Travel retreat

  • Home
  • Travel retreat

Travel retreat Thailand is the best destination for nature and Dhamma's lover. We can recommend suitable retreat courses and destinations in our beloved country.

21/09/2024

รวบรวมรายชื่อสุดยอด 48 สถานที่ปฏิบัติธรรมในประเทศไทย
๑. วัดธรรมมงคล

๑๓๒ ถ.สุขุมวิท ซอย ๑๐๑ ตรอกปุณณวิถี ๒๐
แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ ๑๐๒๖๐
โทร. ๐๒-๓๑๑-๑๓๘๗, ๐๒-๓๓๒-๔๑๔๕, ๐๒-๗๔๑-๗๘๒๒.....วิปัสสนาจารย์ พระเทพเจติยาจารย์ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)
แนวการปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”
สถานที่ปฏิบัติมีหลายแห่ง คือ ๑. ศาลาปฏิบัติธรรม เป็นห้องมุ้งลวด
๒. ถ้ำวิปัสสนา (จำลอง) ๓. ศูนย์สมาธิวิริยานุภาพ มี ๘๐ ห้องพัก
ทุกห้องมีเครื่องปรับอากาศ ๔. ห้องสำหรับทำสมาธิ
๕. สถานปฏิบัติธรรม จ.เชียงราย ๖. สำนักสงฆ์น้ำตกแม่กลาง

๒. วัดอัมพวัน
๕๓ หมู่ที่ ๔ ถ.เอเชีย กม. ๑๓๐ บ้านอัมพวัน
ต.พรหมบุรี อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ๑๖๑๖๐
โทร. (๐๓๖) ๕๙๙-๓๘๑, (๐๓๖) ๕๙๙-๑๗๕
วิปัสสนาจารย์ พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)
แนวการปฏิบัติ สติปัฏฐาน ๔ บริกรรม “ยุบหนอ พองหนอ”

๓. ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย
ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
๕๘/๘ ถ.เพชรเกษม ๕๔ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ๑๐๑๖๐
โทร. ๐๒-๔๑๓-๑๗๐๖, ๐๒-๘๐๕-๐๗๙๐-๔
วิปัสสนาจารย์ คุณแม่สิริ กรินชัย
แนวการปฏิบัติ แนวสติปัฏฐาน ๔ เจริญสติอย่างต่อเนื่อง
ตามแนวพระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ) วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์
สถานที่เป็นตึกทันใหม่ทันสมัยหลายหลัง โดยทั่วไปการอบรมใช้เวลา ๘ วัน ๗ คืน

๔. สวนโมกขพลาราม
๖๘ หมู่ ๑ ต.เลเม็ด อ ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ๘๔๑๑๐
โทร. ๐๗๗-๔๓๑-๕๙๖-๗, ๐๗๗-๔๓๑-๖๖๑-๒
วิปัสสนาจารย์ ท่านพุทธทาสภิกขุ
แนวการปฏิบัติ อานาปานสติภาวนา

๕. วัดป่าสุนันทวนาราม( ตรวจสอบอีกทีนะครับ เพราะพระอาจารย์มิตซูโอะ ได้ลาสิกขาไปแล้ว)
๑๑๐ หมู่ที่ ๘ บ้านท่าเตียน ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ๗๑๑๕๐
วิปัสสนาจารย์ พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
แนวการปฏิบัติ อานาปานสติภาวนา
เปิดอบรม “อานาปานสติภาวนา” แก่ผู้สนใจ ครั้งละ ๙ วัน
เปิดรับครั้งละ ๑๐๐-๑๕๐ คน เป็นการปฏิบัติที่เคร่งครัด กินอาหารวันละ ๑ มื้อ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ มูลนิธิมายา โคตมี คุณดารณี บุญช่วย
โทร. ๐๒-๓๒๑-๖๓๒๐, ๐๒-๖๗๖-๓๔๕๓, ๐๒-๖๗๖-๔๓๒๓

๖. วัดภูหล่น
๙ บ้านภูหล่น ต.สงยาง อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี ๓๔๒๕๐
ปฐมวิปัสสนาจารย์ หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล และหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
(วัดภูหล่น เป็นสถานที่หลวงปู่มั่นออกธุดงค์ครั้งแรกกับหลวงปู่เสาร์)
วัดนี้ค่อนข้างจะห่างจากตัวเมือง บรรยากาศดีมาก เย็นสบาย และเงียบสงบ
มีสิ่งปลูกสร้างที่อยู่บนเขาไม่สูงนัก สามารถกางกลดอยู่ได้
มีโบสถ์บนเขาและมีกุฏิโดยรอบ บ้างก็ซ่อนอยู่ตามซอกเขา
ที่นี่เหมาะกับผู้เคยปฏิบัติธรรมมาแล้ว ต้องการมาปฏิบัติขั้นอุกฤษฎ์

๗. วัดถ้ำขาม
บ้านคำข่า หมู่ที่ ๔ ต.ไร่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ๔๗๑๓๐
วิปัสสนาจารย์ พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร
วัดมีเนื้อที่ ๘๔๐ ไร่ พื้นที่จรดเขตอุทยานป่าแนวเทือกเขาภูพาน วัดอยู่บนเขาสูง
แต่ก็มีบันไดขึ้นลงสะดวก มีลิงป่า และไก่ป่า
ที่พัก มีที่พักเป็นกุฏิ (กุฏิละ ๑ คน) หรือพักรวมบนศาลาก็ได้
เหมาะสำหรับผู้ต้องการมาปฏิบัติขั้นอุกฤษฎ์

๘. วัดมเหยงคณ์
ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ๑๓๐๐๐
โทรศัพท์ ๐๓๕-๒๔๒-๘๙๒, ๐๓๕-๒๔๔-๓๓๕
วิปัสสนาจารย์ พระครูเกษมธรรมทัต (สุรศักดิ์ เขมรํสี)
แนวปฏิบัติ เดินจงกรม นั่งสมาธิ กำหนดรู้ รูป-นาม

๙. สำนักปฏิบัติแสงธรรมส่องชีวิต
หมู่ ๑ สี่แยกหินกอง ต.โคกแย้ อ.หนองแค จ.สระบุรี ๑๘๒๓๐
โทร. (๐๓๖) ๓๗๙-๔๒๘, (๐๓๖) ๓๐๕-๒๓๙
วิปัสสนาจารย์ พระอาจารย์สมชาติ ธมฺมโชโต
แนวปฏิบัติ เน้นให้ผู้ฝึกมีสติรู้ในอิริยาบท
ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันสำคัญทางศาสนา
จะมีการจัดอบรมฝึกวิปัสสนากรรมฐาน บวชชีพราหมณ์ เนกขัมมะ

๑๐. วัดสนามใน
๒๗ หมู่ ๔ ต.วัดชลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ๑๑๑๓๐
โทร. ๐๒-๔๒๙-๒๑๑๙, ๐๒-๘๘๓-๗๒๕๑
วิปัสสนาจารย์ หลวงพ่อเทียน จิตตฺสุโภ
แนวปฏิบัติ เน้นการเจริญสติรู้การเคลื่อนไหวของกาย ตามหลักสติปัฏฐาน ๔
วิธีที่เป็นที่นิยมคือวิธีสร้างจังหวะ เป็นวิธีสร้างสติแบบนั่งทำสมาธิแต่ไม่ต้องหลับตา

๑๑. วัดป่านานาชาติ
หมู่ที่ ๗ บ้านบุ่งหวาย ต.บุ่งหวาย อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ๓๔๓๑๐
(สาขา ๑๑๙ ของวัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี)
วิปัสสนาจารย์ พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ
เป็นวัดป่าที่มีต้นไม้ใหญ่มาก มียุงและแมลงต่างๆ มาก
คนที่แพ้ยุงก็ควรหายากันยุงไปด้วย อากาศเย็นสบาย ทานอาหารวันละ ๑ มื้อ
การไป ให้เขียนจดหมายไปขออนุญาตจากเจ้าอาวาส แล้วจึงเดินทางไปอยู่

๑๒. วัดปทุมวนาราม
ถ.พระราม ๑ แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ๑๐๓๓๐
โทร. ๐๒-๒๕๑-๒๓๑๕, ๐๒-๒๕๒-๕๔๖๕
วิปัสสนาจารย์ พระราชพิพัฒนาทร (หลวงพ่อถาวร จิตฺตถาวโร)
แนวปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”
นั่งปฏิบัติในศาลาพระราชศรัทธา มีอาสนะและผ้าคลุมตักให้หยิบใช้ได้
บริเวณโดยรอบมีการปลูกแต่งด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย ร่มรื่นสวยงาม
กำหนดการปฏิบัติธรรมที่ศาลาฯ ประจำวันจันทร์-ศุกร์ วันละ ๓ เวลา
เช้า ๗.๐๐-๘.๐๐ น. กลางวัน ๑๒.๐๐-๑๓.๐๐ น. เย็น ๑๗.๐๐-๒๐.๐๐ น.

๑๓. วัดปากน้ำภาษีเจริญ
๘ แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ๑๐๑๖๐
โทร. ๐๒-๔๖๗-๒๑๖๖
วิปัสสนาจารย์ พระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อสด จนฺทสโร)
แนวปฏิบัติ ตามแนวธรรมกาย ใช้คำบริกรรม “สัมมาอรหัง”
สถานที่ปฏิบัติ ๑. หอเจริญวิปัสสนาฯ ชั้น ๒ เป็นห้องแอร์ปูพรม
๒. หอสังเวชนีย์มงคลเทพนิมิต ๓. ตึกบวรเทพมุนี

๑๔. วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎ์
๓ ท่าพระจันทร์ แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ ๑๐๒๐๐
วิปัสสนาจารย์ พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ)
แนวปฏิบัติ ตามแนวสติปัฏฐาน ๔ ใช้คำบริกรรม “ยุบหนอ พองหนอ”
สถานที่ปฏิบัติ คณะ ๕ สำนักงานกลาง กองการวิปัสสนาธุระ
เปิดทุกวัน สอนเดินจงกรมและนั่งสมาธิ
เช้า ๐๗.๐๐-๑๐.๐๐ น. กลางวัน ๑๓.๐๐-๑๖.๐๐ น. เย็น ๑๘.๐๐-๑๙.๐๐ น.

๑๕. วัดอินทรวิหาร
อาคารปฏิบัติธรรม “เฉลิมพระเกียรติ” วัดอินทรวิหาร
แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ ๑๐๒๐๐
โทร. ๐๒-๖๒๘-๕๕๕๐-๒
วิปัสสนาจารย์ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
แนวการปฏิบัติ แนวหลักสูตรของคุณแม่สิริ กรินชัย ๘ วัน ๗ คืน หรือ ๔ วัน ๓ คืน
เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมขยายผล จากผู้ปฏิบัติธรรมกับคุณแม่สิริ กรินชัย
เป็นอาคารทันสมัย ๕ ชั้น จุได้ประมาณ ๕๐๐ คน

๑๖. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พุทธมณฑล
ถ.พุทธมณฑลสาย ๔ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ๗๓๑๗๐
โทร. ๐๒-๔๔๑-๙๐๐๙, ๐๒-๔๔๑-๙๐๑๒
แนวปฏิบัติ สติปัฏฐาน ๔ กำหนดรู้อารมณ์ บริกรรม “ยุบหนอ พองหนอ”
สถานที่ปฏิบัติ ชั้น ๒ ของหอประชุม มีเครื่องปรับอากาศ ห้องนอน
มีเครื่องนอน เช่น หมอน มุ้ง ผ้าห่มให้พร้อมหรือนำไปเองก็ได้ ทานอาหาร ๒ มื้อ

๑๗. ศูนย์วิปัสสนายุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย
เฉลิมพระเกียรติ ศูนย์ที่ ๒ จังหวัดปทุมธานี
๑๙ หมู่ที่ ๑๖ ต.คลองสาม อ.คลองสาม จ.ปทุมธานี ๑๒๑๒๐
โทร. ๐๒-๙๘๖-๖๔๐๓-๕ โทรสาร ๐๒-๙๘๖-๖๔๐๓-๔ ต่อ ๑๑๑
เป็นสาขาของยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย เพชรเกษม ๕๔
วิปัสสนาจารย์ คุณแม่สิริ กรินชัย
แนวการปฏิบัติ แนวสติปัฏฐาน ๔ เจริญสติอย่างต่อเนื่อง
ตามแนวพระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ) วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์
สถานที่ร่มรื่น สงบเย็น สัปปายะดีมาก โดยทั่วไปการอบรมใช้เวลา ๘ วัน ๗ คืน

๑๘. วัดอโศการาม
๑๓๖ หมู่ที่ ๒ กม. ๓๑ ถ.สุขุมวิท (สายเก่า) ซ.สุขาภิบาล ๕๘
ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ๑๐๒๘๐
โทร. ๐๒-๓๘๙-๒๒๙๙, ๐๒-๗๐๓-๘๔๐๕
วิปัสสนาจารย์ หลวงพ่อลี ธมฺมธโร
บริเวณกว้างขวาง มีสระน้ำใหญ่ในบริเวณวัด
กุฏิพระ แม่ชี และที่พักแยกเป็นสัดส่วนเรียงรายรอบวัดเป็นร้อยๆ หลัง
ส่วนมากอยู่ติดริมทะเลซึ่งเป็นป่าชายเลน

๑๙. วัดญาณสังวราราม วรมหาวิหาร
บ้านห้วยใหญ่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ๒๐๑๕๐
โทร. (๐๓๘) ๒๓๗-๕๐๖, ๒๓๗-๖๔๒, ๒๓๗-๙๑๒
วิปัสสนาจารย์ พระจุลนายก (พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต)
สถานที่ปฏิบัติ เป็นอาคารคอนกรีต ๒ ชั้น มีอาคาร ญส. ๗๒ ชาย และ ญส. ๗๒ หญิง
ชั้นละ ๑๐ ห้อง มีห้องน้ำในตัว เรือนปฏิบัติธรรมมี ๑๗ หลัง

๒๐. สำนักวิปัสสนากรรมฐานวิเวกอาศรม
ซ.ประชานุกูล ๗ ถ.ชลบุรี-บ้านบึง ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ๒๐๐๐๐
โทร. (๐๓๘) ๒๘๓-๗๖๖, (๐๓๘) ๒๘๓-๓๔๐
วิปัสสนาจารย์ พระอาจารย์ภัททันตะ อาสภมหาเถระ
แนวปฏิบัติ สติปัฏฐาน ๔ ใช้คำบริกรรม “ยุบหนอ พองหนอ”
มีเรือนพักปฏิบัติธรรมทั้งหญิงชายแยกเป็นสัดส่วนอยู่จำนวนมาก
การอยู่ปฏิบัติให้พักคนเดียว เน้นการเก็บอารมณ์ ไม่พูดคุยกัน อย่างเคร่งครัด
การรับประทานอาหารจะมีปิ่นโตส่งถึงห้อง ๒ มื้อ
ทุกวันจะมีการสอบอารมณ์กรรมฐานโดยพระอาจารย์
ค่าน้ำไฟ อาหาร วันละ ๕๐ บาท หรือเดือนละ ๑,๕๐๐ บาท ห้ามอยู่เกิน ๙๐ วัน

๒๑. วัดภัททันตะอาสภาราม
สำนักวิปัสสนาสมมิตร-ปราณี
๑๑๘/๑ หมู่ที่ ๑ บ้านหนองปรือ ต.หนองไผ่แก้ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ๒๐๒๒๐
โทร. ๐๓๘-๒๙๒-๓๖๑, ๐๘๑-๗๑๓-๐๗๖๔, ๐๘๑-๙๒๑-๑๑๐๑
เป็นสถานที่ซึ่งมีผู้บริจาคเพื่อขยับขยายมาจากสำนักวิปัสสนากรรมฐานวิเวกอาศรม
แนวปฏิบัติ สติปัฏฐาน ๔ ใช้คำบริกรรม “ยุบหนอ พองหนอ”
สถานที่ล้อมรอบด้วยทุ่งและธรรมชาติ มีกุฏิสงฆ์สร้างในแบบธรรมชาติมุงจาก
อาคารปฏิบัติธรรมขนาดกลางและอุโบสถ ยังรับผู้ปฏิบัติธรรมได้ไม่มากนัก

๒๒. วัดเขาสุกิม
๑๒ ต.เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ๒๒๑๒๐
โทร. ๐๘-๙๙๓๑-๕๕๔๔, ๐๘-๑๔๕๖-๘๓๘๔
วิปัสสนาจารย์ หลวงพ่อสมชาย ฐิตวิริโย
แนวปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ใช้คำบริกรรม “พุทโธ”
วัดตั้งอยู่สูงขึ้นไปบนเชิงเขา กว้างขวางกว่า ๓,๒๘๐ ไร่
มีทางบันได และรถรางขึ้นไปบนวัด บริเวณร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย
มีศาลาที่พักที่สะดวกสบาย เป็นห้องมุ้งลวด มีเตียง ที่นอนหมอนให้ หรือพักที่กุฏิว่างต่างๆ

๒๓. วัดจันทาราม (วัดท่าซุง)
๖๐ หมู่ที่ ๑ บ้านท่าซุง ต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยธานี ๖๑๐๐๐
โทร. (๐๕๖) ๕๑๑-๓๖๖, (๐๕๖) ๕๑๑-๓๙๑
วิปัสสนาจารย์ พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
แนวปฏิบัติ มโนมยิทธิ บริกรรม “นะ มะ พะ ธะ” และสอนอนุสติ บริกรรม “พุทโธ”

๒๔. วัดถ้ำผาปล่อง
ต.บ้านถ้ำ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ๕๐๑๗๐
วิปัสสนาจารย์ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
สำนักสงฆ์แห่งนี้อยู่บนดอย ทางขึ้นลงเทปูนเป็นบันไดเดินได้สะดวกแต่ค่อนข้างสูง
หลวงปู่เคยเล่าไว้ว่าที่ถ้ำผาปล่อง และถ้ำเชียงดาวนี้ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
ให้สำรวมระวัง รักษาความสงบ ไม่ร้องรำทำเพลง เล่นตลกคะนอง
เพราะเคยมีพระอรหันต์ตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้ากกุสันโธ
พระอรหันต์สมัยพระพุทธเจ้าโกนาคม พระอรหันต์สมัยพระกัสสโป
และพระอรหันต์สมัยพระพุทธโคดม มาบำเพ็ญเพียรและละสังขารอยู่หลายองค์
การนั่งภาวนาที่นี่จะทำเหมือนสมัยที่หลวงปู่ยังอยู่ คือ
ท่านจะให้ทุกคนที่ไปภาวนานั่งสมาธิเพชรฟังเทศน์ ด้วยเหตุผลว่า
”การนั่งสมาธิเพชรนั้นเป็นการฝึกฝนคนเราให้เกิดความตั้งใจมั่น”

๒๕. วัดป่าสาลวัน
ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ๓๐๐๐๐
โทร. (๐๔๔) ๒๕๔-๔๐๒, ๐๘-๑๙๖๗-๑๔๓๕
วิปัสสนาจารย์ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
แนวปฏิบัติ แนวหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น ภาวนา “พุทโธ”
วันที่ ๑-๕ ของทุกเดือน จะมีการอบรมการปฏิบัติแก่อุบาสกอุบาสิกา
ที่ใต้ศาลา และบนวิหารชั้น ๒ โดยจะมีพระให้การอบรม

๒๖. วัดแดนสงบอาสภาราม
๙๙ ซอย ๑๙ ถ.มิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ๓๐๐๐๐
โทร. (๐๔๔) ๒๑๔-๑๓๔, (๐๔๔) ๒๑๔-๘๖๙-๗๐
วิปัสสนาจารย์ พระครูภาวนาวิสิฐ
แนวปฏิบัติ สติปัฏฐาน ๔ อานาปานสติภาวนา

๒๗. วัดป่าวะภูแก้ว
หมู่ที่ ๑๑ บ้านวะภูแก้ว ต.มะเกลือใหม่ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ๓๐๑๗๐
โทร. (๐๔๔) ๒๔๙-๐๔๕
เป็นวัดสาขาของวัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา
วิปัสสนาจารย์ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
แนวปฏิบัติ แนวหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น ภาวนา “พุทโธ”
วัดอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ มีต้นไม้ใหญ่น้อยมาก สถานที่เงียบสงบ สวยงาม
มีอาคารอบรมขนาดใหญ่ สำหรับผู้มาทำสมาธิเป็นหมู่คณะ

๒๘. วัดหนองป่าพง
๔๖ หมู่ ๑๐ บ้านพงสว่าง ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ อุบลราชธานี ๓๔๑๙๐
โทร. (๐๔๕) ๓๒๒-๗๒๙
วิปัสสนาจารย์ หลวงพ่อชา สุภัทโท
แนวปฏิบัติ เน้นให้มีสติสม่ำเสมอ ฝึกสมาธิแบบอานาปานสติ

๒๙. ศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนเวฬุวัน
๖ หมู่ที่ ๒๕ บ้านเนินทาง ต.บ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ๔๐๐๐๐
โทร. (๐๔๓) ๒๓๗-๗๘๖, (๐๔๓) ๑๒๗-๗๙๐
เป็นสถานปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานสาขาของวัดอัมพวัน
วิปัสสนาจารย์ พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)
แนวปฏิบัติ สติปัฏฐาน ๔ เช่นเดียวกับวัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี

๓๐. วัดป่าวิเวกธรรมวิทยาราม (วัดป่าเหล่างา)
ซ.ศรีจันทร์ ๑๓ ถ.ศรีจันทร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ๔๐๐๐๐
โทร. (๐๔๓) ๒๒๒-๐๔๒
วิปัสสนาจารย์ หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม และหลวงปู่บุญเพ็ง กปฺปโก
แนวปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”

๓๑. วัดถ้ำผาบิ้ง
บ้านนาแก ต.ผาบิ้ง อ.วังสะพุง จ.เลย ๔๒๑๓๐
วิปัสสนาจารย์ หลวงปู่หลุย จันทสาโร
เมื่อไปถึงจะพบศาลาสร้างด้วยไม้ที่โปร่งสะอาดน่านั่งสมาธิ มีกุฏิหลายหลัง
มีถ้ำอยู่ไม่สูงจากเชิงเขา มีบันได้ขึ้นสะดวก เป็นที่สงบวิเวกมาก
เหมาะแก่การปฏิบัติอย่างอุกฤษฎ์ พระในสายพระอาจารย์มั่นมักมากจำพรรษา
และปฏิบัติธรรมที่นี่ เพราะเป็นที่สัปปายะ บรรยากาศเงียบสงบ ห่างไกลจากตัวเมือง

๓๒. วัดถ้ำกองเพล
ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ๓๙๐๐๐
โทร. (๐๔๒) ๓๑๒-๓๗๗
วิปัสสนาจารย์ หลวงปู่ขาว อนาลโย
แนวปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”
เป็นวัดป่ากว้างขวาง พร้อมศาลาปฏิบัติธรรมสร้างภายในถ้ำ
ทางไปถ้ำสะดวกอยู่ริมถนน รถเข้าถึงปากถ้ำได้ ไม่ต้องปีน
บางกุฏิก็ซ่อนอยู่ตามเหลือบผาต่างๆ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม
เมื่อไปถึงให้ติดต่อศาลาประชาสัมพันธ์เพื่อขออนุญาตก่อน ปฏิบัติธรรมอย่างเข้ม

๓๓. วัดป่าบ้านตาด
บ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ๔๑๐๐๐
วิปัสสนาจารย์ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
แนวปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”
ในวัดมีกุฏิที่พักหลายกุฏิ มักจะมีลูกศิษย์มาอยู่ปฏิบัติกันมาก
แต่ผู้มาปฏิบัติที่นี่ต้องกินน้อย นอนน้อย ปฏิบัติมาก
กลางคืนมักจะเดินจงกรม นั่งสมาธิ จนดึก หรือโต้รุ่งก็มี
ไม่ใช้ไฟฟ้าในตอนกลางคืน ผู้ปฏิบัติจึงควรจำไฟฉายหรือเทียนติดตัวไปด้วย
เพื่อใช้ส่องทางเดิน ทางจงกรม ซึ่งมักจะเป็นทางดิน
และอาจมีสัตว์ เช่น งู อยู่บ้าง ต้องเจริญเมตตาไม่เบียดเบียนต่อกัน

๓๔. วัดหินหมากเป้ง
หมู่ที่ ๔ บ้านไทยเจริญ ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ๔๓๑๓๐
โทร. (๐๔๒) ๔๒๑-๔๐๙
วิปัสสนาจารย์ หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
แนวปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”
ในวัดมีกุฏิเรือนรับรองอยู่มาก บริเวณกว้างขวาง ประกอบด้วยป่าโปร่ง ป่าไผ่
ทะเลสาบใหญ่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ร่มรื่น สงบเย็น เหมาะแก่การอยู่ปฏิบัติเป็นอย่างยิ่ง

๓๕. วัดเจติยาคิรีวิหาร (วัดภูทอก)
บ้านนาคำแคน ต.นาสะแบง อ.ศรีวิไล จ.หนองคาย ๔๓๒๑๐
วิปัสสนาจารย์ พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ
แนวปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”
วัดตั้งอยู่บนภูทอก ทางขึ้นค่อนข้างชัน
สร้างด้วยความอัศจรรย์และด้วยจิตที่เด็ดเดี่ยวของพระเณร
ท่านพระอาจารย์จวนได้ทำทางขึ้นเป็นขั้นบันไดและทางเดินด้วยไม้รอบภูจนถึงยอด
บริเวณหน้าผา ท่านใช้ไม้ ๒ ลำมัดให้แน่นยื่นออกไป ๔ เมตร
เอาเชือกบังสุกุลผูกปลายไม้ที่ยื่นออกไป ตรึงใส่เสาที่ปักไว้ แล้วไปนั่งที่ปลายไม้นั้น
เพื่อตอกหินเจาะหลุมที่หน้าผา ปรากฏว่า ถ้าให้ฆราวาสไปนั่งปลายไม้ครั้งใด
ก็ไม่สามารถควบคุมสติสมาธิได้ เพราะมองไปข้างบ่างก็เกิดความหวั่นไหว
จนไม่สามารถตอกหินได้สำเร็จ ผู้สร้างจึงเป็นพระและเณร สิ่งปลูกสร้างนี้มี ๗ ชั้น
มีกุฏิที่พักเชิงเขาที่ชั้น ๒ หรือจะพักกุฏิว่างรอบเขาก็ได้ (ต้องขออนุญาตก่อน)
เหมาะกับผู้ปฏิบัติที่ฝึกมาดีพอสมควร มีความเข้มแข็งพึ่งตนเองได้
เนื่องจากเปลี่ยวและสูงอยู่บนภูเขา แต่บรรยากาศเย็นสบาย เงียบสงบ

๓๖. วัดดอยธรรมเจดีย์
หมู่ที่ ๓ บ้านนาสีนวล ต.ตองโขบ อ.ศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ๔๗๒๘๐
วิปัสสนาจารย์ หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ
แนวปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”
ปกติจะปฏิบัติที่ศาลา ส่วนที่พักมีกุฏิและอาคารซึ่งสะอาดทันสมัย

๓๗. วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม (วัดถ้ำพวง)
ถนนรพช. หมู่ที่ ๑ ต.ปทุมวาปี อ.ส่องดาว จ.สกลนคร ๔๗๑๙๐
โทร. (๐๔๒) ๗๒๒-๐๐๒
วิปัสสนาจารย์ พระอาจารย์วัน อุตฺตโม
แนวปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่น ภาวนา “พุทโธ”
ที่นี่มีหลายถ้ำ มีถ้ำหนึ่งชื่อถ้ำพวง ซึ่งพระอาจารย์มั่นเคยเล่าให้ฟังว่า
เป็นถ้ำที่ศักดิ์สิทธิ์มาก เคยมีพระอรหันต์ชื่อ พระนรสีห์ มานิพพานที่นี่

๓๘. วัดป่าสุทธาวาส
๑๓๙๖ หมู่ที่ ๑๐ บ้านคำสะอาด ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร ๔๗๐๐๐
โทร. (๐๔๒) ๗๓๓-๐๔๑, (๐๔๒) ๗๑๑-๕๗๓
วิปัสสนาจารย์ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
แนวปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”
มีอาคารเป็นตึกปูน ๓ ชั้นหลังใหญ่ จุคนได้หลายร้อยคน เย็นสบาย

๓๙. วัดคำประมง
๒๐ หมู่ที่ ๔ บ้านคำประมง ต.สว่าง อ.พรรณนานิคม จ.สกลนคร ๔๗๑๓๐
โทร. ๐๘-๑๖๐๑-๖๙๖๐, ๐๘-๑๓๒๒-๗๑๐๗
วิปัสสนาจารย์ หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
เนื่องจากเป็นวัดที่มีพระจำพรรษาอยู่น้อยในฤดูนอกพรรษา จึงเงียบสงบ
มีเจ้าหน้าที่ตัดหญ้า ปลูกดอกไม้สวยงามอย่างดี
มีพระพุทธรูปปางต่างๆ และสิ่งก่อสร้างสวยงาม มีสระน้ำทะเลสาบใหญ่
ฝูงปลามากมาย มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมและให้อาหารปลาอยู่เสมอ

๔๐. สำนักปฏิบัติธรรมศิริธรรม (ถ้ำชี)
เขากิ่ว ต.ไร้ส้ม อ.เมือง จ.เพชรบุรี ๗๖๐๐๐
โทร. (๐๓๒) ๔๒๘-๕๒๒
วิปัสสนาจารย์ หลวงพ่อกนฺตสิริ (กนฺตสิริ ภิกฺขุ)
แนวปฏิบัติ สติปัฏฐาน ๔ และอานาปานสติ
เขากิ่วเป็นภูเขาเตี้ยๆ มีต้นไม้หนาแน่นมาก อยู่ใกล้เมือง เดินทางสะดวก
บนเขามีลิงอยู่บ้าง แต่ไม่ทำร้ายคน บนสำนักฯ มีเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
ศาลา ถ้ำชี ซึ่งใช้เป็นอุโบสถ กุฏิที่พัก ห้องน้ำ-ส้วม พอสะดวกสบายแก่การปฏิบัติ
ที่นี่เน้นการปฏิบัติเคร่งครัด กินน้อย พูดน้อย นอนน้อย ปฏิบัติมาก

๔๑. เสถียรธรรมสถาน
๒๔/๕ ซ.วัชรพล (รามอินทรา ๕๕) แขวงจระเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ๑๐๒๓๐
โทร. ๐๒-๕๑๐-๖๖๙๗, ๐๒-๕๑๐-๔๗๕๖
วิปัสสนาจารย์ แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต
แนวปฏิบัติ สติปัฏฐาน ๔ และอานาปานสติภาวนา
ชุมชนแห่งการเรียนรู้ โอเอซิสธรรมกลางกรุง เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่ร่มรื่น
สงบเงียบ สงบเย็น ตั้งอยู่ใจกลางของกรุงเทพมหานคร สาธุชนทุกท่านสามารถ
เข้าไปปฏิบัติธรรมได้ ถือได้ว่าเป็นธรรมสถานแห่งการฝึกฝนเรียนรู้ที่เหมาะ
อย่างยิ่งสำหรับแม่ชี และผู้ปฏิบัติธรรมที่เป็นผู้หญิง

๔๒. บ้านซอยสายลม
๙ ถ.พหลโยธิน ซอย ๘ ซอยสายลม (ระหว่างตึกชินวัตร ๑ และตึกพหลโยธินเพส)
แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ๑๐๔๐๐
วิปัสสนาจารย์ พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
แนวปฏิบัติ มโนมยิทธิ บริกรรม “นะ มะ พะ ธะ” และสอนอนุสติ บริกรรม “พุทโธ”

๔๓. วัดพิชยญาติการาม
๖๘๕ ถ.ประชาธิปก แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กทม. ๑๐๖๐๐
โทร. ๐๒-๘๖๑-๔๓๑๙, ๐๒-๔๓๘-๔๔๔๒
วิปัสสนาจารย์ พระธรรมโมลี (สมศักดิ์ อุปสโม) และแม่ชีทศพร ชัยประคอง
แนวปฏิบัติ สติปัฏฐาน ๔ อานาปานสติภาวนา
มีการปฏิบัติธรรม อบรมกรรมฐาน และดูกฎแห่งกรรม ทุกวันเสาร์-อาทิตย์

๔๔. วัดผาณิตาราม
ศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ วัดผาณิตาราม อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ๒๔๐๐๐
โทร. (๐๓๘) ๕๐๒-๐๐๐, (๐๓๘) ๕๐๒-๐๘๗-๘
วิปัสสนาจารย์ คุณแม่สิริ กรินชัย
แนวการปฏิบัติ แนวสติปัฏฐาน ๔ เจริญสติอย่างต่อเนื่อง
ตามแนวพระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ) วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์
มีการจัดอบรมวิปัสสนากรรมฐานสำหรับเยาวชน และบุคคลทั่วไป
สถานที่ร่มรื่น สงบเย็น สัปปายะดีมาก ที่พักสะอาด สะดวก ปลอดภัยดีมาก
และที่ปฏิบัติมีเครื่องปรับอากาศ โดยทั่วไปการอบรมใช้เวลา ๘ วัน ๗ คืน

๔๕. วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์)
๖๒/๑ หมู่ที่ ๕ บ้านเขาวง ต.เขาวง อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ๑๘๑๒๐
โทร. (๐๓๖) ๒๓๖-๕๐๐-๕, ๐๘-๖๑๓๓-๖๘๘๙, ๐๘-๔๓๑๐-๙๔๔๒
วิปัสสนาจารย์ พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
แนวปฏิบัติ มโนมยิทธิ บริกรรม “นะ มะ พะ ธะ” และสอนอนุสติ บริกรรม “พุทโธ”
รับผู้เข้าพักปฏิบัติธรรมตลอดทั้งปี ตามระเบียบและจารีตของสำนัก

๔๖. วัดสังฆทาน
๑๐๐/๑ หมู่ที่ ๓ บ้านบางไผ่น้อย ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ๑๑๐๐๐
โทร. ๐๒-๔๔๗-๐๗๙๙, ๐๒-๔๔๗-๐๘๐๐
วิปัสสนาจารย์ หลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก และหลวงพ่อสนอง กตปุญโญ
แนวปฏิบัติ สติปัฏฐาน ๔ อานาปานสติภาวนา
มีการจัดบวชเนกขัมมปฏิบัติทุกวัน ทั้งบวชคนเดียวและบวชหมู่

๔๗. ศูนย์วิปัสสนาตามแนวทางอาจารย์โกเอ็นก้า
ประเทศไทยมีศูนย์วิปัสสนาตามแนวทางของท่านอาจารย์โกเอ็นก้า รวมทั้งหมด ๙ ศูนย์
อยู่ในความดูแลของสำนักงานมูลนิธิส่งเสริมวิปัสสนากรรมฐาน ในพระสังฆราชูปถัมภ์

(๑) ศูนย์วิปัสสนาธรรมกมลา
กม. ๑๖๖+๙๐๐ ทางหลวงหมายเลข ๓๓ (สุวรรณศร)
๒๐๐ บ้านเนินผาสุก ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ๒๕๐๐๐
โทร. ๐-๓๗๔๐-๓๕๑๖

(๒) ศูนย์วิปัสสนาธรรมอาภา
กม. ๔๙+๔๐๐ ทางหลวงหมายเลข ๑๒ (พิษณุโลก-หล่มสัก)
๑๓๘ แยกเข้าบ้านห้วยพลู ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ๖๕๒๒๐
โทร. ๐๕๕-๒๖๘-๐๔๙, ๐๘-๑๖๐๕-๕๕๗๖

(๓) ศูนย์วิปัสสนาธรรมสุวรรณา
๑๑๒ หมู่ที่ ๑ ต.บ้านกง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ๔๐๒๔๐
โทร. ๐๘-๖๗๑๓-๕๖๑๗

(๔) ศูนย์วิปัสสนาธรรมกาญจนา
๒๐/๖ หมู่ที่ ๒ บ้านวังขยาย ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ๗๑๒๔๐
โทร. ๐-๓๔๕๓-๑๒๐๙, ๐๘-๑๕๐๖-๐๓๘๙

(๕) ศูนย์วิปัสสนาธรรมธานี
๔๒/๖๖๐ หมู่บ้านเค.ซี. การ์เด้นโฮม ถ.นิมิตใหม่
แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ ๑๐๕๑๐
โทร. ๐๒-๙๙๓-๒๗๑๑, ๐๒-๙๙๓-๒๗๐๐

๖ ศูนย์ฯ ธรรมสีมันตะ จ.ลำพูน
เลขที่ 200 หมู่ 1 บ้านหนองสร้อย ต.มะกอก อ.ป่าซาง จ.ลำพูน 51120
โทร. 08-6431-0417, 08-6423-4938
อีเมล [email protected]

๗ ศูนย์ฯ ธรรมโปราโณ จ.นครศรีธรรมราช
เลขที่ 271 ม.4 ถ.ทางขึ้นน้ำตกกะโรม ต.เขาแก้ว อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช 80230
โทร. 0-7530-0479, 08-1535-8207
อีเมล [email protected]

๘ ศูนย์ฯ ธรรมจันทปภา จ.จันทบุรี
เลขที่ 51 ม.1 ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี 22140
โทร. 08-8253-6605, 06-3161-8062
อีเมล [email protected]

๙ ศูนย์ฯ ธรรมปุเนติ จ.อุดรธานี
เลขที่ 161 บ้านนาสมบูรณ์ ต.โคกสะอาด อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000
โทร. 09-3389-3805
อีเมล [email protected]

วิปัสสนาจารย์ ท่านอาจารย์สัตยา นารายัน โกเอ็นก้า (S.N. Goenka)
แนวปฏิบัติ สติปัฏฐาน ๔ และอานาปานสติภาวนา
มีการจัดการอบรมวิปัสสนา (หลักสูตรสติปัฏฐาน) หลักสูตร ๑๐ วัน
สำหรับพระภิกษุ สามเณร และฆาราวาสทั่วไป รวมทั้งเด็กและเยาวชน
เริ่มต้นในเย็นวันแรก และสิ้นสุดในตอนเช้าของวันสุดท้าย ตลอดทั้งปี

๔๘. มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
๕๔๙/๙๔ ซ.ยิ่งอำนวย (จรัญสนิทวงศ์ ๓๗) ถ.จรัญสนิทวงศ์
แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ๑๐๗๐๐
โทร. ๐๒-๔๑๒-๒๗๕๒
วิปัสสนาจารย์ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
แนวปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”
มีการจัดกิจกรรมทุกเดือน

ภาพ " พระเจ้าทันใจ "
วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน ( วัดบ้านเด่น )
ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่

29/01/2024

ปรัชญาธรรม หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
จากหนังสือ คิดถึงปู่ โดย หลวงพ่อมนตรี อาภัสสะโร

พระพุทธเจ้าผู้ตรัสรู้แล้วทั้งหลาย อันเป็นที่หมายในเบื้องสูงสุด และสัตว์เดรัจฉานที่เล็กแสนเล็กเกือบมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น เป็นความหมายค่าของความต่ำสุด สิ่งทั้งสอนนี้ย่อมมีส่วนแห่งความเป็นพุทธะเหมือนกันหมด และทุก ๆ สิ่งมีเนื้อหาเป็นอันเดียวกับพุทธะอยู่ตลอดเวลา นี้เป็นปรัชญาธรรมอันล้ำค่าที่เหนือความจริงทั้งหมด และเหนือความถูกต้องทั้งมวลของบรมครูยอดนักปราชญ์เอกแห่งพุทธกัลป์ นั่นคือ พระราชวุฒาจารย์ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล พระปัจเจกโพธิ์องค์เดียวเท่านั้นในพุทธันดรนี้

ที่ท่านอุบัติมาเพื่อช่วยเสริมบารมีพระชินสีห์ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคดม ท่านอุบัติขึ้นมาเพื่อช่วยจรรโลงประทีปแห่งสัจธรรม ที่กำลังหรี่แสงอ่อนแรงเกือบจะดับอยู่แล้วนี้ ให้โชติช่วงชัชวาลกระจ่างขึ้น อย่างน้อยก็ชั่วระยะเวลาหนึ่ง และท่านอุบัติขึ้นมาเพื่อช่วยชี้แนวสัจภาวะอันถูกต้อง ให้เวไนยสัตว์ใช้เป็นทางเดินเพื่อเข้าสู่โลกุตระภูมิ ก่อนที่ความมืดมิดจะครอบคลุมดวงจิตของสัตว์โลกผู้น่าสงสาร นั่นหมายถึงว่า อสัจธรรมที่ถูกปฏิรูปขึ้นใหม่แบบแปลก ๆ กำลังจะแผ่คลุมโลก ผู้ที่ไม่มีความรู้ และยังเข้าสัมผัสไม่ถึงธรรมที่แท้จริง กำลังตั้งตัวขึ้นเป็นครูอาจารย์ แย่งกันประกาศสัจธรรมในทางที่ผิดพระธรรมคำสอนอันล้ำเลิศ และหนทางปฏิบัติเพื่อเข้าถึงความดับทุกข์ อันถูกต้องของพระผู้มีพระภาคเจ้า กำลังจะถูกลบให้เลือนรางห่างหายไป

สัตว์โลกผู้น่าสงสาร ผู้ปรารถนาจะข้ามห้วงมหาสาคร คือห้วงวัฏฏะแห่งนี้ นับวันจะถูกเกลียวคลื่นแห่งอสัจธรรม พัดกระหน่ำให้ลอยออกห่างจากเป้าหมายทุกที ดังจะเห็นได้ว่าการบำเพ็ญเพียรของปราชญ์ทั้งหลาย ที่เห็นภัยในวัฏฏะ ก็เพื่อที่จะแสวงหาจิตเดิมและจิตแท้เท่านั้น แต่วิถีทางบำเพ็ญเพียร ข้อวัตรปฏิบัติส่วนมากมักจะอ้อมคดโค้งจนสุดโต่ง และมักจะเอียงลาดลงสู่ความเบื่อหน่าย คลายความเพียรในที่สุด เพราะผิดทาง

จิตเดิมแท้ มันมีความเป็นเอกภาพโดยเนื้อหาสมบูรณ์ในตัวมันเต็มที่แล้ว แต่ถ้าไปตั้งกฎตั้งเกณฑ์ หรือจัดระบบมันเข้า หรือจะเพียรพยายามดึงมันเข้าสู่กฎ ความเป็นของคู่ของระบบจักรวาลคือรูปและนาม ก็ดูเหมือนว่าไม่สามารถจะอนุมานให้มันตกอยู่ในฝ่ายใดได้ทั้งสิ้น มันมีสภาวะที่ไม่เหมือนอะไร แล้วก็ไม่มีอะไรที่จะมาเหมือน หรือแม้แต่เพียงละม้ายคล้ายคลึงมัน มันเป็นสภาวะที่อยู่เหนืออภิธรรมชาติ เหนือกฎแห่งการสมมุติบัญญัติ เหนือเหตุ เหนือผล เหนือบุญ เหนือบาป เหนือดิน น้ำ ลม ไฟ จะก้าวก่ายสัมผัสถึง

ดังนั้นป่วยการที่เราจะเข้าไปสัมผัสกับภาวะนี้ให้รู้แจ้งเห็นจริงด้วยการพูด การฟัง การอ่าน หรือการนึกคิดคาดคะเนเอา เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอันตราย ที่จะนำเราเข้าสู่วิปัสสนูภูมิทั้งสิ้น อันเป็นหนทางที่จะนำเรากลับมาสู่การเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จักจบสิ้น

ความสงบ นิ่งเฉย และจงละลายคำพูดคำอธิบายต่าง ๆ ตลอดจนตำรับตำราคำสั่งของครูบาอาจารย์ทั้งหลายแหล่ให้หมดสิ้น แล้วหันมาดูจิต ศึกษาจิต พิจารณาจิต จนสามารถแยกจิตแท้และอารมณ์ได้อย่างถูกฝาถูกตัว นี่แหละจะเป็นหนทางที่จะพาเราเข้าสัมผัสกับภาวะนี้ได้อย่างถูกต้องที่สุด ถ้าโดยวิธีอื่นแล้วก็เหมือนกับเราเหวี่ยงแหขึ้นบนอากาศ เมื่อไหร่ถึงจะได้ปลา

อารมณ์ต่าง ๆ นั้นมันย่อมหมุนเวียนเปลี่ยนผันไปตามวงล้อแห่งวัฏฏะ มันมิได้เกี่ยวข้องกับอายตนะหนึ่งอายตนะใดเลย เมื่อเวไนยสัตว์ตนใดไปสัมผัสผูกรัดมันเข้า ถ้าขาดปัญญา ก็จะถูกมันดูดดึงลงสู่ห้วงแห่งความมืดมนอนธการ นั่นหมายถึงว่า วิถีทางที่จะเข้าสู่จิตเดิมจิตแท้ของเขานั้นย่อมเลือนรางห่างหายออกไปทุกที

ถ้าเราไม่รู้จักสภาวะที่แท้จริงของจิตแท้แล้ว เราก็ไม่มีทางที่จะค้นหามันได้ถูกต้อง ยิ่งดิ้นรนขวนขวายแสวงหามากเท่าใดก็ดูเหมือนว่า จะยิ่งจมลงสู่ปลักแห่งความหายนะ คือวัฏฏะมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ พระปัจเจกโพธิ์องค์สำคัญคือหลวงปู่ดูลย์ อตุโล ท่านจึงได้สั่งนักสั่งไว้หนาว่า "อย่าส่งจิตออกนอก" เพราะมันเป็นประตู ๆ เดียวที่จะเปิดไปสู่มรรควิถีที่จะพาไปพบจิตเดิมจิตแท้

สภาวะที่แท้จริงของจิตเดิมจิตแท้นั้น ก็คือสภาวะแห่งความเป็นพุทธะนั่นเอง หรือเราอาจจะกล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่า ธรรมชาติแห่งความเป็นพุทธะที่แท้จริง ก็คือสภาวะแห่งจิตเดิมจิตแท้นั่นเอง สิ่ง ๆ นี้ มันเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้กับปลายจมูกเรา เพียงแค่ชั่วเสียวหนึ่งของเม็ดทรายเท่านั้น แต่เป็นเพราะพวกเราผู้ปรารถนาความหลุดพ้น ไปหลงติดในพิธีกรรมและข้อวัตรปฏิบัติต่าง ๆ ที่มีมากมายหลายแบบหลายตอน แล้วก็หลงยึดมั่นว่าเป็นหนทางบำเพ็ญเพียรเพื่อสรรค์สร้างปรามิตาทั้งหก เพื่อหวังจะก้าวเข้าถึงความเป็นพุทธะกับเขาสักองค์หนึ่ง

ก็สภาวะที่แท้จริงของจิตเดิมจิตแท้หรือพุทธะที่แท้จริงนั้น ไม่มีขั้นตอนในการเข้าถึง มันเป็นสิ่ง ๆ เดียวรวด เพียงแต่ขอให้เราเลิกผูกพันกับรูปธรรมต่าง ๆ ให้หมดสิ้น แล้วหันมาทำความเข้าใจจิตกับอารมณ์ให้ถูกต้อง เราก็จะพบเองเห็นเอง รู้ว่าสิ่ง ๆ นี้มันอยู่ใกล้แสนใกล้กับปลายจมูกของเราแค่นี้เอง เมื่อวาระนั้นมาถึงเราคงจะได้เสพย์รสประทินกลิ่นหอมของภาวะนี้อย่างถึงใจ ให้สมกับที่ได้เพียรแสวงหามาหลายหมื่นหลายแสนกัลป์แล้ว จิตของผู้ที่ยังข้องเกี่ยวอยู่ในกามคุณ ย่อมเป็นจิตที่ถูกเปลี่ยนฐานะจากเดิมโดยอำนาจของอวิชชา เราจึงเรียกว่าจิตแห่งปุถุชน เพราะมันยังตกอยู่ในครรลองแห่งสภาวะธรรม

แต่ถ้าเราสามารถปฏิวัติจิตหรือปฏิรูปจิตแห่งปุถุชนนี้ ให้เข้าสู่สภาวะเดิมได้อย่างหมดจดสิ้นเชิง ไม่เหลือแม้แต่ปรมาณูเดียว จิตก็จะหยุดการยักย้ายถ่ายเท นั่นหมายถึงว่าภาวะแห่งการเปิดรับอารมณ์ ที่จะเป็นองค์กรหรือปัจจัยให้จิตกระเพื่อมหวั่นไหว แล้วปรุงแต่งไปตามสภาวะต่าง ๆ ที่เรียกว่า จิตสังขาร ก็จะถูกตัดขาดโดยทันที จิตเมื่อหยุดการเคลื่อนไหวโดยสนิท ด้วยอำนาจ ญาณปัญญา อันละเอียดลึกซึ่งที่ฉายส่องเข้าสัมผัสแก่นแท้ของจิตได้อย่างถูกต้องที่เรียกว่า "จับกิริยาจิตได้แล้ว" ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดับ จึงกล่าวได้ว่า เมื่อเหตุถูกทำลาย ผลอันเกิดจากเหตุจึงไม่มีภาวะต่อไป เราจึงเรียกว่า "มหาสุญญตา"

มันเป็นความว่างที่ถูกบรรจงทับซ่อนไว้อย่างประณีต บนความว่างอีกชั้นหนึ่ง มันจึงเป็น "ว่างในว่าง" มันเป็นความว่างที่สะอาด บริสุทธิ์เหนือความบริสุทธิ์ทั้งมวล สมแล้วกับคำกล่าวของหลวงปู่ดูลย์ที่ว่า "มันเป็นความงามที่ไร้ตำหนิ", "มันเป็นเพชรพลอยที่อยู่เหนือการตีค่าทั้งปวงเสียจริง ๆ"

ดังนั้น ขอให้ผู้ปรารถนาจะข้ามพ้นทุกข์ให้ได้ในชาตินี้ จงเร่งทำความเข้าใจกับสภาวะนี้ให้กระจ่างแจ้ง โดยการ แยกรูปถอดด้วยวิชา มรรคจิต เหตุต้องละ ผลต้องละใช้ หนี้ก็หมด พ้นเหตุเกิด ตามที่หลวงปู่ดูลย์ที่กล่าวไว้แล้วว่า "จงเร่งทำญาณให้เห็นจิต เสมือนหนึ่งตาเห็นรูป" ทั้งนี้เป็นไปเพื่อการตรัสรู้ยิ่ง เพื่อการตรัสรู้พร้อม และเป็นไปเพื่อเข้าสู่ภาวะแห่งจิตเดิมจิตแท้ พุทธะหรือนิพพานนั่นเอง

โดยธรรมชาติแห่งความเป็นจริงแล้ว สัตว์โลกทั้งหลายย่อมมีจิตโน้มเอียงเข้าสู่ภาวะนิพพานอยู่ทุกขณะจิต เช่นเดียวกับพุทธะ เพราะสิ่งทั้งสองนี้ย่อมมีเนื้อหาเป็นอันเดียวกันตลอดเวลา นิพพานคือสมบัติเก่าของพุทธะและสัตว์โลกทั้งหลาย เมื่อภาวะธรรมเป็นเช่นนี้ ทั้งสองสิ่งนี้ก็จะกลับเข้าสู่ภาวะเดิมได้ตลอดเวลา เพียงแต่ว่าสัตว์โลกนั้น ไปหลงติดอยู่กับรูปธรรมเสียจนแทบไม่เงยหน้า

เขาจึงไม่อาจสัมผัสกับรังสีแห่งนิพพานสมบัติเก่าของเขาได้ถนัดนัก ดังนั้นเขาจึงสร้างมโนภาพแห่งความท้อแท้ ให้กับตนเองขึ้นมาว่า นิพพานเป็นของไกลเกินฝัน นิพพานเป็นของสูงเกินบุญบารมีจะเอื้อมถึง และนิพพานเป็นของลึกลับซับซ้อนมหัศจรรย์ โดยภาวะแห่งความเป็นจริงแล้ว ไม่มีอะไรจะต้องไปนั่งฝันถึงคะนึงหา ไม่มีอะไรจะสูงเกินบุญบารมี ถ้าเราคิดจะเอื้อม และไม่เห็นมีอะไรสักนิดที่จะลึกลับซับซ้อนมหัศจรรย์ เรื่องของเรื่องมันเพียงแต่ "ตื่นและลืมตาต่อจิตหนึ่งเท่านั้น"

ไม่มีอะไรจะต้องบรรลุถึงอะไร นี่แหละคือนิพพาน สมจริงดังคำกล่าวของหลวงปู่ดูลย์ไม่ผิดแม้เพียงมิติเดียว ข้อวัตรปฏิบัติที่นอกรีตนอกรอย อ้อมวนคดโค้งจนสุดโต่ง มีขั้นมีตอนเยิ่นเย้อในการปฏิบัติ เต็มไปด้วยพิธีรีตอง ที่บรรดาปราชญ์ผู้ไม่รู้จริงทั้งหลายได้สรรค์สร้างขึ้นมาสอน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเครื่องปิดกั้นสัตว์โลกผู้น่าสงสาร ให้ห่างออกมาเสียจากหนทางแห่งความสูงสุดนั้นอย่างน่าเสียดาย เพราะข้อวัตรปฏิบัติเหล่านี้ฟุ่มเฟือยไปด้วยแบบแผน พิธีรีตองและหนักไปทางแรงกาย แต่อัตคัดขาดแคลนเจือจางบางเบาด้วยภูมิสติปัญญา แล้วอีกกี่แสนกัลป์ เราถึงจะเข้าถึงสภาวะนี้ได้

หลวงปู่ดูลย์ท่านกล่าวไว้ว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลายและสัตว์โลกทั้งหมด ไม่ได้เป็นอะไรเลย เป็นเพียงจิตหนึ่งเท่านั้น คำกล่าวนี้ถูกต้องที่สุดสำหรับผู้ที่ ตื่น และ ลืมตา เข้าถึงสัจภาวะได้แล้ว จิตนี้มันย่อมรวมทั้งอวิชชาและสัมมาทิฐิไว้ในขณะที่มันไม่ได้เป็นธาตุแท้โดยเนื้อหาตัวมันเอง และมันไม่ได้เป็นอะไรเลยเมื่อมันกลับเข้าสู่ภาวะของความสมบูรณ์ในตัวเต็มที่แล้ว ถ้าเราสามารถค้นพบความลับดังกล่าวนี้ได้ และทำความเข้าใจต่อสิ่ง ๆ นี้ ได้อย่างแน่ชัดเด็ดขาดลงไป เราก็จะพบกับความสำเร็จแน่นอนในชาตินี้ ดังเช่นเจ้าชายสิทธัตถะ เมื่อพระองค์สละราชสมบัติเพื่อออกแสวงหาโมกขธรรมโดยลำพังพระองค์เอง

ปราชญ์สมัยก่อนเชื่อกันว่า อายตนะทั้งห้าทำให้เกิดทุกข์ ครั้งแรกพระองค์ก็ทรงเพ่งความเพียรลงที่จุดนี้ แต่จนแล้วจนรอดก็หาสัมฤทธิ์ผลไม่ จนในที่สุดพระองค์ก็หันมาพิจารณาศึกษาเกี่ยวกับจิต จนสามารถรู้ความลับของมันได้อย่างทะลุปรุโปร่ง พระองค์จึงก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าบรมครูของเทวดาและมนุษย์ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา พวกเราทั้งหลายต่างก็ประกาศตัวเป็นพุทธสาวก พุทธสาวิกากันอย่างเต็มใจแล้ว ก็ขอจงได้ดำเนินรอยตามเบื้องพระยุคลบาทของพระองค์ท่าน จงศึกษาพิจารณาและทำความเข้าใจจิตให้ละเอียดลึกซึ้ง เพราะจิตเท่านั้นคือหลักธรรมที่แท้จริง ถ้านอกจากนั้นก็ไม่ใช่หลักธรรม แล้วก็ไม่ใช่จิต ทำญาณจนเห็นจิตได้แจ่มชัดเมื่อใด ก็เชื่อว่าได้พบพุทธกระจ่างสดใสเมื่อนั้น เราจะไม่มีการโน้มเอียงกลับมาสู่การเกิดใหม่อีกไม่ว่าโลกไหน ๆ ทั้งสิ้น ทุกอณูแห่งจิตสำนึกของเราก็คงจะก้องแต่พยางค์ที่ว่า นิพพานัง ปะระมัง สุขัง, นิพพานัง ปะระมัง สุญญัง (พระนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง, พระนิพพานเป็นความว่างอย่างยิ่ง) ตราบจนเราทิ้งขันธ์ละจากโลกนี้ไป

17/06/2022

Address


Website

Alerts

Be the first to know and let us send you an email when Travel retreat posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Shortcuts

  • Address
  • Alerts
  • Claim ownership or report listing
  • Want your business to be the top-listed Travel Agency?

Share