NATURE CAMP

NATURE CAMP Nature Camp เริ่มขึ้นจากความรักของพ่อแม่ที่อยากให้ลูกๆ ได้เที่ยว-เล่น-เรียนรู้รอบด้าน เรียนรู้ธรรมชาติ ตามวิถีธรรมชาติ
(22)

💖บอกรักคนเฝ้าป่า💚กิจกรรมดีดีที่พาไปสัมผัสรับรู้ การทำงานของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ในพื้นที่ป่ามรดกโลกทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญ...
16/08/2024

💖บอกรักคนเฝ้าป่า💚
กิจกรรมดีดีที่พาไปสัมผัสรับรู้ การทำงานของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ในพื้นที่ป่ามรดกโลกทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี
⛺️กิจกรรมครั้งที่ 14 นี้ NATURE CAMP จะจัดกิจกรรมไปช่วงวันที่ 28-29-30 ธันวาคม 2567 ในพื้นที่ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ทางด้านอำเภอทองผาภูมิ มีสภาพเป็นป่าดงดิบ และป่าเบญจพรรณที่อุดมสมบูรณ์ 🐾พบเห็นร่องรอยสัตว์ป่าได้มากมายหลายชนิด พื้นที่ป่าบริเวณนี้เคยมีคดีล่าเสือดำ🐆 ที่เป็นข่าวใหญ่ข่าวดังไปทั่วประเทศ
📌📌📌สนใจไปร่วมกิจกรรม บอกรักคนเฝ้าป่า ครั้งที่ 14 (ทุ่งใหญ่นเรศวร-ทินวย-ห้วยกะชิ) ติดต่อสอบถาม และสมัครกับแอดมินเพจมาได้เลยครับ
#พาลูกเที่ยวป่า #เดินป่ามรดกโลก #นอนเต็นท์

📣อียิปต์ หลุดจอง ว่าง 1 ที่​ด่วน  ‼️จัดเป็นรอบสุดท้าย🇪🇬 ประเทศอียิปต์ ช่วงปลายปีอากาศกำลังเริ่มเย็นสบาย ท่านใดสนใจเรื่อง...
16/08/2024

📣อียิปต์ หลุดจอง ว่าง 1 ที่​ด่วน ‼️
จัดเป็นรอบสุดท้าย
🇪🇬 ประเทศอียิปต์ ช่วงปลายปีอากาศกำลังเริ่มเย็นสบาย ท่านใดสนใจเรื่องราวของอียิปต์ ประเทศที่เต็มไปด้วยอารยธรรมไอยคุปต์ ⛵️มีความงามให้ชื่นชมมากมาย ตั้งแต่ต้นแม่น้ำไนล์ที่เมืองอัสวาน ล่องตามแม่น้ำไนล์ไปถึงเมืองลุกซอร์ ชมสมบัติล้ำค่าของฟาโรห์ในกรุงไคโร พิพิธภัณฑ์มัมมี่ และเมืองในตำนานริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อเล็กซานเดรีย

📌 เดินทาง 4-14 ธ.ค. 67
สอบถามรายละเอียดได้เลยครับ
✅️ราคาพิเศษ​110,000​บาท​🎊
จากปกติ 123,000 บาท รวมตั๋วเครื่องบิน

🌳ธรรมชาติของป่าต้นน้ำกลองยังงดงามน่าสนใจ เราจะมีกิจกรรมไปสัมผัสเรียนรู้กันในช่วงวันที่ 5-6-7 ธันวาคม 2567 นี้ครับ🏞แม่น้ำ...
14/08/2024

🌳ธรรมชาติของป่าต้นน้ำกลองยังงดงามน่าสนใจ เราจะมีกิจกรรมไปสัมผัสเรียนรู้กันในช่วงวันที่ 5-6-7 ธันวาคม 2567 นี้ครับ
🏞แม่น้ำแม่กลอง เป็นแม่น้ำสายสำคัญสายหนึ่งของประเทศ มีต้นน้ำสายสำคัญคือ แม่น้ำแควใหญ่อยู่ในพื้นที่ป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จังหวัดตาก ไหลลัดเลาะผ่านผืนป่าตะวันตกของไทย ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ผ่าน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี มาบรรจบกับแม่น้ำแควน้อยซึ่งมีต้นน้ำอยู่ในเขต อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เป็นพื้นที่ป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก รวมเป็นแม่น้ำแม่กลอง ไหลผ่านจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม ไปลงทะเลอ่าวไทยที่ ดอนหอยหลอด นำความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าตะวันตกของประเทศมาสู่ทะเลอ่าวไทย
🛟น้ำตกทีลอซู เป็นน้ำตกในลำห้วยกล้อท้อ เป็นลำน้ำสาขาสายหนึ่งของต้นน้ำแม่กลอง-แควใหญ่ เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของไทย ตัวน้ำตกโดยรวม กว้างประมาณ 500 เมตร ไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ มีความสูงประมาณ 250 เมตร
🛻การเดินทางเข้าไปที่นี่ต้องใช้เวลานาน เพราะระยะทางไกลจากกรุงเทพฯ มากๆ และเพื่อความสะดวกในการเดินทางเข้าออกน้ำตกทีลอซู ซึ่งอยู่ในป่าลึก จึงเดินทางไปในช่วงต้นฤดูหนาว ซึ่งถนนเข้าออกได้สะดวกกว่าช่วงปลายฤดูฝน รวมทั้งน้ำตกยังมีน้ำปริมาณมากพอสมควร สวยงามกว่าช่วงปลายฤดูหนาว NATURE CAMPจึงจัดกิจกรรมไปในช่วงต้นเดือนธันวาคม เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น นอกจากน้ำตกทีลอซูแล้ว เรายังพาไปท่องเที่ยวเรียนรู้สถานที่อื่นๆ ด้วย เช่น ถ้ำสีฟ้า น้ำตกพาเจริญ ดอยหัวหมด เป็นต้น
📌📌📌สนใจไปร่วมทริปร่วมกิจกรรม สอบถามรายละเอียดและสมัครกับแอดมินเพจได้เลยครับ
#ท่องเที่ยวเรียนรู้ธรรมชาติกับเพจNATURECAMP #พาลูกเที่ยว #น้ำตกทีลอซู #ล่องแก่งอุ้มผาง

🇲🇻ทริปทะเลมัลดีฟส์ ช่วงหยุดยาววันแม่แห่งชาติที่ผ่านมา (9-12 ส.ค.67) เราได้ทำกิจกรรมหลายอย่าง ได้พบเจอสัตว์ทะเลมากมาย มีท...
13/08/2024

🇲🇻ทริปทะเลมัลดีฟส์ ช่วงหยุดยาววันแม่แห่งชาติที่ผ่านมา (9-12 ส.ค.67) เราได้ทำกิจกรรมหลายอย่าง ได้พบเจอสัตว์ทะเลมากมาย มีทั้งเต่าทะเล ปลาโลมา🐬 ปลาฉลามทราย🦈 ปลากระเบน ปลายูนิคอร์น ปลาการ์ตูน 🐠และปลาอื่นๆ อีกหลายชนิด
🛶จากกิจกรรมตกปลาแบบชาวมัลดีฟส์ เราได้รับรู้ว่า ปลาที่ตกได้จับได้ ในบริเวณพื้นที่รอบๆ เกาะที่เราพักนั้น ❌️ห้ามซื้อขาย แต่เอามาทำอาหารรับประทานเองได้ ส่วนปลาที่มีขายในร้านอาหารต่างๆ จะเป็นปลาแช่แข็งซึ่งซื้อมาจากตลาด การจับปลาหรือการทำประมงเพื่อการค้า ต้องทำนอกพื้นที่ที่กำหนดไว้ ดังนั้นถ้าจะกินปลาสดๆ ต้องตกปลาเอง ซึ่งเป็นการอนุรักษ์พันธุ์ปลาที่อยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของประเทศมัลดีฟส์
🏝ชายหาด และน้ำทะเลของมัลดีฟส์ สวยงามประทับใจมากๆ การเกิดขึ้นของหมู่เกาะมัลดีฟส์ นั้นน่าสนใจแตกต่างจากเกาะในประเทศไทยของเรา
📌📌📌เรายังมีกิจกรรมไปท่องเที่ยวเรียนรู้ธรรมชาติที่มัลดีฟส์ อีก 2 ครั้ง ในช่วงปิดเทอมเดือนตุลาคม 2567 นี้ แบบ 4 วัน 3 คืน พักโรงแรมบนเกาะ Local ซึ่งค่าใช้จ่ายต่างๆ จะมีราคาถูกกว่ารีสอร์ทบนเกาะเอกชน
● 09-12 ตุลาคม 2567
● 12-15 ตุลาคม 2567
● 19-22 ตุลาคม 2567
สนใจสอบถามและสมัครกับแอดมินเพจ มาได้เลยครับ
ิจกรรมท่องเที่ยวเรียนรู้ธรรมชาติสำหรับทุกคน

เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒...
11/08/2024

เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
วันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๗
ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๙๒ พรรษา

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
ผู้ดูแลและสมาชิกเพจ NATURE CAMP

เพราะโลกกว้าง การเรียนรู้จึงไม่มีที่สิ้นสุด  📣ทริปอียิปต์ หลุดจอง  2 ที่​สมัครด่วน  ‼️ (ตัดสินใจช้า วีซ่าจะไม่ทันครับ🙂)จ...
08/08/2024

เพราะโลกกว้าง การเรียนรู้จึงไม่มีที่สิ้นสุด

📣ทริปอียิปต์ หลุดจอง 2 ที่​สมัครด่วน ‼️
(ตัดสินใจช้า วีซ่าจะไม่ทันครับ🙂)
จัดเป็นรอบสุดท้ายสำหรับการเรียนรู้ประเทศอียิปต์

🇪🇬 ประเทศอียิปต์ ช่วงปลายปีอากาศกำลังเริ่มเย็นสบาย ท่านใดสนใจเรื่องราวของอียิปต์ ประเทศที่เต็มไปด้วยอารยธรรมไอยคุปต์ ⛵️มีความงามให้ชื่นชมมากมาย ตั้งแต่ต้นแม่น้ำไนล์ที่เมืองอัสวาน ล่องตามแม่น้ำไนล์ไปถึงเมืองลุกซอร์ ชมสมบัติล้ำค่าของฟาโรห์ในกรุงไคโร พิพิธภัณฑ์มัมมี่ และเมืองในตำนานริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อเล็กซานเดรีย

📌ทริปครั้งนี้ เดินทาง 4-14 ธ.ค. 2567 ใครสนใจจะไปท่องเที่ยวเรียนรู้ด้วยกัน สอบถามรายละเอียดได้เลยครับ
✅️✅️ราคาพิเศษ​110,000​บาท​🎊
จากปกติ 123,000 บาท รวมตั๋วเครื่องบิน✈️
สอบถามข้อมูล Line:
ทริปนี้รับเพียง 12 ท่านเท่านั้น
ัวร์เพื่อการเรียนรู้สำหรับทุกคน

บันทึกแห่งบรรพกาล : รอยย่ำ และทางเดินเอามาฝาก น้องๆแฟนพันธุ์แท้ไดโนเสาร์ ครับ
07/08/2024

บันทึกแห่งบรรพกาล : รอยย่ำ และทางเดิน
เอามาฝาก น้องๆแฟนพันธุ์แท้ไดโนเสาร์ ครับ

บันทึกแห่งบรรพกาล : รอยย่ำ และทางเดิน
ไปผจญภัยตามหารอยตีนและรอยทางเดินของไดโนเสาร์ผู้สร้างตำนานรอยประทับทั่วทั้งเมืองไทย จากบันทึกร่องรอยการเดินทางของเหล่าไดโนเสาร์และสัตว์มีกระดูกสันหลังโบราณหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งได้ทิ้งรอยตีนและรอยทางเดินที่ไม่อาจบอกได้ว่าเจ้าของรอยตีนที่พบนั้นเป็นสายพันธุ์ใด แต่ร่องรอยเหล่านี้กลับใช้ถอดรหัสข้อมูลแฝงพฤติกรรมของเจ้าของรอยตีนนั้นได้เป็นอย่างดี
ติดตามอ่านทั้งหมดนี้ได้ใน คู่มือผู้เล่าเรื่องธรณี บันทึกแห่งบรรพกาล : รอยย่ำ และทางเดิน
คลิกลิงก์ 👉🏻 https://anyflip.com/kera/cocj/ หรือสแกน Qr Code🔍 อ่านได้เลย
——
#ซากดึกดำบรรพ์ #รอยตีน #รอยชีวิน #กรมทรัพยากรธรณี

สายเรียนรู้ธรรมชาติห้ามพลาด📌📌⛰️ดอยผ้าห่มปก ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่  เดินทาง 2-5 ม.ค.68 4 วัน 3คืน ค่าสมัครคนละ  6,500 บ. ...
07/08/2024

สายเรียนรู้ธรรมชาติห้ามพลาด📌📌
⛰️ดอยผ้าห่มปก ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่
เดินทาง 2-5 ม.ค.68
4 วัน 3คืน ค่าสมัครคนละ 6,500 บ.

ไปเรียนรู้เรื่องราวของป่าเมฆบนยอดดอยผ้าห่มปก ยอดดอยที่สูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศ ธรรมชาติของดอยแห่งนี้จะคล้ายๆ ดอยอินทนนท์ แต่ผู้คนเข้าถึงได้ยากกว่า ถูกรบกวนน้อยกว่า และอยู่ทางทิศเหนือมากกว่า ที่นี่จึงมีโอกาสพบเห็นสัตว์ขนาดเล็กๆ พวกนกกับแมลง หลายชนิดที่แตกต่างจากดอยอินทนนท์ รวมทั้งชนเผ่าต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดอยผ้าห่มปก-ดอยอ่างขาง
📌สนใจสอบถามรายละเอียดได้ครับ
Line: หรือทาง inbox

ัวร์เพื่อการเรียนรู้สำหรับเด็กและครอบครัว

🦌ทริปครอบครัวรักธรรมชาติป่ามรดกโลกห้วยขาแข้ง (3-4 ส.ค.67) กลับมากันแล้วครับ ได้พบเห็นสัตว์ป่าหลายชนิด มีทั้งละมั่ง เนื้อ...
05/08/2024

🦌ทริปครอบครัวรักธรรมชาติป่ามรดกโลกห้วยขาแข้ง (3-4 ส.ค.67) กลับมากันแล้วครับ ได้พบเห็นสัตว์ป่าหลายชนิด มีทั้งละมั่ง เนื้อทราย หมูป่า🐗 ลิง แย้ และนกหลายชนิด
ได้รับรู้การทำงานของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า นักวิจัยสัตว์ป่า🐅 ตลอดจนชีวิตการทำงานของคุณสืบ นาคะเสถียร ผู้ทำงานเพื่อธรรมชาติทั้งชีวิตและจิตใจ💖
ิจกรรมท่องเที่ยวเรียนรู้ธรรมชาติสำหรับทุกคนในครอบครัว

✴️ เปิดรับสมัครแล้ว✴️ ว่าง 5 ท่าน 🇹🇷ตุรเคีย มหานครโบราณ 7D5N🇹🇷 (เอเฟซุส - ปามุคคาเล - เฮียราโปลิส - คอนย่า -เกอเรเม่ - ค...
01/08/2024

✴️ เปิดรับสมัครแล้ว✴️ ว่าง 5 ท่าน
🇹🇷ตุรเคีย มหานครโบราณ 7D5N🇹🇷
(เอเฟซุส - ปามุคคาเล - เฮียราโปลิส - คอนย่า -เกอเรเม่ - คัปปาโดเกีย - อิสตันบูล )
ค่าสมัครทริปตุรเคีย 🇹🇷
● คนละ 85,000 บาท
รวมตั๋วเครื่องเครื่องบิน ไป-กลับไทย
และ✈️ในประเทศ 2 เที่ยวบิน
● คนละ 55,000 บาท รวม✈️ในประเทศ 2 เที่ยวบิน
(ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ)

‼️(ไม่เข้าโรงงาน ไม่ลง Shop ขายพรม ขายเครื่องหนัง เครื่องประดับ เครื่องปั้นดินเผา)‼️

✈️เดินทาง 1-7 พ.ค. 68 ** สายการบิน Qatar✈️

ไปเรียนรู้มหาอาณาจักรโบราณอันยิ่งใหญ่ บนแผ่นดินของ 2 ทวีป ประเทศที่มีผู้อยู่อาศัยมาตั้งแต่ยุคหินเก่า มีอารยธรรมยาวนาน มีธรรมชาติที่โดดเด่น เป็นดินแดนแห่งประวัติศาสตร์โลก และยังเป็นดินแดนต้นกำเนิดของดอกทิวลิป ดอกไม้หลากสีที่แพร่หลายไปทั่วโลก

สนใจรายละเอียด สอบถามทาง inbox เพจ
หรือ Line: ได้เลยครับ

● Tourism license No : 21/00802
ัวร์เพื่อการเรียนรู้สำหรับทุกวัย

🗻ภาระกิจพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ เราเดินขึ้นเส้นทางยอดนิยม (Yoshida Trail) สมาชิกถึงยอดปากปล่องเรียบร้อยแล้ว  เก็บภาพสวยๆมาฝา...
29/07/2024

🗻ภาระกิจพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ เราเดินขึ้นเส้นทางยอดนิยม (Yoshida Trail) สมาชิกถึงยอดปากปล่องเรียบร้อยแล้ว เก็บภาพสวยๆมาฝากครับ
เดินขึ้น 29-30 ก.ค. 2567

ัวร์เพื่อการเรียนรู้สำหรับเด็กและครอบครัว

🍃"ไปเที่ยวธานี​ กินข้าวเปิ๊บมาแล้ว อร่อยมากครับ"🌾ทริปเที่ยวเรียนรู้ธรรมชาติกับประวัติศาสตร์ ที่เมืองมรดกโลกกำแพงเพชร - ส...
29/07/2024

🍃"ไปเที่ยวธานี​ กินข้าวเปิ๊บมาแล้ว อร่อยมากครับ"🌾
ทริปเที่ยวเรียนรู้ธรรมชาติกับประวัติศาสตร์ ที่เมืองมรดกโลกกำแพงเพชร - สุโขทัย - ศรีสัชนาลัย ไปสัมผัสวิถีชีวิตที่บ้านนาต้นจั่นกันมาแล้ว ได้ความรู้ อิ่มกาย อิ่มใจกับวีถีชีวิตที่น่ารัก
วันที่ 27-28-29 กรกฎาคม 2567

ิจกรรมท่องเที่ยวเรียนรู้สำหรับทุกคน #มรดกโลก #กำแพงเพชร #สุโขทัย #ศรีสัชนาลัย #บ้านนาต้นจั่น

🐅 29 กรกฎาคม 2567🌏 Global Tiger Day🐅 International Tiger Day🌏 วันอนุรักษ์เสือโคร่งโลก📌จุดเริ่มต้นของวันอนุรักษ์เสือโคร่ง...
29/07/2024

🐅 29 กรกฎาคม 2567
🌏 Global Tiger Day
🐅 International Tiger Day
🌏 วันอนุรักษ์เสือโคร่งโลก

📌จุดเริ่มต้นของวันอนุรักษ์เสือโคร่งโลก มาจากไทยได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำด้านเสือโคร่ง ณ นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย เมื่อปี 2553 ประกอบด้วยประเทศที่เป็นแหล่งอาศัยของเสือโคร่ง 13 ประเทศในทวีปเอเชีย ได้แก่ รัสเซีย จีน อินเดีย เนปาล ภูฏาน บังกลาเทศ เมียนมา ลาว เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย และอินโดนีเซีย โดยร่วมกันลงนามในปฏิญญาเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เป้าหมายคืออนุรักษ์ฟื้นฟูประชากรเสือโคร่งที่อยู่ในขั้นวิกฤตเสี่ยงสูญพันธุ์ จากเสือโคร่งที่มีอยู่ 9 ชนิดย่อย ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว 3 ชนิดย่อย ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 6 ชนิดย่อย โดยคาดว่ามีจำนวนรวมกันทั้งหมด เหลืออยู่เพียง 3,500 ตัวทั่วโลกเท่านั้น

🇹🇭 กลับมาที่บ้านเรา ข้อมูลจากหนังสือ “เสือ Now or Forever” เขียนโดย ดร.ศักดิ์สิทธิ์ ซิ้มเจริญ ดร.อัจฉรา ซิ้มเจริญ และนายสมโภชน์ ดวงจันทราศิริ ถ่ายภาพโดย ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ ระบุว่า ทุกวันนี้ประชากรเสือโคร่งกลุ่มใหญ่ที่สุดอาศัยอยู่ในผืนป่าตะวันตก ครอบคลุมพื้นที่ 18,727 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยพื้นที่อนุรักษ์ 17 แห่ง ซึ่งแบ่งเป็นพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 6 แห่ง คือ ทุ่งใหญ่นเรศวรตะวันตกและตะวันออก ห้วยขาแข้ง เขาสนามเพรียง อุ้มผาง สลักพระ และอุทยานแห่งชาติ 11 แห่ง ได้แก่ คลองลาน แม่วงก์ คลองวังเจ้า เขื่อนศรีนครินทร์ เฉลิมรัตนโกสินทร์ พุเตย เอราวัณ ไทรโยค เขาแหลม ลำคลองงู ทองผาภูมิ

ดร.ศักดิ์สิทธิ์ ซิ้มเจริญ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เล่าว่า จากการสำรวจเมื่อปี 2553 พบว่ามีเสือโคร่งอาศัยอยู่ในธรรมชาติทั้งหมดประมาณ 200 ตัว ถือเป็นอันดับหนึ่งในอาเซียน โดยเฉพาะเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งนับเป็นแหล่งที่มีปริมาณเสือโคร่งหนาแน่นที่สุดถึง 80 ตัว

“กว่า 90% เป็นเสือโคร่งพันธุ์อินโดจีน ส่วนน้อยคือเสือโคร่งมลายู อาศัยอยู่ทางใต้คอคอดกระจรดมาเลเซีย ประชากรเสือจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงขึ้นอยู่กับปัจจัยเสี่ยงด้านต่างๆ ทั้งการล่าและการรุกรานแหล่งที่อยู่อาศัยจากมนุษย์ ที่น่าเป็นห่วงที่สุดขณะนี้คือ ผืนป่าลดลงทุกปีๆ จากการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ชาวบ้านรุกล้ำทำเป็นที่ดินทำกิน เมื่อป่าถูกรุกราน สัตว์ป่าก็พลอยถูกล่าไปด้วย เหยื่อสำคัญของเสือโคร่ง ไม่ว่าวัวแดง ควายป่า หมูป่า กวาง เหลือน้อยลงทุกที”

เป็นระยะเวลากว่าสิบปีแล้วที่คณะผู้ร่วมวิจัยนิเวศวิทยาเสือโคร่ง สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ ต้องออกลาดตระเวนไปในป่าลึก ขึ้นเขาลงห้วย สืบเสาะติดตามรอย เพื่อเก็บข้อมูลนับจำนวนเสือโคร่ง พร้อมเครื่องมือสำคัญ ตั้งแต่ติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพอัตโนมัติ วางกับดักจับเสือมาติดตั้งปลอกคอวิทยุแบบสัญญาณดาวเทียมจีพีเอส เพื่อวิเคราะห์ขนาดพื้นที่หากิน การล่า การกินอาหาร และการดำรงชีวิตในแต่ละวันอย่างถูกต้องแม่นยำ จนงานวิจัยเรื่องเสือโคร่งของไทยประสบความสำเร็จได้รับการยอมรับไปทั่วโลก
🐅🐅🐅🐅🐅🐅🐅🐅🐅🐅🐅🐅

🛻Game Drive กิจกรรมนั่งรถส่องสัตว์ คล้ายๆ กับที่เขาใหญ่ แต่ที่แอฟริกาใต้🇿🇦 เราจะเห็นสัตว์ป่าได้ง่ายกว่า เนื่องจากสภาพป่า...
29/07/2024

🛻Game Drive กิจกรรมนั่งรถส่องสัตว์ คล้ายๆ กับที่เขาใหญ่ แต่ที่แอฟริกาใต้🇿🇦 เราจะเห็นสัตว์ป่าได้ง่ายกว่า เนื่องจากสภาพป่าที่นี่เป็นทุ่งหญ้าสะวันนา โปร่งโล่งมองเห็นได้ไกล ต่างจากป่าเขาใหญ่ของไทย🇹🇭 ที่เป็นป่าดงดิบ มีต้นไม้ขึ้นเป็นดงหนาทึบครับ
🛻ทริปไปแอฟริกาใต้ครั้งนี้ เราออกไปทำกิจกรรม Game Drive 2 รอบ คือรอบเย็น กับรอบเช้า ได้พบเห็นสัตว์ป่ามากมายหลายชนิด เช่น ช้าง สิงโต แรดขาว ฮิปโป จระเข้ ยีราฟ หมูป่า ม้าลาย ไฮยีน่า วิลเดอร์บีสต์ (wildebeest) กวางแอนทีโรป อิมพารา (impala) เจมส์บ๊อก (Gemsbok) สปริงบ็อก (springbok) วอเตอร์บัค (waterbuck) คูดูใหญ่ (greater kudu) และนกต่างๆ อีกหลายชนิด
🦏การได้พบเห็นสัตว์ป่าตามธรรมชาติที่เขาอาศัยใช้ชีวิตอยู่จริงๆ เป็นภาพที่งดงามประทับใจมากมายเลยครับ
ิจกรรมท่องเที่ยวเรีบนรู้รอบด้านสำหรับทุกคน
🐘🦏🦒🦓🦌🐗🐘🦏🦒🦓🦌

เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๗๒ พรรษาข้าพระพุทธเจ้า ขอพร...
28/07/2024

เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗
ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๗๒ พรรษา
ข้าพระพุทธเจ้า ขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล ขอพระองค์ทรงพระเจริญ พระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง
พระบารมีแผ่ไพศาล สถิตเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยสืบไป
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า ผู้ดูแลเพจ และสมาชิกเพจ NATURE CAMP
#28กรกฎาคมวันเฉลิมพระชนมพรรษา

แอฟริกาใต้ South Africa 9D6N                     ✈️ 20-27 ก.ค. 67 22 ก.ค. 🇿🇦วันที่สามของการเดินทาง เรายังอยู่กันที่เมือง...
26/07/2024

แอฟริกาใต้ South Africa 9D6N
✈️ 20-27 ก.ค. 67
22 ก.ค. 🇿🇦วันที่สามของการเดินทาง เรายังอยู่กันที่เมือง Johannesburg หลังจากพักผ่อนหลับสบาย
วันนี้ตื่นแต่เช้าตรู่ เพื่อขึ้นบอลลูนชมทุ่งหญ้าสะวันนา กว้างไกลใหญ่ ตื่นเต้นกับฝูงสัตว์หลายชนิด ที่ออกหากินในยามเช้า

➡️ ขึ้นบอลลูนที่นี่ กำหนดอายุต่ำกว่า 8 ปี ผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว ที่มีความเสี่ยงไม่สามารถขึ้นได้

ัวร์เพื่อทุกคนในครอบครัว
#พาลูกเรียนรู้โลกกว้าง

🌎ทริปธรณีสัญจรบึงกาฬ หินสามวาฬ ถ้ำนาคา น้ำตกถ้ำพระ วัดภูทอก (20-22 ก.ค. 2567) ครั้งนี้ ไปเรียนรู้กันทั้ง 3 สาย คือ● สายว...
25/07/2024

🌎ทริปธรณีสัญจรบึงกาฬ หินสามวาฬ ถ้ำนาคา น้ำตกถ้ำพระ วัดภูทอก (20-22 ก.ค. 2567) ครั้งนี้ ไปเรียนรู้กันทั้ง 3 สาย คือ
● สายวิทยาศาสตร์ กับนักธรณีวิทยา
● สายประวัติศาสตร์ กับนักโบราณคดี
● สายมู กับใคร... ต้องสอบถามผู้ที่ไปร่วมทริปกันเองนะครับ

💖เป็นทริปที่ได้ทั้งความรู้ ได้ความสนุก ได้ความประทับใจ กลับไปอีกเช่นเคยครับ
สำหรับทริปธรณีสัญจรบึงกาฬ เราจัดกิจกรรมไปเพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ครั้งต่อไปจะจัดขึ้นในช่วงประมาณเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม 2568
📣ใครสนใจไปร่วมทริป ร่วมกิจกรรม ติดตาม สอบถาม และสมัครมาล่วงหน้าได้เลยครับ
ิจกรรมท่องเที่ยวเรียนรู้รอบด้าน_ได้ประสบการณ์รอบตัว

 #โลกที่ไร้หิ่งห้อย เมื่อธรรมชาติกำลังสูญเสียแสงจากสิ่งมีชีวิตที่หลายคนกล่าวว่า ‘น่าทึ่งราวกับเวทมนต์’ สิ่งมีชีวิตตัวเล็...
24/07/2024

#โลกที่ไร้หิ่งห้อย เมื่อธรรมชาติกำลังสูญเสียแสงจากสิ่งมีชีวิตที่หลายคนกล่าวว่า ‘น่าทึ่งราวกับเวทมนต์’ สิ่งมีชีวิตตัวเล็กที่ส่องแสงได้เหล่านี้ค่อย ๆ ดับลงท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมและการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ
เมื่อประมาณ 26 ปีที่แล้ว Christopher Heckscher นักชีววิทยาสัตว์ป่าในขณะนั้นได้เข้าร่วมโครงการมรดกทางธรรมชาติและสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ของรัฐเดลาแวร์ สหรัฐอเมริกา โดยเข้าได้รับหน้าที่ในการตามหาหิ่งห้อยชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า ‘เบธานีบีช’ ซึ่งไม่มีใครพบเห็นมาตั้งแต่ปี 1968
หลายคนเชื่อว่าพวกมันสูญพันธุ์ไปแล้วจากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็น การสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย มลภาวะทางแสง และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ หรือจริง ๆ แล้วพวกมันแอบซ่อนอยู่โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นมาเป็นเวลานานได้?
น่าเศร้าที่ที่ปัจจุบัน Heckscher ที่ในปัจจุบันดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยเแห่งรัฐดลาแวร์แล้วก็ยังไม่พบหิ่งห้อยสายพันธุ์นี้ อย่างไรก็ตามเขายังไม่ยอมแพ้ซึ่งได้ตีพิมพ์รายงานทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับหิ่งห้อยมาเป็นเวลานานกว่า 20 ปี และได้ร่วมงานกับคณะผู้เชี่ยวชาญด้านหิ่งห้อยระดับนานาชาติหลายครั้ง
“เราต้องบอกว่ามีสัตว์มากกว่าครึ่งหนึ่งที่เราประเมินว่า ‘มีข้อมูลไม่เพียงพอ’” Candace Fallon นักชีววิทยาด้านการอนุรักษ์และหนึ่งในทีมวิเคราะห์ของสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) กล่าว “เรายังคงอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมข้อมูล”
ซึ่งข้อมูลของศาสตราจารย์ Heckscher สามารถเติมเต็มช่องว่างเหล่านั้นได้ โดยเฉพาะหิ่งห้อยที่ทาง IUCN ระบุว่าเป็นข้อมูลที่มีค่าอย่างยิ่ง ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ เข้าใจสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ นี้ได้มากกว่าเดิม
“มีไม่กี่คนที่ออกไปพื้นที่ชุ่มน้ำของรัฐนิวเจอร์ซีย์ในช่วงเวลาที่เหมาะสมของกลางคืน และสามารถแยกแยะหิ่งห้อยสายพันธุ์หนึ่งออกจากอีกสายพันธุ์หนึ่งได้” Sara Lewis ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยทัฟส์ และประธานกลุ่มหิ่งห้อยของ IUCN กล่าว
#หิ่งห้อยเปล่งแสงได้อย่างไร?
สิ่งมีชีวิตบนบกหลายสายพันธุ์สามารถสร้างแสงจากสารเคมีได้ รวมถึงเชื้อรา ไส้เดือน กิ้งกือ และริ้น แต่สัตว์ที่มีจำนวนมากที่สุดที่สร้างแสงได้คือ แมลงปีกแข็งที่มีอยู่กว่า 2,500 สายพันธุ์ แต่ในจำนวนนั้นเป็นหิ่งห้อยมากถึง 2,200 ชนิด
แสงของพวกเขามาจากอวัยวะในช่องท้องที่เรียกว่า ‘the lantern’ หรือตะเกียง ภายในอวัยวะนั้น ออกซิเจนจะทำปฏิกิริยากับโมเลกุลขนาดเล็กที่อัดแน่นไปด้วยพลังงานซึ่งมีชื่อว่า ‘ลูซิเฟอริน’ (luciferin) กลายเป็นแสงออกมา
“หิ่งห้อยสร้างปฏิกิริยาทางเคมีภายในร่างกายซึ่งทำให้สว่างขึ้น การผลิตแสงประเภทนี้เรียกว่าการเรืองแสงจากสิ่งมีชีวิต” รายงานจาก Scientific American ระบุ “เมื่ออกซิเจนรวมกับแคลเซียม อะดีโนซีนไตรฟอสเฟต (หรือที่รู้จักกันง่าย ๆ ว่า ATP) และสารเคมีลูซิเฟอรินซึ่งเป็นเอนไซม์เรืองแสง แสงก็ถูกสร้างขึ้น”
หิ่งห้อยสามารถควบคุมจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของปฏิกิริยาเคมีนี้ได้ หรือกล่าวอย่างง่ายว่าพวกมันสามารถควบคุมการเรืองแสงได้ ซึ่งเป็นการกระพริบในจังหวะต่าง ๆ โดยการเติมออกซิเจนให้กับสารเคมีอื่น ๆ อย่างที่เรารู้กันดี แมลงนั้นไม่มีปอด แต่สามารถขนส่งอากาศได้ผ่านท่อขนาดเล็กที่ซับซ้อนในร่างกาย ซึ่งทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่ซับซ้อนเกินกว่าจะมากล่าวในบทความนี้
อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์ทึ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้นในหิ่งห้อยตัวเล็ก ๆ นี้ ราวกับว่าพวกมันมีเวทมนต์ การสร้างแสงเหล่านี้มีขึ้นเพื่อหลายเหตุผลที่สำคัญ หิ่งห้อยตัวอ่อนจะเรืองแสงเพื่อเป็นสัญญาณเตือนถึงสิ่งที่อยู่รอบตัว ขณะที่หิ่งห้อยตัวเต็มวัยจะแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์
แต่โดยทั่วไปแล้วพวกมันจะเรืองแสงเพื่อระบุสมาชิกของสายพันธุ์ รวมถึงการระบุเพศด้วยเช่นกัน งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าหิ่งห้อยตัวเมียเลือกคู่ครองด้วยอัตราการกระพริบของแสงจากตัวผู้ และความเข้มของแสงสว่างวาบที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามมีหิ่งห้อยตัวเต็มวัยบางสายพันธุ์ที่ไม่มีการส่องแสงเลย แต่ใช้ฟีโรโมนในการหาคู่แทน และก็มีบางชนิดที่ใช้ทั้งคู่ ความแตกต่างเหล่านี้เองที่ศาสตราจารย์ Heckscher สังเกตเห็นและช่วยให้ระบุสายพันธุ์ของหิ่งห้อยได้ ทว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้กำลังค่อย ๆ ลดลงอย่างน่าใจหาย
#ตัวชี้วัดของธรรมชาติ
มีคำที่มักพูดกันว่า ‘ถ้าเจอหิ่งห้อยที่ไหน แสดงว่าที่นั่นมีความอุดมบูรณ์’ ซึ่งประโยคดังกล่าวยังไม่มีการยืนยันทางวิทยาศาสตร์มากนัก แต่หากลองพิจารณาวิถีชีวิตของหิ่งห้อยแล้ว ก็จะสามารถเห็นเหตุผลของคำพูดดังกล่าวได้
เนื่องจากตัวอ่อนของหิ่งห้อยนั้น ถือว่าเป็นนักล่าในห่วงโซ่อาหารเพราะพวกมันกินทั้งหอยทาก หนอน และแมลงตัวนิ่มอื่น ๆ ขณะที่หิ่งห้อยตัวเต็มวัยก็จะเปลี่ยนไปกินน้ำหวานหรือละอองเกสรของดอกไม้ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าการมีหิ่งห้อยอยู่ แสดงว่าอาหารของพวกมันมีอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ ซึ่งก็หมายความต่อไปว่าพื้นที่ดังกล่าวมีความอุดมสมบูรณ์เช่นเดียวกัน
“บ้างก็ปีนต้นไม้เพื่อล่าหอยทาก บางชนิดก็มีเหงือกเหมือนปลาที่ช่วยให้พวกมันดำน้ำหาหอยทากได้” พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ อเมริกา ระบุ “ในบางพื้นที่ของเอเชีย หอยทากขนาดใหญ่ที่เรียกว่าหอยเชอรี่ที่ทำลายพืชผลที่สำคัญเช่น ข้าว และตัวอ่อนของหิ่งห้อยก็ถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในวิธีที่มีศักยภาพในการควบคุมทางชีวภาพเพื่อปกป้องแหล่งอาหารของประเทศเหล่านั้น”
แต่อย่างที่กล่าวไปข้างต้น นักวิจัยพบว่าหิ่งห้อย 18 ชนิดกำลังใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งรวมถึงหิ่งห้อยเบธานีบีชที่ศาสตราจารย์ Heckscher ตามหา ที่ยิ่งไปกว่านั้นหิ่งห้อยทุกชนิดกำลังมีแนวโน้มลดลง แม้ว่าจะถูกระบุว่ายังมีข้อมูลไม่เพียงพอก็ตาม แต่เมื่อพิจารณาจากปัจจัยรอบข้างแล้วดูเหมือนว่าพวกมันกำลังถูกคุกคามอย่างหนัก
โดยมีปัญหาหลักมาจาก การสูญเสียและความเสื่อมโทรมของที่อยู่อาศัย มลภาวะทางแสง การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และการใช้ยาฆ่าแมลง ทำให้พวกมันลดจำนวนลงไปมาก จากสถานที่ที่เคยมีหิ่งห้อยอยู่อย่างหลากหลาย กลับกลายเป็นพื้นที่ที่ไม่มี ‘แสง’ อีกต่อไป
“เห็นได้ชัดเจนว่ามีความเป็นที่ต้องเพิ่มความพยายามในการอนุรักษ์หิ่งห้อย” Candace Fallon นักชีววิทยาอาวุโสด้านการอนุรักษ์และหัวหน้าโครงการหิ่งห้อยที่ Xerces Society และผู้เขียนรายงานกล่าว
#ทุกคนช่วยกันได้
แม้จะน่าเศร้าที่หิ่งห้อยกำลังลดลงเรื่อย ๆ และกลายเป็นเพียงความทรงจำของใครหลายคน อีกทั้งโครงการอนุรักษ์ต่าง ๆ ที่ระบุไว้ในรายงานทางวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นการฟื้นฟูแหล่งที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ รวมถึงการวิจัยต่าง ๆ ที่ดูจะเกินตัวของความสามารถในคนทั่วไป แต่รู้หรือไม่ มีขั้นตอนเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ใครก็สามารถทำได้
“โชคดีที่เราทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์หิ่งห้อยได้” Anna Walker เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง กล่าว “ไม่ว่าจะเป็นการปิดไฟในเวลากลางคืน การเข้าร่วมโครงการด้านวิทยาศาสตร์ชุมชน และเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับการลดลงของหิ่งห้อยเป็นขั้นตอนแรกที่ง่าย ๆ”
ขณะที่นักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ อย่าง Fallon เสริมว่ายินดีต้อนรับผู้คนทั่วไปที่ต้องการมีส่วนร่วม “ทุกคนสามารถมีบทบาทได้ ไม่ว่าจะเป็นการปกป้องแหล่งที่อยู่อาศัย ช่วยเหลือการวิจัยผ่านโปรแกรมวิทยาศาสตร์ชุมชน หรือจะเป็นนักเรียนที่ตัดสินใจค้นคว้าเกี่ยวกับหิ่งห้อย ไม่ก็ทำให้ผู้คนตระหนัก มีหลายวิธีที่เกิดขึ้นได้”
การลดการใช้ไฟในที่กลางแจ้ง ลดหรือไม่ใช้สารเคมีและยาฆ่าแมลงในสิ่งแวดล้อม เปลี่ยนไปใช้ปุ๋ยธรรมชาติ ปลูกพืชพื้นเมือง หญ้า พุ่มไม้ และต้นไม้ พร้อมกับรักษาความชุ่มชื้นให้กับธรรมชาติ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราทุกคนทำได้เพื่อหิ่งห้อยตัวเล็กเหล่านี้ให้กลับมามีโอกาสรอดยิ่งขึ้น
“ถ้าคุณจะให้ความสำคัญกับความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตบนโลก” Lewis บอก “มันไม่ใช่แค่การเห็นคุณค่าของสิงโต เสือ หรือหมีเท่านั้น ซึ่งหิ่งห้อยไม่ได้เป็นแค่แมลงที่น่าตื่นตาตื่นใจ แต่พวกมันยังเป็นแมลงที่สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความจำเป็นในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ”
“และโดยเฉพาะอย่างยิ่งความสำคัญของแมลง”
ที่มา
https://xerces.org/press/firefly-species-at-risk
https://www.amnh.org/explore/news-blogs/on-exhibit-posts/as-firefly-numbers-seem-to-slide-researchers-ponder-effects-on-ecosystems
https://www.smithsonianmag.com/science-nature/illuminating-science-behind-fireflies-180982112/
https://e360.yale.edu/features/fireflies-glow-worms-lightning-bugs-decline
https://www.scientificamerican.com/article/how-and-why-do-fireflies/
https://www.nationalgeographic.com/animals/invertebrates/facts/fireflies

โลกที่ไร้หิ่งห้อย เมื่อธรรมชาติกำลังสูญเสียแสงจากสิ่งมีชีวิตที่หลายคนกล่าวว่า ‘น่าทึ่งราวกับเวทมนต์’ สิ่งมีชีวิตตัวเล็กที่ส่องแสงได้เหล่านี้ค่อย ๆ ดับลงท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมและการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ
เมื่อประมาณ 26 ปีที่แล้ว Christopher Heckscher นักชีววิทยาสัตว์ป่าในขณะนั้นได้เข้าร่วมโครงการมรดกทางธรรมชาติและสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ของรัฐเดลาแวร์ สหรัฐอเมริกา โดยเข้าได้รับหน้าที่ในการตามหาหิ่งห้อยชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า ‘เบธานีบีช’ ซึ่งไม่มีใครพบเห็นมาตั้งแต่ปี 1968
หลายคนเชื่อว่าพวกมันสูญพันธุ์ไปแล้วจากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็น การสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย มลภาวะทางแสง และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ หรือจริง ๆ แล้วพวกมันแอบซ่อนอยู่โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นมาเป็นเวลานานได้?
น่าเศร้าที่ที่ปัจจุบัน Heckscher ที่ในปัจจุบันดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยเแห่งรัฐดลาแวร์แล้วก็ยังไม่พบหิ่งห้อยสายพันธุ์นี้ อย่างไรก็ตามเขายังไม่ยอมแพ้ซึ่งได้ตีพิมพ์รายงานทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับหิ่งห้อยมาเป็นเวลานานกว่า 20 ปี และได้ร่วมงานกับคณะผู้เชี่ยวชาญด้านหิ่งห้อนระดับนานาชาติหลายครั้ง
“เราต้องบอกว่าสัตว์มากกว่ามีสัตว์มากกว่าครึ่งหนึ่งที่เราประเมินว่า ‘มีข้อมูลไม่เพียงพอ’” Candace Fallon นักชีววิทยาด้านการอนุรักษ์และหนึ่งในทีมวิเคราะห์ของสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) กล่าว “เรายังคงอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมข้อมูล”
ซึ่งข้อมูลของศาสตราจารย์ Heckscher สามารถเติมเต็มช่องว่างเหล่านั้นได้ โดยเฉพาะหิ่งห้อยที่ทาง IUCN ระบุว่าเป็นข้อมูลที่มีค่าอย่างยิ่ง ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ เข้าใจสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ นี้ได้มากกว่าเดิม
“มีไม่กี่คนที่ออกไปพื้นที่ชุ่มน้ำของรัฐนิวเจอร์ซีย์ในช่วงเวลาที่เหมาะสมของกลางคืน และสามารถแยกแยะหิ่งห้อยสายพันธุ์หนึ่งออกจากอีกสายพันธุ์หนึ่งได้” Sara Lewis ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยทัฟส์ และประธานกลุ่มหิ่งห้อยของ IUCN กล่าว
#หิ่งห้อยเปล่งแสงได้อย่างไร?
สิ่งมีชีวิตบนบกหลายสายพันธุ์สามารถสร้างแสงจากสารเคมีได้ รวมถึงเชื้อรา ไส้เดือน กิ้งกือ และริ้น แต่สัตว์ที่มีจำนวนมากที่สุดที่สร้างแสงได้คือแมลงปีกแข็งที่มีอยู่กว่า 2,500 สายพันธุ์ แต่ในจำนวนนั้นเป็นหิ่งห้อยมากถึง 2,200 ชนิด
แสงของพวกเขามาจากอวัยวะในช่องท้องที่เรียกว่า ‘the lantern’ หรือตะเกียง ภายในอวัยวะนั้นอ ออกซิเจนจะทำปฏิกิริยากับโมเลกุลขนาดเล็กที่อัดแน่นไปด้วยพลังงานซึ่งมีชื่อว่า ‘ลูซิเฟอริน’ (luciferin) กลายเป็นแสงออกมา
“หิ่งห้อยสร้างปฏิกิริยาทางเคมีภายในร่างกายซึ่งทำให้สว่างขึ้น การผลิตแสงประเภทนี้เรียกว่าการเรืองแสงจากสิ่งมีชีวิต” รายงานจาก Scientific American ระบุ “เมื่ออกซิเจนรวมกับแคลเซียม อะดีโนซีนไตรฟอสเฟต (หรือที่รู้จักกันง่าย ๆ ว่า ATP) และสารเคมีลูซิเฟอรินซึ่งเป็นเอนไซม์เรืองแสง แสงก็ถูกสร้างขึ้น”
หิ่งห้อยสามารถควบคุมจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของปฏิกิริยาเคมีนี้ได้ หรือกล่าวอย่างง่ายว่าพวกมันสามารถควบคุมการเรืองแสงได้ ซึ่งเป็นการกระพริบในจังหวะต่าง ๆ โดยการเติมออกซิเจนให้กับสารเคมีอื่น ๆ อย่างที่เรารู้กันดี แมลงนั้นไม่มีปอด แต่สามารถขนส่งอากาศได้ผ่านท่อขนาดเล็กที่ซับซ้อนในร่างกาย ซึ่งทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่ซับซ้อนเกินกว่าจะมากล่าวในบทความนี้
อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์ทึ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้นในหิ่งห้อยตัวเล็ก ๆ นี้ ราวกับว่าพวกมันมีเวทมนต์ การสร้างแสงเหล่านี้มีขึ้นเพื่อหลายเหตุผลที่สำคัญ หิ่งห้อยตัวอ่อนจะเรืองแสงเพื่อเป็นสัญญาณเตือนถึงสิ่งที่อยู่รอบตัว ขณะที่หิ่งห้อยตัวเต็มวัยจะแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์
แต่โดยทั่วไปแล้วพวกมันจะเรืองแสงเพื่อระบุสมาชิกของสายพันธุ์ รวมถึงการระบุเพศด้วยเช่นกัน งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าหิ่งห้อยตัวเมียเลือกคู่ครองด้วยการอัตราการกระพริบของแสงจากตัวผู้ และความเข้มของแสงสว่างวาบที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามมีหิ่งห้อยตัวเต็มวัยบางสายพันธุ์ที่ไม่มีการส่องแสงเลย แต่ใช้ฟีโรโมนในการหาคู่แทน และก็มีบางชนิดที่ใช้ทั้งคู่ ความแตกต่างเหล่านี้เองที่ศาสตราจารย์ Heckscher สังเกตเห็นและช่วยให้ระบุสายพันธุ์ของหิ่งห้อยได้ ทว่าสิ่งมีชีวิตเหล่นี้กำลังค่อย ๆ ลดลงอย่างน่าใจหาย
#ตัวชี้วัดของธรรมชาติ
มีคำที่มักพูดกันว่า ‘ถ้าเจอหิ่งห้อยที่ไหน แสดงว่าที่นั่นมีความอุดมบูรณ์’ ซึ่งประโยคดังกล่าวยังไม่มีการยืนยันทางวิทยาศาสตร์มากนัก แต่หากลองพิจารณาวิถีชีวิตของหิ่งห้อยแล้ว ก็จะสามารถเห็นเหตุผลของคำพูดดังกล่าวได้
เนื่องจากตัวอ่อนของหิ่งห้อยนั้น ถือว่าเป็นนักล่าในห่วงโซ่อาหารเพราะพวกมันกินทั้งทาก หนอน และแมลงตัวนิ่มอื่น ๆ ขณะที่หิ่งห้อยตัวเต็มวัยก็จะเปลี่ยนไปกินน้ำหวานหรือละอองเกสรของดอกไม้ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าการมีหิ่งห้อยอยู่ แสดงว่าอาหารของพวกมันมีอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ ซึ่งก็หมายความต่อไปว่าพื้นที่ดังกล่าวมีความอุดมสมบูรณ์เช่นเดียวกัน
“บ้างก็ปีนต้นไม้เพื่อล่าหอยทาก บางชนิดก็มีเหงือกเหมือนปลาที่ช่วยให้พวกมันดำน้ำหาทากได้” พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ อเมริกา ระบุ “ในบางพื้นที่ของเอเชีย หอยทากขนาดใหญ่ที่เรียกว่าหอยเชอรี่ที่ทำลายพืชผลที่สำคัญเช่น ข้าว และตัวอ่อนของหิ่งห้อยก็ถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในวิธีที่มีศักยภาพในการควบคุมทางชีวภาพเพื่อปกป้องแหล่งอาหารของประเทศเหล่านั้น”
แต่อย่างที่กล่าวไปข้างต้น นักวิจัยพบว่าหิ่งห้อย 18 ชนิดกำลังใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งรวมถึงหิ่งห้อยเบธานีบีชที่ศาสตราจารย์ Heckscher ตามหา ที่ยิ่งไปกว่านั้นหิ่งห้อยทุกชนิดกำลังมีแนวโน้มลดลง แม้ว่าจะถูกระบุว่ายังมีข้อมูลไม่เพียงพอก็ตาม แต่เมื่อพิจารณาจากปัจจัยรอบข้างแล้วดูเหมือนว่าพวกมันกำลังถูกคุกคามอย่างหนัก
โดยมีปัญหาหลักมาจาก การสูญเสียและความเสื่อมโทรมของที่อยู่อาศัย มลภาวะทางแสง การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และการใช้ยาฆ่าแมลง ทำให้พวกมันลดจำนวนลงไปมาก จากสถานที่ที่เคยมีหิ่งห้อยอยู่อย่างหลากหลาย กลับกลายเป็นพื้นที่ที่ไม่มี ‘แสง’ อีกต่อไป
“เห็นได้ชัดเจนว่ามีความเป็นที่ต้องเพิ่มความพยายามในการอนุรักษ์หิ่งห้อย” Candace Fallon นักชีววิทยาอาวุโสด้านการอนุรักษ์และหัวหน้าโครงการหิ่งห้อยที่ Xerces Society และผู้เขียนรายงานกล่าว
#ทุกคนช่วยกันได้
แม้จะน่าเศร้าที่หิ่งห้อยกำลังลดลงเรื่อย ๆ และกลายเป็นเพียงความทรงจำของใครหลายคน อีกทั้งโครงการอนุรักษ์ต่าง ๆ ที่ระบุไว้ในรายงานทางวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นการฟื้นฟูแหล่งที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ รวมถึงการวิจัยต่าง ๆ ที่ดูจะเกินตัวของความสามารถในคนทั่วไป แต่รู้หรือไม่ มีขั้นตอนเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ใครก็สามารถทำได้
“โชคดีที่เราทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์หิ่งห้อยได้” Anna Walker เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง กล่าว “ไม่ว่าจะเป็นการปิดไฟในเวลากลางคืน การเข้าร่วมโครงการด้านวิทยาศาสตร์ชุมชน และเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับการลดลงของหิ่งห้อยเป็นขั้นตอนแรกที่ง่าย ๆ”
ขณะที่นักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ อย่าง Fallon เสริมว่ายินดีต้อนรับผู้คนทั่วไปที่ต้องการมีส่วนร่วม “ทุกคนสามารถมีบทบาทได้ ไม่ว่าจะเป็นการปกป้องแหล่งที่อยู่อาศัย ช่วยเหลือการวิจัยผ่านโปรแกรมวิทยาศาสตร์ชุมชน หรือจะเป็นนักเรียนที่ตัดสินใจค้นคว้าเกี่ยวกับหิ่งห้อย ไม่ก็ทำให้ผู้คนตระหนัก มีหลายวิธีที่เกิดขึ้นได้”
การลดการใช้ไฟในที่กลางแจ้ง ลดหรือไม่ใช้สารเคมีและยาฆ่าแมลงในสิ่งแวดล้อม เปลี่ยนไปใช้ปุ๋ยธรรมชาติ ปลูกพืชพื้นเมือง หญ้า พุ่มไม้ และต้นไม้ พร้อมกับรักษาความชุ่มชื้นให้กับธรรมชาติ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราทุกคนทำได้เพื่อหิ่งห้อยตัวเล็กเหล่านี้ให้กลับมามีโอกาสรอดยิ่งขึ้น
“ถ้าคุณจะให้ความสำคัญกับความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตบนโลก” Lewis บอก “มันไม่ใช่แค่การเห็นคุณค่าของสิงโต เสือ หรือหมีเท่านั้น ซึ่งหิ่งห้อยไม่ได้เป็นแค่แมลงที่น่าตื่นตาตื่นใจ แต่พวกมันยังเป็นแมลงที่สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความจำเป็นในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ”
“และโดยเฉพาะอย่างยิ่งความสำคัญของแมลง”
ที่มา
https://xerces.org/press/firefly-species-at-risk
https://www.amnh.org/explore/news-blogs/on-exhibit-posts/as-firefly-numbers-seem-to-slide-researchers-ponder-effects-on-ecosystems
https://www.smithsonianmag.com/science-nature/illuminating-science-behind-fireflies-180982112/
https://e360.yale.edu/features/fireflies-glow-worms-lightning-bugs-decline
https://www.scientificamerican.com/article/how-and-why-do-fireflies/
https://www.nationalgeographic.com/animals/invertebrates/facts/fireflies
Photo : Takashi Ota/Flickr

📣อียิปต์ หลุดจอง ว่าง 2 ที่​ด่วน  ‼️จัดเป็นรอบสุดท้ายสำหรับการเรียนรู้ประเทศอียิปต์🇪🇬 ประเทศอียิปต์ ช่วงปลายปีอากาศกำลัง...
23/07/2024

📣อียิปต์ หลุดจอง ว่าง 2 ที่​ด่วน ‼️
จัดเป็นรอบสุดท้ายสำหรับการเรียนรู้ประเทศอียิปต์

🇪🇬 ประเทศอียิปต์ ช่วงปลายปีอากาศกำลังเริ่มเย็นสบาย ท่านใดสนใจเรื่องราวของอียิปต์ ประเทศที่เต็มไปด้วยอารยธรรมไอยคุปต์ ⛵️มีความงามให้ชื่นชมมากมาย ตั้งแต่ต้นแม่น้ำไนล์ที่เมืองอัสวาน ล่องตามแม่น้ำไนล์ไปถึงเมืองลุกซอร์ ชมสมบัติล้ำค่าของฟาโรห์ในกรุงไคโร พิพิธภัณฑ์มัมมี่ และเมืองในตำนานริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อเล็กซานเดรีย

📌ทริปครั้งนี้ เดินทาง 4-14 ธ.ค. 2567 ใครสนใจจะไปท่องเที่ยวเรียนรู้ด้วยกัน สอบถามรายละเอียดได้เลยครับ
✅️✅️ราคาพิเศษ​110,000​บาท​🎊
จากปกติ 123,000 บาท รวมตั๋วเครื่องบิน✈️
สอบถามข้อมูล Line:

ัวร์เพื่อการเรียนรู้สำหรับทุกคน

⛰️ดอยผ้าห่มปก ดอยอ่างขาง                  จ.เชียงใหม่ (2-5 ม.ค. 2568)                            4 วัน 3 คืน            ...
23/07/2024

⛰️ดอยผ้าห่มปก ดอยอ่างขาง
จ.เชียงใหม่ (2-5 ม.ค. 2568)
4 วัน 3 คืน
ค่าสมัครคนละ 6,500 บาท
(กิจกรรมเริ่มที่เชียงใหม่)

ไปเรียนรู้เรื่องราวของป่าเมฆบนยอดดอยผ้าห่มปก ยอดดอยที่สูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศ ธรรมชาติของดอยแห่งนี้จะคล้ายๆ ดอยอินทนนท์ แต่ผู้คนเข้าถึงได้ยากกว่า ถูกรบกวนน้อยกว่า และอยู่ทางทิศเหนือมากกว่า ที่นี่จึงมีโอกาสพบเห็นสัตว์ขนาดเล็กๆ พวกนกกับแมลง หลายชนิดที่แตกต่างจากดอยอินทนนท์ รวมทั้งชนเผ่าต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดอยผ้าห่มปก-ดอยอ่างขาง

● รับสมัครจำนวน : 10 ครอบครัว หรือประมาณ 30 คน
ว่าง 4 ครอบครัว
✅️เหมาะกับครอบครัวรักธรรมชาติ เดินป่าขึ้นเขา🌲
📌สนใจสอบถามรายละเอียดทาง inbox
หรือ Line:
● Tourism license No : 21/00802

ี่ยวเล่นเรียนรู้รอบด้าน

แอฟริกาใต้ South Africa 9D6N                     ✈️ 20-27 ก.ค. 67 21 ก.ค. 🇿🇦วันแรกที่เดินทางถึงแอฟริกาใต้ ตื่นเต้นกับการ...
22/07/2024

แอฟริกาใต้ South Africa 9D6N
✈️ 20-27 ก.ค. 67
21 ก.ค. 🇿🇦วันแรกที่เดินทางถึงแอฟริกาใต้ ตื่นเต้นกับการนั่งรถชมสัตว์ ใน LION & SAFARI PARK มีสัตว์หลายชนิด เรียนรู้การใช้ชีวิตและ ลักษณะเฉพาะตัวของสัตว์ เพื่อเตรียมตัวไปดูกันในป่าธรรมชาติวันรุ่งขึ้น

เราเลือกมาในช่วงฤดูหนาวของที่นี่ อากาศถูกใจคนจากเมืองร้อนแบบพวกเรามากครับ อุณหภูมิ10 - 6องศา

✅️อัปเดตข้อมูลนักเดินทาง
วัคซีนไข้เหลือง ปัจจุบันไม่บังคับฉีด ผ่านเข้าเมืองไม่ต้องแสดงใบฉีดวัคซีน
กรณี ⛔️เดินทางแบบแวะพักเครื่อง ในรายชื่อประเทศที่มีประกาศเกิน 12 ชม. ต้องฉีดวัคซีน

ัวร์เพื่อทุกคนในครอบครัว
#พาลูกเรียนรู้โลกกว้าง

แอฟริกาใต้ South Africa 9D6N                     ✈️ 20-27 ก.ค. 67 ภาพวันแรก ออกเดินทางด้วยสายการบิน Qatar Airway เราพักต...
22/07/2024

แอฟริกาใต้ South Africa 9D6N
✈️ 20-27 ก.ค. 67
ภาพวันแรก ออกเดินทางด้วยสายการบิน Qatar Airway เราพักต่อเครื่องมากกว่า 8 ชั่วโมง ใช้บริการ Transit Tours ออกไปเที่ยวชมเมือง และบรรยากาศของเมืองที่ได้ชื่อว่า "ไข่มุกแห่งเปอร์เซีย" ดินแดนร่ำรวยแห่งตะวันออกกลาง

✅️อัปเดตข้อมูลนักเดินทาง ณ.20 ก.ค. 67
ใช้บริการ Transit Tour สำหรับพาสปอร์ตไทย
ต้องชำระค่าวีซ่า คนละ 27 USD ด้วยนะครับ

ัวร์เพื่อทุกคนในครอบครัว
#พาลูกเรียนรู้โลกกว้าง

🚶พี่มิตรแอดมิจเพจ มักจะเจอคำถามอยู่บ่อยๆ ว่า  #ไปทริปเฉพาะลูกๆ_แต่พ่อแม่ไม่ไปด้วยได้มั้ย..?🚶‍♀️ตอบได้ทันทีว่า  #ถ้าเป็นเ...
20/07/2024

🚶พี่มิตรแอดมิจเพจ มักจะเจอคำถามอยู่บ่อยๆ ว่า #ไปทริปเฉพาะลูกๆ_แต่พ่อแม่ไม่ไปด้วยได้มั้ย..?
🚶‍♀️ตอบได้ทันทีว่า #ถ้าเป็นเด็กวัยรุ่นวัยทีนเอจสมัครมาได้เลยครับ แต่ถ้าอายุน้อยกว่า 13 ปี ขออนุญาตพิจารณาเป็นรายๆ ไปครับ
🍁หลายทริปที่ผ่านมา โดยเฉพาะทริปที่ไปต่างประเทศ มีพ่อแม่ผู้ปกครองให้ลูกๆ มาร่วมทริปเรียนรู้โดยไม่มีผู้ปกครองมาด้วยหลายคนแล้วครับ
🇬🇪อย่างเช่นทริปล่าสุด ที่ไปประเทศจอร์เจีย มีวัยรุ่นวัย 16 ปี มาร่วมทริปด้วยหลายคน บางคนก็มากับผู้ปกครอง บางคนก็ไม่มีพ่อแม่มาด้วย ได้เรียนรู้ทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมที่แตกต่างจากเมืองไทย ได้พบเจอวัยรุ่นชาวจอร์เจีย อายุ16 ปีเหมือนกัน แต่ตอนนี้เขาทำงานดูแลกิจการโรงแรมที่พักแล้ว
🌱การได้พบเห็นสัมผัสเรียนรู้ธรรมชาติ และวัฒนธรรมของชนชาติต่างๆ ที่แตกต่างหลากหลายช่วยให้เด็กๆ ได้รู้จักและเข้าใจโลกได้กว้างมากขึ้น เป็นประสบการณ์สำคัญที่ช่วยให้เด็กๆ เติบโตอย่างมีดุลยภาพ กลมกลืนกับธรรมชาติและสังคมต่อไป
🌏ถ้าสนใจจะเปิดโลกกว้าง เปิดโอกาสให้ลูกๆ ได้เรียนรู้ความแตกต่างหลากหลายของผู้คนบนโลกใบนี้ เดินทางไปร่วมทริปกับเพจ NATURE CAMP ได้เลยครับ
#การเดินทางคือการเรียนรู้
🚶‍♂️🚶‍♀️🚶🧍‍♂️🧍‍♀️🧍🚶‍♂️🚶‍♀️🚶🧍‍♂️🧍‍♀️

Address


Alerts

Be the first to know and let us send you an email when NATURE CAMP posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Business

Send a message to NATURE CAMP:

Videos

Shortcuts

  • Address
  • Telephone
  • Alerts
  • Contact The Business
  • Videos
  • Claim ownership or report listing
  • Want your business to be the top-listed Travel Agency?

Share

Our Story

Nature Camp กิจกรรมที่เริ่มต้นขึ้นจากความรักของพ่อแม่ที่อยากให้ลูกๆ ได้เที่ยว-เล่น-เรียนรู้-รับรู้ผ่านประสาทสัมผัสต่างๆ ด้วยประสบการณ์ตรง พร้อมไปกับได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับพ่อแม่ จากที่พาลูกๆ ของเราเองไปเที่ยวเล่นเรียนรู้ มาสู่การพาครอบครัวอื่นๆ ไปร่วมกิจกรรมเรียนรู้ด้วยกัน จากที่ไปกันเองแบบง่ายๆ สู่การจัดการที่มีมาตรฐานเชื่อถือได้ ถูกต้องตามกฎหมายอย่างทุกวันนี้ แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่บรรยากาศยังคงเป็นไปเหมือนเดิม จะว่ามาเที่ยวก็ไม่ใช่ จะว่าไปทัศนศึกษาก็ไม่เชิง รวมทั้งไม่ใช่การย้ายห้องเรียนมาอยู่ในป่าแน่ๆ เราพาเด็กๆ และครอบครัว ไปเที่ยวเล่นเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ มากมาย ทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วัฒนธรรมประเพณี และวิถีชีวิตผู้คน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ ก่อเกิดสังคมคุณภาพ เกิดการรวมตัวของกลุ่มครอบครัวต่างๆ ที่มาร่วมกิจกรรมด้วยกัน ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเรียนรู้ร่วมกันไปพร้อมๆ กับการเติบโตของเด็กๆ

ผลจากการจัดกิจกรรมของ Nature Camp ยังได้แบ่งปันไปสู่เด็กด้อยโอกาสอีกมากมาย โดยเฉพาะเด็กพิการ จนถึงวันนี้เราได้จัดกิจกรรม โครงการเดินป่าด้วยหัวใจ (พาเด็กพิการไปเดินป่า) มาแล้วกว่า 15 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเพื่อเด็กๆ ในชนบท และธรรมชาติอีกหลายครั้ง