แฟนพันธุ์แท้ภูเก็ต

29/10/2024

สุวรรณหงส์ทรงพู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์.
เพียงหงส์ทรงพรมมินทร์ ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม

11/10/2024

ประกาศจากศาลเจ้ากะทู้ครับ
ฝากประชาสัมพันธ์ด้วยครับ

11/10/2024

ในนามของคนในทู ขอขอบคุณ อีจี้จุ๋ม Phuket ที่มีคำติชมให้อ๊ามกะทู้นะครับ

ปีนี้อ๊ามกะทู้ มีมติใหญ่ขอความร่วมมือดังนี้ ห้าม ม้าทรง พี่เลี้ยง ใส่กางเกงหลากสีโดยเด็ดขาด ให้ใส่ชุดขาวเท่านั้น เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตามขนบธรรมเนียม ประเพณี ที่สืบทอดกันมา ขอให้ถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด

ทำให้ภาพในขบวนแห่ปีนี้เลยได้เห็น เกือบทุกคนร่วมมือ ใส่เสื้อ ศาลเจ้ากะทู้ ทำให้ขบวนออกมาสวยงาม และอ๊ามกะทู้ยังยึดหลักเดิม คือ ความเรียบง่าย ในประเพณี

สำหรับเรื่องรถแห่ที่มีประกาศฉาวเทือน และเรื่องเฉี้ยม จะได้นำเรียนให้ทางคณะกรรมการศาลเจ้าทราบครับ ขอบคุณครับ

จี้โงกคอคอยแลอิ่วเก้งมา 3 อ้าม หนุกทุกอ้าม.. แต่ประทับใจอ้ามในทูหว้าเพื่อน ติดใจในความเรียบง่าย ความน้อยแต่มาก ความเรียบแต่ใช่ เรียลๆ ไม่มีการตื่นมาแต่งหน้าติดขนตาม้าทรงสาว สัมผัสได้ถึงแก่นของเทศกาลการถือศีลโดยใช้ม้าทรงเป็นสัญลักษณ์ของการเรียกความศรัทธาที่ยังซ่อนความเหนือธรรมชาติเบาๆ 🙏 เน้นความเก่า (ที่สุด) แต่เก๋าได้ดีเยี่ยม

ถ้าลดทอนรถแห่ที่ทำช้อตฟีล ประกาศฉาวเทือนหนนออกสักฮิด ลดเฉี้ยมที่พยายามมากไป จนเป็นในทูการละครออกสักหุ้ย อ้ามในทูสมศักดิ์ศรีต้นแบบการถือศีลกินผัก จี้ว่าเต็ม 10 ไม่หัก

#อีจี้จุ๋ม #ลูกเข้โห #สาวภูเก็ตเด็ดตรงนี้ #กินผักภูเก็ต #ภูเก็ต Orasa Tosawang

10/10/2024

เฉี้ยเหี้ยวโห้ยกิ้วอ๋องไต่เต่กี่เหลี่ยม

6.45 ขบวนออกจากศาลเจ้า เดินเท้าไปยังหัวท่าบ่างเหลียว (ขุมน้ำสะพานหิน) อดีตเคยเป็นท่าเรือเก่า โดยเรือที่ไปเฉี้ยเหี้ยวโห้ยมาจากเมืองจีนได้จอดที่นี่ วันเดียวกันนี้ เมื่อ 199 ปีที่แล้ว

#เฉี้ยเหี้ยวโห้ยกิ้วอ๋องไต่เต่กี่เหลี่ยม
#199ปี #ศาลเจ้ากะทู้

02/10/2024

เริ่มขึ้นแล้วกับประเพณีกินผัก อันยิ่งใหญ่ของชาวภูเก็ต

ชาวบ้านกะทู้ร่วมแรงร่วมใจกันยกเสาโกเต้ง อันเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มประเพณีกินผัก(เจียะฉ่าย) ของชาว จ.ภูเก็ต ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีที่ 199 ของประเพณี โดยเริ่มขึ้นครั้งแรกที่หมู่บ้านในทู หรือ ศาลเจ้ากะทู้

#199ปี #ประเพณีกินผัก #ศาลเจ้ากะทู้
#ในทู #กะทู้ #ภูเก็ต

28/09/2024

รู้ไหมทำไม ต้องติดตุ้ยเหลียนกลับหลัง

27/09/2024

ต่อเช้าไปกินเส่วโบ๋ยกับโก๊ไหมเอ้า กี่กินผักแล้วอั้น

07/09/2024

บี๊หุ้น พัทลุง

อันที่จริงเมืองพัทลุงถือได้ว่าเป็นเมืองคนไทยถิ่นใต้แท้ๆเลยนะ แต่อิทธิพลของอาหารฮกเกี้ยนก็ยังสามารถแผ่เข้าไปถึงได้ แต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนกรรมวิธีการทำและรสชาติไปตามถิ่นที่อยู่อาศัยบ้าง แต่หลักๆก็คือ บี๊หุ้น

บี๊หุ้น อ่านแบบนี้ ไม่ใช่ หมี่หุ้น

“บี้หุน” เรื่องราวของเส้นหมี่หวาน ๆ ตำนานแห่งพัทลุง

“ผัดหมี่ดูน่ากินจัง” ใครบางคนอาจจะกำลังคิด แต่ช้าก่อน เพราะนี่ไม่ใช่ผัดหมี่ที่เป็นอาหารคาวอย่างที่คุณเข้าใจ หากแต่เป็นอาหารหวานเส้น ๆ ที่เป็นอาหารขึ้นชื่อของชาวพัทลุง ซึ่งเรียกกันว่า “บี้หุน”

“บี้หุน” หรือ “บี้หุ้น” (米粉) บ้างก็เรียกหมี่หุ้น ชื่อนี้เป็นคำศัพท์ที่พบได้ทั่วไปในภาคใต้ของประเทศไทยและแถบอินโด-มาเลย์ ใช้เรียกเส้นหมี่ประเภทหนึ่งที่ติดตามมาพร้อมกับชาวจีนที่อพยพเข้ามาในภูมิภาค โดยความพิเศษของบี้หุนที่พบในพัทลุงก็คงจะเป็นการที่เส้นนี้โม่และรีดจาก “ข้าวเล็บนก” ข้าวพันธุ์พื้นเมืองที่มีต้นกำเนิดในจังหวัดพัทลุง แล้วจึงนำไปผ่านกรรมวิธีทำให้สุกด้วยการนึ่ง แล้วนำไปคลุกเคล้ากับน้ำตาลโตนดในขณะที่เส้นกำลังร้อน ๆ แล้วราดน้ำมันมะพร้าวไม่ให้เส้นจับตัวเป็นก้อน มีข้าวเล็บนก, น้ำตาลโตนด และน้ำมันมะพร้าวเป็นหัวใจหลักของเมนูนี้

การนำเอาเส้นบี้หุนนี้มาทำเป็นของหวานเป็นอะไรที่ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะในประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์ เราพบการนำเส้นบี้หุนเมนูอย่าง “บี้หุนโกเร็ง” ซึ่งเป็นเมนูของคาว ทำให้การทำบี้หุนที่เป็นของหวานแบบเพรียว ๆ นี้ค่อนข้างโดดเด่น ในส่วนของจังหวัดอื่น ๆ ในภาคใต้ก็พบเมนูบี้หุนเหมือนกันและมีกรรมวิธีที่หลากหลายเช่นหมี่หุ้นที่ภูเก็ตที่ดัง ๆ ก็เช่นหมี่หุ้นน้ำซุปกระดูกหมูหรือที่เรียกว่าหมี่หุ้นป้าฉ่าง มีการใช้เป็นซีอิ๊วดำในการคลุกเส้น เป็นต้น

ในปัจจุบันนี้ ขนมบี้หุนก็นับว่าเป็นอะไรที่หากินได้ยาก ถ้าพูดถึงเจ้าดัง ๆ ของพัทลุงก็คงจะนึกถึง #บี้หุนแม่นิ่ม ซึ่งพูดกันว่าเป็นบี้หุนที่โด่งดังระดับจังหวัดเลยทีเดียว ใครที่สนใจก็สามารถไปลองอุดหนุนกันได้ หรือถ้าใครมีร้านอื่น ๆ แนะนำก็สามารถคอมเมนต์แบ่งปันเพื่อน ๆ ได้น้าาา~~
#จานโปรด #พัทลุง

03/09/2024

ครบเครื่องเรื่อง เต่งโห่

ที่ในทูส่วนมากเป็น แซ่ตัน ใช้เต่งโห่ว่า 川颍 เอ่งฉ้วน เอ่งฉ้วน ถือเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของจีน ในสมัยราชวงศ์เซี่ย แซ่ตัน นั้นมีมากมายมหาศาล ที่ต้องตั้งเต่งโห่ ว่า เอ่งฉ้วน ก็คือให้รู้ว่า แซ่ตัน สายนี้สืบมาจากเมืองเอ่งฉ้วน มาจากเมืองเอ่งฉ้วน นั่นเอง

ยังมีพี่น้องชาวกระบี่ที่ใช้ นามสกุล เอ่งฉ้วน ก็เหมือนกัน คือสืบมาจากรากเหง้าเดียวกันคือ เมืองเอ่งฉ้วน

#โกหนึ่ง #แฟนพันธุ์แท้ภูเก็ต
#เต่งโห่ #หยี่แส่ #ในทู #กะทู้ #ภูเก็ต

31/08/2024

3 ใน 5 แม่ทัพแห่งเวทย์บัญชา 5ทัพ (หง่อเอี๋ย) โหล่เฉี้ย เอียวเจี้ยน หลุยจินจู้

จิตรกรรมฝาผนังเรื่อง " ห้องสิน " 1 เดียวในไทย เขียนโดยช่างชาวจีนในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยช่างเขียนไว้ใน "เก๋งนุกิจราชบริหาร" เป็นอาคารสถาปัตยกรรมจีนภายในพระราชวังบวรสถานมงคลหรือพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครในปัจจุบัน สร้างขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ภายในมีภาพจิตกรรมฝาผนังฝีมือช่างจีนทั้ง 3 ด้าน ปัจจุบัน เป็นสถานที่เก็บรักษาป้ายอวยพรขนาดใหญ่ซึ่งเข้าใจว่าเป็นของถวายพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว

เก๋งนุกิจราชบริหารเป็นอาคารที่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ( รัชกาลที่ 4 องค์ที่ 2 ) โปรดให้สร้างโปรดฯ ให้พระวิสูตรวารี (มลิ) สร้างขึ้นเมื่อพระองค์เสด็จมาประทับยังพระบวรราชวัง แต่ยังสร้างไม่แล้วเสร็จพระองค์ก็เสด็จสวรรคตไปเสียก่อน ดังนั้น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ( รัชกาลที่ 4 องค์ที่ 1 )จึงโปรดฯ ให้สร้างต่อจนเสร็จ

#โกหนึ่ง #แฟนพันธุ์แท้ภูเก็ต
#หง่อเอี๋ย #เวทย์บัญชาห้าทัพ
#ห้องสิน #แม่ทัพสวรรค์ #เก๋งนุกิจราชบริหาร
#พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร

19/08/2024

ว่าด้วยเรื่องภาษาภูเก็ต คำว่า " โก " มาจากไหน

ชาวภูเก็ตทั้งหลายเคยสงสัย กันหรือไม่ว่าทำไมบ้านเราเรียกพี่ชายว่า โก ส่วนคนกรุงเทพ ชลบุรี หรือหาดใหญ่ เรียก เฮียกันทั้งนั้น คำว่า " โก " มาจาก 哥 ko ซึ่งแปลว่าพี่ชาย คำอ่านว่า โก นี้นิยมใช้ในหมู่พวกเราชาวภูเก็ต พังงา ตรังและกระบี่ เนื่องด้วยเป็นชุมชนชาวจีนฮกเกี้ยนที่อพยพมา

ส่วนคำว่า " เฮีย " 兄 hia ซึ่งแปลว่าพี่ชายเหมือนกัน นิยมใช้ในหมู่คนจีนแต้จิ๋ว ส่วนจีนแคะ จะใช้คำว่า ก๊อ เรียกพี่ชายครับ

จบการรายงานจาก โกหนึ่ง ส่วนโกเต้ก นั้น โกก็ไม่แน่ใจ

#โกหนึ่ง #แฟนพันธุ์แท้ภูเก็ต
#ภาษาภูเก็ต #ภูเก็จ #ภูเก็จ

05/08/2024

ยังจำกันได้ไหม ในอดีตที่ยอดเขารังจะมีกล้องส่องทางไกลแบบหยอดเหรียญ หยอดแล้วสามารถส่องดูได้ทั่วเมืองภูเก็ต

ชื่อเขารัง ไม่ได้มาจากคำว่า รัง แต่เพี้ยนมาจากภาษาใต้สำเนียงภูเก็ตที่เรียก เขาหลัง เพราะเป็นภูเขาที่อยู่ด้านหลังของเมือง

ท่านพระยารัษฎานุประดิษฐ์ คอซิมบี้ ณ.ระนอง เคยมีดำริจะให้สร้างเขาหลังให้เหมือน ปีนังฮิลล์ ที่เกาะปีนัง ในแผนการจะทำเคเบิ้ลคาร์ ขึ้นเขาหลังแบบปีนังฮิลล์ น่าเสียดายท่านได้เสียชีวิตเสียก่อน

ชื่อถนนทางขึ้นเขาหลังเลยตั้งให้เป็นเกียรติแก่ท่าน ชื่อว่า ถนนคอซิมบี้ และบนยอดเขาหลังยังมีอนุสาวรีย์ของท่านตั้งตระหง่านอยู่ เพื่อรำลึกถึงผู้มีคุณูปการอันใหญ่หลวงแก่เมืองภูเก็ต

ขอขอบคุณภาพจากคุณอาคณิสร ถ่ายเมื่อปี 2510

#เขารัง #เขาหลัง #คอซิมบี้
#ภูเก็จ #ภูเก็ต

28/07/2024

พร้าวสี่ยอด สวนแป้ะหว๊างราไวย์
หน้าบ้านนายกเรวัต อารีรอบ

ขอขอบคุณภาพจาก คุณนิภาพรรณ แสงอินทร์
และคุณอาคณิสร

ภาพถ่ายยุคเดียวกันประมาณปี 2510-2515

#ภาพเก่าภูเก็ต #มะพร้าวสี่ยอด #ราไวย์ #ภูเก็จ #ภูเก็ต

26/07/2024

สนามกอล์ฟหาดสุรินทร์ ถ่ายประมาณปี 2510

หาดสุรินทร์ที่ไม่ได้อยู่ สุรินทร์ถิ่นสุรา แต่อยู่ที่ จ.ภูเก็ต ตั้งชื่อตาม พระยาสุรินทราชา (นกยูง วิเศษกุล) เทศาภิบาลมณฑลภูเก็ต ในอดีต

ขอขอบคุณภาพจาก คุณนิภาพรรณ แสงอินทร์

#ภาพเก่าภูเก็ต #หาดสุรินทร์ #สนามกอล์ฟหาดสุรินทร์

#พระยาสุรินทราชา #ภูเก็จ #ภูเก็ต

01/07/2024

#ตัดป่าฆ่าทั้งระบบ

เหตุน้ำท่วมอย่างหนักในพื้นที่ราบเชิงเขาของจ.ภูเก็ตเมื่อวานนี้ มาจากอะไร

ในอดีต ภูเขากมลา ภูเขาน้ำตกกะทู้ ภูเขาบ้านม่านิก อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ เป็นแนวเทือกเขาเดียวกัน เป็นเขตป่าดิบชื้นที่มีความสำคัญต่อเกาะภูเก็ตเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นที่กักเก็บน้ำตามธรรมชาติ มีป่าใหญ่ ต้นไม้ใหญ่มากมาย คอยซับน้ำฝนในฤดูมรสุม และ ค่อยปล่อยน้ำออกมาผ่านธารน้ำต่างๆ รอบภูเขา

ธารน้ำต่างๆ รอบภูเขา ก็ให้เกิดธารน้ำตกเล็กๆไหลงมานับร้อยสาย ในครั้งที่ผมยังเยาวว์วัย บ้านผมอยู่ที่น้ำตกกะทู้ ใช้น้ำประปาหมู่บ้านจากน้ำตกกะทู้ น้ำมีทั้งปีไม่เคยหยุดไหล ในหน้าฝนเราต้องเปิดก้อกน้ำทิ้งไว้ เพื่อไม่ให้เกิดแรงดันน้ำมากเกินไปท่อประปาจะแตก

เมื่อราวๆ ปี 2540 เป็นต้นมาเริ่มมีการขึ้นไปรุกรานภูเขา ขึ้นไปล้มไม้ใหญ่ปลุกผลไม้บ้าง ตัดที่ดินขายบ้าง จนเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ดินโคลนถล่มลงมาตามธารน้ำตกที่น้ำตกกะทู้ แต่คนบ้านเราลืมง่าย เมื่อวานเหตุการณ์ที่กมลาก็ไม่ต่างกัน ช่วงโควิท มีบังคนนึงตลุยตัดไม้ใหญ่บนภูเขาลงมาจนเหี้ยน อ้างถึงว่าที่มีเอกสารสิทธิ์ ตัดได้ไม่ผิดกฎหมาย พอใครไปทักท้วงก็ด่าเขา

สุดท้ายอย่างที่เห็น เราพร่ำสอนลูกหลานมาตลอดว่าต้นไม้มีความสำคัญขนาดไหน ต่อระบบสิ่งแวดล้อมความเป็นอยู่ของมนุษย์ ถ้าต้นไม้อยู่ไม่ได้ มนุษย์ก็อย่าหวังว่าจะอยู่ได้เลย

กลไกการซับน้ำของป่า
กลไกลการซับน้ำของป่านั้นเรียกได้ว่ากลไกที่สำคัญในการช่วยไม่ให้น้ำที่อยู่ในป่าไหลบ่าลงไปท่วมพื้นที่ราบลุ่มหรือพื้นที่เมือง โดยกลไกดังกล่าวเริ่มจาก

กลไกการซับน้ำของป่า
1. ฝนที่ตกลงมาทำให้มีปริมาณน้ำในป่ามากขึ้น ความสามารถในการรับน้ำของพื้นที่ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำในดินที่มีอยู่ก่อน ว่ามีมากน้อยเพียงใด

2. ฝนที่ตกกระทบผิวดินรวมทั้งน้ำที่ไหลมาจากที่อื่นจะถูกดูดซับลงดิน ซึ่งปัจจัยที่จะทำให้ดินซับน้ำได้มากขึ้นอยู่กับระยะเวลาว่าน้ำอยู่กับพื้นดินตรงนั้นนานเท่าไหร่ ตัวแปรสำคัญที่ช่วยขวางให้น้ำอยู่ได้นานขึ้นก็คือต้นไม้ (จะกล่าวในหัวต่อไป)

3.น้ำที่ถูกดูดซับด้วยดินจะแทรกอยู่ระหว่างอนุภาคของดิน ความสามารถในการอุ้มน้ำของดินขึ้นอยู่กับปริมาณของอินทรียวัตถุที่อยู่ในดิน ถ้ามีปริมาณมากดินจะสามารถอุ้มน้ำได้มาก น้ำที่กักเก็บไว้นั้นจะค่อยๆ มุดลงสู่ชั้นน้ำใต้ดิน

4.น้ำใต้ดินจะค่อยๆ ระบายออกสู่ลำธารสายเล็กๆ รวมกันเป็นแม่น้ำสายใหญ่ทำให้มีน้ำใช้ได้ทุกฤดูกาลก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากมายกับสัตว์ป่าและมนุษย์

ป่าจึงเปรียบเสมือนฟองน้ำขนาดใหญ่ที่คอยซับน้ำไว้ไม่ให้ไหลบ่าลงมาท่วม

การมีต้นไม้ช่วยป้องกันน้ำท่วมอย่างไร
ต้นไม้ที่อยู่ในป่าไม่ได้เกิดมาเพื่อให้มนุษย์ตัดเอาเนื้อไม้ไปใช้เพียงเท่านั้น แต่มันยังมีประโยชน์ในทางอ้อมอีกมากมาย ในที่นี้จะกล่าวถึงประโยชน์ในการช่วยป้องกันน้ำท่วม โดยแต่ละส่วนของต้นไม้ล้วนช่วยให้เกิดกระบวนการซับน้ำลงดิน มีการแบ่งหน้าที่การทำงานอย่างเป็นระบบ สามารถอธิบายด้วยภาพด้านล่างนี้

(A) ฝนที่ตกลงมาในผืนป่าจะผ่านชั้นเรือนยอดของต้นไม้ ใบไม้ที่ถูกเม็ดฝนกระทบจะช่วยลดแรงของเม็ดฝนก่อนที่จะตกลงสู่พื้นดิน ป้องกันดินอัดตัวกันแน่นเป็นการช่วยให้น้ำซึมผ่านดินได้ดีขึ้น

(B) กิ่งไม้และลำต้นจะช่วยชะลอการไหลของน้ำในแนวดิ่ง

(C) รากของต้นไม้ที่แตกแขนงไปตามพื้นดินจะช่วยสกัดน้ำที่ไหลมาจากทางอื่นให้ไหลช้าลงเพื่อจะมีเวลาซึมลงดินได้นานขึ้น

(D) เศษซากใบไม้จะช่วยขวางการไหลและชะลอน้ำไม่ให้ไหลบ่าลงมาท่วมพื้นที่ด้านล่าง

(E) อินทรียวัตถุจากการย่อยสลายของต้นไม้ จะช่วยปรับโครงสร้างของดินให้มีรูพรุน ทำให้สามารถกักเก็บน้ำได้ดีขึ้น

จะเห็นได้ว่าต้นไม้คือกลไกสำคัญที่เป็นตัวกั้นการไหลของน้ำให้ช้าลง กล่าวคือต้นไม้ช่วยกักเก็บน้ำให้คงอยู่ได้ ส่วนจะนานเท่าไหร่นั้นขึ้นอยู่กับว่าผืนดินบริเวณนั้นมีต้นไม้ขึ้นปกคลุมหนาแน่นหรือไม่ และปัจจัยที่สำคัญที่ช่วยซับน้ำนั่นก็คือดิน

ข้อมูลจาก #มูลนิธิสืบนาคะเสถียร

ป่าไม้ ป้องกันน้ำท่วมได้อย่างไร
https://shorturl.asia/4gcmG

27/06/2024

LIVE 100 ปี ชาตกาล ประสิทธิ ชิณการณ์ ขุมทรัพย์วัฒนธรรมภูเก็ต

วันพฤหัสบดี ที่ 27 มิถุนายน 2567 ณ มิวเซียมภูเก็ต

•เสวนา “ชีวิตและผลงาน ประสิทธิ ชิณการณ์ ขุมทรัพย์วัฒนธรรมภูเก็ต”
•อ่านบทกวี "รำลึก 100 ปี ลุงประสิทธิ์ ชิณการณ์" โดย คุณเสน่ห์ วงษ์กำแหง

25/06/2024

ขอเชิญร่วมงาน “100 ปี ชาตกาล ประสิทธิ ชิณการณ์ ขุมทรัพย์วัฒนธรรมภูเก็ต”

วันพฤหัสบดี ที่ 27 มิถุนายน 2567 เวลา 13.00 – 15.00 น. ณ มิวเซียมภูเก็ต (ฝั่งหอนาฬิกา) ถนนพังงา

ลุงประสิทธิ ถือเป็นผู้บุกเบิกงานด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของจ.ภูเก็ตรุ่นแรกๆ และยังเป็น ประธานผู้ก่อตั้ง กลุ่มผู้สนใจประวัติศาสตร์เมืองภูเก็จ กลุ่มนี้มีส่วนช่วยผลักดัน ทำให้เกิด พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถลาง และ พิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ภูเก็ต และยังมีคุณูปการในการเขียนตำราทางประวัติศาสตร์และตำราเรียนหลายๆเล่ม

ในงานวันพฤหัสบดี ที่ 27 มิถุนายน 2567 เวลา 13.00 – 15.00 น. ณ มิวเซียมภูเก็ต จะมีการ

•เสวนา “ชีวิตและผลงาน ประสิทธิ ชิณการณ์ ขุมทรัพย์วัฒนธรรมภูเก็ต”
•อ่านบทกวี "รำลึก 100 ปี ลุงประสิทธิ์ ชิณการณ์" โดย คุณเสน่ห์ วงษ์กำแหง
•นิทรรศการ รวบรวมประวัติชีวิต ผลงานที่น่ายกย่อง

แล้วพบกันนะครับ


#100ปีชาตกาล
#ประสิทธิ_ชิณการณ์
#ขุมทรัพย์วัฒนธรรมภูเก็ต
#กลุ่มผู้สนใจประวัติศาสตร์เมืองภูเก็จ

#ชวนรำลึกถึงคนดีที่ควรยกย่อง
“100 ปี ชาตกาล ประสิทธิ ชิณการณ์ ขุมทรัพย์วัฒนธรรมภูเก็ต”
สนใจเข้าร่วมกิจกรรม กรุณาสำรองที่นั่งล่วงหน้าภายใน 26 มิถุนายน 2567 ลงทะเบียนสำรองที่นั่ง ได้ที่ https://forms.gle/N613qgWHLjaDMxh38
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 094-8077873
**ผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน รับหนังสือ “ถลาง ภูเก็จ และ ภูเก็ต” จำนวนจำกัดสำหรับ 50 ท่านแรก


#100ปีชาตกาล
#ประสิทธิ_ชิณการณ์
#ขุมทรัพย์วัฒนธรรมภูเก็ต
#กลุ่มผู้สนใจประวัติศาสตร์เมืองภูเก็จ
#มิวเซียมภูเก็ตจุดเริ่มต้นท่องเที่ยวเรียนรู้เมืองภูเก็ต
#เทศบาลนครภูเก็ตเพื่อประชาชน

02/11/2021

จาก…บาร์รำวง
ปรี้ดดดดดดดดดดดด …. เสียงเป่านกหวีดเริ่มเพลงใหม่ดังขึ้น คนที่ซื้อตั๋วไว้แล้ว ต่างทยอยเดินขึ้นเวทีเพื่อเดินขึ้นไปหานางรำที่ตัวเองถูกใจ เพื่อเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน ผมกล้าพูดได้เลยว่า ผมเป็นคนภูเก็ตรุ่นสุดท้ายที่ได้เที่ยว ” บาร์รำวง ”
ประมาณปี พ.ศ. ๒๔๙๕ – ๒๔๙๖ รำวงคณะแรกที่มีสถานที่ตั้งเป็นการถาวร ได้เกิดขึ้นบริเวณโรงไฟฟ้าถนนถลางในปัจจุบัน ชื่อ คณะศรีภูพิงค์ ต่อมาก็มี คณะแม่จ๋า บริเวณโรงภาพยนตร์เพิร์ลในปัจจุบัน หลังจากนั้นก็มีคณะรำวงเกิดขึ้นบนถนนหลายสายในเมืองภูเก็ต แต่ละคณะมีสาวรำวง หรือ นางรำ หลายสิบคน เคยมีระยะหนึ่งที่บางคณะมีถึงร้อยกว่าคน
คณะรำวงที่ภูเก็ต จะแตกต่างจากคณะรำวงที่อื่นก็คือ ที่นี่จะเปิดบริการให้ความบันเทิงแก่แขกทุกคืนตลอดปีไม่มีวันหยุด มีสถานที่ตั้งถาวรมั่นคง อยู่ประจำที่ไม่ได้ย้ายไปไหนเหมือนบางจังหวัดที่เป็นการรวมตัวกันเป็นครั้งคราวตามวาระงานเทศกาลหรือเร่เดินสายไปตามสถานที่ต่าง ๆ ไม่ได้ตั้งคณะอยู่กับที่
นับจากปี พ.ศ. ๒๕๐๐ เป็นต้นมา จังหวัดภูเก็ตมีคณะรำวงที่เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปคือ
๑. คณะเจริญศิลป์ บริเวณถนนมนตรี ปัจจุบันเป็นธนาคารทหารไทย
๒. คณะพรศิลป์ ซอยตลิ่งชัน ข้างโรงภาพยนตร์เริงจิต
๓. คณะบัวหลวง ซอยภูธร ถนนบางกอก
๔. คณะบัวหลวง ถนนพูนผล
๕. คณะหนูจ๋า ถนนถลาง หลังศูนย์บริการสาธารณสุขเทศบาลเมืองภูเก็ต
๖. คณะศรีภูเก็ต ใกล้โรงแรมเมโทรโปล วงเวียนหอนาฬิกา

ผู้เขียนทันได้เที่ยว 3 คณะ คือ คณะหนูจ๋า บาร์ศรีภูเก็ต และ บาร์พรศิลป์ เมื่อก่อนถ้ามีงานเทศกาลต่าง ๆ เช่น งานปีใหม่ งานวัด งานศาลเจ้า ฯลฯ จะมีการเหมาคณะรำวงไปแสดงในงานดังกล่าวด้วย อย่างเช่นงานวัดฉลอง ในสมัยผมจะมีการประชันกันระหว่าง 2 เวที คณะหนูจ๋า และ คณะศรีภูเก็ต หนุ่มๆสมัยก่อนเสียเลือดเสียเนื้อเพราะนางรำ 2 คณะนี้กันมามาก
ปัจจุบันที่เห็นตามงานบ่อยๆ ก็น่าจะเหลือแค่คณะเดียวคือ คณะหนูจ๋า ล่าสุดผมได้ขึ้นเวทีคณะหนูจ๋า ที่ งานถนนวัฒนธรรมเมืองกะทู้ กาลเวลาเปลี่ยน ความบันเทิงเปลี่ยน นางรำในอดีตก็เหมือนกับโคโยตี้ในปัจจุบัน ต่างกันที่เสื้อผ้าอภรณ์ที่ใช้ปกปิดร่างกายเท่านั้นเอง

ข้อมูลบาร์รำวงจาก phuketdataดอตnet ขียนโดย ปาณิศรา ชูผล

#โกหนึ่ง #แฟนพันธุ์แท้ภูเก็ต #บาร์รำวง
#คนภูเก็ต #ภูเก็ต #ภูเก็จ

รำวงคณะหนูจ๋า จ.ภูเก็ต ปี 2530