Wherearellama?

01/01/2020

Happy New Year 2020
Wish we could travel more!

2019-
We traveled together to Tanzania and Russia(Altai Republic)

I could say this year we spent time together less than ever.

So, let's hope for 2020.

22/12/2019

โบสถ์ที่เข้าถึงด้วยการปีน

Abuna Yemata เป็นโบสถ์ที่เจาะเข้าไปในภูเขา

ตั้งอยู่ที่แคว้น Tigray ประเทศ Ethiopia

เราแชร์รถ 4WD ไป กับ สองหนุ่มสาวจากเนเธอร์แลนด์ มีไกด์ 1 คน และคนขับรถอีก 1 คน นำไป

ทางช่วงแรกก็เดินขึ้นเนินเขาไปเรื่อยๆ
จนสุดท้ายต้องปีนขึ้นไปแบบเกือบ 90 องศา

ตอนอ่านข้อมูลมา บอกว่าสามารถขอเชือกได้เพื่อความปลอดภัย แต่ถึงเวลาจริง ชาวบ้านบอกไม่ต้องใช้หรอก เดี๋ยวช่วยเอง

ก็เลยปีนขึ้นไปแบบตัวเปล่า และตีนเปล่า
มีชาวบ้านและพี่ไกด์ คอยประคองไปเรื่อยๆ บอกให้เอาเท้าซ้ายไปตรงนั่นมือขวาจับตรงนี้ บอกทุกก้าวเลยทีเดียว ก็เสียวๆแต่ก็สนุกดี

โบสถ์นี้ ยังมีการใช้ทำพิธีกรรมกันอยู่ พวกชาวบ้านเค้าปีนกันเป็นปกติ ปีนกันทุกวัน
ภายในมีภาพวาดฝาผนัง
ที่เป็นของจริงดั้งเดิมอยู่ และคัมภีร์ไบเบิ้ลที่ทำจากหนังสัตว์

16/12/2019

Altai Republic อยู่ในประเทศรัสเซีย ติดกับมองโกเลียและคาซัคสถาน Timezone เดียวกับประเทศไทย

ใช่ Altai ที่บรรพบุรุษเราย้ายรกรากมารึเปล่า...
ใช่...เทือกเขานั้นแหละ แต่ไม่แน่ใจว่าบรรพบุรุษเราย้ายมาจากที่นั่นจริงๆรึเปล่า

เราเริ่มต้นกันที่เมือง Barnaul บินจาก Moscow มาสี่ชั่วโมง

แต่ว่า จากไทยมีเที่ยวบินตรงไปที่เมือง Novosibirsk ซึ่งอยู่เหนือขึ้นไปบน Barnaul อีกนิดหน่อย หลายๆคนเริ่มต้นกันจากที่นี่ และระหว่างทางเราก็เจอนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเองที่มาจากเมืองนี้เยอะแยะเลย

เราเช่ารถขับ ค่าเช่ารถประมาณวันละแปดร้อยบาท ค่าน้ำมันลิตรละ ประมาณ 20-25บาทแล้วแต่เมือง แต่รถโฟร์วีลก็จะแพงขึ้นอีกหน่อย ถ้าไม่ได้จะไปลุยอะไรมากก็รถซีดานธรรมดาก็พอ แต่บางที่เราก็จอดรถทิ้งไว้เราโบกรถเข้าไปต่อ เพราะรถเรามันลุยไม่ไหวจริงๆ

ละแวกนี้เราจะเห็นคนโบกรถกันเป็นระยะๆ แบบว่าถ้าผ่านทางก็ขอติดรถไปด้วยนะ บางคนก็ให้เงินค่ารถด้วย

เราเลยรับป้าขึ้นรถข้ามเมืองไปด้วยคนนึงขาไป และหนุ่มน้อยอีกสองคนขากลับ
แต่ไม่ได้เอาเงินเค้านะ (ทำตัวเป็นคนใจดี)

ถนนเส้นหลักมีอยู่เส้นเดียว วิ่งตรงๆยาวๆไปเลย จาก Barnaul เราไปแวะกันที่เมือง Gorno-Altaysk ขับไปสามชั่วโมง เพื่อไปขอนอนบ้านคุณลุงใจดีคนนึงจากใน Couchsurfing

หลังจากนี้เราจะเริ่มลุยขับรถลงใต้กัน โดยที่ไม่มีแผนอะไรเลย...

แต่....โชคดีที่คุณลุงมาช่วยวางแผนและแนะนำสถานที่เที่ยวระหว่างทางให้เยอะเลย เราเลยพอจะมีจุหมายปลายทางกันบ้าง

จุดหมายหลักอันใหญ่ของเราเลยก็คือไป Trekking ที่ Aktru glacier กัน...ลุยยย!!!

ปล. ที่แต่ละที่ที่ไปแวะ คือจำชื่อแทบไม่ได้จริงๆ เพราะแต่ละชื่ออ่านก็ไม่ออก แถมออกเสียงก็มั่ว เวลาถามทาง คือชาวบ้านไม่เข้าใจ

17/11/2019

Altai Republic

ไม่เคยมีชื่อนี้อยู่ในหัว
แต่อยู่ๆก็ได้ไปซะงั้น

ซื้อตั๋วคืนวันเสาร์ บินเช้าวันอังคาร
มีเวลาหาข้อมูลน้อยมาก
แต่ก็รอดมาได้ อย่างสนุกสนาน

ทริปนี้เช่ารถขับ
เพราะดูแล้วรถสาธารณะจะกะเวลาลำบากมาก
ข้อดีของการขับรถเองคือ
สบายตรงที่ อยากแวะจอดที่ไหนก็แวะ
เราเลยทั้งแวะอาบน้ำริมลำธาร
แวะกินอาหารข้างทางบ่อยๆ
แวะเข้าไปงงๆ กับหลายๆที่

โชคดีที่พอมีสัญญาณอินเตอร์เนตเกือบตลอดทาง
มีขาดไปบางช่วงที่ขับขึ้นเขา หรือช่วงระหว่างรอยต่อจากเมืองไปอีกเมือง แต่ถนนก็มีอยู่เส้นเดียว อย่าขับออกนอกทางก็พอ

อาหารท้องถิ่นของที่นี่เลยไม่ได้ลองอะไรมาก
เพราะส่วนใหญ่ก็ฝากท้องไว้กับถุงสเบียงที่ตุนมาจากตลาด
แต่ผู้คนละแวกนี้ใจดี และยินดีช่วยเหลือ
ความยากอย่างเดียว คือคุยกันไม่รู้เรื่อง

ระหว่างทางแวะรับชาวบ้านที่โบกรถไปด้วยสองครั้ง
และที่พวกเราโบกรถคนอื่นอีกครั้งหนึ่ง

วีดีโอก็จะงงๆ ยาวๆหน่อย
เพราะรู้สึกว่า มันสวยตลอดทางเลย
ส่วนวีดีโอที่เดินป่าส่วนใหญ่อยู่ในโกโปร
และดันทำโกโปรหายตอนที่อยู่ในมอสโคว
เป็นเรื่องเดียวที่เสียใจในทริป

นอกนั้นแล้ว มีแต่เรื่องดีๆตลอดทาง.

Altai Rebublic, September 2019

Road trip in Altai Republic.

09/10/2019

Chuyski Trakt

หรือมีชื่ออย่างเป็นทางการคือ Russian route M52
เป็นถนนที่วิ่งจากเมือง Novosibirsk ลงไปจนถึงชายแดนมองโกเลีย มีความยาวทั้งหมด 953 กิโลเมตร

ไม่น่าแปลกใจที่ถนนสายนี้จะติด 1 ใน 10 อันดับ ถนนที่น่าขับรถเที่ยวของ National Geographic

วิวเริ่มจากทุ่งหญ้า ลัดเลาะแม่น้ำ ชายเขา ไต่ขึ้นเขาและคดเคี้ยวอยู่พักนึง จุดที่สูงที่สุด สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2000 เมตร ซึ่งตรงนั้นจะเป็นจุดจอดชมวิว มีร้านค้าขนาดย่อมเรียงราย และสามารถเดินเข้าไปชมวิว และไต่เขาลูกย่อมๆ ได้ เรียกว่าใช้เวลาตรงนั้นได้เป็นชั่วโมงเลยละ

หลังจากลงจากเขามา วิวก็เปลี่ยนไป เราจะเห็นภูเขาลูกใหญ่ (มาก) เรียงตลอดแนว ไปจนถึงภูเขาที่มีหิมะ เรียกว่าขับรถเพลินกันเลยทีเดียว

แต่ระหว่างทางก็จะมีน้องม้า น้องแกะ น้องวัว น้องแพะ เดินกันขวักไขว่เปนบางช่วง คือเราก็ต้องระวังน้อง เพราะน้องไม่ระวังเรา บางทีน้องอยากเดินโฉบออกมาก็เดินออกมาเลย ต้องขับช้ามากๆ แล้วก็เดาใจน้องเอา น้องบางตัวก็เดินออกมา แล้วหยุดอยู่กลางถนนเฉยๆ บางตัวก็นอนแผ่สบายใจ

ถนนดีตลอดสาย ขับได้ ขับง่าย ไม่อันตราย แต่ตอนกลางคืนคือมืดตึดตื๋อ มีแต่ไฟหน้ารถ

แต่ถ้าอยากแวะเที่ยวข้างทาง แค่ขับเลี้ยวออกไปจากถนนหลัก ก็กลายเป็นถนนฝุ่นทันที วิ่งกันเบาๆ ไม่งั้นช่วงล่างพัง แถมฝุ่นนี้ เข้ามาทุกอณูของรถ ข้างใน ข้างนอก กระโปรงหลัง น้องฝุ่นมาเยือนได้ทุกที่จ้า

ถ้าปวดฉิ่งฉ่องระหว่างทางก็ จะมีปั๊มอยู่เรื่อยๆ
แต่ถ้าสบายใจ ตรงไหนก็ได้อ้ะ

The road in Altai Republic.

22/07/2019

วีดีโอจากทริป Tanzania....มาช้าแต่มานะ

ทริปนี้ไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์แล้ว
เพิ่งจะมาตัดนี่แหละ
ตอนแรกคิดว่า ไม่ค่อยได้ถ่ายอะไรมา
แต่พอมาเปิดดู...ก้อถ่ายมาเยอะเหมือนกันแหะ

ทริปนี้ไปทั้งหมดประมาณ 8 วัน
ไปซาฟารีดูสัตว์ 4 วัน
นอนเต๊นท์ นอนหนาว ไม่อาบน้ำ
แต่ก็สนุกดี

ต่อด้วยไปติดเกาะอยู่ 4 วัน
ไม่มีแผน ไม่มีอะไรทั้งนั้น
ที่พักก็ไม่ได้จอง โชคดีไม่ใช่ไฮซีซั่น

อากาศดี...ร้อนดี...
เป็นทริปที่กลับมาแล้วตัวดำที่สุด สุด สุด
(จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่หาย)

Tanzania in February 2019. wildlife, beach, Island, such a perfect holidays.

25/05/2019

Serengeti National Park

Serengeti ได้รับสมญานามว่า “Endless plains”
ทุกๆปีจะมีสัตว์จำนวนมากมายมหาศาลมาพักพิงในฤดูอพยพ

Serengeti ตั้งอยู่ทางเหนือของประเทศ Tanzania มีเขตติดต่อกับ Maasai Mara National Reserv ในประเทศ Kenya

Serengeti เราจะพบสัตว์มากมายหลากหลายชนิดตั้งแต่ตัวเล็กไปจนถึงตัวใหญ่ รวมไปถึง BIG5 ด้วย ซึ่งก็คือ สิงห์โต เสือดาว ช้าง แรด และ ควาย

Serengeti ช่วงที่เราไป เป็นช่วงฤดูที่ Wildebeest อพยพมาและมาออกลูก อากาศยังค่อนข้างหนาว เราต้องกางเต๊นท์นอนกันในอุทยาน
มีห้องน้ำ มีน้ำ แต่...ไม่อาบ

ตอนกลางคืนห้ามเอาของกินไว้ในเต๊นท์เด็ดขาด เพราะอาจจะมีสัตว์มาเยี่ยมที่เต็นท์ได้

ตอนเช้าตื่นมา หลายๆคนจะพูดคุยกันว่า มะคืนได้ยินเสียงไฮยีน่าด้วยแหละ เอิ่มม... สงสัยพวกเราจะหลับสนิท เพราะไม่เคยได้ยินเสียงอะไรสักคืน

10/03/2019

Under water world.

09/03/2019

Baby, just dive right in!

26/02/2019

24/01/2019

สถานที่ที่ได้ชื่อว่าร้อนที่สุดในโลก
อยู่ที่ระดับต่ำกว่าน้ำทะเลประมาณ 100 เมตร
ทั้งร้อนทั้งแห้ง อุณหภูมิตอนกลางวันสูงกว่า 50 องศาเซลเซียส

สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในเขต ​Afar ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ Ethiopia
เป็นแอ่งที่ราบขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยซัลเฟอร์
มีซัลเฟอร์ที่กำลังปะทุขึ้นมาจากดิน
และในทุกๆปี จุดที่ปะทุจะเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ
จุดที่เคยปะทุแล้วก็จะแห้งและทิ้งตะกอนไว้
เกิดเป็นภูมิเทศที่อย่างที่เห็น

20/01/2019

"Even if we can't find heaven, I'll walk through hell with you"

นรกที่ไม่ได้เห็น...

พูดถึง Erta Ale

ที่นี่เป็นภูเขาไฟ ที่ยังไม่มอดไหม้ ตั้งอยู่ที่แคว้น ​ Afar แห่ง เอธิโอเปีย
ได้รับสมญานามว่าเป็นประตูสู่นรก หรือ "The Gateway to Hell."
เพราะเราสามารถมองเห็นลาวาที่ยังเดือดปุดๆ ได้อย่างชัดเจนจากที่ปากปล่อง

วิธีการไปคือ เราต้องนั่งรถโฟวีลข้ามทะเลทรายออกไป จนไปถึงเบสแคมป์
เพื่อเตรียมตัว และเก็บสัมภาระสำหรับหนึ่งคืน ที่เหลือทิ้งไว้บนรถ
หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ เราจะเริ่มออกเดินกัน ใช่! เดินตอนกลางคืน

เราเริ่มเคลื่อนขบวนกันตอนสองทุ่ม สิ่งที่จำเป็นที่สุดคือ ไฟฉายและน้ำ
เราใช้เวลาเดินกันประมาณ สามชั่วโมง
ทุกคนต้องเดินเรียงแถวกัน
ห้ามใครเดินออกนอกแถวเด็ดขาด

เมื่อมาถึงจุดพักข้างบน
ใช่! คืนนี้เราจะนอนกันที่นี่
ที่นอนไม่มีอะไรมากนอกจากก้อนหินเรียงกันเป็นคอกสูงเท่าเข่า
นอนคอกและสี่ห้าคน
ก็นอนห่มดาวกันไปคืนนี้
ดาวชัดแจ๋ว อากาศไม่ร้อน นอนได้สบาย

ก่อนจะนอนเราก็จะได้ลงไปเดินที่ปากปล่องภูเขาไฟพื่อไปดูลาวา
พื้นดินจุดนี้ ต้องก้าวเหยียบอย่างระมัดระวัง
เพราะเป็นลาวาที่ยังแข็งตัวไม่นาน
ยังเปราะ และคม
สิ่งที่สำคัญที่สุดตรงนี้คือผ้าปิดปากและจมูก
สูดควันกันเข้าไปที ก็น้ำหูน้ำตาไหล ไอค่อกแค่ก

และสิ่งที่เราได้เห็นคือ ควัน ควัน ควัน และควันจำนวนมาก
วันนี้ปากปล่องไม่เปิด...เราอดเห็นลาวา

เวลาตีสี่ เราถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง
เพื่อลงไปเดินดูรอบปล่องอีกรอบ

และสิ่งที่เราได้เห็นคือ ควัน ควัน ควัน และควันจำนวนมาก
วันนี้ปากปล่องไม่เปิด...เราอดเห็นลาวา

หลังจากพระอาทิตย์ขึ้นไม่นานเราต้องรีบเตรียมตัวเดินกลับ
เพราะไม่งั้นอากาศจะร้อน และแดดแผดเผามาก

วันนี้ปากปล่องไม่เปิด...เราอดเห็นลาวา

จบ.

05/01/2019

Happy new year. 2019

2018 flew so fast.
It was just another year that we try to manage our times so hard to go on a trip together. As we live half world apart and we have a very different routines job. We did our best.
Let’s see how far we have come.
Pakistan, Philippines and Ethiopia.
And some in Thailand.

No one knows how far we will go in 2019.
Just keep doing.

11/11/2018

Ethiopia.

เอธิโอเปีย ไม่ได้มีแค่เด็กพุงโล หัวโต ตัวดำ
แต่ยังมีธรรมชาติแปลกตาให้เที่ยวเยอะแยะ

มีทั้งโบสถ์ที่ขุดลงไปในดิน โบสถ์ที่เจาะเข้าไปในหน้าผา
มีภูเขาไฟ ทะเลเกลือ ทะเลสาบ
มีภูเขาให้เดินกันหลายลูก
ใครชอบ ​Hiking, Trekking ต้องถูกใจแน่นอน

ผลไม้ก็มากมี
อูฐ แพะ แกะ ก็มากมาย

ขาแดนซ์ก็น่าจะถูกใจ
เพราะคนที่นี่เต้นกันสะบัดสุดเหวี่ยง

เบียร์และกาแฟราคาโดนใจ
อากาศก็ไม่ได้ร้อนมากมาย
ช่วงที่เราไปนี่ 15-16 องศา
แต่เอาเสื้อหนาวบางๆไปตัวเดียว
เพราะคิดว่าร้อนแน่นอน

ยกเว้นที่เดียวที่ร้อนจริงจัง
คือแถวทะเลเกลือและภูเขาไฟ

Addis Ababa, Lalibela, Tigrey, Mekele.

05/11/2018

ว่าด้วยเรื่อง Injera (อินเจร่า)

ใกล้เที่ยงแบบนี้ก็เลยเอารูปอาหารมาลงให้หิวกัน
(ไม่รู้จะหิวหรือจะ อิ่มไปเลยดีกว่า)

เห็นหน้าตาแบบนี้แต่รสชาติก็อร่อยดีนะ
Injera เป็นอาหารหารยืนพื้นของเอธิโอเปียเลย
ยืนพื้นแบบที่เรากินข้าวกันนั่นแหละ
อารมณ์ว่า เรากินข้าวราดแกง เค้าก็กินอินเจร่ากับแกง

อินเจร่า มันเป็นแป้งที่มีรูพรุน รสชาติเปรี้ยว
เอาไว้รองถาด แล้วราดแกงใส่ลงมา
ใ้ช้มือกิน

เวลาเค้ายกมาเสริฟ เค้าจะมาแค่ถาดที่มีอินเจร่าแผ่อยู่
แล้วเอาแกงมาเทตรงหน้าเรานี่แหละ เป็นกองๆ

แกงมีทั้งแบบมังสวิรัต และแบบมีเนื้อสัตว์
และที่เหนือไปกว่านั้น ยังมีแกง ที่ทำจากอินเจร่า โอ้ววว คือกินแป้งซ้อนแป้งนั่นเอง

รสชาติของแกง คือจะได้รสชาติของวัตถุดิบที่เอามาทำ ไม่มีเครื่องเทศ ไม่ต้องกลัว กินได้

เช่นถั่วต่างๆ. มัน บีทรูท. ผักใบเขียว.

ลองดู อินเจร่าตามที่ต่างๆ ที่พวกเราได้ไปกินกันมา
ประมาณว่า อยู่เอธิโอเปีย 9 วันกิน อินเจร่า 6 วัน
กินจนชินอะ กินจนมื้อสุดท้ายต้องสั่งลาด้วยอินเจร่าชุดใหญ่

31/10/2018

You're worth every mile between us!

30/10/2018

"As you start to walk out the way, the way appears."

29/10/2018

คลิปเรียกน้ำย่อย จาก เอธิโอเปีย

ทริปนี้ใช้เวลาทั้งหมด 9 วัน ในสามเมือง
ประเทศที่ไม่เคยคิดว่าจะไป
ประเทศที่ไม่รู้เลยว่ามีอะไรให้เที่ยวบ้าง
ประเทศที่รู้จักแค่ว่ามีกาแฟดี
ประเทศที่ ไปแล้วสนุกดี และมีอะไรให้ทำเยอะแยะ

A week in Ethiopia. Addis Ababa, Lalibel, Tigrey and Danakil.

29/10/2018

When you're wide open, the world is a good place.-- Sharon Salzberg.

28/10/2018

We're on top of the world.

28/10/2018

ที่นี่เอธิโอเปีย

พอพูดคำว่า "เอธิโอเปีย" ออกมา ภาพเด็กตัวดำพุงโลหัวโต บนพื้นดินแตกระแหง คงผุดขึ้นมาในหัวทันที

เราไม่เถียงว่าประเทศนี้ยากจน
แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งประเทศ

ดูหน้าตาอันพึงพอใจ ของผู้ที่ได้ค้นพบแดนสวรรค์ของผลไม้นี่สิ...
อะโวคาโด กิโลละ 25 บาท
ส้มลูกละ 3 บาท
แตงโมลูกละ 20 นิดๆ
กล้วยสองใบ 5 บาท

โอ้แอฟริกา!

17/08/2018

Pakistan ep.4

วันนี้เป็นวันที่นั่งรถค่อนข้างนาน (จริงๆก็นานทุกวัน)
วิ่งไปยังเส้นทาง Khunjerab Pass
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของถนน คาราโครัมเป็นชายแดนระหว่างปากีสถานและจีน

ยิ่งขึ้นไปสูงเรื่อยๆ อากาศก็ยิ่งหนาวลงเรื่อยๆ
และบางคนก็อาจหายใจลำบาก
เพราะอากาศเบาบาง
ต้องอย่ากระโดดโลดเต้นเยอะ

Khunjerab pass

28/07/2018

มาคั่นจังหวะปากีสถานด้วยทริปสั้นๆฉุกละหุก ที่มะนิลา

จังหวะดีได้ตั๋วไม่แพงมาก จากเซบู แปซิฟิก ในราคาไปกลับ ห้าพันบาท อาจจะเป็นเพราะหน้าฝน ตั๋วเลยถูกมั้ง

เพราะไปถึงก็ฝนตกทุกวัน
ไม่ได้ทำอะไรมากมาย
เลยถ่ายคลิปตัวเองมาเยอะแยะตาแป๊ะไก่

เป็นทริปที่ไม่ค่อยได้ทำอะไร
แต่ตัดคลิปออกมา 11 นาที
ตัดอะไรยาวเยอะแยะ

ส่วนใหญ่ก็ กิน กิน กิน
ได้ดูหนัง โรงดี ราคาถูกใจ พร้อมเสริฟป๊อปคอร์นและน้ำ
แถมยังไปนวดไทย ในมะนิลา

ชานมไข่มุก หมูสามชั้น หมูแดง หมูกรอบ ติ่มซำ ทาร์ทไข่ เกี๊ยวจีน บุฟเฟ่นานาชาติ ไก่ทอดไข่เค็ม บักกุ๊ดเต๋รีซอสโต้ บะหมี่เกี๊ยวหมูแดง

เดินป่านิดหน่อย นิดเดียวจริงๆ แค่1 ชั่วโมง
แต่กว่าจะเดินทางไปถึง...

แล้วก็โดนหลอกล่อให้นั่งรถถีบในอินทรามูรอส
ซึ่งก็อ่านมาแล้วว่าเดินเองได้
แต่ฝนมันตกหนักหรอก เลยยอมนั่ง
โดนฟันไปหลายตังเลยทีเดียว

แถมขากลับยังลืมพาสปอร์ต
ต้องยอมจ่ายค่าแทกซี่เพื่อวนกลับมาเอา
แพงกว่าขาที่ไปสามบิน 6 เท่า
พูดแล้วก็เขกหัวตัวเองแรงๆ
ไม่ตกเครื่องก็บุญแล้ว

short trip in Manila, it was raining everyday

10/07/2018

Pakistan Ep.3
วันนี้เราไป
ล่องเรือในทะเลสาป
เยี่ยมชมธารน้ำแข็งและเดินบนสะพานแขวน
เดินชมหมู่บ้าน Passu
หมู่บ้านเล็กๆ มีความน่ารักทั้งบ้าน ทั้งคน
ชิมเค้กแอปริคอท
และตบท้ายด้วยน้ำมะม่วง

Attabad Lake and Passu Village

27/06/2018

มาคั่นจังหวะปากีสถาน ด้วย อัลเทียนอาราชาน
สถานที่เทรกกิ้งยอดนิยมในคีร์กีสถาน

เส้นทางเดินไม่ยาก ไม่มีลูกหาบ
แต่มีม้าหาบ. ใครอยากขี่ม้าไปก็ได้หรือเดินไปก็ได้
เดินเองได้ไม่ต้องมีคนนำ ใช้เวลาเดินประมาน 4-5 ชั่วโมง
(แต่เราเดินกันไปหกชั่วโมงกว่าๆ...แวะพักบ่อย แวะกินบ่อยนั่นเอง)
ระหว่างทางไม่มีน้ำหรืออาหาร ต้องเตรียมไปเองทั้งหมด

ถ้าน้ำหมดก็แวะเติมน้ำที่ลำธารได้
น้ำสะอาดและเย็นชื่นใจ

จุดหมายปลายทางเป็นเหมือนเบสแคมป์
มีที่พักอยู่ประมาณ 4-5 ที่ ไม่ไกลกันมาก
เป็นเยิร์ทหรือกระโจมนั่นแหละ

กระโจมหนึ่งหลังก็นอนได้ประมาณ 6-8 คน
เหมือนนอนดอร์มในโฮสเทล

ที่สำคัญที่สุด ที่บ่อน้ำร้อนให้แช่
ผ่อนคลายสบายเท้าที่เดินมานาน
และอุ่นกายสบายใจท่ามกลางอากาศที่หนาว

จริงๆแล้วไม่ว่าที่ไหนๆ ก็มีสิ่งที่น่าสนใจ และสวยงามเสมอ
เพียงแค่เราลองออกไปหามันดู...

23/06/2018

Little Switzerland แห่งปากีสถาน...
เหมือนรึเปล่าก็ไม่รู้
เพราะเราก็ไม่เคยไป สวิส อุอิ
แต่คนปากีเค้าว่าอย่างงั้น

22/06/2018

หนุ่มน้อยปากีสถาน ที่ยืนโพสท่าให้ถ่ายรูปอยู่นานสองนาน
เจอกันตรงทางก่อนที่จะเดินขึ้นแฟรี่ มีโดว์

21/06/2018

View from hotel in Hunza.

16/06/2018

Pakistan ep2

วีดีโอ วันที่สอง ของทริปปากีสถาน

หลังจากที่นั่งรถมาทั้งวันและมาถึงHunza ดึกดื่นเที่ยงคืน
เช้าวันต่อมาเราก็ได้พบกับเพื่อนๆ สมาชิกที่เหลือ

มีเพื่อน สองคน ที่กระเป๋าไม่มาพร้อมกับไฟลท์บิน
จากอิสมาบัด และที่สำคัญกระเป๋าของคุณไกด์เช่นกัน
คุณไกด์พยายามติดต่อกับสายการบิน
และได้รับคำตอบว่ากระเป๋าจะมาภายในเย็นนี้

วันนี้เรามุ่งหน้าไปยัง Hopper Glacier
ชมวิวซากุระข้างทาง และธารน้ำแข็ง

และกลับมาเดินเล่นในเมืองตอนเย็น
หาซื้อขนม ถั่ว เสบียง กันเอาไว้มากมาย
พรุ่งนี้ต้องนั่งรถกันอีกไกล

ขอบคุณภาพนิ่งจาก Kty Lee

วันนี้เราอยู่กันที่ Hunza Valley และ Hopper Glacier

14/06/2018

Khunjerab Pass

เช้าวันนี้ ตื่นมาพร้อมกับวิวภูเขาข้างหน้าต่าง และอากาศเย็นเฉียบ แต่ที่ที่กำลังจะไปในวันนี้หนาวกว่าตอนเช้านี้อีก เพราะเราจะไปกันที่ Khunjerab Pass เป็นเส้นทางชายแดนที่รถวิ่งได้ที่สูงสุดในโลก เพราะมีความสูงเกือบ 5000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล และก็เป็นจุดที่สูงที่สุดของถนนเส้น คาราโครัม ไฮเวย์ อีกด้วย

ระหว่างทางเราต้องผ่านจุดรายงานตัว ต้องลงไปถ่ายรูปทีละคน

ถนนลัดเลาะไปตามภูเขา สูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนภูเขาข้างทางเริ่มมีหิมะปกคลุม อากาศก็เย็น เย็นมาก เย็นมากกกก มากกก มากกก

และเมื่อมาถึงจุดสิ้นสุดเขตปากีสถาน ก็โดนบังคับให้ไปถ่ายรูปกับป้ายซึ่งเป็นซุ้มประตูชายแดนปากีสถานและจีน

เราใช้เวลาที่นี้กันไม่นาน เพราะไม่ได้มีอะไรให้ทำมาก และอากาศก็หนาวมากด้วย แต่วิวก็คุ้มกับการนั่งรถมาตั้งหลายชั่วโมง

หลังจากลงมาจาก Khujerab Pass แล้ว เราก็มุ่งหน้าสู่ที่พัก Egle's nest Hotel
วิวจากโรงแรมวันนี้ก็ไม่แพ้วันก่อนเลยทีเดียว

ไม่ไกลจากโรงแรม มีเนินเขาพอให้ได้ไต่ขึ้นไปดูวิวและถ่ายรูป และเดินเล่นละแวกใกล้ๆ ก่อนจะกลับมาทานมื้อเย็น และซุกตัวอุ่นอยู่ในที่นอน