Destiny or เรื่องบังเอิญ

11/06/2024

วันนี้ขอพาทุกคนมา check-in ที่ Milan ประเทศอิตาลีกันค่ะ
☺️ โชคชะตาที่พาเรามาที่นี่
📍 มิลาน (Milan)
📍 ประเทศอิตาลี (Italy)
เราขับรถมาจากฝรั่งเศสใช้เวลา 3 ชั่วโมงกว่าเกือบ 4 ชั่วโมงค่ะ จนสุดท้ายเราก็มาถึง เราพักที่นี่แค่ 2 คืนค่ะ จุดประสงค์ก็เพื่อแค่มามิลาน และมาทริปวันหยุดเสาร์อาทิตย์
โรงแรมที่เราพักใกล้ Duomo ค่ะ เดินไปแค่ 5 นาที โรงแรมชื่อ Chateau Monfort เป็นโรงแรมเก่าคลาสสิคแต่ราคาแรงใช้ได้เลยค่ะ อาหารส่วนใหญ่เราทานที่โรงแรม และการเดินทางส่วนใหญ่คือเดินและ uber ค่ะ ส่วนรถเราจอดไว้ที่โรงแรมตลอด
🖊️ สถานที่เที่ยวที่เราไปก็มีดังนี้ค่ะ
📌 Duomo di Milano แลนด์มาร์คสำคัญของมิลาน เป็นศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับนักบุญแมรี่ และยังเป็นที่ประทับของอาร์คบิชอปแห่งมิลานอีกด้วย
📌 Arco della Pace ซุ้มประตูสร้างมาจากหินอ่อน เพื่ออุทิศให้เป็นอนุสรณ์ชัยชนะของจักรพรรดินโปเลียน ในปี ค.ศ. 1838 โดยมีการแกะสลักกรอบประตูศิลปะแบบนีโอคลาสสิค
📌 Piazza Mercanti จตุรัส Piazza del Mercanti จุดศูนย์กลางของเมืองมิลานตั้งแต่ยุคกลางจนถึงปัจจุบัน เป็นสถานที่จัดกิจกรรม และนิทรรศกาลต่างๆ รวมไปถึงย่านการค้ามากมาย
📌 Sforzesco Castle ปราสาท Sforzesco เริ่มสร้างตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15 ตัวปราสาทสูงเด่นเป็นสง่า โดดเด่นด้วยอิฐสีแดง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ประวัติศาสตร์ของมิลาน
จบทริปสั้นๆสำหรับครั้งนี้ค่ะ

ครั้งหน้าจะมีอะไรมาเล่าให้ฟังอีก ยังไม่รู้เลย
ติดตามกันต่อไปนะค่ะ
---------------------------------
ื่องบังเอิญ

30/05/2024

ต่อขนตาครั้งแรกที่ตุรกี โชคชะตาแหละ ได้ต่อขนตาสักที 👀

สวัสดีค่ะ ทุกคน มาเล่าเรื่องต่อขนตาครั้งแรกที่อิสตันบูล ตุรกี ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นสายชอบสวยเลย คือ ตื่นมาไม่ต้องทำไร แบบคิ้วเข้ม ขนตางอนเลยตั้งแต่อยู่ไทยแล้ว ดังนั้นเราเลยพูดได้ว่าเราโหยหาร้านต่อขนตามาตลอดการมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ แต่เราก็หาร้านที่เราคุยสื่อสารด้วยไม่ได้สักที หรือร้านที่สื่อสารได้ก็ไกลมาก รวมไปถึงอยู่ที่นี่เราก็อยู่แต่ที่บ้านไม่ได้ออกไปทำงานไม่รู้จะทำสวยไปทำไม เสียดายเงิน เอาเงินไป shopping ดีกว่า แต่อีกด้านนึกเราก็นั่งไถ IG ตลอดหาร้านไว้หลายร้านแต่ก็ไม่ได้ทำสักที จนครั้งนี้จะต้องไปร่วมงานแต่งงานญาติ แล้วเราก็บ่นว่า ครั้งนี้เราอยากต่อขนตา เพราะงานแต่งน้องและเพื่อน 2 ครั้งที่ผ่านมาเราว่าหน้าเราเบาไป !!! และเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา พวกเราเดินผ่านร้านทำเล็บ และสามีชี้ว่าร้านทำเล็บต้องมีต่อขนตาแน่เลย เราก็บอกว่าไม่เห็นเตียงไม่มีหรอก เราไม่ได้สนใจอะไร
ขากลับกำลังเดินออกจากห้าง เราเดินเข้าไปที่ร้านกะถามเล่นๆ สรุป reception คุยสื่อสารภาษาอังกฤษได้ เราก็เลยทำนัดเลย ง่ายสะงั้น
🖊️ มาถึงวันที่มาต่อขนตา เรามาถึงตามเวลานัดพอดี ช่างต่อขนตาชื่อ ซาดี พูดอังกฤษไม่ได้เลย นึกในใจ แล้วชั้นจะได้ขนตาแบบไหนนะ ? แต่พูดเลยว่าก่อนมาเราทำใจไว้ระดับนึงแล้ว คิดสะว่าเป็นประสบการณ์ถ้ามันไม่ได้ดังใจ
🖊️ซาดี แนะนำตัว เราเดา เพราะเราฟังไม่รู้เรื่อง และ ซาดีเดินพาเราไปที่ห้อง ห้องนั้นมีอุกรณ์ทำหน้าแบบพวกเครื่องเลเซอร์อะไรประมาณนั้น เราเริ่มหวั่นๆ เอ๊ะ ซาดี เข้าใจใช่ไหมว่าชั้นมาต่อขนตานะ ไม่ได้มาทำหน้าแต่เรายังไม่ได้พูดอะไรดูต่อว่า ซาดีจะทำอะไรต่อ
🖊️ ซาดี เริ่มเอาผ้ามาปูตรงเตียงและบอกให้เรานั่ง แล้วก็ไปหยิบกล่อง ขนตามาให้เราดู กล่องขนตาที่เราเห็นคือ ขนตา แบบที่เราต่อกันเองอ่ะ เราเริ่มหวั่นๆอีกรอบว่า เอ๊ะ ต่อขนตาที่ซาดีจะทำให้ คือ แค่ติดขนตาปลอมรึเปล่านะ ถ้าใช่ คือ ชั้นทำเองได้ ชั้นไม่ต้องมาที่นี่ !!! แต่เราก็ไม่ได้เอ่ยปากถามอะไร อยากถามมาก แต่รู้ว่าถามไปก็คุยกันไม่รู้เรื่อง เอาเป็นว่ารอดูต่อไป
🖊️ด้วยความที่เราดูขนตาเราไม่รู้ว่าขนตา ยาวเท่าไหร่ ระดับความงอนคือ ยังไง คือเราไม่รู้เลย แต่ที่ไทยร้านที่เราไปต่อ จะถามเราว่า ยาวกี่มม ต่อแบบเส้นต่อเส้น หรือแบบ 3 มิติ 6 มิติ อะไรก็ว่ากันไป (3 มิติ ก็คือ ขนตาจะเป็นเส้นและช่างจะจับช่อเล็กมาก สลับสั้นยาว เวลามาต่อกับขนตาของเราจะดูเป็นธรรมชาติแต่จะมีความหนาขึ้น ส่วน 6 มิติจะเป็นแบบเส้นต่อเส้น บวกกับแบบ 3 มิติ)
🖊️ เมื่อเราคุยกันไม่รู้เรื่อง เราก็เลยเอาแบบที่เราอยากได้ให้ ซาดี ดู หลังจากดูซาดี เก็บขนตาบางกล่องลง เริ่มให้เรานอนลงที่เตียง
🖊️ซาดี ต่อไปพูดภาษาตุรกีกับเราตลอด ซึ่งเราแปลไม่ออก แต่เข้าใจว่า ให้หลับตา ให้มองบน ให้ลืมตา ให้ขยับซ้าย ให้ขยับขวา น่าจะอะไรประมาณนั้น
🖊️เราใช้เวลาต่อประมาณ 50 นาที รวมขั้นตอนคลีนรอบดวงตา แปะแถบที่เปลือกตาและ เอาออกจนเสร็จสิ้น
🖊️หลังจากลอกเทปที่ใต้ตาและอุปกรณ์รั้งเปลือกตา เราแสบตามาก น่าจะเป็นเพราะกาวติดขนตา ที่ไทยเราไม่เคยมีอาการนี้ ตาแดงมาก (รูปประกอบจะมี 1 รูปว่ารอบตาเราแดง)
🖊️เสร็จสิ้น เราลืมตาส่องกระจกเราพอใจในระดับราคาที่เรากำลังจะจ่าย แต่ต้องรอดูว่าขนตาที่ต่อมานั้นจะอยู่นานขนาดไหน (ปล.เราไม่รู้ว่าขนตาที่ต่อเป็นขอมิ้งค์ หรือขนกระตาย เพราะเราคุยไม่รู้เรื่อง ที่ไทยราคาจะต่างกัน ขนมิ้งค์จะแพงกว่า)
🖊️ สรุปราคา 1000 TL ซึ่งไม่แพงเลย ที่เมื่องไทยแพงว่าอย่างเห็นได้ชัด (เมืองไทย ขั้นต่ำ 1,600++) แต่บริการก็แตกต่างกันออกไป
🖊️หลังจากเดินออกมาจากห้อง พนักงานที่ร้านเดินมาดู 3 คน เราเริ่มงงว่าทำไมนะ หรือ เราเป็นเคสที่ซาดี ทำต่อขนตาครั้งแรกนะ !!! แถมตอนจ่ายเงินมีร้านขาย accessories ข้างๆวิ่งมาดูแล้วพูดอะไรไม่รู้พร้อมยิ้มแบบชอบใจ ซึ่งเราก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากแค่ยิ้ม
🖊️ ตอนนอนจะนอนตะแคงจะมีด้านนึงที่ขนตาทิ่มเปลือกตา นั่นหมายถึงการต่อขนต่อไม่ smooth อย่างที่คิด และคืนอื่นๆก็นอนตะแคงอีกข้างเอา จบ!!

ครั้งหน้าจะมีอะไรมาเล่าให้ฟังอีก ยังไม่รู้เลย
ติดตามกันต่อไปนะค่ะ
---------------------------------
ื่องบังเอิญ

23/05/2024

☺️ โชคชะตาที่พาเรามาที่นี่
📍 ทบิลิซี (Tbilisi)
📍 ประเทศจอร์เจีย (Georgia) 🇬🇪

🖊️ ทริปนี้เราไปช่วงคริสต์มาส 2023 ค่ะ พวกเราตัดสินใจไปเพราะเราอยากมีช่วงเวลาของคริสมาตร์ในประเทศที่เฉลิมฉลองคริสมาสตร์ค่ะ หรือพูดง่ายๆก็คือประเทศที่เป็นคริสเตียนนั่นเอง
🖊️ ที่ประเทศจอร์เจีย (Georgia) นับถือคริสค่ะ แต่เป็น นิกายออโธดอกซ์ ดังนั้นคนที่นี่เค้าจะฉลองคริสต์มาส วันที่ 7 มกราคมค่ะ แต่การตกแต่งสถานที่คือจัดเต็มสวยงามและรู้สึกว่าเลือกมาที่นี่ไม่ผิดหวัง
🖊️ เรามีเวลาอยู่เที่ยว 3 คืนค่ะ เราอยากขึ้นไปบนเขาแต่ด้วยสภาพอากาศทำให้ถนนปิดไม่สามารถเดินทางขึ้นไปได้ ดังนั้นทั้งทริปของเราต้องเปลี่ยนแพลนเป็นแค่อยู่เที่ยวในเมืองหลวงแห่งนี้
🖊️ เรื่อง Immigration ที่นี่ไม่ค่อยเข้มงวดค่ะ (ที่นี่ฟรีวีซ่าให้คนไทย 365 วันเลยค่ะ) เราไม่โดนคำถามอะไรเลย
🖊️ การเดินทางที่นี่เราใช้ Bolt ค่ะ สะดวกมาก
🖊️ เราพัก 2 โรงแรมค่ะ : โรงแรมแรกคือ Wyndham Grand Tbilisi (อันนี้อยู่ใจกลางเมืองเดินสะดวกมาก) และ โรงแรมที่ 2 คือ Frida Hotel ค่ะ (โรงแรมนี่อยู่หน้า Bridge of Peace ติดถนนเลยค่ะ)
🖊️ ค่าครองชีพที่นี่ไม่แพง บ้านเมืองสะอาดถ้าเทียบกับเมืองใหญ่อย่างอิสตันบูล เห็นได้ชัดจากการเดินบ้านท้องถนน และที่ดีงามคือคนที่นี่ไม่สูบบุหรี่ระหว่างการเดินบนถนนค่ะ
🖊️ ทริปนี้เราไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างมาดูกันเลย ห้ามพลาดเลยนะค่ะ
📌 Chronicles of Georgia หรือ History Memorial of Georgia หรือ Georgia Stonehenge (เดอะ โครนิเคิล ออฟ จอร์เจีย) ที่นี่ ตั้งอยู่บนยอดเขา Keeni ใกล้ๆ ทะเลสาปทบิลิซี่ อำนวยการสร้างโดย Zurab Tsereteli ในปี 1985 แล้วเค้าก็บอกๆ กันว่า นี่ยังสร้างไม่เสร็จถูกเซ็ตให้เป็นเสา 16 แท่ง สูง 30-35 เมตร ในโอกาสครบรอบ 3000 ปี ของการก่อร่างสร้างจอร์เจีย และ 2000 ปี ในการเผยแผ่ศริสต์ศาสนาเป็นอนุสรณ์ทางประวัติศาสตร์ ครึ่งบนเป็นภาพของกษัตริย์ ราชินี เหล่าวีรชนคนกล้า อย่างเช่น Queen Tamar ที่ปกครองจอร์เจียค่ะ เรามาที่นี่ด้วย Taxi bolt ค่ะและขากลับก็เรียก Bolt เช่นกัน รวมทั้งไปกลับก็ประมาณ 30 GELค่ะ มาที่นี่ไม่มีอะไรนอกจากถ่ายรูป ไม่เสียค่าเข้าใดใด อลังการมาก ตอนมามีนักท่องเที่ยวไม่เกิน 10 คน
📌 Liberty Square Liberty Square หรือ Freedom Square อยู่สุดถนน Rustaveli Avenue ในช่วงยุคสหภาพโซเวียตจะมีรูปปั้นของ วลาดิเมียร์ เลนินอยู่ และถูกนำออกไปเมื่อ สิงหาคม 1991 ยุคล่มสลายของสหภาพโซเวียต เมื่อ 23 พฤศจิกายน 2006 ได้มีการนำรูปปั้น St.George ขี่ม้าฆ่ามังกรที่สร้างโดย Zurab Tsereteri มาติดตั้งไว้แทนค่ะ ตรงนี้เราเดินมาเพราะมันไม่ไกลจากโรงแรมเราเดินมาแทบทุกวัน
📌 Leselidze Park เราเดินมาเรื่อยๆเพราะช่วงที่เรามาคือ Christmas market ยาวตลอดแนว คือดีต่อใจมาก
📌 Bridge of Peace สะพานสันติภาพ เป็นสะพานโค้งคันศร สร้างจากเหล็กและแก้ว ประดับด้วยไฟ LED ข้ามแม่น้ำ Kura (คูร่า) หรือ แม่น้ำ Mtkvari เชื่อมสวน Rike Park กับย่านเมืองเก่า สะพานนี้ตั้งอยู่หน้าโรงแรมที่เราพักเลยค่ะ (เราเลือกโรงแรมนี้เพราะวิวเลยค่ะ) บริเวณนี้จะมีคนขายทัวร์ล่องแม่น้ำ Kura แต่เราเห็นเรือและแม่น้ำแล้วนั้น เราเลิกเดินไปเรื่อยๆดีกว่าค่ะ
📌 Rike Park เราเดินข้ามสะพานมาเพื่อมาขึ้น Cable car : Aerial Tramway ไปยัง Mother of Geogia และ Narikala Fortress ค่ะ บริเวณนี้ก็จะเห็นวิวมุมสูงของเมือง เราจำคือขึ้นไม่ได้แน่นอนน่าจะ 5 Gel สำหรับไปกลับ
📝 Mother of Georgia (อนุสาวรีย์ Kartlis Deda) : อนุสาวรีย์อลูมิเนียม สูง 20 เมตร เป็นสตรีชาวจอร์เจียในชุดประจำชาติ มือซ้ายถือถ้วยไวน์ มือขวาถือดาบ เปรียบเทียบเชิงสัญลักษณ์ถึงชาวจอร์เจียที่แข็งแกร่งและสามารถรับถือความความไม่แน่นอน การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้เป็นอย่างดี สร้างเมื่อปี 1958 ในโอกาสครบรอบ 1500 ปี ของทบิลิซี่ ออกแบบโดย Elguja Amashukeli
📝 Narikala Fortress ป้อมปราการนาริกาลา คือป้อมปราการโบราณ ซึ่งตั้งอยู่เหนือเขตเมืองเก่า ทบิลิซี ถูกสร้างขึ้นมาในศตวรรษที่ 4 เพื่อปกป้องเมืองนี้ โดยชื่อ Nari-Kala เป็นภาษาเปอร์เซีย แปลว่า “ป้อมที่ไม่สามารถตีแตก”
📌 Holy Trinity Cathedral of Tbilisi วิหารโฮลี่ทรินิตี้ หรืออีกชื่อหนึ่งคือ มหาวิหารซาเมบา (Sameba Cathedral) เป็นโบสถ์นิกายออร์โธด็อกซ์ที่มีความสำคัญและมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจอร์เจีย สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากระยะไกล รวมทั้งยังเป็นโบสถ์อีสเทิร์นออร์โธด็อกซ์ที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลกด้วยนะคะ
📌 Metekhi Church (The Virgin Mary Assumption Church of Metekhi) โบสถ์เมเตคี โบสถ์ริมผาติดแม่น้ำ Mtkvari ที่นี่จะมีรูปปั้นของกษัตริย์วาคตัง จอร์กาซาลี (Vakhtang Gorgasali) ผู้ค้นพบเมืองทบิลิซี รวมทั้งที่นี่ยังเป็นจุดถ่ายรูปวิวเมือง ทบิลิซีอีกจุดด้วยค่ะ

ทริปนี้ชิวและรู้สึกว่าตัดสินใจถูกที่เลือกมาที่นี่ช่วงคริสมาต์ และรวมถึงเสียดายโอกาศว่าเราไม่สามารถขึ้นไปทำเขาทำให้พลาดจุดสำคัญไปหลายจุด แต่นั้นแหละค่ะโชคชะตานำภา เราอาจจะมีโอกาศกลับมาที่นี่อีกไม่วันใดก็วันหนึ่ง จริงไหมค่ะ ?

คราวหน้าจะมีอะไรมาเล่าให้ฟังอีก ยังไม่รู้เลย
ติดตามกันต่อไปนะค่ะ 😘😘😘😘

---------------------------------
ื่องบังเอิญ

20/05/2024

Bonne Fete de Pentecôte 2024 😍😍 วันฉลองครบ 50 วัน หลังวันอีสเตอร์ค่ะทุกคน 😊 แต่อยู่ที่อิสตันบูลไม่ได้ฉลอง เพราะที่นี่ไม่หยุด 🤣

14/05/2024

☺️ โชคชะตาที่พาเรามาที่นี่
📍 โซล (seoul)
📍 ประเทศเกากลีใต้ (South Korea)

🖊️ ทริปนี้เราไปสั้นมาก เช่นเดิม จริงๆแล้วหลายๆทริปเป็นทริปติดตามเราจะสามารถเที่ยวเล่นหรือไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆได้ประมาณ 1-2 วันเท่านั้น แล้วทริปนี้ก็เช่นกันค่ะ
🖊️ ทริปนี้เราเดินทางจากกรุงเทพ (BKK-Seoul) ใช้เวลาบินประมาณ 5 ชั่วโมง
🖊️ เรื่อง Immigration ที่นี่เข้มงวดค่ะ ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้ว แต่เราไม่โดนถามอะไรเลย (เราเตรียมแค่ booking โรงแรมและตั๋วขากลับให้ดูค่ะ เงินสดก็มีแค่เงินยูโรติดกระเป๋ามา 200 ยูโร แต่มีบัตรเครดิต 2 ใบนะค่ะ)
🖊️ การเดินทางที่นี่เราใช้ Uber ค่ะ สะดวกมากมาก และบางครั้งนั่ง Metro ด้วยค่ะ สะดวกดี
🖊️ เราพักแถวกังนัมที่ Crow parza ค่ะ ราคาห้องพักเราไม่แน่ใจ
🖊️ เราอยากมาเกาหลีใต้สักครั้ง เพราะก็เหมือนคนอื่นๆที่ดู series เกาหลี ก็เลยได้ติดตามมาในครั้งนี้ เราว่าคนที่นี่พูดจาเสียงดัง พูดห้วนๆและหลายๆอย่างคล้ายนิสัยของคนจีนมาก โดยเฉพาะผู้ชายเกาหลี (อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะค่ะ) โดยส่วนตัวเราไม่ค่อยชอบค่ะ 😜
🖊️ ที่นี่ร้านกาแฟเยอะมาก และเป็นร้านน่ารักๆทั้งนั้น เราจำไม่ได้ว่าแวะร้านไหนบ้าง แต่แวะทุกวัน การเที่ยวครั้งนี้เราไม่ได้การบ้านอะไรเลย ตามคนข้างๆไปอย่างเดียว และมีไปเองตามสถานที่ที่ไปสะดวก
🖊️ สถานที่เที่ยวที่เราไปก็มีดังนี้ค่ะ
📌 Gyeongbokgung Palace พระราชวังเคียงบกกุง พระราชวังเก่าแก่และสวยงามที่สุดในกรุงโซล ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1395 เพื่อเป็นพระราชวังหลักของราชวงศ์โชซอน ซึ่งข้างในก็มีอีกหลายอย่างให้เยี่ยมชม เช่น พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ (National Palace Museum of Korea) และ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านเกาหลี (National Folk Museum) ที่จัดแสดงโบราณวัตถุที่สำคัญของเกาหลี หรือจะไปเยี่ยมชม พระที่นั่งคึนจองวอง (Geunjeongjeon) พระที่นั่งหลักที่ใหญ่ที่สุดในเขตพระราชวัง ที่นี่จะเห็นคนใส่ชุดฮันบกเยอะแยะค่ะ เราสามารถเช่าชุดฮันบกใส่เดินเที่ยวรอบวัง ได้ฟีลเหมือนอยู่ในซีรีส์เกาหลีย้อนยุค และถ้าใครใส่ชุดฮันบกจะเข้าพระราชวังได้ฟรีด้วยนะค่ะ
📌 Gwangjang Market ตลาดควางจัง ตลาดเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี ในอดีตตลาดเคยถูกถล่มในช่วงสมัยสงครามเกาหลี ก่อนจะได้รับการฟื้นฟูและสร้างขึ้นใหม่ จนกลายเป็นตลาดยอดนิยมในปัจจุบัน ฟีลที่ไปเดินเหมือนเราไปเดิน JJ ค่ะ คนเยอะของขายเยอะ
📌 Hongdae ย่านฮงแด หรือย่านช้อปปิ้งหน้ามหาวิทยาลัยฮงอิก (Hongik University) แหล่งรวมวัยรุ่นเกาหลี มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านเสื้อผ้า ร้านเครื่องสำอางแบรนด์ดัง ของช้อปปิ้งยังราคาไม่แพง เหมาะกับวัยรุ่นคูลๆ คึกคักตลอดทั้งวันค่ะ
📌 Myeong-dong ย่านเมียงดง หรือ มยองดง แหล่งช้อป-ชิม-ชิล ใจกลางกรุงโซล ที่เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอาง ไปจนถึงร้านอาหารและคาเฟ่สวยๆ ตรงนี้จุดเจอคนไทยเยอะมาก เค้ามา ช้อปปิ้ง กันค่ะ
📌 N Seoul Tower หอคอยเอ็นโซล หรือ นัมซานทาวเวอร์ (Namsan Tower) แลนด์มาร์กสำคัญแห่งกรุงโซล ตั้งอยู่บนภูเขานัมซาน เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นได้ทั่วทั้งเมืองแบบพาโนราม่า ทิวทัศน์สวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน ที่นี่มี คล้องกุญแจคู่รัก Love Key Ceremony ด้วยค่ะ ซึ่งเราไม่ได้ทำนะค่ะ
📌 Cheonggyecheon Stream คลองชองเกชอน คลองเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่ยุคของราชวงศ์โชชอน อายุมากกว่า 600 ปี ยาวประมาณ 11 กิโลเมตร เรามาเดินเล่นตรงนี้คนเดียวก็ได้ฟีลสบายสบายของคนเมืองกันค่ะ

ทริปนี้ชิวเช่นเดิม และส่วนใหญ่ไปคนเดียวเพราะอีกคนไม่ว่างเลย จะเจอกันก็ช่วง Dinner เที่ยวไม่ยากค่ะและนักท่องเที่ยวไทยค่อนข้างเยอะในช่วงที่มา

ครั้งหน้าจะมีอะไรมาเล่าให้ฟังอีก ยังไม่รู้เลย
ติดตามกันต่อไปนะค่ะ 😘😘😘😘

---------------------------------
ื่องบังเอิญ

08/05/2024

สวัสดีค๊าาา ทุกคน

วันนี้วันที่ 8 May 2024 เป็นวันที่ไฟโอลิมปิกที่เดินทางข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจากประเทศกรีซด้วยเรือโบราณเบเลม (Belem) มาถึงประเทศฝรั่งเศส

🖊️ เรือเบเลมใช้เวลาเดินทาง 12 วัน เพื่อข้ามทะเลเมดิเตเรเนียนจากประเทศกรีซเข้าสู่แผ่นดินฝรั่งเศส 🇫🇷 ค่ะ

🖊️ เรือเบเล็มจะเทียบท่าที่เมืองมาร์เซยเวลา 19.40 นาฬิกา (ถึงฝั่งจริง 19:24น) จากนั้นนักกีฬาว่ายน้ำชาวฝรั่งเศส Florent Manaudou จะเป็นผู้วิ่งคบเพลิงคนแรกในฝรั่งเศส

หลังจากนั้นจะเริ่มต้นการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิกในฝรั่งเศส ซึ่งจะมีผู้ร่วมวิ่งคบเพลิงราว 10,000 คน ผ่านเมืองกว่า 450 เมืองเป็นระยะทางกว่า 12,000 กิโลเมตร และจะสิ้นสุดที่พิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงปารีส ในวัน ที่ 26 กรกฎาคม 2024 ที่ คลองคอรินท์

Crédit : https://www.france24.com/en/france/20240508-at-least-150-000-expected-as-olympic-flame-arrives-in-marseille

ครั้งหน้าจะมีอะไรมาเล่าให้ฟังอีก ยังไม่รู้เลย
ติดตามกันต่อไปนะค่ะ 😘😘😘😘

---------------------------------
ื่องบังเอิญ

The Olympic flame arrives in France on Wednesday where a highly choreographed ceremony and a crowd of 150,000 people will be a first major test for organisers and security forces ahead of the 2024 Paris…

30/04/2024

☺️ โชคชะตาพาเรามาที่นี่ เมืองหลวงของ ตุรกีค่ะ นั่นก็คือ เมือง
📍 Ankara (อังการ่า)
📍 Turkey 🇹🇷 ตุรกี

🖊️ ทริปนี้เรามาอยู่ยาวหน่อยแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมากมายเพราะแค่เปลี่ยนสถานที่เรียนออนไลน์ และคนข้างๆก็ทำงานทุกวัน 🤓 เราออกไปผจญภัยได้แค่วันเสาร์และวันอาทิตย์
🖊️ สนามบินที่นี่เล็กกว่าอิสตันบูลมาก และไฟล์บินน้อยกว่าเยอะมากมาก
🖊️ นักท่องเที่ยวน้อยเห็นได้ชัด จากจำนวนคนในสนามบิน
🖊️ คนพื้นที่อังการา ในร้านอาหาร และ ย่านช็อปปิ้ง แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ในพิพิธภัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ในแหล่งท่องเที่ยว ไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษ แต่บางคนฟังรู้เรื่องแต่พูดไม่ได้ 🙃
🖊️ คนที่นี่ยิ้มแย้มแจ่มใสมีความเป็นมิตรมากกว่าคนในเมืองอิสตันบูล
🖊️ แท็กซี่ตามมิเตอร์ตามตลอด (อันนี้คือ ยิ้มตลอดการใช้บริการว่าตัวเองไม่โดนเอาเปรียบ)
🖊️ ค่าครองชีพดูจากค่าอาหารและซื้อของจากร้านเล็กๆนั่น ถือว่าถูกกว่าข้าวของในอิสตันบูลครึ่งนึง!! ยกตัวอย่าง โค้กกระป๋องที่อิสตันบูลขาย 40tl ที่อังการ่าขาย 22tl, พิซซ่าในร้านอาหาร IST (อิสตันบูล) ขาย 300tl up (ราคาแล้วแต่หน้า) ที่อังการ่าขาย 180tl up , ไวน์ในร้านอาหารถูกกว่ากันครึ่งนึง
🖊️ และที่สำคัญเงินเดือนของเจ้าหน้าที่ที่ประจำที่อังการ่าได้เรทเอเชียนั่นหมายถึงอัตราเงินเยอะกว่าเพราะว่าอยู่ฝั่งเอเชียได้ค่าอยู่อาศัยไกลบ้านที่ไม่ใช่ทวีปยุโรปเยอะกว่า พอได้ยินอย่างนั้น เรานะอยากย้ายมาอยู่อังการ่าเลย 555
🖊️ สถานที่ที่เราไปเยี่ยมเยียน และห้ามพลาด ต้องมา check in มีดังนี้
📌 Anitkabir : สานอนิตกาบีร์ หรือ อนุสรณ์สถานและสุสานของ Mustafa Kemal Atatürk ซึ่งเป็นผู้นำในการกู้อิสรภาพของตุรกี และเป็นประธานาธิบดีคนแรกและรัฐบุรุษผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้บุกเบิกตุรกียุคใหม่ค่ะ ที่นี่ใหญ่โตมากและแว๊บแรกที่เห็นคือนึกถึง Acropolis ที่เอเธนเลยค่ะ
📌 Ankara castle : ปราสาทอังการา คือปราสาทป้อมปราการจากปลายยุคโบราณและต้นยุคกลางใน อังการา สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ ตัวปราสาทประกอบด้วยปราสาทชั้นนอกและปราการชั้นใน ล้อมรอบด้วยหอคอยที่ตั้งห่างจากกันเป็นระยะ ซึ่งแม้ว่าตัวปราสาทจะถูกทำลายโดยการรุกรานของชาวเปอร์เซียในปี ค.ศ.622 ค่ะ เดินขึ้นไปจนสุดก็จะเป็นมุมสูงของเมืองและเห็น Anitkabir ด้วยค่ะ
📌 Kocatepe Mosque : มัสยิดโคจาเทเป มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดใน อังการา โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่หรูหราสง่างาม ผสมผสานหอสูงแบบกอธิกและโดมเป็นชั้นๆค่ะ เราไม่ได้เข้าไปข้างในเพราะเป็นช่วงละหมาดและที่นี่ในอังการ่าจะซีเรียสเรื่องแต่งกายกว่าการเข้าชมมัสยิดในอิสตันบูลค่ะ
📌 Museum of Anatolian Civilizations : พิพิธภัณฑ์อารยธรรมอนาโตเลีย ที่บอกเล่าเรื่องราวของผู้คนที่อาศัยอยู่ในแถบอนาโตเลียมานานกว่า 10,000 ปี ตั้งอยู่ไม่ไกลของปราสาทอังการา ภายในจะมีการจัดแสดงโบราณวัตถุตั้งแต่ยุคหินเก่าจนถึงยุคกรีกและโรมันนับแสนชิ้นค่ะ เราเสียค่าเข้า 12€ (แอบเซ็งเพราะก่อนหน้านี้คนมีบัตร résident เสียแค่ 60tl แต่เค้าเปลี่ยนกฎใหม่เมื่อต้นปีว่าชาวต่างชาติทั้งหมด คือ 12€)
📌 Göksu Park : สวนสาธารณะย็อคซู สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองอังการา บรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่น รายล้อมไปด้วยต้นไม้และดอกไม้สวยๆ และยังมีทะเลสาบขนาดใหญ่เป็นจุดศูนย์กลาง สามารถมานั่งเล่น เดินเล่นได้สบายเลยค่ะ ช่วงที่เรามามี theme park สวนสนุกสไตล์ตุรกีมาตั้งพอดี โดยค่าเข้าอยู่ที่ 10tl ส่วนเครื่องเล่นถือว่าถูกค่ะ อยู่ที่ประมาณ 60-80tl /คน/เครื่องเล่น

สรุปทริปนี้ไม่เหนื่อยเพราะ เดินนิดหน่อย และนั่งแท็กซี่แบบสบายใจ อาหารเราไม่ได้ทานอะไรพิเศษ ได้ทานอาหารจีน อาหารตุรกี และอาหารอิตาเลี่จนกับพวกพ้องของสามี ส่วนใหญ่จะกลุ่มใหญ่และแน่นอนเราฟังแทบไม่รู้เลย 555

คราวหน้าจะมีอะไรมาเล่าให้ฟังอีก ยังไม่รู้เลย
ติดตามกันต่อไปนะค่ะ 😘😘😘😘

---------------------------------
ื่องบังเอิญ

01/04/2024

สวัสดีทุกคนค่ะ

เมื่อวานวันที่โชคชะตา พาฉลองเทศการ Easter หรือ ในภาษาฝรั่งเศสเรียกวันนี้ว่า Pâques (แปคเคอะ) และ อวยพรคนอื่นๆว่า Joyeuses Pâques (จอยเยอร์ แปคเคอะ)

เทศกาล Pâques หรือเทศกาลอีสเตอร์ (Easter) ในภาษาอังกฤษ ถือเป็นอีกเทศกาลสำคัญของชาวคริสต์เป็นเทศกาลที่เฉลิมฉลองการฟื้นคืนชีพของพระเยซู
โดยเทศกาลนี้จะเฉลิมฉลองในวันอาทิตย์แรกของวันที่มีพระจันทร์เต็มดวงในฤดูใบไม้ผลิ 🌺🌷🎋
สำหรับวันอาทิตย์ที่เฉลิมฉลองเทศกาลนี้เรียกว่า le dimanche de Pâques ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 31 มี.ค. 24 และในวันจันทร์ถัดมา เรียกว่า le lundi de Pâques จะถือวันหยุดนักขัตฤกษ์ (le jour férié ) ของฝรั่งเศส ดังนั้นสถานที่ราชการหรือร้านค้าบางร้านจะปิดทำการ
สำหรับสัญลักษณ์เทศกาลอีสเตอร์คือไข่🥚🥚และกระต่าย 🐇🐇
🖊️ ไข่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่
🖊️ กระต่ายนั้นให้หมายของการกลับมาอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติอีกครั้ง หลังจากผ่านพ้นฤดูหนาว และด้วยตามธรรมชาติของกระต่ายเป็นสัตว์ที่มีลูกได้เร็ว จึงถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการเกิดหรือเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยเช่นกันค่ะ
🖊️ สำหรับกิจกรรมสนุกๆที่เด็กๆชอบคือการตามหาไข่ (la chasse aux oeufs)ที่ทำจากช็อกโกแลตที่ซ่อนตามสวนหรือพุ่มไม้หรือบางบ้านก็อาจจะซ่อนไก่🐔หรือกระต่าย🐇 ที่ทำจากช็อกโกแลตด้วยเหมือนกันค่ะ โดยมีความเชื่อที่เล่าต่อๆกันมาคือในวันอีสเตอร์จะมีระฆังลอยขึ้นไปบนฟ้า(les cloches volantes)🔔🔔แล้วปล่อยไข่จากฟ้าลงมาที่สวน😅😁🐣
🖊️ หลังจากนั้นก็การทานอาหารร่วมกันในครอบครัว ซึ่งเมนูที่ชาวฝรั่งเศสนิยมรับประทานในวันอีสเตอร์คือ le gigot d’agneau avec des flageolets (ขาแกะกับถั่วฟลาโชเล่)
🖊️ ตอนแรกก็ไม่ได้อะไรมากค่ะ เพราะปีที่แล้วเรา 2 คนก็ฉลองเทศกาลนี้ที่ตุรกีประเทศที่คนนับถือมุสลิมไปแล้ว แต่ไม่ได้กินขาแกะก็เท่านั่น
แต่ปีนี้พิเศษกว่าปีที่แล้วเพราะคุณสา อยากทำตามวัฒนธรรมกินขาลูกแกะ ! และเล่นเกมส์หาไข่ 😁
แต่จะหาลูกแกะ ยังไงนะ ? แล้วจะเชื่อได้ไหมว่าเป็นเนื้อขาลูกแกะจริง !! 😁 สุดท้ายก็สั่งกับทางสถานทูตค่ะ ได้ของแท้แน่นอน !!

🖊️ เมื่อวานทั้งวันจะได้ยินเสียงโทรศัพท์จากครอบครัวและเพื่อนๆสนิทเพื่ออวยพรเป็นระยะๆ และ คำศัพท์ที่จะได้ยินส่วนใหญ่ ก็ประมาณ

📝 l’oeuf en chocolat - ไข่ช็อกโกแลต
📝 l’oeuf de Pâques - ไข่อีสเตอร์ 🥚🥚
📝 le lapin de Pâques - กระต่ายอีสเตอร์🐇
📝 le lapin en chocolat - กระต่ายที่ทำจากช็อกโกแลต
📝 la chasse aux oeufs - การหาไข่
📝 cacher (v.) - ซ่อน
📝 un agneau - ลูกแกะ🐑🐑

Joyeuses Pâques !
สุขสันต์เทศกาลอีสเตอร์ค่ะ 🥚🐇🍾🥂🐣🎊🎊

25/03/2024

สวัสดีทุกคนค่ะ

วันนี้วันที่โชคชะตาบอกว่า ป่ะ !!
เธอต้องต่อวีซ่าอเมริกาแล้วเพราะจะมีโอกาสทำเฉพาะตอนกลับไทยเท่านั้น ไม่อย่างนั้นจะต้องเข้ากระบวนการยื่นขอวีซ่าแบบสัมภาษณ์ในประเทศฝรั่งเศส!

หลายๆคนคงรู้ดีว่าการขอวีซ่าท่องเที่ยวนั้น ต้องเตรียมเอกสารหลายอย่าง ซึ่งมันก็น่าเบื่อมากๆ
และจริงๆแล้วเรายังไม่มีแพลนไปอเมริกาแต่ก็ทำไว้ก่อนก็ได้ เพราะวีซ่ามีอายุตั้ง 10 ปี

เราทำเรื่องจ่ายและสมัครวีซ่าตั้งแต่ปี 2023 และ 2024 ตอนกลับไทยถึงจะส่งเอกสารไปที่สถานทูตโดยขอเขียนเล่าถึงขั้นตอนที่ตัวเองได้ทำ มีดังนี้
🖊️ อย่างแรกต้อง check คุณสมบัติตัวเองการว่าอยู่ในข่ายของการต่อวีซ่าทางไปรษณีย์ไหม ซึ่งมันมีเยอะมากแต่ใจความสำคัญคือ ต้องเคยมีวีซ่าอเมริกามาแล้วยังมีอายุ หรือห้ามหมดอายุเกิน 4 ปี , ต้องไม่เคยโดนปฏิเสธการเข้าอเมริกามาก่อน , ยังมีวีซ่าเก่าอยู่ ซึ่งที่ว่ามาเป็นคุณสมบัติหลักๆ แต่ยังมีคุณสมบัติย่อยๆอีก ซึ่งสามารถเข้าไปเชคกับ website ของสถานทูตได้เลย
🖊️ ต่อมาเรามาสร้าง profile กับทางสถานทูตค่ะ ตรงนี้ ไม่ยาก กรอกชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทร และe-mail และใส่รูปของเราด้วยค่ะ
🖊️ สร้าง profile เสร็จเราจะต้องไปจ่ายเงิน ซึ่งค่าธรรมเนียมวีซ่านั้น จะขึ้นอยู่กับค่าเงินของช่วงนั้นๆด้วยนะค่ะ ของเราค่าธรรมเนียมคือ 6,475 บาท
🖊️ หลังจากนั้นเราเริ่มกรอก DS 160 ซึ่ง เรากรอกไม่เยอะมาก เน้นตรงอาชีพ เพราะเราไม่มีงานทำโดยเน้นที่งานเก่า และเราจะเขียนถึงบุคคลที่ 3 เนื่องด้วยสาเหตุการติดตามมาด้วยทำให้ไม่สามารถทำงาน และ แน่นอนว่าตรงการเดินทางของเรานั้นเดินทางเยอะมากถึงจะไม่มีงานทำ
🖊️ ทุกอย่างของ DS160 ทำในต่างประเทศชาติทั้งหมด และเมื่อถึงเวลากลับไทย เราแค่เดินไปที่ไปรษณีย์ (ในกรุงเทพ) เจ้าหน้าที่จะให้ 1 ซองและใบปะหน้ามาให้เราแค่นั้น ที่เหลือก็แค่ใส่เอกสารที่เราต้องส่งให้กับสถานทูต มีอยู่แค่ 4 อย่าง
📝 ใบยืนยัน DS160
📝 ใบยืนยันสมัครวีซ่า
📝 passport เก่าที่มีวีซ่า
📝 Passport ใหม่ที่ยังมีอายุการใช้งาน
📝 รูปถ่าย 2 รูป ขนาด 2x2 นิ้ว
🖊️ เมื่อนำทุกอย่างใส่ซองแล้วก็นำไปส่งกับเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ตามปกติ เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดใด เก็บใบเสร็จไว้ตรวจว่าเอกสารส่งถึงสถานทูตหรือยัง
🖊️ การดูสถานะของวีซ่าก็ไม่ยาก แค่เข้าไปในส่วนที่ตรวจสถานะวีซ่าของ website สถานทูต ซึงของเราใช้เวลา 15 วัน (รวมเสาร์อาทิตย์) ก็ได้รับเล่มคืนส่งกลับมาที่บ้าน โดยเราเข้าไปเชค สถานะ 2 ครั้ง พอ Issue อีกวันก็ได้รับเล่มเลย

จบการต่อวีซ่าทางไปรษณีย์ของสถานทูตอเมริกา ถือว่าง่ายมากหากไม่โดนเรียกกลับไปสัมภาษณ์ ต่อไปก็พร้อมทุกเมื่อหากต้องไปแถบอเมริกา 😊

คราวหน้าจะมีอะไรมาเล่าให้ฟังอีก ยังไม่รู้เลย
ติดตามกันต่อไปนะค่ะ 😘😘😘😘

---------------------------------
ื่องบังเอิญ

06/02/2024

☺️ โชคชะตาพาเรามาที่นี่ 🇦🇱
📍 Tirana ; ทิราน่า
📍 Albania 🇦🇱 อัลบาเนีย

🖊️ ทริปนี้มาประเทศอัลบาเนียค่ะ ซึ่งประเทศอัลบาเนียเคยฟรีวีซ่าให้คนไทยเมื่อประมาณปี 2021-2022 มั้งค่ะถ้าจำไม่ผิด
🖊️ ประจุบัน 2023 ต้องขอวีซ่าแล้ว แต่ถ้าใครมีเชงเก้นวีซ่าแบบ multi และยังไม่หมดอายุก็มาได้เลยค่ะ
🖊️ เช่นเดิมทริปนี้เดินทางมาจากอิสตันบูลโดยสารการบิน Air Albania ซึ่งตอนจองราคาดีมากค่ะ ประมาณ 100€
🖊️ Air Albania น่าจะเป็นสายการบินแห่งชาติ คือราคาถูกแต่มีเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มค่ะ อาหารก็เป็น sandwich เล็กๆ และน้ำดื่ม มีน้ำผลไม้ให้เลือกด้วยค่ะ ซึ่งแน่นอนถ้าเป็นสายการบิน low cost ทุกอย่างต้องเสียเงินซื้อ 😆
🖊️ มาถึง airport ประเทศอัลบาเนียก็นึกถึงสนามบินต่างจังหวัดค่ะ เดินลงจากเครื่องบิน ก็เดินเข้าตัวอาคารเอง (มีเจ้าหน้าที่คอยสอดส่องเป็นระยะ)
🖊️ เข้ามาในอาคารก็เจอแถวเพื่อเข้า immigration เลยค่ะ ซึ่งครั้งนี้โดนถามว่า มาอัลบาเนียครั้งแรกหรอ ก็ตอบว่าใช่ จบ (ที่นี่ไม่สแตมป์ขาเข้านะค่ะ (แอบกังวลทำไมไม่สแตมป์ สุดท้ายก็ไม่มีอะไร)
🖊️ จากสนามบินจะเดินทางเข้าเมือง ทิราน่า Tirana
📝 มีรถเมล์เล็กนะค่ะ เดินมาด้านนอกตามป้าย bus , taxi ก็จะเจอ หน้ากระจกรถเขียนว่า airport 😎 ส่วนราคาไม่ทราบ เพราะไม่ได้นั่ง 😆
📝 Taxi อันนี้ราคา เท่าที่ศึกษาคือประมาณ เริ่มต้นที่ 25€ หรือ 2.500 Lek ขึ้นอยู่กับว่ารถติดไหมค่ะ (ค่าเงินอัลบาเนีย เรียก Lek ราคาแรกเปลี่ยน Nov 2023 อยู่ที่ 1€ = 102 Lek)
📝 เราจองรถรับส่งโรงแรม ราคาก็ 20€ / เที่ยว แต่เราจองไป-กลับได้ราคาเหมาที่ 35€ ถือว่าถูกมาก
🖊️ Albanai เป็นประเทศมุสลิม และมีคริสต์โอโธดอกซ์อยู่นิดนึงค่ะ แต่บรรยากาศที่นี่แทบไม่เหมือนตุรกี คือแทบจะไม่มีใครสวมอิญาบ (ผู้หญิงมุสลิมมักจะสวมอิญาบคลุมศีรษะ)
🖊️ ที่นี่ค่าครองชีพถูกมาก อาหารทะเลคือดี แต่ถ้า shopping ที่อิสตันบูลถูกกว่า 😝

มาค่ะ มาอยู่ที่ Tirana 3 วัน เราก็คงได้เที่ยวแต่ในเมืองหลวงนี่แหละค่ะ มาดู 9 จุด check in ที่ห้ามพลาดกันค่ะ
📌 Skanderbeg Square : ที่นี่ถือว่าเป็น center ของเมืองเลยค่ะ ช่วงที่ไปมีตลาดช่วงหน้าหนาวค่ะเหมือนจะเป็น beer festival มีทั้งดนตรี และร้านอาหารมากมาย แต่ feel เหมือนนั่งทานอาหารในตู้เย็นเพราะฝนตกและอากาศหนาวค่ะ 😂
📌 Dajti Ekspres “Cable Car” : ที่นี่ต้องนั่งรถออกมานอกเมืองสักประมาณ 15 - 20 นาทีค่ะ เรานั่ง Taxi ของโรงแรม แต่เราสังเกตุว่ามีรถเมล์จาก center มานะค่ะ ให้ดูป้ายที่เขียนว่า Dajti (เราจำราคา cable car ไม่ได้)
📌 Mount Dajti : ขึ้นมาบนเขาด้วย cable car ค่ะ ที่นี่กิจกกรมมีขี่ม้า ขับรถวิบาก และเดินเขาค่ะ เราเดินเขาอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมงก็ลงแล้วค่ะ
📌 Bunk'Art 1 : ที่นี่เรามาหลังจากลงจากเขา Dajti ซึ่งเดินจากสถานี cable car ประมาณ 10 นาที โดยมีค่าเข้าที่ คนละ 6€
📌 Bunk'Art 2 : ที่นี่อยู่ในเมืองค่ะไปง่ายมากและค่าเข้าชมก็ ราคา 6€
📌 Clock tower : จุดนี้ไม่ไกลจาก Skanderbeg Square เดินไปง่ายมาก
📌 Museum historical : จุดนี้ก็เช่นกันไม่ไกล Skanderbeg Square และค่าเข้าอยู่ที่ 6€
📌 Et`hem Bey Mosque : ที่นี่เข้าฟรีค่ะ และไม่ไกลจาก Skanderbeg Square
📌 Orthodox Autocephalous Church of Albania : ถือว่าเป็นโบสถ์หลักที่อยู่ใน Tirana เดินออกมาไกลหน่อยแต่เดินได้ค่ะ

สรุปทริปนี้เหนื่อยเพราะ เราเริ่มป่วย เที่ยวไปกินยาไป เดินเที่ยวแป๊บๆกลับโรงแรมเพราะไข้ขึ้น

คราวหน้าจะมีอะไรมาเล่าให้ฟังอีก ยังไม่รู้เลย
ติดตามกันต่อไปนะค่ะ 😘😘😘😘

---------------------------------
ื่องบังเอิญ

22/01/2024

การ์ดวีตัล ( Carte Vitale )

ประเทศฝรั่งเศสเป็นรัฐสวัสดิการ ที่มีระบบประกันสุขภาพให้ความคุ้มครองรักษาพยาบาล จัดว่าอยู่ในระดับแนวหน้าของกลุ่มประเทศในทวีปยุโรป

บัตรนี้เป็นประกันสุขภาพจากรัฐ สวัสดิการพื้นฐานที่ผู้อาศัยอยู่ประเทศฝรั่งเศสทุกคนต้องมีเพราะการไปหาหมอทุกครั้ง รวมทั้งตอนไปรับยาที่ร้านขายยาหลังจากหมอสั่งยา และต้องใช้บัตรนี้โดยที่เราไม่ต้องเสียเงินใดๆหรือถ้ามียาและการรักษาบางประเภทที่วีตัลไม่ครอบคลุมบัตรนี้ก็จะจ่ายให้ประมาณ70% (เราต้องจ่ายไปก่อนแล้วเงินจะเข้าบัญชีทีหลัง)

ต้องบอกก่อนว่าปกติคนที่จะได้บัตรนี้ต้องเป็นผู้ที่ถือวีซ่าระยะยาว(ทุกประเภท) ถึงจะสามารถทำการ์ดวีตัลและต้องอาศัยอยู่ในฝรั่งเศสตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปจึงจะยื่นขอได้ แต่กรณีเรานั้นเพราะต้องติดตามผู้จัดการใหญ่ที่ต้องมาทำงานเพื่อประเทศชาติในนครอิสตันบูลและพวกเราก็กลับฝรั่งเศสบ่อยมาก เลยลองยื่นเรื่องขอดู เพราะตัวเราจะตรวจร่างกายประจำปี ทำเรื่องพบหมอประจำบ้านและอยากเบิกยาบางตัว รวมถึงเชคและทำความสะอาดฟันด้วย ลองทำดูไม่เสียหลาย และสรุปเราทำได้ค่ะ 😊

🗓ระยะเวลา ตั้งแต่ยื่นเรื่องจนได้รับบัตรเราใช้เวลาเกือบ 5 เดือน เพราะของเราติดปัญหาเรื่องใบเกิด โดยที่ฝรั่งเศสต้องใช้ใบเกิดที่มีอายุไม่เกิน 6 เดือน นั่นคือ เราต้องทำ Process เอาใบเกิดไปประทับรับรองจากกรมการกงสุล แปลโดยนักแปลที่ได้การรับรอง โน้นนี่นั่น!!! เราเลยถามว่านั่นเป็นเอกสารชุดเดียวกันกับที่เราให้กับสถานทูตฝรั่งเศสนี่ ทำไมใช้อันนั้นได้ไหม ? เจ้าหน้าที่คงอืมระอาเรามาก 555 เค้าตอบ email กลับมาว่าได้! แต่สถานทูตฝรั่งเศสที่ไทยต้องประทับตรารับรองและ ลงวันที่ในเอกสารแล้วส่ง email กลับมา!
เราเลยขอให้ทางสถานทูตช่วยดำเนินการให้ 2 วันเสร็จ!

การใช้การ์ด
1. หลังจากได้บัตรแล้วเราต้องนำบัตรไปร้านขายยาค่ะ ร้านไหนก็ได้ให้เค้า register บัตรเราก่อนใช้งาน
2. ใช่งานได้ปกติ โดยบัตรจะมีวันหมดอายุ แต่หากบัตรหมดอายุ เราไม่ต้องทำใหม่ค่ะ บัตรจะต่ออายุตัวเองโดยอัตโนมัติ เมื่อเราไปร้านขายยา และ register อีกรอบ
3. ยาที่ต้องจ่ายเงิน ประชาชนจะสำรองจ่ายไปก่อนค่ะ แล้วเงินจะคืนเข้าบัญชีเราทีหลัง

อันนี้ก็ถือว่าเป็นความแตกต่างเรื่องสวัสดิการของประเทศฝรั่งเศสค่ะ ส่วนบ้านเรานั่นก็มีบัตรทอง บัตรประกันสังคม เราคิดว่าไม่น้อยหน้าค่ะ

ส่วนเรื่องการบริการนั้น ไม่ขอกล่าว 😂 เพราะยังไม่ได้ใช้บริการโรงพยาบาล แค่ไปพบหมอประจำบ้านซึ่งต้องนัดหมายก่อนทุกครั้งไม่สามารถไปพบได้เลย (โทรหาเพื่อขอ consult (télé médecin) ก็ต้องนัดเข้าระบบ และเสียตังค์) 😅

ยังมีทริป Albania และ Georgia ที่ยังไม่ได้เขียนเลย หลังจากสุขภาพแย่เมื่อปลายปี และหยุดปีใหม่ นาน ต้องเรียกความขยันกลับมาค่ะ เดี๋ยวจะเขียนเรื่องทริปที่ผ่านมานะค่ะ 😊
---------------------------------
ื่องบังเอิญ

15/01/2024

สวัสดีค่ะทุกคน!!
วันนี้ยังวนเวียนอยู่ในประเทศฝรั่งเศสค่ะ 😊 เลยขอมาเล่าเรื่องวัฒนธรรมและประเพณีนิดนึง

🤴 Galette (กาเลตต์) Gâteux des Rois’ (กาโต้ เดอ คัวส์) ขนมเค้กของพระราชา 👑

หนึ่งในประเพณีของชาวฝรั่งเศส ซึ่งจะตรงกับวันที่ 6 มกราคม ของทุกปี คือการรับประทานเค้ก ที่เรียกว่า Galette (กาเลตต์) หรือ บางพื้นที่ในฝรั่งเศสเรียกว่า Gâteux des Rois’ (กาโต้ เดอ คัวส์) หรือขนมเค้กของพระราชาค่ะ
เค้ก Galette (กาเลตต์) จะมีลักษณะเหมือนเค้กภายกรอบ ข้างในเป็นไส้อัลมอนด์ค่ะ

ขนมเค้กชนิดนี้มีความเป็นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 ที่มีการฉลองวันสมโภชพระคริสต์แสดงองค์ หรือ วัน วันเอพิฟานี (Epiphany) ซึ่งเป็นหนึ่งในวันสำคัญทางศาสนาคริสต์ตรงกับวันที่ 6 ม.ค.ของทุกปี (คริสตศาสนิกชนเชื่อว่าวันเอพิฟานีเป็นวันที่พระคริสต์ถือกำเนิดมาได้ 12 วันนับจากหลังคริสต์มาสโดยในคืนวันที่ 5 ม.ค.จะถือว่าเป็นวันครบ 12 คืน
โดยตำนานเล่าขานว่า ในวันเอพิฟานี มี 3 นักปราชญ์ (บ้างเรียกว่า Magi, Wise Men หรือ Three Kings) ออกเดินทางจากแดนไกลเพื่อติดตามดวงดาวไปยังเมืองเบธเลเฮม (Bethlehem) สถานที่ประสูติของพระเยซูแห่งนาซาเรธ (Jesus of Nazareth) เมื่อเดินทางถึง เหล่านักปราชญ์ต่างประจักษ์ว่าพระเยซูเป็นบุตรของพระเจ้า จึงได้มอบของล้ำค่า 3 อย่างคือ ทองคำ (Gold) สื่อถึงความคู่ควรในตำแหน่งกษัตริย์ กำยาน (Frankincense) เพื่อถวายบูชาพระเจ้าและ มดยอบ (Myrrh) เพื่อสื่อถึงความเป็นมนุษย์แท้

จึงเป็นที่มาของประเพณีของชาวยุโรปจะฉลองเทศกาลนี้กับครอบครัวและเพื่อนด้วยการร่วมกันทานขนมเค้ก Galette (กาเลตต์) รวมถึงราชวงศ์ของฝรั่งเศสในสมัยโบราณด้วย เพราะตามหลักฐานพบว่า เค้ก Galette (กาเลตต์) นี้ มีจัดขึ้นโต๊ะเสวยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 และประเพณียังคงได้รับการถ่ายทอดและสืบสานจากรุ่นสู่รุ่นในประเทศฝรั่งเศส และบางประเทศในยุโรปมาจนถึงปัจจุบัน

ธรรมเนียมการรับประทานขนมเค้กของราชานี้ก็แสนน่ารักค่ะ เพราะจะต้องแบ่งกันรับประทานในหมู่สมาชิกในครอบครัว หรือในกลุ่มเพื่อน ในช่วงวันเทศกาลนี้ เริ่มจากให้สมาชิกในครอบครัวมานั่งล้อมวงกันโดยคุณแม่เป็นผู้ตัดแบ่งกาเล็ตต์ เดส์ คัวส์ ให้แก่ทุกๆ คนโดยให้สมาชิกคนที่อายุน้อยที่สุดลงไปซ่อนตัวอยู่ใต้โต๊ะ และสุ่มชี้ว่าขนมเค้ก Galette (กาเลตต์) ชิ้นใดจะเป็นของใคร และเซอร์ไพรส์ 1 อย่าง คือ เมื่อทุกคนทานเข้าไปแล้ว จะมี 1 สิ่งซ่อนอยู่ในไส้ (ภาษาฝรั่งเศสเรียกของที่ซ่อนอยู่ในเค้กนี้ว่า Fève) ซึ่งในสมัยโบราณนั้นเซอร์ไพรส์ที่ซ่อนอยู่มักจะเป็นตุ๊กตาเซรามิกขนาดจิ๋ว 1 ชิ้น หรือเป็นหินสี หรืออาจจะเป็นอัญมณี ซึ่งขึ้นอยู่กับฐานะของครอบครัวนั้นๆ หากใครพบว่าขนมชิ้นของตนเองมีเซอร์ไพรส์ซ่อนอยู่ในไส้ขนมจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระราชาของครอบครัวตลอดวันนั้น จึงเป็นที่มาของขนมเค้กของพระราชา 🥳🤴

เราทานขนกเค้กนี้ 4 ครั้ง ใน 2 วันค่ะ เพราะมันคือเทศกาลพอดีและไปบ้านไหนเค้าก็รับรองด้วยเค้กนี้ตลอด แต่เราไม่ได้เป็นพระราชาสักรอบ 😂
เดี๋ยวปีหน้าเอาใหม่! 😅

ปล. ราคาเค้ก Galette (กาเลตต์) หรือ บางพื้นที่ในฝรั่งเศสเรียกว่า Gâteux des Rois’ (กาโต้ เดอ คัวส์) ปีนี้ ราคาแรงมาก ตั้งแต่ 25€-65€ แล้วแต่ร้านและแบรนด์ขนมเลยค่ะ 🥮 แต่มีหลายครอบครัวก็อบเค้กเองนะค่ะ เช่นบ้านเรา (เราไม่ได้ทำแต่น้องสาวทำ 🥺 ซึ่งคาดว่าปีหน้าเราต้องทำค่ะ 😂😂😂)