ญี่ปุ่นไม่ได้อร่อยทุกร้าน

  • Home
  • ญี่ปุ่นไม่ได้อร่อยทุกร้าน

ญี่ปุ่นไม่ได้อร่อยทุกร้าน อย่าไปเชื่อเวลาคนบอกว่าไปญี่ปุ่นเ?
(1)

วันนี้จะมีแนะนำร้านอุด้งยืนกินระดับตำนานอีกร้านนึงของโตเกียว เรียกว่าทั้งเก่าแก่ ทั้งเป็นร้านดังประจำย่าน แถมยังมีความขล...
03/09/2024

วันนี้จะมีแนะนำร้านอุด้งยืนกินระดับตำนานอีกร้านนึงของโตเกียว เรียกว่าทั้งเก่าแก่ ทั้งเป็นร้านดังประจำย่าน แถมยังมีความขลังของร้านที่เปิดอยู่หน้าสถานีมาอย่างยาวนาน มีลูกค้าทั้งขาประจำทั้งขาจรแวะเวียนมาไม่ขาดสายตั้งแต่เปิดจนปิด จริงๆจะว่าไม่เคยกินร้านนี้ก็ไม่ถูก เพราะเคยไปกินมาครั้งนึงแต่เป็นสาขาที่ Parco Shibuya ซึ่งอันนั้นมีเก้าอี้ให้นั่งกิน ความพลาดคือตอนนั้นดันอยากกินอุด้งเนื้อซึ่งก็อร่อยใช้ได้นะ แต่มารู้ทีหลังว่าของดีร้านนี้มันคืออุด้งเย็นที่ใครๆก็นิยมสั่งกัน เจ็บใจที่ยังไม่ได้ลอง
ร้านนี้ชื่อว่าโอนิยันมะ Oniyama แปลว่าแมลงปอยักษ์ซึ่งหน้าร้านก็มีรูปแมลงปอยักษ์อยู่ตรงม่านผ้าเด่นชัด สาขาต้นตำรับเลยอยู่หน้าสถานีรถไฟโกทันดะซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีใหญ่ใกล้ๆชินากาว่า ร้านนี้เป็นแบบยืนกิน ขนาดเล็กๆแคบๆแต่แน่นไปด้วยลูกค้าตั้งแต่มื้อเที่ยงยันมื้อดึก รวมไปถึงเป็นจุดรวมนักดื่มคอแข็งที่ดื่มจนปลิ้นแล้วอยากหาอะไรรองท้องก่อนนอนเพราะร้านเค้าเปิดถึงตีสามโน่นแหล่ะ
จุดเด่นอย่างแรกก็แน่นอนว่าต้องเป็นเส้น ร้านนี้ใช้ซานุกิอุด้งเส้นสดที่ทำใหม่ทุกวัน มีความเหนียวนุ่มลื่นกำลังพอดี ลวกมาแบบเป๊ะมาก ตอนนั้นกินแบบร้อนก็มีรสชาติซุปออกไปทางละมุนๆ ไม่เค็มจัด ซดคล่องคอ เนื้อวัวก็ต้มมาอร่อยเลย ส่วนจุดเด่นอีกอย่างก็คือสารพัดเทมปุระซึ่งมีให้เลือกเยอะมาก ตัวที่เคยลองก็มีหนวดหมึกกับไข่ต้มเยิ่มๆ ทอดมาเยี่ยมทั้งคู่ ถือว่าเป็นร้านอุด้งที่ทอดเทมปุระได้อร่อยร้านนึงเลย
แต่อย่างว่า เค้าว่ากันว่าของดีคืออุด้งเย็น ซึ่งซอสที่ปรุงเป็นพิเศษของทางร้านมันจะเข้มข้นจัดจ้านเข้ากับเส้นอุด้งมากๆ ยิ่งกันกับเทมปุระร้อนๆด้วยนี่เค้าบอกว่าสมบูรณ์แบบเลย ครั้งหน้าก็คิดว่าถ้าไปเมาแถวโกทันดะจะต้องไปลองปิดท้ายให้ได้ซักที ลองอุด้งเย็นกับของทอดอย่างอื่นที่น่าลอง ทั้งชิกุวะ ทั้งไก่เทมปุระ ทั้งโกโบ น่าลองไปหมด มีเยอะจนเลือกไม่ถูก
ส่วนราคาก็ถูกตามสไตล์ร้านยืนกิน อุด้งเริ่มต้นก็ซัก 500 เยน ของทอดต่างๆก็จิ้มเอาตามชอบใจ เค้ามีตู้กดให้หน้าร้าน เลือกได้ตามชอบ
ความคิดเห็นของนักรีวิวญี่ปุ่น
"โอนิยันมะคือร้านอุด้งที่ชอบที่สุด โดยเฉพาะเทมปุระไก่ที่ได้ถึงรสมาก" - 牛丼大森
"พูดได้เต็มปากว่าร้านนี้คือสุดยอดของอุด้งยืนกินแน่นอน" - 食が趣味じゃない王子
"เวลาเครียดทีไร ได้กินอุด้งเย็นของโอนิยันมะแล้วหายเครียดทุกที" - まログ
ลายแทง : https://maps.app.goo.gl/KksbDr912K2NB6nX9

ร้านที่จะมาแนะนำวันนี้เป็นร้านที่อยากกินตั้งแต่เห็นรีวิวครั้งแรก มันทั้งแหวกแนว ทั้งดูดี น่าลองมาก แต่เหตุผลที่ยังไม่เคย...
31/08/2024

ร้านที่จะมาแนะนำวันนี้เป็นร้านที่อยากกินตั้งแต่เห็นรีวิวครั้งแรก มันทั้งแหวกแนว ทั้งดูดี น่าลองมาก แต่เหตุผลที่ยังไม่เคยกินก็เพราะว่ามันเพิ่งเปิดปลายปีที่แล้วนี่เอง คือเปิดหลังจากทริปไปโตเกียวครั้งสุดท้าย เลยยังไม่มีโอกาสได้กินแต่งวดหน้าต้องไปให้ได้ และถึงจะเป็นร้านเปิดใหม่ แต่มันก็โด่งดังในหมู่นักชิมญี่ปุ่นอย่างรวดเร็ว รวมถึงได้คำวิจารณ์ในแง่บวกแบบสุดๆ จนตอนนี้จองยากจองเย็นมาก แม้จะมีระบบจองออนไลน์ผ่านเว็บโอมากาเสะแต่ก็ต้องจองล่วงหน้าพอสมควร
ร้านนี้ชื่อว่าอาตามิ Atami ชื่ออาตามิแต่ไม่ได้อยู่อิสุนะ มันอยู่ที่อาคาซากะโตเกียวนี่เอง อยู่ติดกับสถานี Akasaka-Mitsune เลย ถ้าออก Exit A เดินห้าสิบก้าวถึงร้าน ใกล้มาก ร้านอาตามิเป็นร้านขายแฮมเบอเกอร์ แต่ไม่ใช่แฮมเบอเกอร์ทั่วไป เพราะมันเป็นร้านที่ขายเบอเกอร์แนว Kappo กึ่งๆโอมากาเสะ กึ่งๆ Chef Table ฟังแล้วก็งงใช่มั๊ย แนวดีไหมล่ะ แถมร้านนี้จะเปิดแค่มื้อกลางวันเท่านั้น ซึ่งแปลกมากสำหรับร้านแนวนี้ที่ปรกติจะเปิดกลางคืนและมีกลางวันเป็นมื้อเสริม
สาเหตุที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าร้าน Atami เปิดขึ้นมาโดยการร่วมมือสองสองเชฟหนุ่มรุ่นใหม่ที่เริ่มจะมีชื่อเสียงอย่างเชฟมาโกโตะ ซูเอโทมิ และเชฟเทรุ ทากาฮาชิ ซึ่งทั้งสองเชฟมีร้านอาหารหลายร้านหลากแนว และเป็นเรื่องบังเอิญที่ในตึกติดสถานีตรงนี้เองที่เชฟทั้งสองมาเปิดร้านอยู่ที่เดียวกัน คือเชฟมาโกโตะมาเปิดร้านไก่ย่างสไตล์โอมากาเสะชื่อ Shin-Kobe ส่วนเชฟเทรุมาเปิดร้านซูชิแบบพรีเมียมชื่อ Sushi Jackson ซึ่งทั้งสองร้านก็ค่อนข้างเป็นที่นิยมและเปิดมื้อเย็นเป็นหลัก
สุดท้ายด้วยเหตุผลได้ไม่ทราบ ทั้งสองเชฟก็มาสนิทสนมกันเลยตกลงใจว่าไหนๆต่างคนก็มีร้านที่เน้นขายมื้อเย็นแล้ว กลางวันว่างๆก็มาเปิดร้านขายอะไรซักอย่างร่วมกันดีมั๊ย แล้วก็ได้มาเป็นร้านแนวใหม่อย่าง Atami ซึ่งเอาจุดเด่นของทั้งสองเชฟหนุ่มในเรื่องการจัดการวัตถุดิบ การย่าง การปรุงรส การออกแบบคอร์สอาหาร สุดท้ายก็เลยได้มาเป็นร้านแฮมเบอเกอร์แนวโอมากาเสะกึ่ง Kappo ที่ลูกค้าจะได้สัมผัสทั้งรูปรสกลิ่นเสียงของการย่างการปรุงแบบใกล้ชิด เพิ่มความดื่มด่ำกับรสชาติอาหารไปในตัว
อย่างที่บอกว่าร้านนี้จะเปิดแค่มื้อเที่ยง และมีเมนูหลักเป็นแค่แฮมเบอเกอร์ที่ขายเป็นคอร์สโดยมีส่วนประกอบของจานเคียงต่างๆเป็นซุป สลัด ของว่าง ของทอด ของหวาน ที่ทั้งหมดนี้ก็เปลี่ยนเมนูไปตามช่วงฤดูกาล แต่ที่อ่านรีวิวมาแล้วบอกว่าเด็ดมากก็มีทั้งซุปครีมหอยลาย ปลาหมึกยักษ์คาปาซโช่ ผสไม้กับครีมชีส ดูดีไปซะทุกจานเพราะนอกจากอร่อยแล้วยังจัดเสริฟมาอย่างปราณีตเหมือนอาหาร Fine Dining ชั้นดี
ตัวเบอเกอร์กับดูธรรมดามากเพราะไม่ได้มีอะไรเว่อร์วังอลังการ มีแค่ขนมปัง เนื้อ มะเขือเทศ ไข่ดาว แล้วก็ผักดอง แค่นี้จริงๆ แต่ทุกคนที่ได้กินบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามันสุดยอดมาก ขนมปังจะถูกย่างด้วยไฟอ่อนๆอยู่ตรงหน้า ค่อยๆย่าง ใช้เวลานาน จนได้ขนมปังที่ผิวกรอบข้างในนุ่ม ส่วนเนื้อวัวที่เอามาทำ Patty ก็จะเป็นเนื้อคุโรเกะวากิวเกรดสูงที่เอามาปรุงรสแล้วย่างด้วยถ่านไม้ไฟแรง ย่างตรงหน้าเลย ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายสุดๆ ไข่ดาวก็ยังทำออกมาน่ากินสีสดจัด แล้วสุดท้ายเชฟก็จะค่อยๆเอามาประกอบร่างให้ดูก่อนจะเสริฟให้กิน เอาตรงๆอ่านแค่นี้ก็ใจละลายแล้วมั๊ย มันต้องไปโดนซักที
อาหารคอร์สนี้ราคาประมาณ 7500 เยน ถ้าคิดว่ามันเป็นแค่แฮมเบอร์เกอร์ก็แพงแหล่ะ แต่ถ้าคิดว่ามันคือ Chef Table ก็คือว่าราคาโอเคเลยนะ ใครสนใจก็จัดไปแล้วมาเล่าด้วยนะว่าดีจริงอย่างที่คิดมั๊ย
ความเห็นของนักรีวิวญี่ปุ่น
"เป็นเบอร์เกอร์ระดับห้าดาวที่ดึงเอาจุดเด่นของการย่างถ่านมาได้สมบูรณ์แบบ" - KENタロウ
"อย่าว่าแต่ในญี่ปุ่น เคยกินเบอร์เกอร์มาหลายประเทศร้านนี้คืออันดับต้นๆแน่นอน" - りえ姫
"ร้านแนวใหม่ที่มีความเฉพาะตัวสูงมาก ทั้งรสชาติทั้งกลิ่นทั้งความตื่นตา ครบเครื่องมาก" - parisparis877
ลายแทง : https://maps.app.goo.gl/e868xMcU1whscLSY9

ย่านเอโดกาวะในโตเกียวเป็นย่านที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวรู้จัก ย่านนี้ตั้งอยู่กึ่งกลางของสามย่านยอดฮิตเลย คือถ้าดูในแผนที่...
27/08/2024

ย่านเอโดกาวะในโตเกียวเป็นย่านที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวรู้จัก ย่านนี้ตั้งอยู่กึ่งกลางของสามย่านยอดฮิตเลย คือถ้าดูในแผนที่แล้วลากเส้นจากอิเคะไปอุเอโนะไปชินจูกุจะได้รูปสามเหลี่ยม เอโดกาวะจะตั้งอยู่ตรงกลางสามเหลี่ยมนี่แหล่ะ ที่คนต่างชาติไม่ค่อยเคยไปก็เพราะไม่รู้จะไปทำไม แถวนั้นมันไม่มีอะไรให้เที่ยวให้ช้อปปิ้ง แต่สำหรับสายนักกินแล้ว บอกเลยว่าย่านนี้มีร้านเด็ดๆระดับตำนานเพียบ โดยเฉพาะละแวกสถานี Edogawabashi นี่มีร้านเจ๋งๆเยอะไปหมด ทั้งอาหารญี่ปุ่น อาหารเสฉวน อาหารอิตาเลียน แถมแต่ละร้านก็ดังในวงการใช้ได้เลย
ร้านที่จะมาแนะนำวันนี้เป็นร้านปลาไหลย่างระดับตำนานอีกร้านของโตเกียวที่ตั้งอยู่ในย่านนี้ จริงๆแล้วย่านนี้มีร้านปลาไหลเด็ดๆสองร้าน ตั้งห่างกันร้อยกว่าเมตร อีกร้านนึงเคยไปกินแล้ว ชื่อร้าน Unagi Ishibashi เป็นร้านปลาไหลเก่าแก่อายุ 120 ปี รสชาติเยี่ยมมาก ไม่แพ้ร้านดังๆแถบวัดเซนโซจิเลย เผลอๆอร่อยกว่าอีก แต่ร้าน Ishibashi จะราคาแรงหน่อย หกเจ็ดพันเยนสำหรับอุนาจู เหตุผลที่ตอนนั้นเลือกกินร้านอิชิบาชิไม่ใช่อะไรหรอก คือดันไปวันพฤหัสแล้วร้านที่จะแนะนำวันนี้มันปิด เลยเหลือตัวเลือกเดียว
ร้านที่พลาดไปไม่ได้กินตอนนั้นก็คือร้านอุนางิ ฮาชิโมโตะ Unagi Hashimoto ตั้งอยู่ริมถนนเล็กๆ ออกจากสถานีเอโดกาวะบาชิแล้วเดินมาร้อยเมตร ข้ามแม่น้ำคันดะมาก็จะเจอร้าน เป็นลักษณะคือบ้านเก่าสองชั้น หน้าตาแผ่รังสีความอร่อยออกมาชัดเจน (อันนี้ Bias ล้วนๆ) ร้านนี้เป็นหนึ่งในร้านปลาไหลเก่าแก่ของโตเกียว โดยเปิดกิจการมาตั้งแต่ปี 1835 โน่นแหล่ะ ปัจจุบันก็เกือบจะครบ 200 ปีแล้ว ขายกันมาหลายชั่วอายุคน สืบทอดสูตรลับมาแบบรุ่นสู่รุ่น แบบนี้ไม่อร่อยจะทนไหวเหรอ
ทีเด็ดของร้านนี้ก็คือการเลือกปลาไหลชั้นดีจากแหล่งเพาะเลี้ยงที่คัดสรรเป็นพิเศษตามแต่ละช่วงเวลาของปี จากนั้นก็มาแล่แล้วเสียบไม้ย่างด้วยถ่านบินโจตามแบบฉบับของปลาไหลย่างสไตล์คันโตซึ่งจะผ่าหลังแล้วใช้การย่างผสมการนึ่ง ทำให้เนื้อที่ได้นุ่มฟูต่างจากแบบกรอบเกรียมสไตล์คันไซ อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบส่วนตัวว่าชอบแบบไหน ทีเด็ดอีกอย่างก็คือซอสทาเระที่เคี่ยวออกมาด้วยวิธีการดั้งเดิม สืบทอดไหน้ำซอสที่เติมลงไปเรื่อยๆมาจากรุ่นก่อนๆจนถึงปัจจุบัน ทำให้ได้ซอสปลาไหลที่อร่อยไม่แพ้ร้านไหนในโตเกียว
เมนูของร้านนี้มีไม่เยอะ หลักๆก็เป็นปลาไหลย่างแบบใส่มาในกล่องสี่เหลี่ยม มีขนาดเล็ก ปรกติ พิเศษ ราคาก็เริ่มที่ 3600 4300 5000 ซึ่งถือว่าถูกกว่าร้าน Ishibashi พอสมควร แนะนำว่าไหนๆก็มาแล้วสั่งแบบพิเศษไปเลย 5000 เยน ได้ปลาไหลมาเต็มๆ นอกจากนี้ก็ยังมีแบบ Course อีกด้วยสำหรับคนที่มากินเป็นหมู่คณะ ราคา 6300 เยน ได้ปลาไหลไซส์เล็กมาพร้อมไข่ม้วนไส้ปลาไหลกับไก่ย่างซอส เอาจริงๆแนะนำว่ากินแบบไม่เป็นคอร์สดีกว่า มาร้านปลาไหลจะเสียเวลากินไก่ย่างทำไม
จากที่อ่านรีวิวของนักชิม พบว่าทีเด็ดของร้านนี้คือความสมบูรณ์แบบของรสชาติที่รวมกันอย่างกลมกลืน ทั้งปลาไหลเกรดดีที่ย่างและนึ่งมาฟูนุ่มและซอสสูตรพิเศษที่ราดมาให้แบบชุ่มๆ มันอร่อยแบบลงตัวมากๆ แทบไม่มีที่ติ
ความคิดเห็นของนักรีวิวญี่ปุ่น
"ปลาไหลย่างคุณภาพสูงและหรูหราในราคาที่จับต้องได้" - 食いだおれリーマン
"ซอสที่ผ่านการเคี่ยวและเติมเรื่อยๆมาเกือบสองร้อยปีได้รสชาติเป็นเอกลักษณ์จริงๆ" - hirok190934
"เป็นร้านที่ทำให้ประทับใจจนต้องมากินอีกบ่อยๆ ไม่เคยผิดหวังซักครั้ง" - ヒマジン。TOMO
ลายแทง : https://maps.app.goo.gl/UJNQSa5VvCe7VUpg9

วันนี้มาแนะนำร้านคาเฟ่เจ๋งๆในโตเกียวร้านนึง ปรกติไม่ค่อยแนะนำร้านคาเฟ่ในเพจเท่าไหร่เพราะเวลาเข้าร้านกาแฟส่วนมากที่ญี่ปุ่...
24/08/2024

วันนี้มาแนะนำร้านคาเฟ่เจ๋งๆในโตเกียวร้านนึง ปรกติไม่ค่อยแนะนำร้านคาเฟ่ในเพจเท่าไหร่เพราะเวลาเข้าร้านกาแฟส่วนมากที่ญี่ปุ่นก็จะเลือกเข้าร้านแนว Coffee Shop แบบดั้งเดิม เน้นกาแฟเข้มๆ นั่งจิบยามเช้า ส่วนคาเฟ่สมัยใหม่จะแวะก็คือให้เมียถ่ายรูปอะไรประมาณนั้น
แต่ร้านนี้เป็นร้านกาแฟที่ค่อนข้างออกสมัยใหม่ กาแฟคั่วบดสไตล์ร้าน Speciallity Coffee ตามสมัย และจุดเด่นที่สุดที่ใครๆก็พูดถึงร้านนี้กลับไม่ใช่กาแฟ แต่มันคือขนมหวานขึ้นเทพที่ทำขึ้นมาโดยเจ้าของร้านเอง นักรีวิวมีความเห็นไปในทางเดียวกันว่ามันอร่อยแบบขั้นสุด อร่อยกว่าร้านดังๆหลายร้านที่มีเชฟขนมอบระดับเซเลปเป็นเจ้าของร้านด้วยซ้ำ ไม่น่าเชื่อว่าจะมาเจอขนมรสชาติขนาดนี้ในร้านกาแฟที่ดูธรรมดาๆ
ร้านนี้ชื่อ TIES เป็นร้านกาแฟเล็กๆห้องเดียว นั่งได้ไม่เยอะ ร้านแต่งแนวเรียบง่ายทันสมัย ตั้งอยู่ไม่ไกลจากอุเอโนะเลย ถ้าเดินมาจากสวนอุเอโนะก็แค่ 5-6 ร้อยเมตรเท่านั้น แต่จริงๆถ้าขี้เกียจเดินจะนั่งรถไฟมาก็มาลงสถานียูชิม่าได้ เดินต่ออีกนิดเดียว และอย่างที่บอกว่าร้านนี้มีเมล็ดกาแฟคั่วบดเกรดดีรสชาติเยี่ยม แต่จะไม่พูดถึงเป็นหลักนะเพราะจะโฟกัสไปที่ขนมของเค้าเป็นหลัก
ร้าน TIES มีตู้ขนมเล็กๆในร้าน ไม่อลังการเหมือนคาเฟ่ใหญ่ๆ ยิ่งเทียบกับร้านเค้กสไตล์ Patissaries แล้วยิ่งถือว่าเล็กจิ๋ว มีเค้กมีขนมไม่กี่อย่างแต่กลับสร้างชื่อเสียงให้ร้านจนคนรู้จัก ขนมสามอย่างที่หลายๆคนกินแล้วถึงกับติดใจได้แค่ทาร์ตผลไม้ตามฤดูกาลต่างๆ โดยเฉพาะทาร์ตบลูเบอรี่ที่เป็นตัว Signature ยืนพื้นของร้าน ถัดมาก็เป็นมองบลังก์ที่ทำจากครีมเกาลัด และสุดท้ายก็คือ Rare Cheese Cake ที่หน้าตาไม่เหมือนชีสเค้กที่ได้กินที่ไหน
ตัวทาร์ตก่อน มีเบสของทาร์ตกับครีมสดเหมือนกันหมด ต่างกันแค่ผลไม้ที่ใช้ หลักๆก็คือบลูเบอรี่เป็นตัวเด่นสุด แล้วก็มีราสเบอรี่ กีวี่ ฟิก สตอรเบอรี่ องุ่นมัสแคต วนกันไปตามแต่ฤดูกาล คนที่ชิมแล้วบอกว่ามันเข้ากันดีมาก ครีมสดเนียนๆกับผลไม้รสเปรี้ยวอ่อนๆ เข้ากันดีมาก
มองบลังก์ดูหน้าตาธรรมดาเหมือนร้านทั่วไป แต่ความอร่อยอยู่ที่เนื้อครีมเกาลัดที่ทำออกมาเข้มข้นมีรสชาติของเกาลัดแบบมาเต็ม ส่วนชีสเค้กเป็นแบบใส่มาในถ้วย แต่งหน้าด้วยซอสเสาวรสหน้าตาคล้ายไข่ดาว แต่ตัวชีสเค้กเนียนละมุนมากเพราะทำจาก Kiri Cheese ที่อิมพอร์ตจากฝรั่งเศส ให้ความอร่อยที่ไม่เหมือนชีสเค้กที่ไหน
ความคิดเห็นของนักรีวิวญี่ปุ่น
"ทาร์ตผลไม้อร่อยมากๆ ดูเรียบง่ายแต่อร่อยจริงจัง" - nao.20180304
"บรรยากาศสงบ ดื่มด่ำกับกาแฟรสเยี่ยมพร้อมชีสเค้กที่ไม่เหมือนใคร" -
さうの食道
"มองบลังก์ระดับ Superb ยกให้เป็นอีกร้านในดวงใจเลย" - 食いだおれリーマン
ลายแทง : https://maps.app.goo.gl/EKsvkL2j162mbLtd7

ถึงแม้โตเกียวกับโอซาก้าจะเป็นจุดหมายหลักอันดับต้นๆของนักท่องเที่ยวที่ไปญี่ปุ่น แต่โดยส่วนตัวแล้วถ้าเป็นนักเที่ยวญี่ปุ่นส...
20/08/2024

ถึงแม้โตเกียวกับโอซาก้าจะเป็นจุดหมายหลักอันดับต้นๆของนักท่องเที่ยวที่ไปญี่ปุ่น แต่โดยส่วนตัวแล้วถ้าเป็นนักเที่ยวญี่ปุ่นสายกินแบบจริงจังขอบอกเลยว่านาโกย่าก็คืออีกหนึ่งเมืองหลักที่ไม่แพ้โตเกียวกับโอซาก้าเลย เหตุผลก็ง่ายๆ เพราะว่านาโกย่ามันมีร้านอร่อยเยอะมาก ร้านน่ากิน ร้านเก่าแก่ ร้านตำนาน โอ๊ย เพียบ รวมถึงอาหารประจำถิ่นอีกหลากหลายที่เด็ดมากๆ เอาจริงๆร้านในนาโกย่าที่จดไว้ลิสต์ไว้ว่าอยากไปลองกินเนี่ย มีเยอะจนไปอยู่สามเดือนกินวันละห้ามื้อก็ยังไม่น่าครบ
ร้านนี้เป็นอีกร้านที่น่าลองมาก เป็นร้านอาหารจีนเสฉวนชื่อว่าเสี่ยว ไซ อี้ เถีย Ziao Zai Yi Di อ่านยากไปนิดแต่น่าจะอ่านประมาณนี้แหล่ะ ร้านตั้งอยู่ละแวก Sakae ใกล้ๆสถานี Shin-Sakae ไม่ก็สถานี Takaoka เดินไปไม่ใกล้ไม่ไกล ตัวร้านไม่ใหญ่มาก แต่ดูภายนอกไม่เหมือนร้านอาหารจีนทั่วไปในญี่ปุ่นเท่าไหร่ ออกแนวเรียบหรูดูดี ภายในร้านก็ดูสะอาดสบายตา
อย่างที่บอกว่าร้านนี้ขายอาหารจีนแบบเสฉวนซึ่งหากินได้ทั่วไปในญี่ปุ่น ที่ไหนก็มีร้านอาหารแนวนี้ขายเต็มไปหมด แต่สาเหตหลักที่อยากกินร้านนี้ก็คือร้านนี้เนี่ยมันเป็นร้านที่หรูหราราคาแพง แถมปรุงอาหารโดยโอนเนอร์เชฟมีชื่ออย่างเชฟซาโตชิ โยชิดะอีกด้วย ซึ่งปรกตินอกจาก A la cart แล้ว ส่วนใหญ่ลูกค้าก็จะมาชิมอาหารกันแบบ Course Menu ที่ราคาตั้งแต่หมื่นห้าพันเยนขึ้นไป เชฟจะเสริฟอาหารมาแบบ Fine Dining เลย เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารจีนที่มีชื่อในนาโกย่า
แต่...ตามหลักการของเพจแล้ว เราจะไม่เน้นของแพง เพราะงบเราน้อย ดังนั้นเลยจะมาแนะนำของดีราคาประหยัดจากร้านนี้ นั่นก็คือมื้อเที่ยงนั่นเอง กินมื้อเย็นไม่ไหว แพงเกิน มากินเที่ยงก็ได้ของอร่อยเหมือนกัน แค่ไม่ได้หรูหราเหมือนมื้อเย็นเท่านั้น แต่ราคาดีงามกว่ากันเยอะ โดยเมนูมื้อเที่ยงของเชฟจะจัดเสริฟอยู่แค่ 3 อย่าง คือเต้าหู้มาโบ ตันตันเมน ตันตันเมนแบบแห้ง โดยจะมาพร้อมสลัด ซุป ของหวานหรือข้าว ในราคาแค่ 990 เยนเท่านั้น !!! เป็นไง ถูกใช่มั๊ยล่ะ ต้องลอง
ตันตันเมนอันนี้ดูจากรูปแล้วรู้สึกธรรมดาไปหน่อย เพราะกินร้านที่เจ๋งๆมาหลายทีแล้ว ของร้านนี้ดูรูปกับรีวิวแล้วคิดว่าอร่อยแบบปรกติ แต่จานที่อยากลองมากๆก็คือตันตันเมนแบบแห้งกับเต้าหู้มาโบนี่แหล่ะ ดูดีสุดๆ
ตันตันแบบแห้งใช้เส้นดูเหนียวนุ่ม คลุกซอสมากำลังฉ่ำ มีผักต่างๆใส่มาให้ดูสดชื่น แค่เห็นรูปก็รู้แล้วว่ามันต้องเด็ดแน่ๆ สไตล์ของเส้นกับซอสดูจะต่างกับของร้านดังแบบ Masa47 หรือว่า Shisen Honten มันดูทันสมัยกว่า
ส่วนมาโบอันนี้เห็นสีกับความข้นแล้วรู้เลยว่าต้องแซ่บแน่นอน นักรีวิวบอกว่าสีแดงจัดแบบนี้แต่ไม่ได้เผ็ดจัด ออกแนวกลมกล่อมมากกว่า เผ็ดกำลังพอดี ผัดออกมาได้ผสมกลิ่นเครื่องเทศที่ผสมผสานกันหลายชนิด เค้าบอกว่าเป็นเต้าหูมาโบที่รสชาติลงตัวมากๆ น่าลองจริงๆ
ความเห็นจากนักรีวิวญี่ปุ่น
"เต้าหู้มาโบรสชาติเข้มข้นกลมกล่อมมาก แต่ไม่ได้เผ็ดเกินไปอย่างที่คิด" - Tomy33625
"เป็นร้านที่ผสมผสานความดั้งเดิมกับความมีสไตล์ได้อย่างกลมกลืน" - きしめんハズバンド
"ได้กินอาหารจีนระดับ High-End ในราคาที่จับต้องได้ คุ้มค่ามาก" - Aries49445
ลายแทง : https://maps.app.goo.gl/eyx49nRnZTJrKNrc9

ใครสังเกตดูดีๆจะพบว่าในเพจนี้เวลารีวิวแนะนำร้านราเมน มักจะเจอร้านราเมนที่น้ำซุปไม่หนักมาก โดยเฉพาะพวกชิโอะราเมนไม่ก็ราเม...
17/08/2024

ใครสังเกตดูดีๆจะพบว่าในเพจนี้เวลารีวิวแนะนำร้านราเมน มักจะเจอร้านราเมนที่น้ำซุปไม่หนักมาก โดยเฉพาะพวกชิโอะราเมนไม่ก็ราเมนซุปปลาอะไรแบบนี้ เพราะส่วนตัวแล้วไม่ค่อยชอบราเมนที่ข้นๆมันๆเค็มๆ กินแล้วมันรู้สึกเลี่ยนเกินไปก็เลยหากินแต่ราเมนพวกซุปใสๆ โดยเฉพาะทงคตสึราเมนที่ใช้ไขกระดูกข้นๆมาเป็นเบสซุปนี่หลังๆกินน้อยมาก ฮากาตะราเมนก็เหมือนกัน ไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่
แต่ร้านที่จะแนะนำวันนี้เป็นร้านที่ขายราเมนสไตล์กึ่งๆฮากาตะซึ่งก็ไม่ใช่ราเมนแบบที่ชอบเท่าไหร่ แต่ที่อยากกินราเมนร้านนี้ก็เพราะหลายๆคนที่กินแล้วบอกมาว่ามันเป็นราเมนฮากาตะแบบ Light ที่ไม่ข้นไม่มัน รสชาติบางเบากว่าและเพิ่มรสชาติความอร่อยด้วยความหอมของกระเทียม อ่านรีวิวแล้วก็น่าสนใจ
ร้านนี้ชื่อว่าเทนไกเทน Tengaiten ตั้งอยู่ที่คุมาโมโต้ อยู่ในสถานีคุมาโมโต้เลย ใกล้ๆหัวหมีคุมะมงยักษ์นี่แหล่ะ เดินเจอง่ายหาไม่ยาก แต่รอบก่อนที่ไปดันไม่ได้กินเพราะคิวยาวเฉยเลย ที่นั่งไม่เยอะ ดูท่าแล้วรอนานเลยเผ่นก่อน จริงๆร้านเทนไกเทนที่สถานีมันไม่ใช่สาขาหลักนะ ร้านหลักมันตั้งอยู่ห่างออกไปอีก อยู่เมือง Kikuyo ซึ่งนักชิมหลายคนบอกว่ารสชาติไม่ต่าง กินสาขานี้สะดวกกว่าเยอะ
หลักๆของราเมนร้านนี้ก็คือฮากาตะราเมนนั่นแหล่ะ เส้นเล็กกรุบแบบเดียวกัน ซุปเบสกระดูกหมูเหมือนกัน แต่ความเด่นอยู่ที่รสชาติเป็นซุปกระดูกหมูแบบบางเบากว่า ไม่ข้นเท่าแบบปรกติ ซดคล่องคอไม่เค็มไม่มัน และมีการเสริมรสชาติด้วยกระเทียมเจียวแห้งๆทำให้ซุปมีความนัวแบบที่ไม่ค่อยเจอในราเมนญี่ปุ่น นอกจากนี้ก็ยังมีงาบดโรยหน้าไว้เต็มๆเพิ่มมิติของรสชาติ และถ้าคอกระเทียมคนไหนไม่สะใจก็ยังมีกระเทียมสดดองโชยุไว้ให้แกล้มอีกด้วย สารพัดกระเทียมจริงๆ
คิดไว้ว่างวดหน้าถ้าไปคุมาโมโตะจะต้องไม่พลาดแล้ว ต้องลองให้ได้ซักที ดูจากข้อมูลแล้วมันน่าจะอร่อยแบบที่คิดแหล่ะ
อ่อ เกี๊ยวซ่าเค้าก็ดูดีนะ น่าจะอร่อยเหมือนกัน
ความคิดเห็นจากนักรีวิวญี่ปุ่น
"เป็นราเมนที่อร่อยมาก เหมือนฮากาตะราเมนเวอร์ชั่นละมุนละไม" - The うまい
"รสชาติของซุปตัดด้วยกระเทียมแบบแน่นๆมันสุดยอดมาก" - kyos0717
"งาบด กระเทียมคั่ว ซุปนุ่มละมุน กินแล้วอยากกินอีก" - こてつちゃん
ลายแทง : https://maps.app.goo.gl/S746B22tqPFyaPPf8

เกาะคิวชูเป็นภูมิภาคทางใต้ของญี่ปุ่นซึ่งแต่ก่อนอาจจะไม่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเท่าคันโต คันไซ หรือฮอกไกโด แต่ปัจจ...
13/08/2024

เกาะคิวชูเป็นภูมิภาคทางใต้ของญี่ปุ่นซึ่งแต่ก่อนอาจจะไม่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเท่าคันโต คันไซ หรือฮอกไกโด แต่ปัจจุบันเริ่มมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวกันเยอะขึ้นแล้วถ้าเทียบกับสิบยี่สิบปีก่อน อย่างนึงที่คิวชูแตกต่างกับที่อื่นเลยก็คืออาหาร เพราะที่คิวชูมีวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่นที่มีหลากหลายเมนูแตกต่างจากภูมิภาคอื่นทั้ง Motsunabe, Mizutaki, จัมปง. เนื้อม้าดิบ. รากบัวมัสตาร์ด, หนังไก่ย่าง Torikawa รวมไปถึงวัฒนธรรมรถเข็นแผงลอยของฮากาตะก็เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
เกี๊ยวซ่าสไตล์คิวชูหรือฮากาตะก็เป็นอาหารอีกอย่างนึงที่เวลามากินแถวนี้มันจะต่างจากที่อื่นๆในญี่ปุ่น ทั้งเกี๊ยวซ่าที่มีขนาดเล็กแบบพอดีคำ เทียบกับเกี๊ยวซ่าปรกติแล้วเล็กกว่าเกือบครึ่ง เวลาเอาไปย่างก็เลยทำให้มีความกรอบเกรียมมากกว่าปรกติ รวมไปถึงน้ำจิ้มที่ย่านนี้จะใช้พริกผสมยุสุเป็นหลักในการให้รสเผ็ดเปรี้ยว ไม่ได้ใช้น้ำมันรายุแบบปรกติ
ร้านนี้ชื่อว่าบาจูโซ Bajousou เป็นร้านขายเกี๊ยวซ่าเก่าแก่ในฟุกุโอกะอีกร้านนึง ที่ตั้งไม่ได้อยู่ใกล้สถานีฮากาตะนัก แต่ออกมาทั้งฝั่งสวนโอโดริ ใกล้กับสถานีรถไฟ Nishijin จากสถานีเดินมาได้ไม่ไกลมาก ลักษณะเป็นร้านขนาดเล็ก ดำเนินกิจการในครอบครัว มีที่นั่งหน้าบาร์กับแบบโต๊ะนั่งพื้น บรรยากาศดูสบายๆเป็นกันเอง มีเมนูหลักเป็นเกี๊ยวซ่าสไลต์ฮากาตะย่างที่เค้าบอกกันว่าอร่อยไม่แพ้ร้านไหนเหมือนกัน
เกี๊ยวซ่าของบาจูโซก็มีขนาดเล็กตามแบบฉบับของเมืองนี้ โดยขายที่ละ 10 ตัว ราคา 480 เยน จุดเด่นของร้านนี้คือเกี๊ยวซ่าที่เค้าขายจะเป็นเกี๊ยวซ่าแบบปั้นสดห่อสด โดยมีการห่อกันข้างๆกระทะย่างเลย รวมถึงนวดแป้งเองอีกด้วย เกี๊ยวซ่าเค้าจะมีรูปทรงไม่เหมือนร้านอื่นคือมันจะมีทรงอวบอ้วนกว่า ออกเป็นรีๆมากกว่าทรงแหลม โดยมีไส้ที่สัดส่วนพอดีกับแป้งที่ห่อที่ไม่บางมาก เวลาย่างก็จะย่างออกมาเกรียมเป็นพิเศษแต่ยังนุ่มหนึบ เป็นอีกหนึ่งร้านที่ทำเกี๊ยวซ่าออกมาจนลูกค้าพากันติดใจ
อีกเมนูที่มักจะเจอในร้านเกี๊ยวซ่าจังหวัดนี้หลายร้านก็คือเมนู Nira Toji ซึ่งเป็นอาหารที่เอาต้นกระเทียมไปใส่ไข่แล้วทำออกมาแบบเยิ้มๆคล้ายพวกคัทสึด้งหรือโอยาโกะด้ง แต่ของที่นี่เค้าจะไม่ได้ราดข้าวมาแต่เค้าเอามากินเปล่าๆเป็นของแกล้ม โดยเนื้อสัตว์ที่จะใส่ลงไปก็มีทั้งเนื้อหมู ตับหมู แต่สำหรับร้านนี้แบบที่ฮิตที่สุดก็คือใส่ไส้หรือ Motsu ลงไป อันนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ก็ติดใจกันมาก
ความคิดเห็นจากนักรีวิวญี่ปุ่น
"ชอบมากตรงความอร่อยของแป้งที่นวดเองและห่อใหม่ๆก่อนย่าง" - 【福岡グルメ】ゆり
"หนึ่งในความภาคภูมิใจของชาวฮากาตะ" - Aposus
"เกี๊ยวซ่าร้านนี้เข้ากับเบียร์ดีจริงๆ แต่ขายหมดเร็วไปหน่อยต้องรีบมา" - なみ12
ลายแทง : https://maps.app.goo.gl/1waVepMSnyASC3WV7

วันนี้จะมาแนะนำร้านโซบะร้านนึงที่ดังใช้ได้ในคันไซ แต่จะเรียกว่าเป็นร้านระดับตำนานก็ไม่ใช่เพราะร้านเพิ่งเปิดมาแค่ 8-9 ปีเ...
10/08/2024

วันนี้จะมาแนะนำร้านโซบะร้านนึงที่ดังใช้ได้ในคันไซ แต่จะเรียกว่าเป็นร้านระดับตำนานก็ไม่ใช่เพราะร้านเพิ่งเปิดมาแค่ 8-9 ปีเท่านั้นเอง แต่ความเป็นมาของ Owner Chef คือไม่ธรรมดาแถมรสชาติอาหารที่เสริฟในร้านก็คือปัจจัยหลักที่ทำให้ได้เสียงวิจารณ์ชื่นชมเพียบไปหมดทั้งๆที่เป็นร้านหน้าใหม่
ร้านนี้ชื่อว่า Osaka Matsush*ta ตั้งอยู่แถวๆโอซาก้าอุเมดะ ชื่อร้านก็มาจากชื่อเชฟเจ้าของร้านที่ชื่อว่าโทรุ มัตสึชิตะ หน้าตาร้านดูเป็นร้านโซบะทำมือที่แปลกตามากๆ เพราะมันไม่ค่อยเหมือนร้านโซบะเท่าไหร่ ออกแนวร้านอาหารสมัยใหม่ไม่ก็เบเกอรี่มากกว่า แต่สำหรับเมนูข้องร้านนี่คือดั้งเดิมต้นตำรับแท้ๆเลย เพราะมีโซบะเสริฟแค่เมนูเดียวคือซารุโซบะ หรือโซบะเย็นที่กินกับซอสจุ่มนั่นเอง และเครื่องเคียงหลักก็เป็นเนื้อสะโพกเป็ดที่ปรุงมาสำหรับโซบะโดยเฉพาะ
เชฟโทรุถึงจะเพิ่งเปิดร้าน แต่ในวงการนักชิมญี่ปุ่นรู้จักกันพอสมควรเพราะเชฟโทรุคือหนึ่งในศิษย์ก้นกุฎิของอาจารย์คุนิฮิโระ ทากาฮาชิ Kunihiro Takahashi ซึ่งในญี่ปุ่นต่างขนาดนามแกว่า Soba God หรือเทพเจ้าโซบะเลยทีเดียว เพราะแกคือเจ้าของเครือดารุมะที่โด่งดังในวงการ ฝีมือการทำโซบะได้รับการยอมรับอย่างดี โดยเชฟโทรุก็เรียนรู้กับ Soba God อยู่หลายปี จากนั้นก็ถูกส่งให้ไปคุมร้านโซบะในเครือ Darume ที่ประเทศฝรั่งเศสอีกร่วมสิบปี ตอนนี้พอมาเปิดร้านโซบะเองก็แน่นอนว่าย่อมไม่มีข้อสงสัยว่าจะไม่อร่อยแหงๆ
อย่างที่บอกว่าระดับศิษย์ของเทพโซบะย่อมไม่ธรรมดา หน้าร้านโซบะร้านนี้เลยทำเป็นกระจกใส โชว์การนวดโซบะแบบสดใหม่วันต่อวันให้ลูกค้าได้ชมเป็นขวัญตา ไม่ต้องกลัวว่าจะเจอโซบะคุณภาพไม่มาตรฐาน และแน่นอน สิ่งที่ลูกค้ามาชิมแล้วรีวิวกันก็แทบเป็นเสียงเอกฉันท์ว่ามันเป็นซารุโซบะที่อร่อยจริงๆ เส้นหอมลื่นดีงาม ซอสเข้มข้นลงตัว เนื้อเป็ดก็ฉ่ำและมีรสชาติ ทุกอย่างลงตัวไปหมด แค่อ่านรีวิวตามก็น้ำลายไหลอยากตามไปกินแล้ว
นอกจากนี้สิ่งที่ Osaka Matsush*ta ไม่เหมือนร้านโซบะแนวนี้อีกอย่างก็คือลูกค้าแนวนั่งดื่ม ไม่รู้เพราะอะไรที่ร้านมีโซบะขายแบบเดียว กลับมีเมนูกับแกล้มจารเล็กๆให้สั่งได้เพียบเป็นสิบอย่าง ทั้งเนื้ออบ ปลาต้ม ปลาอานาโกะลวก เนื้ออบ มิโสะยากิ มีกระทั่งชิราโกะ ทำให้ร้านนี้มีหลายโต๊ะที่มานั่งดื่มเบียร์ดื่มสาเกอย่างเป็นเรื่องเป็นราว อันนี้แปลกมาก ปรกติเห็นแต่ร้านโซบะแนวนี้จะไม่ค่อยมีใครนั่งแช่
เสียงจากนักรีวิวญี่ปุ่น
"โซบะเย็นกับเนื้อเป็ดเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ อร่อยมาก" - Yu-00
"เป็นโซบะที่ดูหรูหราแต่ราคากลับไม่แพง คุ้มมากๆสำหรับอาหารร้านนี้" - ナチュラリストYOU
"ไม่ค่อยได้นั่งดื่มในร้านโซบะนะ แต่ร้านนี้มีกับแกล้มที่เข้ากับสาเกจริงๆ" - 飯盛さんろく
ลายแทง : https://maps.app.goo.gl/U91kk9tffJ65BkoY9

ในลิสต์ที่สะสมไว้ส่วนตัวจะมาร้านอาหารในญี่ปุ่นหลากหลายแนว หลากหลายภูมิภาค แต่ร้านที่มีเยอะที่สุดแบบเต็มลิสต์มากก็คือร้าน...
06/08/2024

ในลิสต์ที่สะสมไว้ส่วนตัวจะมาร้านอาหารในญี่ปุ่นหลากหลายแนว หลากหลายภูมิภาค แต่ร้านที่มีเยอะที่สุดแบบเต็มลิสต์มากก็คือร้านราเมน มีทุกแนว มีทุกภูมิภาค ทุกเมือง น่าจะเป็นเพราะเวลาอ่านรีวิวหรือดูเว็บคนญี่ปุ่นจะเจอร้านราเมนเยอะกว่าอาหารประเภทอื่นแบบเห็นได้ชัด น่าจะเป็นเพราะราเมนคืออาหารที่ฮิตสุดแล้วของชาวเกาะ แถมมีร้านเยอะมากทุกหัวระแหง เลยทำให้มีรีวิวเยอะตามไปด้วย
พอมันเยอะเข้า ที่นี้ก็เริ่มจะสับสน มีลืมไปบ้างว่าร้านในลิสต์ที่เห็นมันน่าสนใจตรงไหน ทำราเมนแนวไหน เลยทำให้ต้องมีการจดโน๊ตลงในลิสต์ร้านราเมนไว้กันลืม เวลาผ่านไปแล้วจะชิมจะได้นึกออกว่าควรกินอะไร สำหรับร้านอาหารประเภทอื่นก็จะแค่เซฟไว้เฉยๆ ไม่ได้โน๊ตอะไรมากมาย ส่วนร้านวันนี้ก็เป็นอีกร้านราเมนในโอซาก้าร้านนึงที่ยังไม่ได้มีโอกาสชิม น่าจะเพราะอยู่นอกโซนท่องเที่ยวด้วย เลยยังไม่มีโอกาสไปลอง แต่บอกเลยว่าเมนูเค้าน่าสนใจมาก
ร้านนี้ชื่อราเมนโคเระโคเระ Core Core แปลได้ประมาณว่านี่ๆๆ ชื่อร้านก็แนวแล้ว โดยร้านนี้ตั้งอยู่ที่แถวๆย่าน Esaka ที่อยู่ฝั่งเหนือของโอซาก้า หน้าตาร้านดูทันสมัย มีตู้กดสั่งแบบทันสมัยกว่าปรกติอยู่ข้างหน้า ในร้านเป็นที่นั่งแบบบาร์ นั่งไม่ได้ไม่เยอะ แต่บรรยากาศดูดีและทันสมัยกว่าร้านราเมนทั่วไป
เมนูเด็ดของร้านนี้เค้ามีสามอย่าง ซึ่งแต่ละอย่างก็จะมีจุดเด่นต่างกัน ความพิถีพิถันในการปรุง ความจริงจังในการหาส่วนผสม บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งในร้านราเมนที่ได้รับคำชมจากนักชิมราเมนมืออาชีพเยอะมาก โดยเฉพาะรสชาติของซุปราเมนทั้งสามแบบ
แบบแรกคือเมนูที่ขายดีสุดของร้าน เรียกว่า Core Core เป็นราเมนชื่อเดียวกับร้าน ลักษณะคือราเมนแนวโชยุสีเข้ม เข้มจนเกือบดำ โดยใช้โชยุจากจังหวัดเกียวโต 5 โรงหมักเก่าแก่มาผสมกันจนกลายเป็นโชยุซอสสูตรประจำร้าน เบสซุปเน้นของทะเลแห้งเป็นหลัก ประกอบด้วยปลาซาร์ดีนแห้งจากหลายแหล่ง ผสมกับคอมบุตากแห้งอย่างดี ทำให้ได้ซุปที่เข้ากับโชยุรสเข้ม ออกมาเป็นราเมนที่กลมกล่อมเข้มข้นไม่ผิดจากหน้าตาเลย
แบบที่สองคือ Dore Dore อ่านว่าโดเระโดเระ เป็นคำภาษาญี่ปุ่นที่ใช้เวลาจะถามว่าอันไหนๆปะมาณนั้น ชามแรกชื่ออันนี้ ชามนี้ชื่ออันไหน งงๆมั๊ย สำหรับ Dore Dore เป็นมิโสะราเมนรสชาติเข้มข้น อันนี้ส่วนผสมยิ่งอลังการเพราะเค้าบอกว่าใช้มิโสะ 17 ชนิดมาผสมกับเครื่องเทศหลากหลาย หลักๆก็เป็นมิโสะที่ใช้ข้าวโคจิของจังหวัดโออิตะเป็นส่วนประกอบหลักด้วย ทำให้มิโสะราเมนที่ได้มีความเข้มข้น จัดจ้าน เข้ากันกับเส้นราเมนได้ดี
แบบสุดท้ายคือ Sore Sore แปลว่านั่น นั่น .... ใครมันสรรหาชื่อมาตั้ง โดยโซเระโซเระจะเป็นราเมนที่ร้านบอกว่าออกแบบรสชาติมาให้ถูกปากลูกค้าผู้หญิงเป็นหลัก เน้นความเบาแต่สดชื่น กินแล้วรู้สึกไม่เลี่ยนไม่แน่น โดยมีโชยุสีอ่อนจากเมืองคุมาโมโต้ผสมกันเป็นซอสหลัก ตัวเบสซุปจะคล้ายๆกับตัวแรก แต่ส่วนผสมจะลดความเข้มข้นลง ทำให้ได้ซุปราเมนที่หอม เบา สดชื่น เป็นที่ถูกใจของลูกค้าและนักรีวิวสาวๆจนได้คำชมแบบล้นหลาม
อีกอย่างที่เห็นแล้วทำให้อยากไปกินร้านนี้มากก็คือชาฮั่งหรือข้าวผัด เป็นข้าวผัดหมูชาชูที่ผัดออกมาดูดีมากๆ เรียกว่าดูดีกว่าร้านอาหารจีนเทพๆบางร้านด้วยซ้ำ ผัดได้แห้ง สีสวย น่ากิน ดูแค่รูปก็เดาออกมาอร่อยแหงๆ น่าสนใจมาก
ความเห็นจากนักรีวิวญี่ปุ่น
"มิโสะราเมนคือกินแล้วเสพย์ติดมาก มันเข้มข้นสะใจจริงๆ" - keeeen510
"เป็นร้านที่ไปซ้ำกี่ที่ก็ไม่เคยเบื่อ โดยเฉพาะข้าวผัดนี่เด็ดมาก" - やねしん
"ราเมนร้านนี้พิเศษสุดทุกแบบจริงๆ โดยเฉพาะซุปที่รสชาติยอดเยี่ยม" - くぴぷち
ลายแทง : https://maps.app.goo.gl/sbgH3P2YZkJhDTEv9

วันนี้จะมาแนะนำร้านนึงในลิสต์ที่เป็นร้านไก่ย่างยากิโทริที่ค่อนข้างได้กินยาก โดยเฉพาะเมนูที่จะแนะนำให้กินยิ่งยากเข้าไปอีก...
03/08/2024

วันนี้จะมาแนะนำร้านนึงในลิสต์ที่เป็นร้านไก่ย่างยากิโทริที่ค่อนข้างได้กินยาก โดยเฉพาะเมนูที่จะแนะนำให้กินยิ่งยากเข้าไปอีก เพราะร้านนี้ค่อนข้างมีชื่อในหมู่ชาวญี่ปุ่นพื้นที่ ร้านก็มีขนาดไม่ใหญ่ ที่นั่งน้อย คนที่มากินก็มักจะนั่งดื่มกินกันยาวๆ เพราะสไตล์ร้านไก่ย่างก็เป็นร้านนั่งกินดื่มอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าไม่จองล่วงหน้ามาก่อนน่าจะหมดหวัง ส่วนการจองก็ต้องโทรจองก่อนพอสมควรเพราะจองกระชั้นชิดก็น่าจะลำบาก
ร้านนี้ชื่อไทเซน TAIZEN เป็นร้านไก่ย่างสไตล์ old school แบบโชคุโด คือมีขนาดเล็ก เป็นธุรกิจในครอบครัว เปิดช่วงเย็นเป็นหลัก ร้านตั้งอยู่ใกล้ๆกับสวนชินจูกุเกียวเอน ออกประตูทางออกที่ใกล้ๆ Glasshouse จะเดินใกล้ หรือถ้านั่งเมโทรมาก็ลงสถานีชินจูกุเกียวเอนมาเอะ เดินนิดเดียวถึง
ถึงร้านนี้จะดูภายนอกเหมือนร้านไก่ย่างบ้านๆธรรมดา แต่บอกได้เลยว่าคุณภาพอาหารคือเป็นที่เลื่องลือมาก ไก่ที่เลือกมาใช้ก็เป็นไก่เกรดพรีเมียมพันธุ์ฮินาอิจิโดริ จากจังหวัดอะกิตะ ซึ่งเป็นหนึ่งในสามสุดยอดพันธุ์ไก่ของญี่ปุ่นร่วมกับไก่ซัตสึมะโดริและไก่นาโกย่าโคชิน ดังนั้นด้วยคุณภาพเนื้อที่เฟิร์ม รสชาติเข้มข้น ที่เป็นเอกลักษณ์ของไก่ฮินาอิ ผสมกับฝีมือการปรุงรสของเชฟเจ้าของร้าน ทำให้ร้านนี้เป็นที่นิยมกันมากให้หมู่นักกินชาวโตเกียว
แต่เมนูที่อยากลองมากๆของร้านนี้มันไม่ใช่ไก่ย่างนะ เพราะเมนูที่ทำให้สนใจร้านนี้ก็คือข้าวหน้าไก่ Oyakodon ต่างหาก เสียงจากนักรีวิวลงความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าข้าวหน้าไก่ Oyakodon ของร้านไทเซนคือหนึ่งใน Oyakodon ที่อร่อยสุดๆของโตเกียวเลย ดังนั้นทำให้คนที่มานั่งดื่มกินเกือบทุกคนก็จะสั่งเมนูนี้แหล่ะเป็นเมนูปิดท้ายมื้อ กินตบท้ายก่อนกลับบ้านให้หลับสบาย ซึ่งเค้าใช้ทั้งไก่และไข่พพพพันธุ์ฮินาอิเหมือนกัน เลยได้ Oyakodon ที่ดูเนื้อแน่น ไข่เยิ้ม สีเข้มข้น น่ากินสุดๆ
และอย่างที่บอกว่าร้านมันจองยาก เลยแนะนำว่าถ้าไม่ได้เน้นจะกินไก่ย่างล่ะก็ ร้านนี้จะเป็นที่รู้กันในหมู่นักกินกับลูกค้าประจำว่าเค้าจะเปิดขายมื้อกลางวันเป็นบางวัน หลักๆก็เพื่อเอาใจลูกค้าประจำที่พักอาศัยอยู่ละแวกนั้น แต่จะเปิดแค่อาทิตย์ละ 3 วันคืออังคาร พฤหัส ศุกร์ แค่นั้น โดยร้านจะเปิด 11.30 และมีเมนูเดียวคือ Oyakodon ราคา 1100 เยน มาพร้อมซุปกับผักดอง วิธีการก็ง่ายๆ แนะนำให้ไปรอก่อนร้านเปิดนี่แหล่ะ ไปถึงซัก 11.00 โมงโอกาสได้กินจะสูงมาก ไม่น่าพลาด ติดอย่างเดียวที่มื้อกลางวันจะไม่เหมือนมื้อเย็นก็คือถ้ากินมื้อเย็น เมนูนี้มันจะมีไก่สองแบบผสมกันทั้งไก่ย่างกับไก่ปรกติ ยิ่งดูดีเข้าไปใหญ่ แต่ก็นะ แค่แบบธรรมดาก็ดูน่ากินอยู่แล้ว
ความคิดเห็นจากนักรีวิวญี่ปุ่น
"ไข่เป็นครีมข้นละลายในปาก ส่วนไก่ก็เด้งหนึบไม่เหมือนใครจริงๆ" - Testarossa
"อร่อย ลื่นคอ กินง่าย กินแล้วหยุดไม่ได้จริงๆ ไม่แปลกใจที่ทำไมขายหมดเร็วทุกวัน" - gozeera
"โอยาโกะด้งจากไก่ฮินาอิแบบนี้ไม่ได้หากินง่ายๆ ไม่ผิดหวังจริงๆที่ได้มากิน" - グリーンパフェ
ลายแทง : https://maps.app.goo.gl/wo7bMyepho3vQgNz6

ร้านในลิสต์ที่จะมาแนะนำวันนี้เป็นแนวอาหารที่ไม่ค่อยได้เอามารีวิวในเพจเท่าไหร่ คืออาหารแนว Fine Dining แบบหรูหราตามที่เห็...
30/07/2024

ร้านในลิสต์ที่จะมาแนะนำวันนี้เป็นแนวอาหารที่ไม่ค่อยได้เอามารีวิวในเพจเท่าไหร่ คืออาหารแนว Fine Dining แบบหรูหราตามที่เห็นในรายการทีวีพวกแข่งเชฟบ่อยๆ ที่ไม่ค่อยได้รีวิวไม่ใช่ไม่ชอบกินนะ แต่เวลาไปญี่ปุ่นเนี่ยมันไม่ค่อยได้อยากกินอาหารแนวแบบนี้เท่าไหร่ เน้นกินพวกอาหารทั่วไปราคาไม่แรงแบบราเมน หมูทอด แกงกะหรี่ หรือถ้าจะหรูหน่อยก็กินพวกร้านปลาไหล ร้านโอมากาเสะ ไม่ก็ไปแนว Kappo หรือไคเซกิไปเลย เพราะส่วนตัวคิดว่าที่ญี่ปุ่นอาหารพวกนี้มันถูกจริตกว่า ร้านที่อยากกินก็มีเยอะขนาดไปเที่ยวจนแก่ก็ยังไล่กินไม่ครบ เลยเว้นๆพวก Fine Dining ไว้ตลอด
ถ้าไปประเทศพวกยุโรป หรือในเอเชียพวกเกาหลี ไต้หวัน ก็จะหา Fine Dining กินอยู่บ้าง แค่ไม่ได้เอามารีวิวเพราะไอ้นี่มันเพจอาหารในญี่ปุ่น ไม่ตรงคอนเซปต์เท่าไหร่ แต่ร้านนี้เป็นร้านที่ค่อนข้างเห็นแล้วชอบเลยอยากไปลอง มีคนชมกันเยอะ ทั้งในรีวิว ทั้งคะแนนจากเว็บต่างๆ เพราะคอนเซปต์มันน่าสนใจ แล้วก็แนวอาหารค่อนข้างเป็นอาหารที่ชอบเลย
ร้านนี้ชื่อว่า TexturA ตั้งอยู่ชั้นล่างของตึก Yurakucho Denki ใกล้ๆกับสถานีรถไฟแหล่งรวมร้านเด็ดท้องถิ่นอย่างยูรากุโช หน้าตาของที่นี่ดูเป็นร้านแนวโมเดิร์นหรูนิดๆ ส่วนอาหารก็เน้นไปทาง Fine Dining แต่ก็แบ่งร้านเป็นสองโซนคือแบบ Fine Dining จริงจังเลย กับโซนที่เป็น Casual Dining ที่เน้นความสบายไม่ต้องเป็นทางการมาก ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามจริตและงบประมาณ เพราะฝั่ง Casual จะราคาดีกว่า ค่อนข้างใกล้เคียงกับร้านทั่วไปเลย
อย่างที่บอกว่าถ้าเป็นแนว Fine Dining ธรรมดาคงไม่สนใจ แต่ที่นี่เค้าเป็นแนว Fine Dining แบบผสมผสาน กึ่งๆ Fusion โดยมีแนวอาหารหลักๆเป็น จีน-สเปน-อิตาเลียน-ญี่ปุ่น แค่ฟังก็น่าสนใจแล้วสิ มาหลากหลายแนวขนาดนี้มันจะลงตัวหรือลงเหวไว้ไปลองเองก็น่าจะรู้ แต่จากรีวิวที่อ่านมาไม่น่าลงเหวหรอก เพราะคะแนนดีงามมาก ขนาด Tabelog ยังให้ Bronze Award มาครั้งนึงตอน 2021 เลย ถือว่าการันตีความอร่อยได้ระดับนึง
ในส่วน Casual ก็เน้นพวก A la cart กินง่ายๆจานเดียวจบ ไม่ได้แต่งจานมาสวยงามอลังการมาก เมนูก็อย่างพวกปาเอย่า ตันตัน รีซอตโต้หรือพวกหมี่ผัด ข้าวผัด แกงกะหรี่ก็ยังมี รวมไปถึงมื้อเที่ยงยังมีอาหารชุดแบบมีหลายๆอย่างมาเสริฟอย่างละนิดละหน่อยในราคาไม่ถึง 2000 เยน ถือว่าราคาถูกใจมาก
แต่ที่อยากลองจริงๆคือส่วน Fine Dining ที่เปิดสองรอบคือกลางวันกับมื้อค่ำ แถมมีทั้งแบบ A la cart และแบบ Full Course ให้เลือกหลายราคา ตั้งแต่ 6 พันเยนไปยันหมื่นปลายๆ ต่างกันไปตามวัตถุดิบที่เอามาใช้ ซึ่งมีตั้งแต่วัตถุดิบทั่วไปหมูไก่เนื้อปลาหมึกกุ้ง วัตถุดิบท้องถิ่นพวกปลาซัมมะ ปลาซาบะ ปลาอายุ ปูซูไว เนื้อวากิว เห็ดต่างๆ ไปจนถึงของราคาแพงหรูหราอย่างเป๋า ฮื้อ หูฉลาม ลอบสเตอร์ อูนิ ก็มีเหมือนกัน
ถ้าสั่งเป็นคอร์สเลยก็จะได้กินอาหารหลากแนวผสมผสาน ทั้งทาปาสหลากหลายอย่าง ปาเอย่าที่ใช้วัตถุดิบต่างๆตามแต่ละช่วงฤดูกาล มีรีซอตโต้สูตรฟิวชั่นกับวัตถุดิบญี่ปุ่นกับเครื่องปรุงสไตล์จีน มีคัทสึซันโดะหมูไอเบอริโก้ มีตันตันเหมี่ยนกับไก่หมักซอสแบบเสฉวน ยาวไปยันของหวานแบบต่างๆที่เสริฟมาปิดท้าย เรียกว่ามาร้านเดียว กินมื้อเดียว เหมือนได้เที่ยวหลายประเทศ
เรื่องความสวยงามของแต่ละจานก็ดูน่าสนใจมาก การแต่งจานเรียกว่าอลังการงานสร้างไม่แพ้ร้านอาหารฝรั่งเศสหรูหราเลย แต่ในราคาเริ่มต้นแค่ไม่กี่พันเยน เราได้กินอาหารแบบนี้ ฝีมือการปรุงละเมียดละไม ถ่ายรูปสวยงาม แค่นี้ก็คุ้มจนต้องเก็บใส่ลิสต์แล้ว
ความเห็นจากนักรีวิวญี่ปุ่น
"เป็นที่ที่รวมทั้งความอร่อย ความสนุก และความมีสไตล์เข้าด้วยกัน" - もぐ子のグルメ備忘録
"อาหารชุดมื้อกลางวันคือคุ้มราคามากเทียบกับความอร่อยที่ได้" - yqyqp
"ไม่น่าเชื่อว่าจะเข้ากันได้ขนาดนี้ อร่อยมากๆโดยเฉพาะปาเอย่า" - kaoribaby
ลายแทง : https://maps.app.goo.gl/rcSXtRnYgJzUTFta6

ขออยู่ที่เกียวโตอีกซักโพสต์ วันนี้จะมาแนะนำร้านนึงในเกียวโตที่สายท่องเที่ยวน่าจะไปกินสะดวก เพราะอยู่ใกล้สถานีเกียวโตมาก ...
27/07/2024

ขออยู่ที่เกียวโตอีกซักโพสต์ วันนี้จะมาแนะนำร้านนึงในเกียวโตที่สายท่องเที่ยวน่าจะไปกินสะดวก เพราะอยู่ใกล้สถานีเกียวโตมาก เดินไปไม่กี่ก้าว แถมยังไม่ได้เป็นร้านที่ดังขนาดต้องรอคิวเป็นชั่วโมง เห็นในรีวิวบอกเต็มที่ช่วงพีคๆก็รอไม่ถึงครึ่งชั่วโมง นอกจากนี้ร้านนี้ยังขายเมนูที่ไม่ค่อยเหมือนใครในร้านอาหารประเภทเดียวกันอีกด้วย ทำให้อยากไปลองดูซักครั้ง
ร้านชื่อว่ายามาโมโตะ มันโบ Yamamoto Manbo อยู่ตรงข้ามสถานีเกียวโตเลย ข้ามถนนไปแล้วเดินไปทางขวานิดเดียว หน้าร้านจะมีโคมไฟสีแดงใหญ่ๆสังเกตง่าย ร้านมันโบเป็นร้านขายโอโคโนมิยากิที่พบได้ทั่วไปในแถบคันไซ ลักษณะจะเป็นร้านโอโคโนมิยากิแบบที่มีเชฟทำให้ในกระทะกลางร้าน เสร็จแล้วก็ค่อยเสริฟมาไว้บนกระทะร้อนที่หน้าโต๊ะเราหรือหน้าบาร์ สะดวกดีไม่ต้องนั่งทำเองให้ลำบาก
แล้วทำไมถึงสนใจร้านนี้ล่ะ ??? ทั้งๆที่ในคันไซหรือในเกียวโตก็มีร้านโอโคโนมิยากิเยอะแยะ ร้านนี้มันมีอะไรดี ???
สิ่งที่ทำให้ร้านนี้ไม่เหมือนใครก็คือเมนูซิกเนเจอร์ของร้านที่ชื่อเดียวกับร้านเลยก็คือมันโบยากิ Manboyaki เป็นเมนูที่ใครๆมาก็ต้องสั่งกินแทบทุกราย ลักษณะของมันก็คือโอโคโนมิยากิแบบที่ใส่เส้นโซบะลงไปผัดด้วย ฟังแค่นี้อาจจะคิดว่าแปลกตรงไหนวะ นี่มันก็คือฮิโรชิม่ายากิ หรือโอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่าธรรมดาๆที่ใช้เส้นโซบะเป็นหลักนี่หว่า ไม่เห็นจะแปลกอะไร
มันโบยากิจะไม่เหมือนกับฮิโรชิม่ายากิเลยก็ตรงที่มันไม่ได้ใส่กะหล่ำปลีลงไปแน่นๆแบบนั้น มันมีแค่เส้นกับแป้งเป็นหลัก แถมแป้งก็ไม่ได้หนาเตอะแบบของฮิโรชิม่าด้วย แป้งจะบางๆ เกรียมๆ ส่วนเส้นยากิโซบะก็จะผัดจนแห้ง เกรียม หอมเหมือนกัน ทำให้น่าจะได้ความอร่อยที่ไม่เลี่ยนเกินไปแบบฮิโรชิม่า น่าจะมีความอร่อยจากซอสแบบคันไซที่เข้มข้นกว่า รวมไปถึงความหอมจากการย่างแบบเกรียมๆยิ่งช่วยทำให้กินเพลินเข้าไปอีก นี่แหล่ะทำให้มันโบยากิเป็นหนึ่งในเมนูที่อยากไปลองซักที
ร้านนี้ขายมันโบยากิทั้งแบบธรรมดา แบบใส่ไข่ มี Topping ต่างๆให้เลือกทั้งหมู หมึก กุ้ง เอ็นวัว แต่ที่ฮิตสุดก็น่าจะเป็นหมูธรรมดาๆเพราะเห็นคนสั่งเยอะที่สุด และจากข้อมูลของนักรีวิวก็แนะนำให้สั่งมตสึยากิมาชิมอีกอย่างด้วย เพราะเค้าจะไม่ได้ทำแบบเดียวกับมตสึยากิตามร้านยืนกินแถวเทนโนจิโอซาก้า แต่จะหั่นไส้ให้ละเอียดกว่าแล้วย่างกับผักเยอะๆ ดูน่ากินเหมือนกัน
ความคิดเห็นจากนักรีวิวญี่ปุ่น
"เป็นยากิโซบะแบบที่ไม่เคยกินมาก่อน มันอร่อยมากจริงๆ" - たけちよ99
"ไส้ย่างคือสุดไม่แพ้กัน ยังไงก็อยากให้ลองสั่งมาชิมกันดู" - nao.nnh
"ซอสร้านนี้ทำได้ดีไม่แพ้ใครจริงๆ โดยเฉพาะซอสเผ็ดทำได้เยี่ยมมาก" - ホークブック
ลายแทง : https://maps.app.goo.gl/4zBWr4azLJKqtux88

Address


Website

Alerts

Be the first to know and let us send you an email when ญี่ปุ่นไม่ได้อร่อยทุกร้าน posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Shortcuts

  • Address
  • Alerts
  • Claim ownership or report listing
  • Want your business to be the top-listed Travel Agency?

Share