Hiroshima Must Go

12/08/2014

ร้านขายขนมเค้กบริเวณเคาท์เตอร์ขายตั๋วรถไฟที่ Hiroshima station เป็นอีกที่ที่แอดมินเดินผ่านทีไร ต้องหยุดดูความน่ารักของขนมเค้กในตู้กระจกทุกที

วันนี้แอดมินถ่ายรูปเค้กน่ารักๆมาฝาก รสชาติใช้ได้ ราคาไม่แพง และแบบเค้กก็จะเปลี่ยนไปตามเทศกาลต่างด้วยนะคะ เช่น Halloween และ Christmas ค่ะ

#แอดมินบันไซ

06/08/2014

บรรยากาศงานลอยโคมรำลึก 69ปี เหตุการณ์ทิ้งระเบิดที่เมืองฮิโรชิม่า ภาพจากแม่น้ำMotoyasu หน้า Atomic dome ค่ะ

ขอสันติภาพจงบังเกิดกับโลกใบนี้ด้วยค่ะ

#แอดมินบันไซ

06/08/2014

ภาพบรรยากาศการร่วมพิธีไว้อาลัยเหตุการณ์ระเบิดนิวเคลียร์ Little Boy ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
วันนี้เมื่อ 69ปีที่แล้ว นับเป็นวันเเห่งความสูญเสียทั้งด้านวัตถุและจิตใจของชาวฮิโรชิม่าและชาวญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ทุกๆวันที่ 6สิงหาคม เวลา 8:15 ของทุกปี ชาวเมืองฮิโรชิม่าจะมาร่วมไว้อาลัยที่ Peace Memorial Park เพื่อระลึกถึงเหยื่อผู้เสียชีวิตและเป็นการเรียกร้องสันติภาพให้เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการแสดงพลังรณรงค์ให้ใช้นิวเคลียร์เพื่อสันติอีกด้วย

#แอดมินบันไซ

We liked this Instagr.am by kackey_. Why not follow kackey_ here http://ift.tt/1nqdsoZ?

28/07/2014

ปราสาทญี่ปุ่น ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่น ที่ฮิโรชิม่าก็เช่นกัน

Hiroshima Castle หรือ Carp Castle เป็นปราสาทไม้ 5 ชั้น เดิมถูกสร้างขึ้นในปี 1589 ด้วยไม้สน ก่อนจะถูกทำลายลงด้วยระเบิดนิวเคลียร์ และถูกซ่อมแซมในปี 1958 ด้วยคอนกรีตแต่ภายนอกถูกตกแต่งให้เหมือนปราสาทเดิมด้วยไม้

ภายในจัดแสดงประวัติศาสตร์โบราณของเมืองฮิโรชิม่าและตัวปราสาท เน้นหนักไปที่ยุคซามูไร, เครื่องแต่งกายของซามูไรและอาวุธ(ลองใส่กิโมโนและชุดซามูไรได้นะคะ) , ประเพณีและวัฒนธรรมของเมืองนี้ และชั้นบนสุด ชั้น 5 เป็นจุดชมวิวที่สามารถชมวิวเมืองได้ในวันที่ฟ้าแจ่มใส^-^ นี่เป็นอีกที่ที่ไม่ควรพลาดในเมืองฮิโรชิม่าค่ะ


#แอดมินบันไซ

25/07/2014

Hiroshima Okonomiyaki : เมนูในยามยาก

สมัยที่ญี่ปุ่นแพ้สงคราม เมืองฮิโรชิม่าถูกทำลายย่อยยับ บ้านเมืองอยู่ในยุคข้าวยากหมากแพง ชาวบ้านต้องทำอาหารจากวัตถุดิบที่หาได้ง่าย ราคาถูก และไม่เปลืองข้าวสาร โอโคโนมิยากิจึงกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดี เพราะแค่ในบ้านมี แป้งสาลี ไข่ไก่ ผักและเนื้อสัตว์ตามชอบ มันมือเสือมาผสมให้แป้งเหนียวนุ่มสักหน่อย คนให้เข้ากันแล้วทอดบนกระทะก็อิ่มไปอีกมื้อ

โอโคโนมิยากิที่ฮิโรชิมาจะไม่ผสมส่วนผสมทั้งหมดแล้วทอดในทีเดียว แต่จะเริ่มจากละเลงแป้งสาลีลงบนเตาเป็นแผ่นบางคล้ายขนมเบื้องบ้านเรา ผัดเนื้อสัตว์ ผักและส่วนผสมอย่างอื่น จากนั้นค่อยนำมาซ้อนกันเป็นชั้นบนแผ่นแป้งแล้วนำ เส้นโซบะผัดรวมกันเป็นก้อนแล้วมาวางทับอีกที

ท๊อปปิ้งมาตรฐานคือ หมูสไลด์ แต่ปัจจุบันเราสามารถเลือกได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น หอยเชลล์ หอยนางรม ปลาหมึก กุ้ง ชีส หรือแม้แต่โมจิก้อนๆ เพราะจะใส่อะไรลงในแป้งก็ได้ คนญี่ปุ่นจึงให้ชื่ออาหารจานนี้ว่า “โอโคโนมิยากิ” มาจากคำว่า “โอโคโนมิ” ที่แปลว่า “สิ่งที่ชอบ” และ “ยากิ” ที่แปลว่า “ย่าง” หรือ “ทำให้สุก"

ร้านโอโคโนมิยากิ หาได้ง่ายแทบทุกหัวมุมถนนในเมือง คนในเมืองก็จะมีร้านโปรดของตัวเอง แต่ถ้าใครไม่รูจะไปร้านไหน แอดมินแนะนำว่าให้ไปที่ Okonomimura หรือ หมู่บ้านโอโคโนมิยากิ ซึ่งจะรวมหลายๆร้านดังไว้ในที่เดียว เสิร์ฟร้านๆหน้าเตา ทำให้เราดูเดี๋ยวนั้นเลย

พิกัดหมู่บ้าน อยู่บริเวณจตุรัสห้าง Parco ย่านแหล่งช๊อปปิ้ง Hondori ฝั่งเดียวกับร้าน Donkihote นะคะ ^-^

#แอดมินบันไซ

22/07/2014

แอดมินเป็นสาวน้อยที่หลงใหลในรสชาติของราเมงขั้นสูงสุด ไม่ว่าจะไปที่ไหนแอดมินก็ต้องเดินหาร้านราเมงตล๊อด ถ้าไม่พูดถึงร้านดังประจำเมือง ถือว่าผิดคอนเซปแอดมินมากๆ

ร้านที่จะแนะนำคือร้าน โยกิ (Youki) เป็นร้านที่อยู่คู่เมืองฮิโรชิม่ามานานกว่า50ปี เป็นร้านเล็กๆ นั่งได้ไม่เกิน 20คน วันไหนคนเยอะก็ต้องต่อแถวหน้าร้านสูดกลิ่นน้ำซุปหอมๆไปพลางๆให้อยากทานมากขึ้น

ทั้งร้านมีเมนูเดียว เป็นโชยุราเมง ท๊อปปิ้งคือ หมูสไลด์ ถั่วงอกและเนกิ แอดมินชิมแล้ว อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ น้ำซุปไม่มันเลี่ยนและไม่เค็มจนเกินไป หมูแทบละลายในปาก อร่อยถูกใจแอดมินมากๆ เขียนไปน้ำลายไหลไป ราคาไม่แพงด้วยค่ะ

ส่วนวิธีไป แอดมินแนะนำให้นั่งแท็กซี่ไปเลย เพราะทางค่อนข้างซับซ้อน บอกคนขับว่าไป ร้านโยกิ ราเมง คนขับรู้แน่นอน พาไปถูกแน่ๆค่ะ หรือไปตามแผนที่ตามลิ้งค์นี้เลย
http://flipflap-traveler.com/guide/japan/hiroshima/eating-drinking/33/
ร้านนี้เด็ดจริงๆ คนรักราเมงแบบแอดมินห้ามพลาด!!!

#แอดมินบันไซ

21/07/2014

ใครที่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่นก็จะรู้ว่า แต่ละเมืองจะมีลวดลายบนฝาท่อน่ารักๆแตกต่างกันออกไป น่าถ่ายรูปเก็บไว้

สำหรับฮิโรชิม่านั้น ลายฝาท่อสามารถบอกสถานที่สำคัญในบริเวณนั้นๆได้เป็นอย่างดี เช่น
ภาพแรก ฝาท่อรูปนักเบสบอล เราจะพบลายนี้ได้บนถนนที่เชื่อมไป Mazda Stadium สนามเบสบอลประจำเมือง (ทีมประจำเมืองคือ Carp)

ภาพขวาบน เป็นรูปคลื่นทะเลและนกนางนวล ฝานี้อยู่บนถนนที่จะไปยัง ท่าเรือของเมือง (Ujina Port)

ซ้ายล่าง ฝาท่อรูปนกกระเรียน เห็นปุ๊บเราก็เดาได้เลยว่า ถนนเส้นนี้จะต้องพาเราไปที่ Peace Memorial Park แน่นอน เพราะนกกระเรียนคือตัวแทนคำอธิษฐานของหนูน้อยซาดาโกะ เหยื่อระเบิดนิวเคลียร์นั่นเอง

ภาพสุดท้าย รูปปลาคาร์ฟและใบเมเปิ้ล สัญลักษณ์สำคัญของเมืองฮิโรฯค่ะ

ใครมีภาพฝาท่อระบายน้ำน่ารักๆ เอามาแชร์ให้แอดมินชมบ้างนะคะ

#แอดมินบันไซ

20/07/2014

ถ้าพูดถึงฮิโรชิม่า ของขึ้นชื่ออีกอย่างก็คือ ส้ม นั่นเอง
ต้นส้มจะถูกปลูกที่แถบ 'ทะเลเซโตะใน' พื้นที่แถบนี้ นอกจากจะมีอุณหภูมิที่อบอุ่นไม่ต่ำจนเกินไปแล้ว แสงแดดที่สะท้อนกับผิวน้ำทะเลระยิบระยับยังทำให้ส้มเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้นเป็นสองเท่า จึงได้ผลส้มที่มีคุณภาพหวานอร่อย

ใครเดินเล่นเหนื่อยๆแถว Peace Memorial Park แนะนำให้แวะชิมน้ำส้มคั้นสดๆ หวานอมเปรี้ยว ที่ร้าน Caffe Ponte ร้านอาหารสไตล์อิตาเลียน
พิกัดร้านอยู่ริมแม่น้ำ Motoyasu ฝั่งเดียวกับ Atomic Bomb Dome

ร้านนี้วิวดีมากๆ ถ้าไปช่วงซากุระ ก็จะเห็นทิวดอกซากุระสีชมพูอมขาวเลียบไปกับโค้งน้ำพอดิบพอดี เหมือนในรูปเลยค่ะ ห้ามพลาดเลยนะ

#แอดมินบันไซ

17/07/2014

ของดีที่พลาดไม่ได้เล้ยยยยยยย คือ หอยนางรมตัวเป้งๆ ย่างให้กินกันสดๆ จานละ 400เยนค่ะ

เวลากินก็เหยาะโชยุหน่อย น้ำมะนาวนิด เติมพริกให้แซบหน่อยก็ฟินแล้ววววว ถ้าไม่ได้มากินนี่ถือว่ามาไม่ถึงเลยนะเทออออออ

เวลานั่งเรือข้ามมาเกาะมิยาจิม่า จะเห็นคล้ายๆแพ ลอยอยู่บนทะเล อันนั้นคือที่เลี้ยงหอยนางรมให้เรากินนี่แหละ ลองสังเกตกันดูนะคะ


#แอดมินบันไซ

15/07/2014

ศาลเจ้าชินโตอิทสึกุชิมะและเสาโทริอิ เป็นมรดกโลกอีก1แห่งของเมืองฮิโรชิม่า ขึ้นทะเบียนเมื่อปี 2539

เสาโทริอิสีแดง สูงกว่า 16 เมตร ตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์สำคัญของมิยาจิม่า เวลาน้ำขึ้นก็จะให้ความรู้สึกเหมือนเสาลอยน้ำอยู่ ส่วนเวลาน้ำลงนักท่องเที่ยวก็จะลงเดิน นำเหรียญไปเสียบไว้ที่รอยแยกของไม้บริเวณโคนเสาพแล้วก็อธิษฐาน

เค้าว่ากันว่าศาลเจ้าแห่งนี้ศักดิ์สิทธิ์มากกกกก คนญี่ปุ่นก็จะมาขอพรกันล้นหลามโดยเฉพาะเทศกาลสำคัญๆ เช่นปีใหม่ นอกจากนี้การจัดพิธีแต่งงานที่นี่ก็เป็นที่นิยมมาก เพราะเชื่อกันว่าจะทำให้บ่าวสาวรักกันยั่งยืนถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร บางวันมีการจัดพิธีมากกว่า1คู่ และก็ต้องจองกันนานข้ามปีกันเลยทีเดียว ^-^

ถ้าไปเที่ยวอาจจะโชคดีได้เห็นพิธีแต่งงานแบบญี่ปุ่นก็ได้น้าาาา
!!!

#แอดมินบันไซ

14/07/2014

พอเดินไปเรื่อยบนเกาะ จะเห็นร้านขายขนมรูปใบเมเปิ้ลเต็มไปหมด
ขนมนี้เป็นของฝากที่ขึ้นชื่อมากๆของเกาะมิยาจิม่า 'โมมิจิมันจู'
(โมมิจิ แปลว่า ใบเมเปิ้ล : ช่วงใบไม้แดง เกาะมิยาจิม่าก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมในการชมใบไม้เปลี่ยนสีค่ะ เลยนำมาเป็นสัญลกษณ์ซะเลย)

มีไส้ให้เลือกหลากหลายมาก แต่ไส้ออริจินัลก็จะเป็น ไส้ถั่วแดงค่ะ (มีแบบลอกเปลือกและไม่ลอกเปลือก) นอกจากนี้ก็มี ไส้เกาลัด ชีส ครีม ฯลฯ ขนมร้อนๆอบใหม่ๆ กินคู่กับน้ำชาเย็นๆ เข้ากันดีเคมีตรงกันสุดๆค่ะ :)

บางร้านก็ดัดแปลงให้น่ารักขึ้น ปั๊มลายลงไปให้แบ๊วๆฟรุ้งฟริ้ง ทำเป็นรูปคิตตี้จังก็มีค่ะ แอดมินบอกได้คำเดียวว่า ห้ามพลาดค่ะ

#แอดมินบันไซ

12/07/2014

ร้อนๆแบบนี้มากินไอติมกันเถอะ

พิกัดไอติมstrawberry เกร็ดหิมะก็บนเกาะมิยาจิม่านี่แหละคร่าาาาา

กินแล้วได้รสสัมผัสของstrawberry แท้ๆ หอม หวาน ชื่นใจมากค่ะ ^.^

10/07/2014

เราข้ามกันมาที่ตัวเกาะมิยาจิม่าละ สิ่งหนึ่งที่มาต้อนรับเราก็คือ น้องกวางตัวสีน้ำตาลลายจุดขาวๆหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู บ้างก็นอน บ้างก็เดิน บางทีก็เดินเข้าเฟรมเป็นดาราหน้ากล้องให้ด้วย (รู้งานจริงๆ)

แต่เห็นน่ารักๆแบบนี้ก็ต้องระวังนิดนึงนะคะ เพราะน้องกวางพวกนี้หิวและชอบกินกระดาษค่ะ มีป้ายเตือนนักท่องเที่ยวให้ระวังตั๋ว โบรชัวร์ต่างๆ แล้วก็ต้องทิ้งขยะให้เป็นที่เป็นทางด้วย เพราะถ้าทิ้งบนพื้น น้องกวางจะรีบไปกินและเป็นอันตรายต่อสุขภาพน้องเค้าค่ะ

มีครั้งนึง แอดมินเผลอ ถ่ายรูปเพลินๆ น้องกวางเข้ามาข้างหลังแล้วกระชากถุงพลาสติกของแอดมินขาดเลยค่ะ ต้องยื้อแย่งกันสักพักถึงจะยอมปล่อย (น้องนึกว่าเป็นกระดาษ น้องหิววว T^T)

2รูปนี้แอดมินถ่ายได้พอดีตอนน้องกวางกินกระดาษเสียบขนมของนักท่องเที่ยวที่ทิ้งไว้ตามพื้นค่ะ เห็นมั้ยคะ หลักฐานคาปากเลย อิอิ
ร่วมด้วยช่วยกันทิ้งขยะให้เป็นที่นะคะ ^-^

#แอดมินบันไซ

08/07/2014

เมื่อวานก่อนพูดถึงข้าวหน้าปลาไหลที่ต้องรอนานพอสมควร
ระหว่างนั่งรอเรามีร้านกาแฟให้นั่งรอชิวๆมาแนะนำ อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลพิกัดเดิม อยู่หน้าสถานี Miyajimaguchi อยู่ฝั่งเดียวกันของถนน แค่มุดอุโมงค์กลับไป (ดูภาพประกอบตามรูปเลยค่ะ)

ร้านชื่อว่า Bluebird Coffee เป็นร้านกาแฟเล็กๆ2ชั้น ที่รวมร้านกาแฟและร้านขายของน่ารักๆรวมกัน ชั้นล่างจะมีของกระจุกกระจิก แฮนด์เมด เครื่องประดับ กระเป๋าเงินน่ารักๆ เครื่อครัวเก๋ๆก็มีนะ

สั่งกาแฟแล้วจะเดินดูของต่อหรือจะขึ้นไปรอที่ชั้น 2 นั่งอ่านหนังสือหรือเล่นกับแมวเหมียวรอไปพลางๆก่อนก็ได้

พอขึ้นไปชั้น2 บรรยากาศร้านอบอุ่นสบายคล้ายบ้าน มีชั้นหนังสือใหญ่ วางกับของที่ระลึกจากหลายๆประเทศทั่วโลก(ไม่ขายนะ)

นอกจากรสชาติเครื่องดื่มที่อร่อยมากแล้ว แก้วกาแฟก็เป็นสิ่งที่แอดมินชอบมาก เป็นแก้วใสเป่า2ชั้น จับแล้วไม่ร้อนมือ ไม่มีหยดน้ำมากวนใจ (เจ้าของก็หล่อน่ารักมุ้งมิ้งมากฮะ >///

06/07/2014

ชี้พิกัด!!! ข้าวหน้าปลาไหล(Anago Mechi) ที่อร่อยที่สุดในฮิโรชิม่า
ถ้าอยากกินของดีของเด็ด ต้องไปที่เกาะมิยาจิม่าเท่านั้น

พิกัดร้าน: วิธีไปร้านนี้ง่ายมาก เดินตามกลิ่นไปหอมของปลาไหลย่างตั้งแต่ก้าวแรกที่สถานีรถไฟ Miyajimaguchi
พอลงรถไฟมา ข้ามถนนโดยลอดอุโมงค์ใต้ดิน โผล่ขึ้นมาจะเห็นร้านที่คนรอคิวแน่นๆอยู่ขวามือตามภาพเลยค่ะ ร้านเปิด11โมง

แอบกระซิบว่า รอคิวค่อนข้างนานนะคะ ประมาณ1-2 ชั่วโมง
ราคาประมาณ 1500เยน (จำราคาที่แน่นอนไม่ได้ มีชามสามขนาด)
รสชาติหวานหอมนุ่มละมุนลิ้น คุ้มค่าเงินและเวลาที่รอแน่นอน แอดมินคอนเฟิร์ม ค่ะ ^-^

#แอดมินบันไซ

05/07/2014

ในที่สุดเราก็ถึง Atomic Bomb Dome ซะที
ภาพที่เห็นคืออาคารเก่าสีน้ำตาลหลังคาโดมสไตล์ยุโรปตั้งตระหง่านริมแม่น้ำโมโตยะสุ เมื่อเดินข้ามสะพานเข้าไปดูใกล้ๆ จะพบว่าส่วนล่างของอาคารยังมีสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์ แตกต่างจากด้านบนที่ถูกไฟไหม้ โดยเฉพาะส่วนที่เป็นโดมที่เสียหายอย่างหนัก นั่นก็เพราะระเบิดนิวเคลียร์ไม่ได้ระเบิดที่พื้นดินเหมือนระเบิดทั่วไป แต่ระเบิดกลางอากาศนั่นเอง

ก่อนการระเบิดนิวเคลียร์ อาคารแห่งนี้เคยเป็นที่ทำการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมเมืองฮิโรชิม่า ปัจจุบันได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลก 1ใน2 แห่งของเมืองฮิโรชิม่า ตั้งแต่ปี 1996 (UNESCO World Heritage ครั้งต่อไปจะพาไปดูมรดกโลกอีกแห่งของเมืองนี้นะคะ)

ริมแม่น้ำฝั่งตรงข้ามโดมมักจะมีคุณลุงผู้รักศิลปะมานั่งทอดอารมณ์อาบแดด ละเลงพู่กันบนผืนผ้าใบเสมอๆ และในวันหยุดสุดสัปดาห์ก็จะมีไกด์ท้องถิ่นมาเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอยู่บริเวณรอบๆโดมด้วย ใครไปเที่ยวฮิโรชิม่าแล้วไม่ได้ไปชมสถานที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้ ถือว่าไปไม่ถึงนะคะ ค่ะ ^-^

#แอดมินบันไซ

04/07/2014

ระหว่างทางที่เดินเตร็ดเตร่จากพิพิธภัณฑ์มาโดม จะเจออีกอนุสรณ์นึงที่มีรูปร่าง3ขาที่มีระฆังอยู่ตรงกลาง และมีรูปปั้นเด็กผู้หญิงยืนกางแขนแบกนกกระเรียนอยู่ด้านบน เด็กหญิงคนนั้นคือหนูน้อยซาดาโกะ ผู้เป็นหนึ่งในเหยื่อของระเบิดนิวเคลียร์ เธอรอดพ้นจากแรงระเบิดในวันแห่งประวัติศาสตร์ แต่เธอไม่สามารถหนีจากอนุภาพของกัมมันตรังสีไปได้

เธอป่วยเป็นลูคีเมีย ระหว่างที่รักษาตัว เธอเชื่อว่า ถ้าเธอพับนกกระเรียนได้ครบ 1000ตัว เธอจะหายจากโรคร้ายนี้ แต่ทว่าความยากแค้นจากภาวะสงครามทำให้กระดาษกลายเป็นของราคาแพงและหายาก นกกระเรียนบางตัวจึงมีขนาดเล็กมากจนต้องใช้เข็มพับ เพื่อนๆของเธอก็ช่วยพับ ส่งแรงอธิษฐานให้เธอ แต่ก่อนที่เราจะทราบกันว่า ความเชื่อเรื่องนกกระเรียนเป็นจริงหรือไม่ เธอก็สิ้นใจก่อน T^T

ปัจจุบันผู้คนก็ยังคงนำนกกระเรียนหลากสีสันมาวางไว้ที่อนุสรณ์เพื่อระลึกถึงเธอ เมื่อกระดาษมีปริมาณมากขึ้น ทางเมืองฮิโรชิม่าก็นำกระดาษเหล่านั้นมาทำเป็นของที่ระลึก เช่น สมุดโน้ต ฯลฯ (ฉลาดจริงๆ แฮะๆ ) ลองไปดูไปชม เลือกซื้อได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบริเวณริมแม่น้ำนะคะ

#แอดมินบันไซ

03/07/2014

อีกจุดที่น่าสนใจรอบๆพิพิธภัณฑ์คือ Peace Memorial Parkแห่งนี้นี่เองงงง สวนถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่โล่งๆ สะอาด ร่มรื่น สวยทั้งช่วงใบไม้แดงและช่วงซากุระบานเลยฮะ มีม้านั่งที่สามารถพักผ่อนหย่อนใจ พาหมาเดินเล่น(เก็บอึน้องหมาด้วยนะ) และนั่งกินข้าวได้ฮะ

ตรงกลางสวนมีอนุสรณ์โค้งๆที่ไว้รำลึกถึงเหยื่อระเบิดนิวเคลียร์ นักท่องเที่ยวก็มักจะมาทำความเคารพตรงนี้แหละฮะ ไฮไลท์ที่ต้องไปดู
คือเวลาที่ไปยืนตรงหน้าอนุสรณ์เราจะเห็น3อย่างตรงกันเป๊ะ
1.อนุสรณ์สถาน
2.ไฟแห่งสันติ
3.Atomic Bomb Dome
ตามลำดับแบบในภาพแรกเลยฮะ ^-^
#แอดมินบันไซ

02/07/2014

Hiroshima Peace Memorial Museum
พิพิธภัณฑ์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ความรู้และรำลึกถึงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 1945 ฮิโรชิม่าตกเป็นเหยื่อของระเบิดนิวเคลียร์ Little Boy ในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ทั้งช่วงก่อนและหลังโดนทิ้งระเบิด ไม่ว่าจะเป็นรูปถ่าย อาวุธ ยารักษาโรค เสื้อผ้า จดหมายต่างๆ

สิ่งที่แอดมินคิดว่าเด็ดต้องไปดูให้ได้ คือ 'นาฬิกา' ฮะ เข็มนาฬิกาทุกเรือนจะชี้ที่เวลา 8.15น. ซึ่งเป็นเวลาที่โดนทิ้งระเบิด แรงระเบิดรุนแรงมากจนนาฬิกาสิ้่นชีพพร้อมๆกันทั้งเมืองเลยฮะ นอกจากสิ่งของก็ยังมีการให้ความรู้เช่นทำไมอเมริกาถึงเลือกที่นี่เป็นจุดยุทธศาสตร์, ชนิดของระเบิดนิวเคลียร์(สอนวิทยาศาสตร์ให้เด็กได้ มีเด็กตัวน้อยๆใส่หมวกเหลืองมาทัศนศึกษาเต็มเลยฮะ), ประโยชน์และโทษของเทคโนโลยีนิวเคลียร์ แคมเปญรณรงค์ หรือแม้แต่ชิ้นเนื้อ เส้นผมที่งอกขึ้นมาอย่างผิดปกติจากกัมมันตรังสี แอบสะเทือนใจแอดมินมากฮะ T^T sound effect ค่อนข้างหลอน บิิ้วอารมณ์ บีบคั้นจิตใจแอดมินตลอดทางเลยยยย

ค่าเข้าถูกมากแค่ 50เยน แต่สิ่งที่ได้หลังเข้าชมประเมินค่าไม่ได้เลยฮะ เราได้เรียนรู้ ตระหนักถึงพิษภัยของสงคราม รู้ว่าความรุนแรง ความเกลียดชังมีแต่ทำให้ทุกอย่างแย่ลง เทคโนโลยีนิวเคลียร์มีคุณอนันต์แต่ก็โทษมหันต์เหมือนกันถ้าใช้ในทางที่ผิด ออกมาเข้าใจเลยว่าทำไมคนญี่ปุ่นถึงขยัน อดทน เข้มแข็งขนาดนี้ฮะ

ใครไปแอ่วฮิโรชิม่า บอกเลยฮะว่าที่นี่ !!!
ปล. ลืมบอกว่ามี audio guide ภาษาไทยให้เช่าฟังด้วยนะฮะ
#แอดมินบันไซ