Easy-on-tour Outbound & Domestic tour

07/02/2024
07/02/2024

#วิธีดูกางเกงช้างแบบไทยแท้ ช่วยอุดหนุนสินค้าคนไทยกันนะคะ #ไทยช่วยไทย #กางเกงช้าง
Elephant pattern pants of Thailand (Thai: กางเกงช้าง / Kang Keng Chang)
📌 Cr. ระบุในภาพ และนำภาพต่อมาจากเพจ Siam Drama Addict V3
++++++++++++

04/02/2024

เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์

25/01/2024
16/12/2023
14/12/2023

✨ #เคาน์ดาวน์ภูเก็ต ในวันที่ 31 ธันวาคมนี้
โรงแรมอินเตอร์คอนภูเก็ต และกลุ่มบริษัท พราว ขอมอบของขวัญปีใหม่สุดยิ่งใหญ่แก่ชาวภูเก็ตทุกคนกับพลุฉลองปีใหม่มูลค่า 1 ล้านบาทบนหาดกมลา แลนด์มาร์คเคาน์ดาวน์ปีใหม่ของเกาะภูเก็ต

จุดพลุที่ยิ่งใหญ่และยาวนานที่สุดของภูเก็ต และเป็นการจุดพลุที่อลังการที่สุดของหาดกมลา ด้วยพลุหลากสีสรรและรูปแบบจะถูกขึ้นท้องฟ้าอย่างต่อเนื่องเป็นเวลายาวนานถึง 15 นาที ด้วยพลุจำนวนกว่า 2,000 นัด ความกว้างพลุสูงสุดถึง 40 เมตรซึ่งจะทำให้สามารถเห็นพลุได้จากทั่วทุกมุมของหาดกมลาที่มีหาดมีความยาวกว่า 3 กิโลเมตร

การจุดพลุครั้งนี้ทางโรงแรมอินเตอร์คอนภูเก็ตและกลุ่มบริษัท พราว ตั้งใจมอบเป็นของขวัญเนื่องในวันขึ้นปีใหม่แก่ชาวภูเก็ตเพื่อเป็นดั่งความทรงจำที่ดีของปี 2566 และถือเป็นการต้อนรับศักราชใหม่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนหาดกมลา โดยการจุดพลุครั้งนี้จะเริ่ม เที่ยงคืนตรงและยาวนานต่อเนื่องเป็นเวลา 15 นาที ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมได้จากหน้าหาดกมลาทั่วทุกมุมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แล้วมาเก็บความประทับใจไปด้วยกัน ❤️

#เคาท์ดาวน์ปีใหม่
#ปีใหม่ภูเก็ต



09/12/2023
09/12/2023
09/12/2023

🐓👖 "กางเกงไก่ชน" คอนเซปต์มาจากไก่เหลืองหางขาว ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผ่านการออกแบบโดยอาจารย์ คณะสถาปัตย์ฯ ม.นเรศวร #พิษณุโลก เปิดพรีออเดอร์ในเดือน ธ.ค. 66 วางขายกลางเดือน ม.ค. 67 รับเทศกาลตรุษจีน https://www.thairath.co.th/news/local/localbusiness/2746337

15/10/2023
23/09/2023
04/09/2023
19/08/2023

ทัวร์ภูเขาไฟโบรโม่ ทะเลสาบคาวาอีเจี้ยน น้ำตกมาดาคาริปุระ สุราบายา อินโดนีเซีย 5 วัน 4 คืน บินแอร์เอเชีย
กำหนดการเดินทาง
20-24 กย.66
13-17 ตค.66
ค่าทริป (ไม่รวมค่าตั๋ว)
***สมาชิก 5-6 คน คนละ 23000 บาท
***สมาชิก 7-8 คน คนละ 20400 บาท
***สมาชิก 9 คน คนละ19200 บาท
วันแรก : ดอนเมือง-จาการ์ต้า-สุราบายา พักเมือง Probolinggo
วันที่ 2 : สุราบายา-น้ำตกมาดาคาริปุระ พัก Catimor Homestay
วันที่ 3 : เทรคคาวาอีเจี้ยน-น้ำตกบราวัน-โบรโม่ พัก Cemara Indah
วันที่ 4 : จุดชมวิว Penanjakan และ King Kong ขี่ม้าไปโบรโม่เดินขึ้นปากปล่อง เดินทางกลับสุราบายา พักที่โรงแรมใกล้สนามบินสุราบายา
วันที่ 5 : สุราบายา-จาการ์ต้า-กรุงเทพ (ดอนเมือง)
ค่าทัวร์ ไม่รวมตั๋ว ขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิก (เป็นทัวร์แบบจอยกรุ๊ป)
***สมาชิก 5-6 คน คนละ 23000 บาท
***สมาชิก 7-8 คน คนละ 20400 บาท
***สมาชิก 9 คน คนละ19200 บาท
สนใจจองทัวร์ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือขอโปรแกรมทัวร์
กรุณาติดต่อ ศิริพร : โทร 098-2725406 ไลน์ไอดี : ssp061962
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวเลขที่ 11/11792 (อีซี่ออนทัวร์)

Send a message to learn more

ทัวร์ภูเขาไฟโบรโม่ ทะเลสาบคาวาอีเจี้ยน น้ำตกมาดาคาริปุระ น้ำตกบราวันสุราบายา อินโดนีเซีย 5 วัน 4 คืน บินแอร์เอเชียกำหนดก...
19/08/2023

ทัวร์ภูเขาไฟโบรโม่ ทะเลสาบคาวาอีเจี้ยน น้ำตกมาดาคาริปุระ น้ำตกบราวันสุราบายา อินโดนีเซีย 5 วัน 4 คืน บินแอร์เอเชีย
กำหนดการเดินทาง
20-24 กย.66
13-17 ตค.66
ค่าทริป (ไม่รวมค่าตั๋ว)
***สมาชิก 5-6 คน คนละ 23000 บาท
***สมาชิก 7-8 คน คนละ 20400 บาท
***สมาชิก 9 คน คนละ19200 บาท
วันแรก : ดอนเมือง-จาการ์ต้า-สุราบายา พักเมือง Probolinggo
วันที่ 2 : สุราบายา-น้ำตกมาดาคาริปุระ พัก Catimor Homestay
วันที่ 3 : เทรคคาวาอีเจี้ยน-น้ำตกบราวัน-โบรโม่ พัก Cemara Indah
วันที่ 4 : จุดชมวิว Penanjakan และ King Kong ขี่ม้าไปโบรโม่เดินขึ้นปากปล่อง เดินทางกลับสุราบายา พักที่โรงแรมใกล้สนามบินสุราบายา
วันที่ 5 : สุราบายา-จาการ์ต้า-กรุงเทพ (ดอนเมือง)
ค่าทัวร์ ไม่รวมตั๋ว ขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิก (เป็นทัวร์แบบจอยกรุ๊ป)
***สมาชิก 5-6 คน คนละ 23000 บาท
***สมาชิก 7-8 คน คนละ 20400 บาท
***สมาชิก 9 คน คนละ19200 บาท
สนใจจองทัวร์ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
กรุณาติดต่อ ศิริพร : โทร 098-2725406 ไลน์ไอดี : ssp061962
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวเลขที่ 11/11792 (อีซี่ออนทัวร์)

บานาฮิลล์ ดานัง เวียดนามกลาง 10 สค.23
12/08/2023

บานาฮิลล์ ดานัง เวียดนามกลาง 10 สค.23

24/06/2023

หอบเสื่อผืนหมอนใบจากเมืองจีน มาเป็นเจ้าเมืองไทย! ลูกชายเป็น “บิดายางพาราไทย” ถูกยิงตาย!!

คนจีนที่เข้ามาเป็นต้นตระกูลดังของเมืองไทยรายนี้ เป็นชาวฮกเกี้ยน มีชื่อว่า ซู้เจียง แซ่คอ เรียกกันว่า คอซู้เจียง อพยพเข้ามาเมืองไทยในสมัยรัชกาลที่ ๑ ขณะที่มีอายุ ๒๕ ปี และเข้ามาแบบหอบเสื่อผืนหมอนใบ เริ่มอาชีพด้วยการเป็นกรรมกรที่เกาะหมาก หรือเกาะปีนัง พอสะสมทุนได้บ้างก็มาค้าขายที่เมืองตะกั่วป่า เมืองสำคัญทางฝั่งทะเลอันดามัน

ปัจจุบันคืออำเภอตะกั่วป่าในจังหวัดพังงา ได้รับการอุปการะจากท้าวเทพสุนทร สตรีผู้ทำการค้าขายอยู่ในเมืองนั้น จนมีทุนมากขึ้นก็เห็นว่าตัวเมืองพังงามีทำเลค้าขายดีกว่าา จึงย้ายมาสร้างบ้านเป็นหลักแหล่งขึ้นที่ตลาดพังงา และได้แต่งงานกับสาวพังงา ร่ำรวยขึ้นจนต่อเรือกำปั่นออกตระเวนซื้อขายสินค้าในหัวเมืองย่านนั้นไปขายเกาะหมาก ครั้นเห็นสินค้าเหล่านั้นส่วนใหญ่เป็นดีบุก แต่ที่เมืองระนองยังมีการขุด การค้าดีบุกน้อย จึงคิดจะมาทำธุรกิจดีบุกที่เมืองระนอง เพราะคู่แข่งยังมีน้อย ต่อมาในรัชกาลที่ ๓ ได้ขึ้นมากรุงเทพฯ ยื่นขอเป็นเจ้าภาษีผูกอากรดีบุก และได้ย้ายครอบครัวมาอยู่เมืองระนอง ได้รับโปรดเกล้าฯให้มีบรรดาศักดิ์เป็น หลวงรัตนเศรษฐี ตำแหน่งนายอากรดีบุก และตั้งโรงถลุงแร่ดีบุกขึ้นที่เมืองตระ หรือกระบุรีในปัจจุบัน เมืองระนอง และเมืองตะโก หรือตะกั่วป่า

ในสมัยรัชกาลที่ ๔ ตำแหน่งเจ้าเมืองระนองว่างลงและยังหาคนไว้วางใจไม่ได้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริว่า เมืองระนองอยู่ฝ่ายทะเลตะวันตก ล่อแหลมเขตแดนของอังกฤษ จะปล่อยให้ว่างเจ้าเมืองอยู่นานไม่ได้ หลวงรัตนเศรษฐีทำอากรดีบุกมาหลายปี ส่งเงินเข้าหลวงมิได้ขาดค้าง และเป็นผู้ใหญ่ที่อารีอารอบ กรมการเมืองระนองก็รักใคร่นับถือ พอจะเป็นเจ้าเมืองระงับทุกข์บำรุงสุขให้พลเมืองได้ จึงโปรดเกล้าฯเลื่อนบรรดาศักดิ์หลวงรัตนเศรษฐีเป็น พระรัตนเศรษฐี ผู้สำเร็จราชการเมืองระนอง

ตอนนั้นระนองยังขึ้นกับเมืองชุมพร อังกฤษที่ยึดครองพม่าได้กวดขันการปกครองพม่ามากขึ้นมาถึงเขตแดนที่ติดต่อกับไทย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯทรงพระราชดำริว่า จะรักษาราชการชายแดนไม่สะดวกถ้าเมืองระนองขึ้นกับเมืองชุมพร จึงโปรดฯให้ยกฐานะเมืองระนองขึ้นเป็นเมืองจัตวา ขึ้นตรงต่อกรุงเทพฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯเลื่อนพระรัตนเศรษฐีเป็น พระยารัตนเศรษฐี ตำแหน่งผู้ว่าราชการเมืองระนอง

ครั้นถึงรัชกาลที่ ๕ พระยารัตนเศรษฐีชราภาพแล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯเลื่อนขึ้นเป็น พระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี วางวางเมืองระนอง แล้วโปรดเกล้าฯตั้ง พระศรีโลหภูมิ บุตรชายคนที่ ๒ เป็นพระยารัตนเศรษฐี ผู้ว่าราชการเมืองระนองแทนบิดา
พระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซู้เจียง) อยู่ในตำแหน่งจางวางเมืองระนองได้ ๕ ปี ๙ เดือนเศษก็ถึงอสัญกรรม ขณะอายุได้ ๘๖ ปี มีบุตรธิดา ๑๑ คน เป็นชาย ๖ หญิง ๕
บุตรชายทั้ง ๖ เข้ารับราชการมีตำแหน่งสูงทุกคน คือ

๑.คอซิมเจ่ง เป็น หลวงศรีโลหภูมิพิทักษ์ ผู้ช่วยราชการเมืองระนอง ในรัชกาลที่ ๔ แล้วถึงแก่กรรมในตำแหน่ง

๒.คอซิมก๊อง เป็นที่หลวงศรีโลหภูมิพิทักษ์ ตำแหน่งผู้ช่วยราชการเมืองระนองในรัชกาลที่ ๔ ถึงรัชชกาลที่ ๕ ได้เลื่อนขึ้นเป็นพระศรีโลหภูมิพิทักษ์ และเป็นพระยารัตนเศรษฐี ผู้ว่าราชการเมืองระนองแทนบิดา ต่อมาได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี สมุหเทศาภิบาลมณฑลชุมพร

๓.คอซิมจั๋ว เป็นหลวงศรีสมบัติ ผู้ช่วยราชการเมืองระนองในรัชชกาลที่ ๕ แล้วถึงแก่กรรม

๔.คอซิมขิม เป็นพระศรีโลหภูมิพิทักษ์ ผู้ช่วยราชการเมืองระนองในรัชชกาลที่ ๕ แล้วเป็นพระยาอัษฎงคตทิศรักษา ผู้ว่าราชการเมืองตระบุรี

๕.คอซิมเต็ก เป็นพระยาจรูญราชโภคากร ผู้ว่าราชการเมืองหลังสวนในรัชชกาลที่ ๕
๖.คอซิมบี๊ บุตรชายคนที่ ๖ เกิดจากภรรยาอีกคนเมื่อพระยารัตนเศรษฐี (คอซู้เจียง) ไปอยู่ที่เมืองระนอง พี่ชายคนที่ ๔ ได้นำถวายตัวเป็นมหาดเล็กในรัชชกาลที่ ๕ ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็นที่หลวงบริรักษโลหวิสัย ตำแหน่งผู้ช่วยราชการเมืองระนอง แล้วเลื่อนเป็นที่พระอัศดงคตทิศรักษาผู้ว่าราชการเมืองตระบุรี เมื่อยังเป็นหัวเมืองจัตวา ต่อมาได้เลื่อนเป็นพระยารัษฎานุประดิษฐมหิศรภักดี ผู้ว่าราชการเมืองตรัง แล้วเลื่อนขึ้นเป็นสมุหเทศาภิบาลมณฑลภูเก็ต

พระยารัษฎานุประดิษฐมหิศรภักดี (คอซิมบี๊) ก็คือผู้ที่สั่งพระสถลสถานพิทักษ์ (คอยู่เกียด) ผู้เป็นหลานและไปดูงานประเทศอินโดเนเซีย ให้ขโมยต้นกล้ายางที่อังกฤษขโมยเมล็ดจากบราซิลมาปลูกทดลองที่นั่น จนยางพารากลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย ชาวบ้านยุคนั้นเรียกกันว่า “ยางเทศา” และยกย่องพระยารัษฎาฯผู้นำมาเผยแพร่ว่าเป็น “บิดายางพาราไทย”

แต่ชีวิตของพระยารัษฎานุประดิษฐมหิศรภักดี และพระสถลสถานพิทักษ์ ผู้ที่ทำให้ยางพารากลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย ไม่ได้ยั่งยืนเหมือนยางพารา ต้องจบลงด้วยถูกฆาตกรรมอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด
เหตุร้ายเกิดขึ้นราว ๑๑ นาฬิกาของวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๔๕๖ ขณะที่พระยารัษฎาฯกลับจากเดินทางไปปีนัง เมื่อเรือมาถึงท่าเรือจังหวัดตรัง มีคณะข้าราชการพร้อมด้วยพระสถลสถานพิทักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ไปต้อนรับ พอขึ้นจากท่าเรือมาเพียง ๔-๕ เมตร คนร้ายที่อยู่ในหมู่ผู้มาต้อนรับก็ก้าวออกไปลั่นกระสุนปืนพกเข้าใส่ทันที กระสุนนัดแรกถูกต้นแขนพระยารัษฎาฯทะลุไปถึงสะบัก พระสถลฯซึ่งเดินคู่กันมาก็ถลาเข้ามากันไว้ จึงถูกคนร้ายลั่นกระสุนใส่อีก ๒ นัด นัดหนึ่งถูกที่ขา อีกนัดถูกกลางหลัง พระยารัษฎาฯตะโกนขึ้นว่า

“ไอ้จัน อย่ายิง”

พอได้สติ บรรดาข้าราชการต่างก็กรูกันเข้าไปจับ แต่คนร้ายหนีไปได้ ซึ่งก็ไม่ได้หนีไปไหน ไปนั่งรอตำรวจอยู่ใกล้ๆนั้นเอง

“ไอ้จัน” ที่พระยารัษฎาฯตะโกนห้ามนี้ ชาวบ้านเรียกกันว่า “หมอจันทร์” เป็นหมอทหารเรือ มียศเรือเอก แต่ถูกออกจากราชการ และมีผู้นำมาฝากทำงานกับพระยารัษฎาฯในหน้าที่แพทย์ประจำจังหวัดตรัง พระยารัษฎาฯก็ให้การอุปการะเป็นอย่างดี จึงเป็นที่สงสัยกันว่า “ไอ้จัน” ยิงเพราะอะไร และยิงใครกันแน่
คนร้ายได้สารภาพกับศาลว่า ตนมีความแค้นที่ภรรยาได้อาศัยมากับเรือตรวจราชการของพระสถลฯ แต่ถูกไล่ให้ขึ้นที่เกาะปันหยีพร้อมกับลูก เมื่อตนทราบข่าวก็ขออนุญาตลางานไปรับ แต่พระสถลฯไม่อนุญาต จึงได้โทรเลขไปขออนุญาตพระยารัษฎาฯที่ปีนัง ก็ไม่ได้รับคำตอบอีก จึงแค้นเคืองต้องการยิงสั่งสอนที่แขน ไม่ต้องการชีวิตแต่อย่างใด แต่การกระทำอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองเช่นนี้ ทั้งศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา ได้ตัดสินให้ประหารชีวิตหมอจันทร์

พระยารัษฎาฯได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลได้ ๔๕ วันก็ถึงแก่อนิจกรรม ส่วนพระสถลฯก็ถึงอนิจกรรมเช่นเดียวกันใน ๖๗ วันต่อมา แพทย์วินิจฉัยว่าพระยารัษฎาฯเสียชีวิตเพราะโรคประจำตัว แต่บาดแผลจากกระสุนปืนเพียงทำให้เสียชีวิตเร็วขึ้น ส่วนพระสถลฯนั้นเสียชีวิตเพราะกระสุนปืน

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชโทรเลขไปถึงหลวงบริรักษ์โลหวิสัย บุตรของพระยารัษฎานุประดิษฐ์ มีความว่า
“เรามีความเศร้าสลดอย่างยิ่ง ในอนิจกรรมของบิดาเจ้า ผู้ซึ่งเรายกย่องอย่างสูง ไม่เฉพาะที่เป็นข้าราชการเท่านั้น แต่ยังเป็นเพื่อนผู้หนึ่ง ซึ่งเราย่อมสลดใจที่ต้องสูญเสียไปเช่นนั้น จงรับความเศร้าสลดและเห็นใจอย่างจริงจังจากเราด้วย”

ส่วนสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชนุภาพ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ได้ส่งโทรเลขไปถึงหลวงบริรักษ์โลหวิสัย เช่นเดียวกันว่า
“ฉันได้ทราบข่าวด้วยความเสียใจอย่างยิ่งในอนิจกรรมของบิดาที่รักของเธอ ซึ่งเป็นการสูญเสียข้าราชการของบ้านเมืองอย่างไม่อาจหาตัวแทนได้ ทั้งเป็นการสูญเสียนักบริหารผู้สามารถ และผู้เป็นมิตรมาเป็นเวลาช้านาน ความสนิทสนมในบิดาของเธอ ย่อมทำให้ฉันพลอยเห็นอกเห็นใจครอบครัวของเธอด้วย ซึ่งขอได้รับความเสียใจอย่างแท้จริงจากฉัน”

เมื่อมีการใช้พระราชบัญญัตินามสกุล พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานนามสกุลให้แก่อำมาตย์เอก พระยารัตนเศรษฐี (ยู่หงี) ผู้ว่าราชการเมืองระนอง ซึ่งเป็นหลานของพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซู้เจียง) ว่า ณ ระนอง

ขอขอบคุณที่มา : MGR ONLINE
เรื่องเก่า เล่าสนุก : โดย โรม บุนนาค
ภาพพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซู้เจียง)
ภาพต้นฉบับ : อินเตอร์เน็ต
แต่งสี : กัปป์ กัลป์

ที่อยู่

Pathum Thani
Pathum Thani
12130

เบอร์โทรศัพท์

+66924341166

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Easy-on-tourผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Easy-on-tour:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์


บริษัทตัวแทนท่องเที่ยว อื่นๆใน Pathum Thani

แสดงผลทั้งหมด