพัดสิ่ง บางงานฟรีหรือจ้างหลักร้อย แต่ทำหลักล้านเสมอ สำหรับตนเองมันคือการ collecting the dots แล้ววันหนึ่งมันกลายเป็น connecting the dots

หรือเพราะเป็นนิสัยส่วนตัวของตนเอง ที่ชาร์ตพลังด้วยการพัดพาตนเองไปในที่ต่างๆ ชมนกชมไม้ ชอบพูดคุย สร้างสัมพันธภาพข้ามกลุ่ม ข้ามแผนก แต่จะเครียดกับกฏระเบียบ ข้อบังคับเกินจำเป็น เหมือนลมพัดไปติดๆ ขัดๆ แแต่นายเคยทัก ฉันจะหาทางไปได้เองเสมอ

พร้อมจะออกเดินทางไปด้วยกันหรือยังค่ะ ❤️

#ซิ่นสัญจร
#ผ้าไทยท่องโลก


Nov 23, 2020

ONE DAY TRIP: เที่ยวชุมชนย่านกุฎีจีน ด้วยความเชื่อของอิชั้นว่าวันหยุดของคนกรุงฯไม่ได้มีแค่ห้างสรรพสินค้าหรือคาเฟ่เก๋ๆเท่...
04/08/2020

ONE DAY TRIP: เที่ยวชุมชนย่านกุฎีจีน

ด้วยความเชื่อของอิชั้นว่าวันหยุดของคนกรุงฯไม่ได้มีแค่ห้างสรรพสินค้าหรือคาเฟ่เก๋ๆเท่านั้น.......

เมื่อพี่เกด ชวนสาวๆ มาร่วมเดินเล่นละแวกบ้าน อิชั้นจึงรีบรับปากขอมาด้วย

ต้องขอบคุณพี่เกด มา ณ โอกาสนี้ค่ะ

เสน่ห์ของชุมชนกุฎีจีน คือการผสมผสานระหว่าง 3 วัฒนธรรม 3 ศาสนา แต่มาอยู่ร่วมเป็นชุมชนเดียวกันได้อย่างสุดคลาสสิก
เราเริ่มจาก “วัดกัลยาณมิตร” วัดไทย มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ คือ หลวงพ่อโต ซำปอกง ประดิษฐานอยู่ในพระวิหาร พี่เกศ น้องแอ๊ม บอกว่าเสี่ยงเซียมซีที่นี่แม่นมาก จัดตาม คาดว่าจะแม่นจริง

ข้างๆ วัดพุทธ คือ

“ศาลเจ้าเกียนอันเกง” วัดจีน ศาลเจ้าแห่งนี้ มีสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในที่ผสมผสานระหว่างการใช้กระเบื้องโค้งและวิธีมุงหลังคาแบบจีนแท้ ๆ วัดจีนที่นี่สวยคลาสสิคจริงๆ

ระหว่างทางเดินไป วัดฝรั่ง เราเจอบ้านหลังนี้เข้า ดูเก่าและสวยงามดี มารู้ทีหลังว่าเจ้าของบ้านคือ หลุยส์ วินด์เซอร์ ชาวอังกฤษ

“โบสถ์ซางตาครูส” เป็นวัดฝรั่ง คำว่า “ซางตาครูส” เป็นภาษาโปรตุเกส แปลว่า กางเขนศักดิ์สิทธิ์ โดยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้พระราชทานที่ดินเพื่อสร้างวัดแห่งนี้แก่ชาวโปรตุเกสที่ร่วมมือกับพระองค์ในการศึกต้านกองทัพพม่า

หน้าวัด มีร้านขนมทาร์ตไข่ อร่อยมากกกกกกกกกกกกกก ชิ้นละ 10 เอง

มื้อกลางวัน พี่เกด ชวนชิมอาหารสยาม & อาหารโปรตุเกส บ้านสกุลทอง

ร้านกาแฟตรงข้ามบ้านสกุลมีกะหรี่ปั๊บอร่อยมากกก(อีกแล้ว) แป้งนุ่มมาก และกาแฟสด เมล็ดกาแฟปลูกบนดอย หากเราดื่มกาแฟที่นี่ ถือว่าได้สนับสนุนคนต้นน้ำ เด็กๆ บนดอย

“พิพิธภัณฑ์กุฎีจีน” คือจุดหมายต่อไป ที่นี่น่ารักอีกแล้ว พักดื่มกาแฟ ถ่ายรูปสวยๆ

เราก็เดินลัดเลาะเข้าไปในชุมชนสิ่งที่ห้ามพลาดก็คือ “ขนมฝรั่งกุฎีจีน”
นอกจากขนมฝรั่งกุฎีจีน ยังมีขนมหน้านวล, ขนมกุสลัง และขนมก๋วยตั๊ส ที่เป็นขนมอบดั้งเดิมชาวโปรตุเกส

ปลายทางสุดท้าย

“เรือนจันทนภาพ” หรือเรือนไทยวิคตอเรีย ที่มีอายุกว่า 120 ปี มีความโดดเด่นที่หน้าจั่วรูปแสงอาทิตย์ คุณป้า ต้องเรียกว่า พี่แดงมากกว่า เปิดบ้านต้อนรับ

วันหยุดวันนี้เป็นวันที่อากาศเป็นใจ ไม่ร้อนจนเกินไป ได้เดินชิลถ่ายรูปเล่น ย่านเก่าฝั่งธนฯ ได้เที่ยวทั้ง วัดฝรั่ง วัดจีน วัดไทย ได้อร่อยกับขนมโบราณ ขนมฝรั่งกุฎีจีน ที่หาทานไม่ได้ที่ไหน แถมได้รู้เรื่องราวดีๆ ทางประวัติศาสตร์แบบเบาๆ กลับไปอีกด้วย

ที่สำคัญ พี่ๆ น้องๆ ร่วมทริป ทุกคนน่ารักมาก เราย้วยๆ ไปด้วยกัน ไปไหนไปกัน ลองชิมอะไรใหม่ๆ ด้วยกัน

ทริปนี้มีทั้ง stylist การโพสท่ายังไงให้สวย โดยพี่รุจ และเป็นทั้งตากล้องมือทอง โดย พี่รุจ

ทริปนี้ใครอยากเดินเที่ยวกรุงเทพฯ แบบชิลๆ ปักหมุดตามรอยอิชั้นได้เลยค่ะ

2 สิงหาคม 2563

CR: รูปสวยๆ จากหลายๆกล้องค่ะ

ป.ล. เดินเล่นแถวนี้คิดถึงบรรยากาศที่อิตาลีและโปรตุเกสมากกกก ไว้มาเขียนเล่าทริปโปรตุเกส ต้นกำเนิดที่แท้จริง

"BEST"ท่องเที่ยวในโลกใหม่ ในวิถี  New Normal  เมื่อเรายังไม่มีวัคซีนและยังเดินทางไม่ได้เต็มที่ เราเองควรเตรียมตัวยังไง ก...
19/07/2020

"BEST"

ท่องเที่ยวในโลกใหม่ ในวิถี New Normal

เมื่อเรายังไม่มีวัคซีนและยังเดินทางไม่ได้เต็มที่ เราเองควรเตรียมตัวยังไง ก่อนการเดินทาง


Book - เราต้องมีการจองล่วงหน้ามากขึ้น (ไม่ว่าร้านอาหาร/ที่พัก/สถานที่เข้าชม) เพื่อจะได้รู้จำนวนคน

Environment - เราควรทำตัวเป็นท่องเที่ยวแบบมีส่วนร่วมของความรับผิดชอบเรื่องสิ่งแวดล้อม

Safety - ต้องเซตการวัดค่าใหม่ เมื่อก่อนเราเองอาจดูรีวิวเพื่อดูความคุ้มค่า ปัจจุบันเราดูที่ความปลอดภัย(SHA)

การรีวิวที่เที่ยวจะเปลี่ยนไป เช่นดู trip advisor อาจต้องมีเรื่องความสะอาด/ปลอดภัย (ใส่หน้ากากอนามัย/ใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ/ไม่ไปสถานที่มีคนแออัด)

Technology - มาเติมเต็มในการสร้างคุณค่า Facial Recognition, Tracking, Tracing, Augmented Reality / Virtual Reality

สิ่งต่างๆ อาจเพิ่มความยุ่งยาก แต่เมื่อทำบ่อยๆ จะกลายเป็นความคุ้นเคยและคุ้นชิน
.

วันนี้ใส่แม่ซิ่นจาม ผ้าทอจากชาวจาม ในกัมพูชา เพราะคิดถึงประวัติศาตร์การเคลื่อนย้ายถิ่นฐานของผู้คนละแวกนี้ คุณยายงามจริงๆๆๆๆ ค่ะ

พร้อมออกไปบอกรักเมืองไทยให้หายคิดถึงกันหรือยัง ❤️การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ในวิถี  New Normal  เมื่อเรายังไม่มีวัคซีนและยั...
20/06/2020

พร้อมออกไปบอกรักเมืองไทยให้หายคิดถึงกันหรือยัง ❤️

การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ในวิถี New Normal

เมื่อเรายังไม่มีวัคซีนและยังเดินทางไม่ได้เต็มที่

เราเองควรเตรียมตัวยังไง.....

ชาร์ล ดาร์ลวินเคยบอกว่า พื้นฐานของกลไกการคัดเลือกโดยธรรมชาติ ถึงเวลาที่ธรรมชาติจะจัดสรร คัดสรรเอง ใครที่ควรจะอยู่รอดหรือปรับตัวได้ การเกิด COVID - 19 จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ

CEO โควิด บอกว่าคนที่แข็งแรงเท่านั้นที่จะเดินทางได้

การมีกฎกติกาการจัดระเบียบใหม่ของการเดินทางและการรักษาระยะห่างทางสังคม ย่อมทำให้รูปแบบการท่องเที่ยวเปลี่ยนไป ค่าใช้จ่ายในการเดินทางจะสูงขึ้น อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การตัดสินใจเปิดพรมแดนให้มีการท่องเที่ยวระหว่างประเทศได้อย่างเสรีก็คงจะเกิดขึ้นเป็นลำดับท้ายๆ โดยเฉพาะเมื่อการกลับมาของ CEO โควิดอีกระลอกในหลายๆ ประเทศ

รัฐไทยจึงลังเลและขอชะลอตัวการเปิดเมือง ในวิกฤตย่อมมีโอกาสแล้วอาจเป็นโอกาสทองที่เราคนไทยจะได้รู้จักเมืองไทยมากขึ้น เราจะได้เที่ยวในเมืองไทยมากขึ้น เห็น ททท. จัด campaign หลากหลายออกมาต้นเดือนกรกฎาคม
ลองมานั่งนึกๆ ดูแล้ว จริงๆ รูปแบบการท่องเที่ยวที่ฉันเป็น คือสิ่งที่เป็น trend ของการท่องเที่ยวยุค New Normal เลยเหมือนเราไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก เช่น ชอบการเดินทางแบบกลุ่มเล็กๆ ความสะอาด/ปลอดภัย การลงชุมชนเพื่อจุดประกายความยั่งยืนในชุมชน การให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม

เดี๋ยวมารวบรวมกิจกรรม สถานที่ ที่เคยไป และคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ดูนะคะ

…ใครพร้อมออกเที่ยว พิมพ์ "พร้อม" ค่ะ ยังไงอย่าให้การ์ดตกนะคะ

#ซิ่นสัญจร
#ผ้าไทยท่องโลก


June 21, 2020

“คนเดียวอีกสักครั้งก็คงไม่ยากอะไร” การเดินทางคนเดียวหรือเดินทางกับใครสักคนอย่างไหนดีกว่ากัน? เริ่มแรกทีเดียว เรามีเพื่อน...
20/06/2020

“คนเดียวอีกสักครั้งก็คงไม่ยากอะไร”

การเดินทางคนเดียวหรือเดินทางกับใครสักคนอย่างไหนดีกว่ากัน?

เริ่มแรกทีเดียว เรามีเพื่อนร่วมทริป แต่เมื่อโดนเท 5 วันล่วงหน้าก่อนเดินทาง ไหนๆ ก็ตั้งใจจะไปอยู่แล้ว แผนการเดินทางก็ไม่มี มีแต่ใจที่รักทะเลล้วนๆ ฉันจึงไม่คิดยกเลิกทริปนี้

นี่คือกฎข้อแรกของชีวิตนักเดินทาง คือการสอนเราให้เตรียมตัวเตรียมใจรับมือกับสิ่งที่ไม่คาดฝันเสมอ

เกาะเต่าไม่ได้อยู่ใน wish list ในใจฉันมาก่อนเลย คงเพราะฉันคิดเสมอว่าเกาะเต่าเหมาะสำหรับกิจกรรมดำน้ำลึก Scuba แล้วตัวเองยังไม่นึกสนใจนัก พร้อมทั้งข่าวต่างๆ ที่เสพจากสื่อทั้งเรื่องจริงและไม่จริง ในเรื่องความปลอดภัย คดีต่างๆ ที่ได้ยินเข้าหูอยู่เรื่อยๆ จึงมีความลังเลสงสัยกับเกาะนี้มาก

จนกระทั่งพี่สาวทั้งสอง ซึ่งทิ้งหน้าที่การงานที่มั่นคงได้รับการยอมรับจากผู้คนมากมายในเมืองหลวง ย้ายสายงานมาสู่วงการที่ไม่คุ้นเคย ฉันจึงตั้งใจอยากไปเยี่ยมหา ถามสารทุกข์สุกดิบ เพราะการไปอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย แตกต่างจากการไปเที่ยวนัก วางแผนไว้ว่า พี่ๆ ก็ทำงานไป เราคงไม่อยากไปรบกวน ไว้เจอกันตอนเลิกงาน ตั้งใจไว้ว่ามาเกาะเต่าเพื่อมาเดินเล่น ตื่นเช้ามาแต่ละวันดูอากาศ ถามใจตัวเองวันนี้อยากไปไหน ทำอะไร ชิมอะไร จริงๆ แล้วมีเวลาใช้ชีวิตแบบนี้บ้างก็ดีเหมือนกัน

เอาละค่ะ แล้ววันที่เราต้องเดินทางก็มาถึง

สำหรับฉันการเดินทางคนเดียวในเมืองไทย ทั้งๆ ที่เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองแท้ๆ กลับรู้สึกว่าตัวเองต้องเตรียมพร้อมมากกว่าการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวในยุโรปซะอีก

เหตุการณ์ผิดคาด จนอยากเล่าความประทับใจ เริ่มตั้งแต่ออกเดินทางเลยทีเดียว การเดินทางไปเกาะเต่าไปได้หลายทางนัก ทั้งนั่งรถไฟ ต่อเรือ นั่งเรือบินต่อเรือ แต่ฉันเลือกนั่งรถบัสจากถนนข้าวสารและต่อเรือ เพราะไม่ต้องรีบออกจากที่ทำงานเร็วมากนัก และคิดว่าไป update บรรยากาศแถวถนนข้าวสารสักหน่อย

แปลกใจมากตอนซื้อตั๋วได้ที่นั่ง บริษัทรถก็ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยใช้ได้ทีเดียว เค้าดูด้วยว่าผู้โดยสารเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เวลาเลือกที่นั่งจะจัดให้ตามความเหมาะสม เราจึงนอนหลับบนรถได้อย่างสบายใจ เราถึงท่าเรือแถวชุมพรสักตี 5 กว่า เพื่อต่อเรือตอน 7 โมงเช้า

แม่เจ้า!! ตื่นมาจิบกาแฟร้อนๆ รับอรุณ มองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่โค้งปลายฟ้า มีหมอกจางๆ รอบตัว เหมือนเติมพลังบำบัดตั้งแต่ยังไม่ถึงเกาะเต่าเลย เราใช้เวลาบนเรืออีกสัก 2 ชั่วโมงก็ถึงเกาะเต่า บนเรือมีแบ่งโซนติดแอร์ และ โซนดื่มด่ำกับบรรยากาศ outdoor ฉันเลือกนั่งในห้องแอร์ (ฮา) เพราะคิดว่าขอนอนต่ออีกสักงีบ แอบนึกถึงชายหนุ่มข้างกาย ถ้าฮีมาคงไปนั่งอาบแดดบนดาดฟ้า แล้วเจอกันตอนเรือใกล้ถึงฝั่ง

เหมือนเคลิ้มหลับไปงีบใหญ่ ได้ยินเสียงประกาศว่าเรือถึงเกาะเต่าแล้ว มองดูนาฬิกา เก้าโมงกว่าๆ เรามาถึงเกาะเต่าแล้วสินะ ท่าเรือเกาะเต่าไม่พลุกพล่าน มีการจัดระบบระเบียบได้ดีทีเดียว มองเห็นน้องเจ้าหน้าที่โรงแรมที่เราไปพักมาชูป้ายที่ท่าเรือรอไว้แล้ว

ฉันมาถึงเกาะเต่าจริงๆ แล้วนะ

เมื่อก้าวขาเข้ามาที่พัก ความเหนื่อยหายเป็นปลิดทิ้ง เห็นที่พักแล้วแอบกรี๊ด เนี่ยแหละที่พักที่ตอบโจทย์ในการเดินทางคนเดียวของฉัน

ด้วยวัยและการเดินทางคนเดียว สำหรับการเลือกที่พักนั้น ฉันต้องคำนึงถึงความปลอดภัยก่อนเสมอ ฉันขอแนะนำว่าให้ยอมเพิ่มเงินอีกนิด เพื่อที่จะได้โรงแรมที่มีระบบความสะอาดที่ดี มีความปลอดภัยสูง และ มีความเป็นส่วนตัว
ที่พักแห่งนี้ Tarna Align Resort เหมาะสมมากสำหรับ นักเดินทางคนเดียว หรือคู่รัก หรือครอบครัว ที่พ่อแม่ไม่ต้องกังวลมากเรื่องความปลอดภัย

first impression ของฉันที่มาถึงคือ เริ่มจากที่แผนกต้อนรับ ชอบชุดพนักงานที่นี่จัง เลือกสีและรูปแบบได้มีรสนิยมมาก มีความเรียบแต่เก๋ไก๋ในตัว พนักงานที่นี่ครึ่งนึงเป็นต่างชาติเลยทีเดียว อย่างน้องที่ front เป็นชาวเยอรมัน มาเที่ยวเกาะเต่าและหลงรักที่นี่ จนหางานทำที่นี่เลย ส่วนคนอื่นๆ ก็เช่น ฟิลิปปินส์ พม่า ทั้งที่มาจากทวาย ย่างกุ้ง ซึ่งทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษ คล่องแคล่วทุกคน

เมื่อฉันมาถึงที่พัก ตอนแรกคิดว่าจะงีบสักหน่อย แต่ไม่รู้มีพลังมาจากไหน รู้สึกว่าพร้อม อยากออกไปสำรวจเกาะ บอกน้องที่ front ให้ช่วยไปส่งทีหาดทรายรี ซึ่งห่างจากโรงแรมประมาณ 900 เมตร พอดีขากลับจะไม่มีรอบรถของโรงแรงมารับที่จุดนัดพบ ถ้าหารถสาธารณะจะแพงมาก แอบประทับใจในไมตรีน้องพนักงาน ทั้งๆ ที่ไม่ใช่หน้าที่ของน้อง น้องบอก เดี๋ยวผมมารับพี่กลับก็ได้ น้องให้เบอร์โทรศัพท์ไว้

ฉันเดินเล่นสำรวจแถวริมหาด สัมผัสได้เลยว่า คนที่มาเที่ยวเกาะนี้ เป็นสายกีฬาและสุขภาพจริงๆ เพราะกิจกรรมไฮไลต์ของเกาะเต่า คือการมาทั้งเรียนดำน้ำและมาดำน้ำ หากมา party ดึกดื่นหรือดื่มจัดๆ อีกวันคุณจะลงไปสำรวจความสวยงามของโลกใต้น้ำไม่ได้ ฉะนั้นริมหาดจึงไม่ได้มีบาร์มากมายนัก

ฉันเห็นร้านกาแฟเก๋ๆ น่านั่งอยู่หลากหลายร้าน มีทั้งที่แบ่งเป็นโซนสอนดำน้ำในส่วนทฤษฎี ซึ่งนั่งเรียน จิบกาแฟกันไปในคาเฟ่ outdoor รับลมทะเล

การไปเที่ยวคนเดียวไม่ได้หมายความว่าคุณจะอยู่คนเดียวบนโลกใบนี้นะคะ และการทำความรู้จักกับคนท้องถิ่นนอกจากจะทำให้คุณได้รู้ข้อมูลท่องเที่ยวเมืองนั้น ๆ มากยิ่งขึ้นแล้ว ยังได้เพื่อนใหม่ที่ได้แลกเปลี่ยนโลกทัศน์มุมมองต่อโลกใบนี้ด้วย

ฉันจึงตัดสินใจนั่งจิบกาแฟซึบซับบรรยากาศรอบๆข้าง รู้สึกได้เลยว่าคนบนเกาะเต่า ตระหนักและเห็นคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติขนาดไหน ที่นี่เข้าร้านสะดวกซื้อก็ไม่มีแจกถุงพลาสติก เราช่วยกันคนละไม้ละมือก็จะช่วยลดขยะได้มากโข ฉันเริ่มรักผู้คนและบรรยากาศบนเกาะนี้แล้วสินะ

ฉันรีบเข้านอนไวและวันรุ่งขึ้นจึงตื่นเช้าเพื่อจะออกวิ่งๆ เดินๆ สำรวจเกาะสักหน่อย เกาะนี้ให้อารมณ์เหมือนอยู่เมืองนอก เพราะเห็นชาวต่างชาติเยอะมาก จนเราคนไทย แทบจะเป็นชนกลุ่มน้อย เช้าๆ มีคนออกมาวิ่ง ออกกำลังกายเยอะทีเดียว

ไหนๆ ก็มาอยู่เกาะแล้ว สายๆ ฉันจึงออกทริปดำน้ำ snorkel และเที่ยวเกาะนางยวน ซึ่งเป็นเกาะใกล้ๆ ไม่น่าเชื่อทะเลฝั่งอ่าวไทยยังสวยมาก ขนาดดำน้ำตื้นยังมีหลายจุดที่สวย เข้าใจแล้วว่าทำไมเกาะเต่าถึงเป็นจุดดำน้ำ scuba ติด 1 ใน 10 ของโลกที่ต้องมา

ฉันสัญญากับตัวเองเอาไว้ว่าจะกลับมาเพื่อมาลองเรียนดำน้ำ scuba สักครั้ง อยากเห็นว่าโลกใต้น้ำจะสวยขนาดไหน

การเดินทางเป็นมากกว่าการเปิดโลกในมุมมองใหม่ๆ และยังช่วยให้เรารู้จักตนเองมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางคนเดียว เรามักจะได้เจอเรื่องพิเศษจากสิ่งที่ไม่คาดคิด ได้ความรู้ใหม่ๆ จากเพื่อนใหม่ๆ

ไม่น่าเชื่อช่วงเวลาความสุข 3 วัน 2 คืนของฉันบนเกาะเต่านี้เวลาผ่านไปรวดเร็วมาก

สำหรับฉัน หญิงสาวผู้รักและหลงใหลในท้องทะเลเป็นชีวิตจิตใจ นึกถึงความรู้สึกแรกๆ กับเกาะเต่า กับความลังเลสงสัย ตอนนี้อยากจะบอกว่า

“เกาะเต่า แล้วเราจะกลับมา”

#ซิ่นสัญจร
#ผ้าไทยท่องโลก

June 21, 2020

Københavns Middelalder Marked  🇩🇰 🇩🇰 # วันนี้ไปเที่ยวงานเมืองฝรั่ง “ย้อนยุคกลับสู่ยุโรปสมัยยุคกลาง (Middle Ages)” – เป็น...
29/05/2020

Københavns Middelalder Marked 🇩🇰 🇩🇰

# วันนี้ไปเที่ยวงานเมืองฝรั่ง “ย้อนยุคกลับสู่ยุโรปสมัยยุคกลาง (Middle Ages)” – เป็นกิจกรรมสนุกๆ ที่มีปีละ 2 ครั้ง สนุกได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นการเรียนรู้รากเหง้าตนเองแบบเพลิดเพลิน

เสียดายหากมีเสื้อผ้าแบบนี้เองจะไม่พลาดใส่ไปงานด้วยจริงๆ

ฉันเป็นคนที่สนใจประวัติศาสตร์ เพราะคิดเสมอว่าประวัติศาสตร์โลกเป็นสิ่งที่น่าศึกษาการเรียนและรู้ถึงความเปลี่ยนแปลง ความไม่จีรังยั่งยืนของโลก และอาณาจักรต่าง ๆ แม้จะยิ่งใหญ่สักปานใด ก็ล่มสลายไปตามกาลเวลา อย่างที่พระพุทธเจ้าท่านกล่าวในคำสอนเสมอว่า ความเปลี่ยนแปลงคือสัจธรรมของชีวิต

ยุคกลาง (Middle Ages) คือช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ยุโรปตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 5 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 15 โดยปกติแล้วเริ่มนับตั้งแต่การล่มสลายลงของจักรวรรดิโรมันตะวันตก (การสิ้นสุดของสมัยคลาสสิก) ยุคทองของอิสลาม(ประมาณ ค.ศ. 750-1258) จนถึงจุดเริ่มต้นของสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา(Renaissance) และยุคแห่งการสำรวจ
เพราะการเมืองและวัฒนธรรมของยุโรปเปลี่ยนแปลงอย่างมากหลังจากการล่มสลายของกรุงโรม

เวลาพูดถึงยุคกลางจะนึกถึงระบบศักดินา การจัดระเบียบทางสังคมแบบใหม่ นึกถึงอัศวิน (อัศวินมักจะสวมชุดเกราะเพื่อป้องกันตัวเองในการสู้รบ ชุดเกราะเมื่อชั่งน้ำหนักโดยเฉลี่ยประมาณ 30 กิโลกรัม) นึกถึงชาวนา ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นข้าแผ่นดิน ยุคนี้เกิดสงครามครูเสด สงครามร้อยปี จุดสิ้นสุดของยุคกลางเริ่มต้นขึ้นด้วยการพัฒนาของประเทศขนาดใหญ่ที่มีรัฐบาลกลางทรงประสิทธิภาพบริหารราชการโดยพระมหากษัตริย์ ความคิดใหม่ ๆ เกี่ยวกับการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ และศิลปะ ได้พัฒนาในเมืองหลายเมืองของอิตาลี และได้แพร่กระจายไปตามเส้นทางการค้าขายในยุโรป ซึ่งเรียกว่า สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance)

** ขอบคุณวิชาอารยธรรมตะวันตกและอารยธรรมตะวันออก วิชาประวัติศาสตร์การทูตยุโรป ตั้งแต่สมัยเรียนธรรมศาสตร์ ทำให้การเปิดโลกกว้างของตนเองสนุกและมีความหมาย

ทุกครั้งที่ไปเมืองไหนที่เกี่ยวข้องกับศิลปะ วัฒนธรรม การทูต จะรู้สึกขนลุกและดื่มด่ำทุกครั้ง มโนไปถึงสมัยอดีต

เหมือนฝันจริงๆ กับการที่เราได้มีโอกาสมาเยือน มาเห็นมากกว่าจากที่เราเรียนในตำรา

If there is a will, there is always a way!!!!!

ิ่นSeen
#ซิ่นไทยท่องโลก


May 29, 2020

ผ้าเล่าเรื่อง... 🇩🇰คนไทยก็มีชุดไทยให้ภูมิใจ ฉันใดคนเดนมาร์กก็มีชุดประจำชาติเช่นกันเสื้อผ้านั้นมีจุดประสงค์เพื่อให้ความอบ...
27/05/2020

ผ้าเล่าเรื่อง... 🇩🇰

คนไทยก็มีชุดไทยให้ภูมิใจ ฉันใดคนเดนมาร์กก็มีชุดประจำชาติเช่นกัน

เสื้อผ้านั้นมีจุดประสงค์เพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายและปกป้องสิ่งต่างๆจากภายนอก

นอกจากนั้นเสื้อผ้า ชุดพื้นเมืองยังเป็นตัวแทนสำหรับการเล่าเรื่องรูปแบบหนึ่งที่จะสามารถอธิบายและบอกเล่าถึงเรื่องราวทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับท้องถิ่นนั้นๆ

ประวัติศาสตร์ของชุดประจำชาติเดนมาร์ก ในตอนแรกชาวเดนมาร์กอาศัยวัสดุจากธรรมชาติ และอากาศที่หนาวจึงนิยมใช้ผ้าวูล ทำมาจากขนแกะ ต่อมามีการใช้ผ้าทำจากผ้าลินินและผ้าขนสัตว์

แต่ละภูมิภาคมีการดำเนินการเป็นของตัวเอง คนชนบทมีชีวิตที่เรียบง่าย พวกเขาจะสวมใส่เสื้อผ้าที่เรียบง่ายโดยใช้สีเทา สีน้ำตาล และ สีดำ

สำหรับการตัดเย็บ มักทำด้วยตนเอง

ถือโอกาสการเป็นสะใภ้คนเดนมาร์ก ได้สวมใส่ชุดพื้นเมือง

ชุดประจำชาติ ซึ่งอายุประมาณ 100 กว่าปีแล้ว

CR: ขอบคุณรูปงามๆ จากเพื่อนแพรท

ิ่นSeen
#ซิ่นไทยท่องโลก


May 27, 2020

9 เคล็ดลับ 'อยู่ดี  -  มีสุข' แบบฉบับคนเดนมาร์ก  IX 🇹🇭 🇩🇰เดนมาร์กเป็นประเทศขนาดเล็ก นายจ้างจึงมีอุปสงค์แรงงานมากจนส่งผลใ...
24/05/2020

9 เคล็ดลับ 'อยู่ดี - มีสุข' แบบฉบับคนเดนมาร์ก IX 🇹🇭 🇩🇰

เดนมาร์กเป็นประเทศขนาดเล็ก นายจ้างจึงมีอุปสงค์แรงงานมากจนส่งผลให้อัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากเดนมาร์กมีกฎหมายแรงงานที่ค่อนข้างยืดหยุ่น และมีกฎหมายการประกันการตกงานที่ค่อนข้างเอื้อประโยชน์แรงงาน จึงไม่ประสบกับปัญหาขาดแคลนรายได้เมื่อถูกให้ออกจากงาน

ถึงอย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดความสำเร็จทางเศรษฐกิจ เพราะนิสัยของชาวเดนมาร์กมีความเชื่อใจและความซื่อสัตย์ การทำธุรกิจระหว่างกันจึงง่ายขึ้น

ในเรื่องคุณภาพชีวิต หลายๆ คนอดกังวลไม่ได้ว่าระบบรัฐสวัสดิการจะยั่งยืนไปได้อีกนานแค่ไหน เพราะคนแถบสแกนดิเนเวียมีแนวโน้มว่าผู้สูงอายุเกินกว่า 65 ปีจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งย่อมส่งผลต่อค่าใช้จ่ายของภาครัฐและของเอกชนในการดูแลบำเหน็จ บำนาญ และสวัสดิการด้านอื่นๆ

ต้องกล่าวว่าการจัดการด้านนี้มีความหลากหลายมาก ส่วนใหญ่คร่าวๆ มี 2 แบบ คือ
1. เงินบำนาญจากภาครัฐที่ประชาชนได้สะสมตั้งแต่ช่วงวัยทำงาน (pay – as – you – go)
2. เงินบำนาญจากภาคเอกชน หรือจากการวางแผนทางการเงินระหว่างช่วงทำงานทั้งในรูปแบบตามอาชีพ

ในการนี้ รัฐบาลเดนมาร์กได้เตรียมความพร้อมเพื่อแก้ปัญหาและเตรียมได้ดีกว่าประเทศอื่นๆ โดยมีแผนจะเพิ่มอายุขั้นต่ำที่แรงงานจะขอเกษียณขึ้นอีกสองปีในปี 2019 – 2027 เพื่อจะได้สอดคล้องกับอายุขัยของประชากรที่เพิ่มมากขึ้นจะทำให้คนวัยทำงานอยู่ในตลาดแรงงานมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลก็หวังว่าภาษีที่จัดเก็บได้จะเพียงพอในการใช้จ่ายเพื่อสวัสดิการสังคม แต่ทั้งนี้รัฐก็ต้องทำควบคู่ไปกับเรื่องอื่นๆ เช่น การจัดหาสวัสดิการสังคมอย่างมีประสิทธิภาพให้มากที่สุด และการแบ่งหน้าที่บางอย่างให้เป็นของเอกชนเพื่อลดต้นทุนของรัฐบาล

ในภาพรวม คนเดนมาร์กมีความพึงพอใจในการใช้ชีวิต มาตรฐานความเป็นอยู่ของพลเมืองอยู่ในระดับที่ดีกว่าหลายๆ ประเทศ รัฐเอาใจใส่เรื่องการศึกษา การวิจัยและการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนในระยะยาว

ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้เศรษฐกิจมีความมั่นคง อัตราความยากจนอยู่ในระดับต่ำ รวมทั้งมีการกระจายโอกาสและรายได้ที่ทั่วถึงกว่าประเทศอื่นๆ โดยเปรียบเทียบ

ดังนั้นจึงสะท้อนในดัชนีความสุขในระดับต้นๆ ของโลก


ิ่นSeen
#ซิ่นไทยท่องโลก


May 24, 2020

9 เคล็ดลับ 'อยู่ดี  -  มีสุข' แบบฉบับคนเดนมาร์ก  VIII 🇹🇭 🇩🇰เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าข้อกำหนดขององค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ว่า "...
22/05/2020

9 เคล็ดลับ 'อยู่ดี - มีสุข' แบบฉบับคนเดนมาร์ก VIII 🇹🇭 🇩🇰

เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าข้อกำหนดขององค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ว่า

"พื้นที่สีเขียวต่อสัดส่วนประชากรที่เหมาะสม คือ 9 ตร.ม./คน"

นับได้ว่าพื้นที่สีเขียว เป็นส่วนหนึ่งในตัวชี้วัดระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของคนที่อาศัยอยู่ในเมืองนั้นเลยทีเดียว

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเดนมาร์กเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำหรับนักเดินทางหลายๆคน ตึกรามบ้านช่องที่ดูสวยงามไปซะหมดเหมือนยกออกมาจากเทพนิยาย หรือหลายคนอาจมองไปถึง “คุณภาพชีวิตที่ดี” ที่หาได้ยากเหลือเกินในบ้านเมืองเรา ที่จริงแล้วใครกันที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการสร้างบ้านเมืองให้น่าอยู่ รัฐ เอกชน หรือประชาชนทุกคน

อ่านมาถึงจุดนี้อย่าพึ่งด่วนสรุปถอดใจ เพราะเมืองที่ดีคงไม่ได้มาเพราะความบังเอิญแน่นอน

การสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน และการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ประชาชน เราคงมุ่งหวังแต่เพียงการทำหน้าที่ของภาครัฐอย่างเดียวคงไม่ได้

ภาคเอกชน ประชาสังคม และประชาชนทุกคนต้องมีส่วนร่วมเรียกร้อง ผลักดัน และขับเคลื่อนให้เมืองดีที่เกิดขึ้นจริงอย่างเป็นรูปธรรม มิใช่เพียงคาดหวังจากความบังเอิญ

อดนึกถึงกรุงเทพฯไม่ได้ว่าเมืองสีเขียวเป็นความฝันที่ใกล้เป็นจริง (หรือยัง)


ิ่นSeen
#ซิ่นไทยท่องโลก


May 22, 2020

9 เคล็ดลับ 'อยู่ดี  -  มีสุข' แบบฉบับคนเดนมาร์ก  VII 🇹🇭 🇩🇰Museum Day - วันนี้วันอังคารมีหลายมิวเซียมให้เข้าชมฟรี ตั้งใจเ...
19/05/2020

9 เคล็ดลับ 'อยู่ดี - มีสุข' แบบฉบับคนเดนมาร์ก VII 🇹🇭 🇩🇰

Museum Day - วันนี้วันอังคารมีหลายมิวเซียมให้เข้าชมฟรี ตั้งใจเดินทอดน่องท่องเมืองและแวะจิบกาแฟดีๆ ช่วงบ่ายๆ ตามประสาแม่บ้านยุคใหม่ใช้ชีวิตแบบ chic chic

เดนมาร์กเป็นรัฐสวัสดิการที่มีการเก็บภาษีสูงมาก อย่างอัตราภาษี VAT บ้านเราอยู่ที่ 7% แต่ที่เดนมาร์กนั้นเก็บที่ 25% และยังมีภาษียิบย่อย เช่น ภาษีสิ่งแวดล้อม และอื่นๆ ทำให้ค่าครองชีพในเดนมาร์กนั้นสูงมากอีกเช่นกัน แต่เงินภาษีต่างๆ ที่เสียไปนั้น กลับมาในรูปแบบของสวัสดิการที่มีคุณภาพ

เดนมาร์กนับได้ว่าเป็นประเทศหนึ่งที่มีระบบประกันสังคมที่ดีเยี่ยมให้กับประชากรและผลตอบแทนกลับมาอย่างเต็มที่ตั้งแต่เกินจนตาย หรือที่เรียกว่า Cradle-to-grave securities เช่น สนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับโรงพยาบาล, บริการสาธารณสุข, การศึกษาเรียนฟรีจนจบปริญญาโท, ตกงานมีเงินเดือนให้ หรือลาคลอดได้ 12 เดือน ฯลฯ

ส่วนหนึ่งรัฐบาลนำเงินภาษีมาช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมด้านศิลปะและวัฒนธรรม ถือว่าเดนมาร์กเป็นประเทศที่ผลิตและเสพย์งานดีไซน์กันเยอะมาก มีนักออกแบบ, สถาปนิก, ศิลปินสมัยใหม่ระดับโลกเรื่อยมา มีแนวทางออกแบบที่เป็นตัวของตัวเองชัดเจน ในลักษณะที่เรียกว่า functionalism หรือเน้นการใช้งานในรูปลักษณ์ที่เรียบง่าย ที่เริ่มได้รับอิทธิพลจากแนวทาง Bauhaus ของเยอรมนีในช่วงยุคอุตสาหกรรม จนปัจจุบัน เดนมาร์กมีเฟอร์นิเจอร์, สถาปัตยกรรมขึ้นหิ้งหลากหลายชิ้น ที่ดังๆ ก็เช่น Opera House ที่ซิดนีย์, เก้าอี้ของ Arne Jacobsen และ Hans Wegner, โคมไฟสุดคลาสสิกของ Poul Henningsen และ Verner Panton หรือเครื่องเสียง Bang & Olufsen เป็นต้น

คนเดนส์เชื่อเสมอว่า ในโลกนี้มีสองสิ่งที่คนเราไม่สามารถหลีกหนีไปได้ คือ “ความตายและภาษี” นั่นเอง 😆😆😆😆😆

ป.ล. เทพเข้าเพอร์ซุส (Perseus) วีรบุรุษผู้ปราบมาร ตามตำนานกรีก ผู้ตัดคอเมดูซ่า(Medusa) ถ้าจำไม่ผิดตอนที่เมดูซ่าถูกตัดคอ เลือดที่หยดลงทะเล ได้ให้กำเนิดปีกาซัส
.. ชอบอ่านตำนานกรีกเหมือนละครดรามา หรือชีวิตในยุคปัจจุบันที่ยิ่งกว่านิยายมีทุกรสชาติ


ิ่นSeen
#ซิ่นไทยท่องโลก


May 19, 2020

9  เคล็ดลับ 'อยู่ดี  -  มีสุข' แบบฉบับคนเดนมาร์ก  VI  🇹🇭 🇩🇰Work-Life Balance @ DK  # คำว่า ภาษี ภาษาเดนิชเรียกว่า “Skat”...
17/05/2020

9 เคล็ดลับ 'อยู่ดี - มีสุข' แบบฉบับคนเดนมาร์ก VI 🇹🇭 🇩🇰

Work-Life Balance @ DK # คำว่า ภาษี ภาษาเดนิชเรียกว่า “Skat” ซึ่งคำเดียวกันนี้ก็สามารถแปลได้ว่า “ที่รัก” ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนเดนิชเค้ามองคนรักเป็นสิ่งมีค่าหรือเป็นภาระภาษีที่ต้องแบกรับ แบกรักกันไปหรือเปล่า 😆😆😆😆

หน้าที่หลักของรัฐบาลคือการช่วยเหลือให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ในระดับที่ดี ดังนั้นโครงสร้างระบบการจัดเก็บภาษีที่เก็บในเดนมาร์ก จะมีการจัดเก็บภาษีทางตรงในอัตราที่ก้าวหน้า อาจถึงร้อยละ 60 ของรายได้ขั้นสูง นับเป็นอัตราที่สูงมาก ส่วนภาษีทางอ้อม เช่นภาษีมูลค่าเพิ่ม มีอัตราถึงร้อยละ 25 ของมูลค่าสินค้า

กล่าวกันว่าเดนมาร์กเป็นประเทศที่มีอัตราการเก็บภาษีต่อรายได้ประชาชาติสูงที่สุดในกลุ่ม EU

ถึงแม้การเก็บภาษีจะมีอัตราที่สูงมาก แต่รัฐบาลได้ระบุและแจกแจงถึงความโปร่งใส โดยแบ่งเป็น “ภาษีทางตรง” รัฐเก็บรวมๆ 40 - 50% โดยแบ่งออกเป็นหลายๆ ส่วน เช่น บำรุงระบบสาธารณสุข, ภาษีรัฐ, ภาษีบำรุงตลาดแรงงาน, ภาษีโบสถ์ ฯลฯ ทั้งนี้ ยังมีรายการหักลดหย่อนอยู่บ้าง เช่น ดอกเบี้ยเงินกู้, ค่าเลี้ยงดูบุตรที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน, ค่าสมาชิกสหภาพฯ เป็นต้น

“ภาษีทางอ้อม” รวมๆ 40 - 50% เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) ภาษีสิ่งแวดล้อม ภาษีศุลกากรและภาษีนำเข้า และอื่นๆ มาดูภาษีทางตรงกันดีกว่าว่าเป็นอย่างไร

ที่ชอบคือค่าเดินทางไปทำงาน หากบ้านและที่ทำงานมีระยะทางเกิน 24 ก.ม. ก็สามารถเอามาหักภาษีได้ตามกิโลเมตรที่เดินทางจริง ลองคิดถึงคนไทยที่ต้องทำงานสีลมแต่บ้านอยู่คลอง 10 ไรงี้ คุณภาพชีวิตต้องตื่นเช้ามาก กลับบ้านดึก ค่าใช้จ่ายสูงมาก แต่นะเป็นคนไทยศรีทนได้เสมอ

ชาวเดนมาร์กให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตและถือคติพจน์ที่ว่า “มีมากกว่า ไม่ได้แปลว่าดีกว่า” ส่วนนึงคิดถึงคำว่า “พอเพียงและเพียงพอ” ที่ในหลวง ร.9 ของเราท่านกล่าวไว้เสมอ ถึงทุกอย่างที่เดนมาร์กจะแพงและเมื่อเงินเดือนออกมาจะถูกหักภาษีไปซะครึ่งแล้ว เช่น เงินเดือน 10,000 บาท กลายเป็นมีรายรับ 5,000 บาท แต่ตัวเองอยู่นี่ก็ไม่ได้รู้สึกตัวเองอัตคัดขัดสน แต่มองว่าเรารู้จักคิดก่อนใช้มากขึ้น (อยู่เมืองไทยเสียสติกับเสียสตางค์ไปพร้อมกันเสมอเมื่อเจอแม่ซิ่นหรือซื้ออะไรไปเรื่อยเปื่อย) นึกถึงเมืองไทยแค่ก้าวขาออกจากบ้านก็เสียตังค์แล้ว ไม่ว่าจะค่าน้ำมันรถหรือค่ารถเมล์ รถแทกซี่ ที่นี่ออกจากบ้านก็ปั่นจักรยาน กระหายน้ำก็ไม่ต้องซื้อน้ำเปล่า เพราะน้ำประปาดื่มได้ เตรียมบรรจุใส่ขวดและrefill ได้ทั่วไป สิ่งเหล่านี้เป็นสวัสดิการขั้นพื้นฐานที่รัฐต้องบริการให้แก่ประชาชน หรือชั่วโมงทำงานที่นี่ประมาณ 35 – 40 ชม./สัปดาห์ เค้าเน้นความมีประสิทธิภาพ เลิกงานเร็ว ไม่จำเป็นต้องรอให้เจ้านายกลับก่อน หรือทำงานแทบไม่พักร้อน เช่น คนญี่ปุ่น
วัยรุ่นที่เรียนจบมัธยมหรือมหาวิทยาลัย ก็มักจะไปเที่ยวสักปีก่อนที่จะมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยหรือทำงาน หรือที่เรียกว่า sabbatår เพื่อเปิดโลกกว้างหาประสบการณ์ชีวิต ก่อนที่จะมาใช้ชีวิตในโลกแห่งการทำงาน และจะได้เข้าใจว่าตนเองต้องการอะไร

คุยเรื่องภาษีกลับกลายโม้ไปเรื่อย เดี๋ยวจบไม่ลง เล่าสู่กันฟังมองบ้านเค้าเมืองเรา เผื่อบางอย่างน่าจะนำไปปรับประยุกต์ใช้กับระบบบ้านเราบ้าง


ิ่นSeen
#ซิ่นไทยท่องโลก


May 17, 2020

Address


Telephone

+66622245993

Website

Alerts

Be the first to know and let us send you an email when ซิ่นสัญจร posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Business

Send a message to ซิ่นสัญจร:

Videos

Shortcuts

  • Address
  • Telephone
  • Alerts
  • Contact The Business
  • Videos
  • Claim ownership or report listing
  • Want your business to be the top-listed Travel Agency?

Share

See...ซิ่น...Seen by Oa

“โอ๊ะ” หญิงสาวชาวกรุงที่นุ่งซิ่นในชีวิตประจำวัน ใช้ชีวิตในเมืองหลวง สลับกับการจัดกระเป๋าออกเดินทางไปยังเมืองใกล้ไกล ด้วยความหลงใหลแม่ซิ่นและเรื่องราวของวิถีชีวิตชุมชน

เพราะใช้ชีวิตอีกครึ่งหนึ่งอยู่ในรัฐสวัสดิการในยุโรปจึงสนใจเรื่องโอกาสและความเท่าเทียมกันในสังคม ด้วยความที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเกินครึ่งทาง จึงสนใจเรื่องการเติบโตของจิตวิญญาณและคุณค่าที่แท้จริงของชีวิต

ตั้งใจเปิด page เพราะคิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับคนอื่นๆ บ้าง อยากสร้างแรงบันดาลใจ ให้คนได้หยุดคิด และหันมาถามตนเองบ้างว่า เราใช้ชีวิตยังไง เราวิ่งตามกระแสหรือเปล่า เรานิยาม ความรัก/ความสุข/ความสำเร็จของตนเองยังไง และชวนท่องเที่ยวทั้งข้างนอก -ข้างใน

พร้อมเปิดใจเรียนรู้ไปด้วยกันนะคะ