25/07/2023
เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์แบบคน Local season 2
ตามหาวิวฮิต unseen ในอินสตาแกรม 6วัน 6คืน
วันที่ 6-11 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เป็นอีกปีที่เรานอนบนรถไฟข้ามคืนจากเวียนนามาที่สวิตเซอร์แลนด์
คืนวันที่ 5กค. ปีนี้ที่เราจองตู้นอนทัน เป็นครั้งแรกที่ได้นอนตู้นอนของรถไฟออสเตรีย Nightjet อยากบอกมันดีมาก เราจองตู้นอนแบบ4เตียง และจ่ายเพิ่มอีก 10€ เพื่อเลือกตู้นอน Lady cabin เตียงใหญ่ นอนสบาย สะอาด รถไฟไม่เสียงดัง และไม่โยก ใต้เตียงมีที่ว่างให้เก็บกระเป๋า ตอนเช้ามีอาหารเช้าคือได้ขนมปัง2ก้อน แยมและเนยกับกาแฟ 1แก้ว ดีจริงๆ
วันที่ 6กค. เราถึงซูริค 9โมงครึ่ง รถไฟเลทไป 1ชม. เหมือนว่ารถนอนนี่เลทตลอดเลยแหะ ปีที่แล้วยิ่งเลทกว่านี้ วันนี้แพลนขึ้นเขาเราเปลี่ยนนิดหน่อย จริงๆจะเก็บเขาตั้งแต่แถบๆชายแดนแต่เพราะฝนและเมฆตั้งเค้ามาแรงมาก เราเลยย้ายมาขึ้นที่นี่ ที่ Stoos แบกกระเป๋าขึ้นเขาไปด้วยเพราะวันแรกไม่มีเงินฟรังก์ติดตัวเลย แถมไปถึงเมืองนี้ก็เที่ยงแล้ว กลัวทุกอย่างจะสายตัดสินใจขึ้นเขาแบบหลังแอ่น นั่งกระเช้าขึ้นยอด Klingenstock แล้วเดินเลียบสันเขามาที่ Fronalpstock ใช้ Swiss travel pass ลดเหลือ 31ฟรังก์ 5.8กม. ความชัน500เมตร วิวสวยแบบซ๊วยยยยยยย
วันที่ 7กค. วิวที่คนสวิตเซอร์แลนด์รีวิวนักหนาว่าเป็นเส้นทางเดินเขาที่ดีที่สุดนั่นคือ Pizol 5seen wanderung เดินเขาดู5ทะเลสาบ ที่วิวดีมากกก สมคำร่ำลือ ทะเลสาบน้อยใหญ่สีฟ้ามรกตแบบโอ้ยสวยอะไรขนาดนี้ แต่เส้นทางนี้ก็ทำเอาเราเกือบขิตเพราะโดนรองเท้ากัดแถมกระเช้าจะปิดแต่สู้วิ่งลงเขามาทัน เป็นวันที่2ที่แทบร้องอยากกลับบ้าน เส้นทางนี้ 11กม. ความชันขึ้นเขา700เมตร แต่เดินลง 1000เมตร เข่าแทบเดี้ยง
วันที่ 8กค. หลังจากเกือบขิตจากเส้นทาง Pizol เราเลยหาเส้นทางง่ายๆ แต่วิวตาแตกนั่นคือ Eiger Trail ที่นี่ที่เราบ่นกับตัวเองว่าเดินเขาทำไมวะ เพราะวิวคือนั่งรถไฟถึงเลย เทือกเขาระเบิดใส่ตามาก ทุกคนคงคุ้นเคยกันดีถ้าจะไปยอดเขาจุงเฟราจะต้องมาเปลี่ยนรถไฟที่ Kleine Scheidegg จุดเริ่มต้น Trail คือที่นี่ เดินไป Eiger Gletscher แล้วเดินลงเขาสิ้นสุดที่สถานีรถไฟ Alpiglen ระยะทาง 9.26กม. ความชันเดินขึ้น 493เมตร แต่เดินลง 840เมตร มันไม่ใช่เส้นทางที่บอกว่าเดินง่ายๆตามที่ใจบอกเลย!
วันที่ 9กค. วันนี้เลือกวิวที่อยากขึ้นไม่ได้จริงๆ สุดท้ายตัดสินใจมาที่นี่ Triftbrücke เป็นการนั่ง Seibahn ที่ตื่นเต้นมากเพราะเล็กและขึ้นได้แค่8คน เราแนะนำควรซื้อตั๋วในเนตมาก่อน ที่นี่ใช้ Swiss pass ไม่ได้ ค่าขึ้น 26ฟรังก์ เส้นทางเดินเขาดี เดินไม่ยาก ไปกลับ6กม. ความชัน 627เมตร ความยาวสะพาน 170เมตร ที่สูงจากก้นเหว 100เมตร แนะนำอีกว่าที่นี่มีโปรเจคจะสร้างเขื่อนกั้นทะเลสาบ ถ้าเริ่มสร้างคงได้รื้อสะพานออก รีบๆมากัน
ลงจากเขาช่วงบ่ายยังพอมีเวลา เราวิ่งไปเปลี่ยนชุดสวยในห้องน้ำและนั่งรถบัสขึ้นเขาเพื่อมาถ่ายวิวฮิตคนไทยที่ Rosenlaui Glatscher วิวที่สวยไม่ผิดหวังแต่เสียดายที่ไม่ได้เดินต่อไปที่น้ำตกเพราะไม่มีเวลา
วันที่10กค. เราอยากไปอีกยอดแต่ใจไม่กล้าพอ เพราะสูงและชัน เลยขอเดินชิลๆที่นี่ Brienzer Rothorn เราว่าหลายคนก็เคยขึ้นมา วิวที่นักท่องเที่ยวล้นมาก ข้างบนเขาสวยไม่ผิดหวัง รถไฟแดงขึ้นเขาก็สวยไม่ผิดหวังแต่ค่ารถไฟคือสูงปรี๊ดมาก ขนาดใช้ Swiss pass ลดแล้วยังจ่ายไปตั้ง56ฟรังก์ แต่นั่งรถไฟขึ้นมาตั้ง1ชม.ก็คุ้ม ใช้เวลาขึ้นมานานจนหลับไปตื่นหนึ่ง
วันที่ 11กค. วันสุดท้ายขอชิลๆสวยๆอีกหน่อย ด้วยการหอบเดรสสีแดงไปถ่ายกับวิวปราสาทที่เมือง Iseltwald จริงๆก็แวะมาดูวิวของสหายผู้กองแต่สำหรับเรามันไม่ว้าว เลยไม่ถ่าย แต่วิวปราสาทว้าวกว่ามาก บวกกับน้ำทะเลสาบ Brienz คือที่สุด สีฟ้ามรกตมากแบบถ้ามีเวลามากกว่านี้คงกระโดดลงเล่นน้ำแล้ว ดีมากจริงๆ
ทริปนี้เราพักที่ซูริค 2คืน และที่ Interlaken 3คืน บนรถไฟ 1คืน เดินทางคนเดียว เกือบตุยคนเดียวและชิลคนเดียว ปีนี้เราเพิ่งมาฉลาดซื้อขาตั้งกล้องใหม่แบบมีรีโมทบลูทูธด้วย ไม่ต้องวิ่ง 10วินาทีเหมือนครั้งก่อน บลูทูธกดรัวได้ภาพสวยตามใจต้องการมาก และเป็นความโชคดีที่ทั้ง6วันไม่เจอฝนเลย มีแค่วันแรกที่มีเมฆดำแต่ฝนไม่ตก
ปล.1 ปีนี้เรารู้สึกไม่ฟิตเท่าที่ควร ไม่ได้ออกกำลังกายเท่าไร แถมวันที่2ยังโดนรองเท้ากัดจนพองจนเป็นแผลใหญ่ ยังดีที่ใจสู้เดินเขาต่อจนจบทริป ปีหน้าหวังว่าเราจะเอนจอยด์มากกว่านี้นะ
ปล.2 กลับมาครั้งนี้เราก็ยังไม่ได้ซื้อซิมกับไม่มีอินเตอร์เน็ตแต่สวิตมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นคือมีฟรีไวไฟเกือบทุกสถานีรถไฟเลย ปีที่แล้วมีแต่สถานีหลักเท่านั้น ทำดีมากค่ะ จะให้ดี รถไฟควรมีฟรีไวไฟนะ แฮ่!
เครดิต เพจ