PRpedia

14/09/2022

ซีเนกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ จัด Open House เดอะรักษ์ รามคำแหง-กรุงเทพกรีฑา กวาดยอดจองกว่า 100 ล้านบาท

บริษัท ซีเนกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด โดยอาร์เค พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก จัดงานเปิดบ้านเดอะรักษ์ (The RUX) รามคำแหง-กรุงเทพกรีฑา โครงการบ้านเดี่ยวแนวคิดใหม่พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว ขนาดพื้นที่ใช้สอย 145 ตร.ม. และ 230 ตร.ม. ภายใต้แนวคิด Simplicity of Living ที่เน้นความเรียบหรูและวัสดุที่คัดสรรมาอย่างมีคุณภาพ ภายในบ้านโปร่งโล่งด้วยฝ้าเพดานสูง พื้นที่ครัวที่ระบายอากาศได้ง่าย และหน้าต่างช่องแสงขนาดใหญ่โดยรอบ พร้อมคลับเฮ้าส์ ลานสเก็ต ห้องจัดปาร์ตี้ และแอร์ ฮอกกี้ เป็นต้น เพื่อการใช้งานของสมาชิกครอบครัวทุกเพศทุกวัย บนทำเลถนนราษฎร์พัฒนา ราคาเริ่มต้นที่ 8.99 ล้านบาท ทั้งนี้กิจกรรม Open House ที่ผ่านมา 2 วันสามารถปิดยอดจองโครงการฯ ได้กว่า 100 ล้านบาท สนใจเชิญเยี่ยมชมบ้านตัวอย่างได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 - 17.30 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 082-514-6629 หรือ facebook.com/rkrungkitreal

14/09/2022

หมดยุคดอกเบี้ยต่ำ คนทำธุรกิจพร้อมแค่ไหนกับ ‘ดอกเบี้ยขาขึ้น’

ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ภาวะ ‘ดอกเบี้ยขาขึ้น’ หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกในรอบ 4 ปี โดยประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจำนวน 0.25% เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2565 และอีก 0.25% เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยในปัจจุบันอยู่ที่ 0.75% จากสิ้นปี 2564 ที่ 0.25% เท่านั้น

สำหรับผู้ประกอบธุรกิจ แน่นอนว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลาง จะส่งผลให้ต้นทุนการทำธุรกิจสูงขึ้น เพราะสถาบันการเงินต่างๆ จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้สอดคล้องกับนโยบายของทางการ ซึ่งจะมีผลทันทีต่ออัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อเพื่อการประกอบธุรกิจ เพราะเป็นกลุ่มที่มีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว

แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะข้อความร่วมมือไม่ให้สถาบันการเงินปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงภายในทันที เพื่อช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจที่ยังคงเปราะบาง เช่น กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว หรือกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวกับร้านอาหารและบริการ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม สถาบันการเงินหลายแห่งให้ข้อมูลว่า สามารถตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ได้ถึงสินปี 2565 เท่านั้น ภายหลังจากที่ กนง.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และมีบางแห่ง พร้อมขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้บางประเภทในเดือน ต.ค. 2565 นี้

ดังนั้น จะดีกว่าหรือไม่หากผู้ประกอบการได้บริหารจัดการหนี้ตั้งแต่วันนี้เพื่อตรึงดอกเบี้ยที่ต่ำให้ได้นานที่สุด ก่อนที่สถาบันการเงินจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไตรมาส 4 ปี 2565 หากผู้ประกอบการพอประเมินได้ว่า ในอนาคตข้างหน้า ธุรกิจจำเป็นต้องใช้เงินทุนเท่าไหร่ ก็สามารถติดต่อสถาบันการเงินที่มีบัญชีสินเชื่อเพื่อวางแผนบริหารหนี้

นอกเหนือจากสถาบันการเงินของรัฐและธนาคารพาณิชย์แล้ว อีกหนึ่งสถาบันการเงินที่ไม่ควรมองข้าม คือ บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ ที่นอกจากจะรับฝากเงินจากประชาชนแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อให้บริการอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาต 3 ราย ได้แก่

1. บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ เวิลด์ จำกัด

2. บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ แคปปิตอล ลิ้งค์ จำกัด

3. บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ เอสเบ จำกัด

สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการสินเชื่อเพื่อธุรกิจที่ให้วงเงินกู้ค่อนข้างสูง เครดิตฟองซิเอร์ เวิลด์ หนึ่งในผู้ประกอบธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะให้วงเงินสูงสุดถึง 90 ล้านบาท รวมถึงมีจุดเด่นที่กระบวนการอนุมัติค่อนข้างไวเพียง 7 วัน ตอบโจทย์คนทำธุรกิจที่ต้องแข่งขันกับเวลา อีกทั้งเปิดให้กู้ทั้งนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาโดยครอบคลุมธุรกิจทุกประเภท

โดยจุดประสงค์การขอสินเชื่อกับเครดิตฟองซิเอร์ เวิลด์ ครอบคลุมตั้งแต่การขยายธุรกิจ เงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ การลงทุนในทรัพย์สินถาวร รวมถึงการใช้เพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินหรือบุคคลอื่น อย่างไรก็ตาม สินเชื่อเพื่อธุรกิจของเครดิตฟองซิเอร์ เวิลด์ เป็นบริการปล่อยสินเชื่อโดยมีหลักประกันที่เป็นอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น

ผู้ประกอบการที่สนใจผลิตภัณฑ์สินเชื่อของเครดิตฟองซิเอร์ เวิลด์ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ เวิลด์ จำกัด 6/10 อาคารพิพัฒนสิน ชั้น G ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 02-678-3900 หรือช่องทางง LINE : (มี @ นำหน้า) หรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ worldcreditfoncier.co.th/pages/products-credit

#เครดิตฟองซิเอร์เวิลด์ #สินเชื่อ #เงินกู้

14/09/2022

เอปสันแนะนำเครื่องพิมพ์ด็อทเมทริกซ์รุ่นใหม่ประสิทธิภาพเยี่ยม ทนทาน ประหยัดต้นทุน

เอปสัน ผู้นำเครื่องพิมพ์ด็อทเมทริกซ์ ซึ่งปัจจุบันเอปสันครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในไทย เปิดตัวเครื่องพิมพ์ด็อทเมทริกซ์รุ่นใหม่ Epson LQ-780/N ซึ่งเป็นระบบหัวพิมพ์ 24 หัวเข็ม ที่มีความเร็วในการพิมพ์สูงสุด 487 ตัวอักษรต่อวินาที ซึ่งนับว่าเร็วกว่ารุ่นก่อนถึง 18% รองรับการพิมพ์กระดาษต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 7 ชุด (ต้นฉบับ 1 + สำเนา 6) พร้อมหัวพิมพ์ที่มีอายุการใช้งานได้สูงถึง 10 ล้านตัวอักษร และมีการใช้งานโดยไม่ต้องซ่อมบำรุง (Mean Time Between Failures) สูงถึง 20,000 ชั่วโมง ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัดและได้รับการออกแบบมาให้ทนทานต่อสภาวะแวดล้อมที่มีความชื้นและความร้อนสูง ช่วยให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพการพิมพ์ที่ราบรื่นและสม่ำเสมอ รวมถึงต้นทุนการพิมพ์ที่แสนประหยัดพร้อมแถบผ้าหมึกที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องและยาวนาน อีกทั้งยังสามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้อย่าลงตัว ทำให้เหมาะกับการใช้งานด้านการพิมพ์เอกสารทางบัญชีที่ต้องการความต่อเนื่องและคุ้มค่า สนใจข้อมูลสินค้าติดต่อเอปสัน คอลเซ็นเตอร์ 0-2460-9699 หรือเว็บไซต์ www.epson.co.th เฟสบุ๊ค facebook.com/epsonthailand และ LINE Official Account Epson Thailand

14/09/2022

สหฟาร์ม ผงาด ประกาศออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ จัดพิธีบวงสรวงใหญ่เอาฤกษ์เอาชัย

ดร.ปัญญา โชติเทวัญ (ประธานในพิธี) ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท สหฟาร์ม และบริษัทในเครือ พร้อมครอบครัว ผู้บริหารระดับสูง บุคลากรพนักงาน ถือฤกษ์งามยามดี วันที่ 9 เดือน 9 จัดพิธีพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อันได้แก่ พิธีบวงสรวงและตั้งศาลพระพรหม พิธีอัญเชิญดวงวิญญาณไก่ และพิธีทำบุญเลี้ยงพระเจริญพระพุทธมนต์

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2565 ศาลมีคำสั่งให้สหฟาร์มออกจากแผนฟื้นฟูกิจการเป็นที่เรียบร้อยและให้ ตระกูลโชติเทวัญ กลับเข้ามาบริหารกิจการตามเดิม โดยดร.ปัญญา โชติเทวัญ ควบตำแหน่งผู้บริหารแห่งบริษัทสหฟาร์ม และบริษัท โกลเด้น ไลน์ บิสซิเนส จำกัด ซึ่งยังคงสานต่อปณิธานอันแนวแน่ที่ต้องการผลิตอาหารเพื่อมวลมนุษยชาติ โดยสหฟาร์มยังคงเป็นผู้ส่งออกไก่สดแช่แข็งอันดับ 1 ของประเทศไทย และประเทศไทยถือเป็นผู้ส่งออกไก่สดแช่แข็ง อันดับ 3 ของโลก โดยในช่วงต้นปี 2565 ที่ผ่านมา ธุรกิจการส่งออกไก่สดแช่แข็งของสหฟาร์มมีอัตราการเติบโตสูง ทำให้มีกำไรหลายพันล้านบาท

นอกจากนี้ภารกิจแรกหลังจากกลับเข้ามาดูแลกิจการตามเดิมนั้น องค์กรสหฟาร์ม นำโดย ดร.ปัญญา และทีมงาน ได้ร่วมแรงร่วมใจกันเนรมิตบริษัทสหฟาร์มสำนักงานใหญ่ ในระยะเวลาเพียง 10 วัน ให้มีความสวยงาม วิจิตร อลังการ และสมเกียรติ พร้อมที่กลับมาผงาดในฐานะผู้ผลิตไก่ที่ดีที่สุดในประเทศไทย

#สหฟาร์ม

21/02/2022

กกพ. สานต่อพลังแห่งความยั่งยืน จัดโครงการประกวดกองทุนพัฒนาไฟฟ้า อวอร์ด 2565

สำนักงาน กกพ.เปิด "โครงการประกวดกองทุนพัฒนาไฟฟ้า อวอร์ด 2565" เฟ้นหาสุดยอดผลงานที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจ...

21/02/2022

โตชิบา รุกหนัก ตั้งเป้าโต 2 ดิจิต ขยายไลน์อัพสินค้าใหม่ 50 รุ่น

โตชิบา ตั้งเป้าสู่Top 3 แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเป็น No.1 แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่น และ No.1 ในหม....

08/04/2021

📢📢📢 ข่าวดี !! ใครที่ทำธุรกิจ อยากมีกำไรและเติบโตอย่างแข็งแรง ฟังทางนี้
✍🏻 เรียนฟรี !! ไม่มีค่าใช้จ่าย
🌱เรียนผ่านระบบออนไลน์ง่ายๆ ในยุคโควิด
🏅พร้อมโอกาสเข้าร่วม Workshop เพื่อสร้างคอนเนคชั่นทางธุรกิจ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม www.agrobeyond.com
สนใจสมัคร: https://forms.gle/jWEzRoPG8V8zTo7UA

07/04/2021

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเปิดรับสมัคร คอร์สเรียนปั้นนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม ครั้งที่ 2

โอกาสดีสำหรับผู้ประกอบการและนักธุรกิจกลับมาอีกครั้งกับคอร์สเรียน e-Learning “Agro Beyond Academy รุ่นที่ 2” โครงการปั้นนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้ร่วมจัดกับวู้ดดี้ เวิลด์ เป็นครั้งที่ 2 เพื่อขยายโอกาสในการปั้นนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และยกระดับธุรกิจของท่านสู่การเป็นเกษตรอุตสาหกรรมของประเทศ โดยอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ดร.ณัฐพล รังสิตพล ขอเชิญผู้ประกอบการอุตสาหกรรมและเจ้าของธุรกิจสินค้าเกษตรแปรรูปทั่วประเทศที่สนใจ สามารถลงทะเบียนเรียนได้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมโอกาสที่จะได้เป็น 1 ใน 100 คน เข้าร่วม workshop เพื่อสร้างคอนเนคชั่นทางธุรกิจ เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ – 8 พ.ค.2564 สามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.agrobeyond.com หรือ 065 509 9080

#กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

31/03/2021

เอปสันเรืองแสงโลกแฟชั่นด้วย SureColor SC-F531 พาดีไซเนอร์ฉีกขอบเขตจินตนาการ

เอปสัน ผู้นำเทคโนโลยีการพิมพ์ระบบดิจิทัล นำดีไซเนอร์ข้ามขอบเขตการสร้างสรรค์งานสู่โลกเรืองแสง กับเครื่องพิมพ์เพื่ออุตสาหกรรมสิ่งทอรุ่น SureColor SC-F531

นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ปัจจุบันนี้ เครื่องพิมพ์เพื่ออุตสาหกรรมสิ่งทอของเอปสัน หรือ F-Series ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่โรงงานสิ่งทอและโรงงานผลิตเสื้อผ้าที่เริ่มเปลี่ยนจากระบบการพิมพ์แบบดั้งเดิมมาสู่ระบบดิจิทัล เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าแบบออนดีมานด์ที่มีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสามารถช่วยลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจได้ รวมทั้งไม่สร้างมลภาวะในที่ทำงาน”

นอกจากผู้ประกอบการที่เป็นโรงงานแล้ว สภาพเศรษฐกิจในปีนี้บวกกับสถานการณ์โควิด-19 ยังทำให้เกิดฟรีแลนซ์และสตาร์ทอัพมากขึ้น ซึ่งต่างก็นิยมลงทุนกับเครื่องพิมพ์ขนาดเล็กและขนาดกลาง ทำให้โอกาสทางการตลาดของเครื่องพิมพ์สิ่งทอ Epson SureColor F-Series เปิดกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะโอกาสทางการตลาดในกลุ่มดีไซเนอร์ที่ มองหาเครื่องพิมพ์ที่ไม่เพียงเหมาะกับการสร้างงานแบบออนดีมานด์และงานที่มีดีไซน์เฉพาะ (customized) แต่ยัง ต้องมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถตอบโจทย์การสร้างสรรค์ผลงานได้ตามจินตนาการ หรือแม้แต่ผลักดันให้ดีไซเนอร์ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองได้”

Epson SureColor F531 คือเครื่องพิมพ์สำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอที่ใช้หมึกเรืองแสง (Fluorescent) เครื่องแรกของโลกที่มาพร้อมชุดหมึก UltraChrome ประเภท Dye Sublimation 4 สี ได้แก่ สีฟ้า สีชมพูเรืองแสง สีเหลืองเรืองแสง และสีดำ ซึ่งทำให้งานพิมพ์ทนต่อแสง น้ำ และกรดด่างได้ดี ทั้งยังไม่มีสารพิษตกค้าง ไม่ระคายเคืองต่อผิวเด็ก และไม่ทำลายธรรมชาติ

นายยรรยง กล่าวว่า “หมึกเรืองแสงจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับชิ้นงานสินค้าได้อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นของพรีเมี่ยม เช่น เคสมือถือ เสื้อยืด หมอน เป็นต้น เสื้อผ้าแฟชั่นและชุดกีฬา หรือแม้แต่วัสดุตกแต่งภายในสถานที่ ซึ่งเอปสัน
เชื่อว่าเครื่องพิมพ์ SC-F531 จะได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ตั้งแต่กลุ่มดีไซเนอร์ แบรนด์สินค้าแฟชั่น สตาร์ทอัพ ธุรกิจมินิแล็บ ร้านรับทำของพรีเมี่ยม ร้านเสื้อผ้ากีฬา ไปจนถึงสถาบันศึกษาและโรงงานพิมพ์ผ้า”

ล่าสุดเอปสันได้ทำงานร่วมกับดีไซเนอร์รุ่นใหม่ อย่าง ชนารดี ฉัตรกุล ณ อยุธยา หรือ Juli Baker and Summer โดยใช้ SC-F531 ในการสร้างสรรค์ผลงานออกแบบในชื่อชุด “Sunrise, Sunset and Midnight” นางสาวชนารดี กล่าวว่า “ดีไซเนอร์ต้องทำงานอยู่ภายใต้ข้อจำกัดมาก เพราะเครื่องพิมพ์ไม่สามารถตอบโจทย์ในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นสีสันที่ตรงตามที่ออกแบบ ขนาดผลงานที่ต้องการ หรือประเภทวัสดุที่ใช้พิมพ์งาน การทำงานร่วมกับเอปสันทำให้พบว่า เครื่องพิมพ์ SC-F531 ช่วยลบข้อจำกัดเหล่านี้ได้ ช่วยแก้ไขปัญหาสีเพี้ยนได้อย่างดี ให้ทุกเฉดสีออก มาได้สมจริงตามต้องการ จึงทำงานได้อย่างอิสระตามสไตล์ของตัวเอง เครื่องพิมพ์ที่ดีช่วยให้การออกแบบของ ดีไซเนอร์ก้าวข้ามข้อจำกัดและต่อยอดไอเดียออกไปได้ไกลยิ่งขึ้น”

สำหรับคอลเลกชัน “Sunrise, Sunset and Midnight” นางสาวชนารดีได้เลือกใช้เครื่องพิมพ์ SC-F2130 ที่รองรับการพิมพ์ลงบนเสื้อยืดคอตตอน 100% ได้โดยตรง ให้ลวดลายที่มีสีสันสดใส สวยงาม และแม่นยำได้ตามต้องการ นอกจากนี้ ยังใช้ SC-F531 เพื่อต่อยอดจินตนาการให้ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ และเพิ่มความสนุกสนาน สร้างความแปลกใหม่ให้กับผลงาน ด้วยการนำลวดลายไปทรานเฟอร์ลงบนวัสดุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผ้าใยสังเคราะห์ กรอบรูป แก้ว จาน หรือแม้กระทั่งเคสโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

-F531

31/03/2021

ไมเดียกวาดยอดขายชั่วโมงเดียวทะลุ 300 ล้าน มั่นใจสิ้นปี 64 ยอดแตะพันล้าน

ไมเดีย (Midea) แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลก ส่งท้ายไตรมาสแรกของปีด้วยงาน Midea E-Order Fair 2021 สร้างสถิติกวาดยอดขายถล่มทลาย ทะลุ 300 ล้านบาท ภายในไม่ถึงชั่วโมง จากตัวแทนจำหน่ายมากกว่า 600 รายทั่วประเทศ

นายโทนี่ หลิว กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มดี คอนซูเมอร์ แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ไมเดีย ประเทศไทย ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ไมเดียในประเทศไทย เปิดเผยว่า “ประเทศไทย ถือว่าเป็นตลาดสำคัญของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ลงทุนก่อตั้งโรงงานและสำนักงานขายรวมแล้ว 6 แห่ง ทั้งยังได้กำหนดแผน 3 ปี ซึ่งครอบคลุมการดำเนินงานตั้งแต่ปี 2564 จนถึง 2566 โดยเริ่มจากการสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ ผ่านคอนเซ็ปต์ Smart Life Style เพื่อสื่อให้กลุ่มลูกค้ารู้จักไมเดียในฐานะแบรนด์ที่นำเสนอนวัตกรรมที่ทันสมัย ให้กับทุกชีวิตภายในบ้านได้อย่างมีสไตล์และเหมาะกับครอบครัวรุ่นใหม่ ควบคู่กับการเร่งขยายร้านสาขาตัวแทนจำหน่ายหลักให้ถึง 633 ร้าน และการทำโปรโมชั่นแบบครอบคลุมทั่วประเทศ สำหรับในปีหน้า บริษัทฯ จะเร่งเครื่องเพื่อตามติดคู่แข่ง เพื่อประกาศต่อลูกค้าว่าไมเดียคือผู้นำตลาดคนใหม่ พร้อมกับขยายร้านค้าเพิ่มอีก 500 แห่ง และเติมไลน์สินค้าที่มีคุณสมบัติพิเศษเน้นตอบโจทย์รสนิยมของคนไทยโดยเฉพาะ ก่อนจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านในปี 2566”

ด้าน นายฉี เจิ้น หาว ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด ไมเดีย ประเทศไทย กล่าวว่า “จากการที่บริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมเปิดตัวสินค้าและการประชุมออนไลน์ในลักษณะอีออร์เดอร์กับตัวแทนจำหน่ายมาแล้ว 2 ครั้งเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งได้ผลตอบรับดีเกินคาด ในไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทฯ จึงได้จัดงาน Midea E-Order Fair 2021 ขึ้นเป็นครั้งแรก ในวันที่ 17 มีนาคม โดยมีตัวแทนจากเหล่าคู่ค้ามากกว่า 600 รายทั่วประเทศ ทั้งจากร้านค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า โมเดิร์นเทรด ร้านค้าเฉพาะกลุ่ม เข้าร่วมงาน ซึ่งบริษัทฯ สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 300 ล้านบาท ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือเครื่องปรับอากาศ ต่อมาคือกลุ่มผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับน้ำและเครื่องครัว เช่น เครื่องกรองน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่น ตู้กดน้ำ ตามด้วยกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก เช่น ไมโครเวฟ หม้อหุงข้าว กาต้มน้ำ เครื่องปั่น ไมเดีย ประเทศไทยยังมีแผนที่จะจัดกิจกรรมเช่นนี้อีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง สำหรับไลน์อัพเครื่องปรับอากาศที่จำหน่ายในประเทศไทย ไมเดียมีสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศทั้งหมดรวม
32 รุ่น สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม และในปีนี้ยังจะเปิดเพิ่มขึ้นอีก 18 รุ่น”

นอกจากนี้ ภายในงาน Midea E-Order Fair 2021 ทางไมเดีย ประเทศไทย ยังได้เปิดตัวพรีเซนเตอร์คนใหม่สำหรับกลุ่มสินค้าเครื่องปรับอากาศ นายสุรเดช ดาราเย็น ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ไมเดีย ประเทศไทย กล่าวว่า “ไมเดียในฐานะแบรนด์สินค้าระบบบำบัดอากาศที่มียอดขายสูงที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของ Euromonitor International บริษัทวิจัยการตลาดยักษ์ใหญ่ของโลก ได้ทำการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดูทันสมัย เหมาะกับกลุ่มลูกค้าฉลาดเลือกมากยิ่งขึ้น และตรงกับคอนเซ็ปต์ Smart Life Style ซึ่งทางไมเดีย ประเทศไทยได้ขานรับนโยบายนี้ ด้วยการดึงเจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข มาเป็นพรีเซนเตอร์คนแรกของแบรนด์ในประเทศไทย เพื่อสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัย สนใจใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะในชีวิตประจำวัน เพื่อยกระดับความสะดวกสบายภายในบ้าน และมีรสนิยมในการเลือกใช้สินค้าที่ไม่ได้คำนึงถึงฟังก์ชั่นเพียงอย่างเดียว แต่ยังใส่ใจในดีไซน์ ความสวยงาม ที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศในบ้านให้น่ามองน่าอยู่ยิ่งขึ้น โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะปล่อยภาพยนตร์โฆษณาที่มีเจมส์ จิรายุ ในช่วงปลายเดือนเมษายนที่จะถึงนี้”

“ปัจจุบัน กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศของไมเดีย ซึ่งรวมถึงเครื่องปรับอากาศ เครื่องฟอกอากาศ เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ เครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่ และพัดลม ได้รับการยอมรับจากคนไทยมากขึ้น ไม่ต่างจากแบรนด์ระดับโลกอื่นๆ ทั้งในเรื่องของคุณภาพและประสิทธิภาพของสินค้า ดีไซน์ และราคาที่จับต้องได้ง่าย บริษัทฯ มีแผนที่จะใช้งบการตลาดในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ในการปรับภาพลักษณ์และยกระดับความนิยมในตัวแบรนด์ผ่านการทำโปรโมชั่น และกิจกรรมร่วมกับคู่ค้าทั้งในรูปแบบออนไลน์และทางหน้าร้าน โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ยอดนิยมของตลาดประเทศไทยภายในอีก 3 ปีข้างหน้า” นายสุรเดช กล่าวทิ้งท้าย

อนึ่ง ในปี 2562 ไมเดียสามารถสร้างยอดขายรวมทั่วโลกได้ราว 1.25 ล้านล้านบาท และถูกจัดอันดับจากนิตยสาร Fortune Global 500 ประจำปี 2563 ให้เป็นบริษัทที่มีรายได้จากการประกอบการสูงสุดลำดับที่ 307 ของโลก ทั้งยังถูกจัดอันดับโดยนิตยสาร Forbes Global 2000 ประจำปี 2562 ให้เป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ในลำดับที่ 253 ของโลก ในด้านรายได้ กำไร ทรัพย์สิน และมูลค่าทางการตลาด

#เครื่องใช้ไฟฟ้า

16/12/2020

ดี-แลนด์ ปลื้มโครงการวิลลาเรส พระราม 2 – เอกชัย คว้ายอดขายเพิ่มกว่า 20% เคาะจัดแคมเปญ “ฉลองปิดเฟส ราคาพรีเซลล์” มอบส่วนลด 2 ล้าน ภายในสิ้นปี 63

ดี - แลนด์ กรุ๊ป ชี้ตลาดบ้านหรูยังไปต่อได้ เผยโครงการวิลลาเรส พระราม 2 - เอกชัย (VillaRes Rama 2 - Ekkachai) ผลตอบรับดี ล่าสุดฉลองปิดเฟส จัดแคมเปญ “ฉลองปิดเฟส ราคาพรีเซลล์” เพียงลงทะเบียนชมโครงการ รับส่วนลดพิเศษ 2 ล้านบาท

นายศิริพงษ์ สมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี - แลนด์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงปลายปี 2563 บริษัทฯ ได้ทำการพัฒนาโครงการใหม่ บ้านเดี่ยวหรูใจกลางมหาชัย โครงการวิลลาเรส พระราม 2 – เอกชัย (VillaRes Rama 2 - Ekkachai) เพื่อต่อยอดความสำเร็จและยกระดับภาพลักษณ์สินค้าใหม่ พร้อมพัฒนาด้านคุณภาพและบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้โดนใจกลุ่มลูกค้าในวิถีชีวิตยุคนิวนอร์มอล ซึ่งโครงการวิลลาเรส พระราม 2 – เอกชัย สามารถสร้างยอดขายได้อย่างเป็นที่น่าพอใจโดยกวาดยอดขายไปแล้วกว่า 20% หรือมูลค่ารวมกว่า 168 ล้านบาท นับตั้งแต่เปิดการขายในช่วงที่ผ่านมาและแม้จะอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว นอกจากนี้ ล่าสุดบริษัทฯ ยังประกาศฉลองปิดเฟส ผ่านแคมเปญ “ฉลองปิดเฟส ราคาพรีเซลล์” โดยรายละเอียด สำหรับลูกค้าที่สนใจ เพียงลงทะเบียนเยี่ยมชมโครงการ รับส่วนลดพิเศษ 2 ล้านบาท ภายในก่อนสิ้นปี 2563 นี้เท่านั้น

โครงการวิลลาเรส พระราม 2 - เอกชัย เป็นโครงการบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ บนพื้นที่ 30-2-7.7 ไร่ จำนวน 91 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 1,200 ล้านบาท ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุดใจกลางมหาชัย ในราคาเริ่มต้น 8 - 30 ล้านบาท ภายใต้แนวคิดในของที่อยู่อาศัยบนความมีระดับ เปี่ยมด้วยคุณภาพ มีดีไซน์ที่ทันสมัย เรียบหรู ผสานนวัตกรรมอันสอดรับกับพฤติกรรมลูกค้าครอบครัวเมืองบนวิถีชีวิตใหม่ บนพื้นที่ของความเป็นส่วนตัว และมีการคมนาคมที่สะดวก พร้อมรายล้อมด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกต่อผู้อาศัย อาทิ เซ็นทรัล มหาชัย, เซ็นทรัล พระราม 2, แมคโคร, บิ๊กซี, โฮมโปร, ไทยวัสดุ, บุญถาวร, พอร์โต้ชิโน่, โรงพยาบาลมหาชัย, โรงพยาบาลเอกชัย, ตลาดสดมหาชัย, ตลาดมหาชัยเมืองใหม่, ตลาดลีลา เป็นต้น โดยท่านผู้สนใจสอบถามรายละเอียด โทร.1793 กด 9

#บ้านเดี่ยว #วิลลาเรส

16/12/2020

“3สมาคม” ร่อนจม.ถึงขุนคลัง ชง 5 มาตรการกระตุ้นศก.ผ่านธุรกิจอสังหาฯ

“3สมาคม” ร่อนจม.ถึงขุนคลัง ชง 5 มาตรการกระต …

20/11/2020

DIP จัดเสวนาออนไลน์เพิ่มศักยภาพการนำสินค้าเข้า Modern trade และตลาด E-Commerce ในยุค 2020

ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมดร.อริยาพร อำนรรฆสรเดช ผู้อำนวยการกองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมเป็นประธานปิดกิจกรรม “การเชื่อมโยงธุรกิจเพื่อส่งเสริมการตลาด ภายใต้กิจกรรมเพิ่มศักยภาพการผลิตในอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป” พร้อมจับมือผู้เชี่ยวชาญด้านงานการตลาดประชาสัมพันธ์ และสื่อบันเทิง นายนายวุฒิธร มิลินทจินดา หรือวู้ดดี้ ประธานบริษัท บริษัท วู้ดดี้ เวิลด์ จำกัด จัดเสวนาออนไลน์เพิ่มศักยภาพการนำสินค้าเข้า Modern trade และตลาด E-Commerce ในยุค 2020 โดยได้รับเกียรติจากตัวแทนผู้บริหารจาก CP ALL, The Mall Group, King Power, Lazada เข้าร่วมกิจกรรม ณ PM Center Live Studio มีผู้เข้าร่วมทางออนไลน์กว่า 100 คน เมื่อเร็วๆ นี้

20/11/2020

โตชิบา บุกกลางกรุง เปิดตัวสื่อโฆษณาบนรถไฟฟ้าบีทีเอสเต็มขบวน
ชวนคนไทยเข้าสู่ฤดูกาลแห่งของขวัญ

โตชิบา ไทยแลนด์ ตอกย้ำ ภาพลักษณ์แบรนด์ “นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต” จัดแคมเปญใหญ่ส่งท้ายปี #เพราะเราใส่ใจในทุกรายละเอียด ผ่านรูปแบบการโฆษณาบนรถไฟฟ้าบีทีเอส ด้วยการ Wrap ทั้งภายใน และภายนอกขบวน โดยเน้นสื่อสารกับกลุ่มคนเมือง ชวนคนไทยเข้าสู่ช่วงเวลาของเทศกาลแห่งความสุข และการมอบของขวัญ ผ่านสื่อรถไฟฟ้าบีทีเอสขบวนของขวัญจากโตชิบา ที่ตกแต่งทั้งภายในและภายนอกขบวน 4 ลุค 4 สไตล์ พร้อมจัดกิจกรรมลุ้นชิงตู้เย็นไซด์บายไซด์ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ธันวาคม 2563

นางกนิษฐ์ เมืองกระจ่าง ประธาน บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า โตชิบาโปรโมทแบรนด์ต่อเนื่องมาตลอดทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ โดยเน้นย้ำให้แบรนด์ Young และ Modern ยิ่งขึ้น สำหรับไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลที่คนออกมาจับจ่ายใช้สอย รวมถึงซื้อของขวัญกันมาก ในเทศกาลแห่งความสุข และส่งสิ่งดีๆให้กันและกัน รถไฟฟ้าเป็นหนึ่งในเส้นทางที่เชื่อมโยงผู้คนไปยังจุดหมายปลายทางได้สะดวก รวดเร็ว ดังนั้น โตชิบาจึงตั้งใจส่งความสุขให้ผู้โดยสารทุกท่าน โดย Wrap รถไฟฟ้าให้มีความสดใส น่ารัก 4 ลุค 4 สไตล์ ให้ทุกโบกี้ เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่ต้องมาถ่ายรูป เพื่อแชร์บนเฟซบุ๊ก ไอจี หรือทวีตเตอร์

นอกจากการเป็นแลนด์มาร์กถ่ายรูปแล้ว ยังมีกิจกรรมที่เอาใจทั้งผู้โดยสารบีทีเอส และแฟนของโตชิบา กับกิจกรรม “I Love Toshiba” เพียงถ่ายรูปตู้เย็นโตชิบา ด้านในหรือด้านนอกรถไฟฟ้า และเขียนแคปชั่นโดนๆ พร้อมใส่ #นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต (ตั้งค่าเป็นสาธารณะ) หรือหากไม่ได้เป็นผู้โดยสารบีทีเอส ก็สามารถถ่ายรูปคู่กับตู้เย็นโตชิบาที่บ้าน แล้วโพสต์บนเฟซบุ๊กของท่าน และทำตามกติกาที่กำหนด ก็มีสิทธิ์ลุ้นรับตู้เย็นไซด์บายไซด์ ขนาด 18 คิว รุ่นใหม่ล่าสุด มูลค่ารางวัลละ 32,990 บาท รวมทั้งสิ้น 10 รางวัล ติดตามกติกาเพิ่มเติมได้ทาง www.facebook.com/ToshibaSociety ตั้งแต่ 11 พฤศจิกายน 2563 - 31 ธันวาคม 2563

28/10/2020

เอปสันโชว์พลังเลเซอร์โปรเจคเตอร์ ณ House of Illumination ร่วมสร้างประสบการณ์ใหม่กับการชมงานศิลปะดิจิทัล

เอปสันร่วมสนับสนุนงาน House of Illumination ยกขบวนเลเซอร์โปรเจคเตอร์ประสิทธิภาพสูงโชว์เทคนิค Projection Mapping กับผลงานศิลปะดิจิทัลสุดอลังการ ตั้งแต่ 28 ตุลาคม 2563 ถึง ตุลาคม 2565 ณ ชั้น 8 เซ็นทรัลแกลอรี่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “เอปสัน ประเทศไทย ได้ร่วมกับอินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ และเซ็นทรัลเวิลด์ ในการจัดเมกะอีเวนท์ “House of Illumination” งานแสดงศิลปะดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บนพื้นที่กว่า 1,800 ตารางเมตร ของเซ็นทรัลแกลอรี่ ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และจะเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมตั้งแต่ 28 ตุลาคม 2563 ไปจนถึงตุลาคม 2565 ในส่วนของเอปสัน ประเทศไทย ได้ให้การสนับสนุนในด้านเทคโนโลยีเลเซอร์โปรเจคเตอร์ความสว่างสูง จำนวน 18 เครื่องที่ใช้ในห้องจัดแสดงต่างๆ ซึ่งผู้เข้าชมจะได้สัมผัสประสบการณ์ในการชมคอนเทนท์ดิจิทัลในแบบอินเตอร์แอคทีฟ ผ่านเทคนิค Projection Mapping”

“ที่ผ่านมา เอปสัน ประเทศไทย ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับหน่วยงานราชการ สถาบันศึกษา ออร์แกไนเซอร์ ศิลปินและเหล่าคอนเทนท์ดีเวลลอปเปอร์มากมายในการจัดงานอีเวนท์ระดับประเทศที่มีการนำเสนอคอนเทนท์ดิจิทัล ผ่านเทคนิค Projection Mapping เช่น งานลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย นิทรรศการโพธิเธียร์เตอร์ ณ เทศกาลบางกอกแหวกแนว งานเชียงใหม่ Design Week เป็นต้น และในครั้งนี้ งาน House of Illumination ที่จัดขึ้นโดยความร่วมมือของเอปสัน ประเทศไทย และอินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ก็เป็นอีกครั้งที่บริษัทฯ ได้มีส่วนร่วมในการจัดแสดงงานแสดงศิลปะและคอนเทนท์แบบดิจิทัล ผ่านเลเซอร์โปรเจคเตอร์ของเอปสัน และมั่นใจว่าจะสร้างประสบการณ์การรับชมที่น่าตื่นตาตื่นใจ เพิ่มความอลังการของผลงานความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างแน่นอน”

“สำหรับเลเซอร์โปรเจคเตอร์ทั้ง 18 เครื่อง ซึ่งล้วนแต่เป็นรุ่นที่ใช้สำหรับการนำเสนอคอนเทนท์ที่มีความละเอียดและคุณภาพสูงโดยเฉพาะ และได้รับคำชื่นชมอย่างมากจากการใช้ที่ teamLab Borderless Tokyo ที่ประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ การจัดแสดง House of Illumination ที่เปิดให้ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้เข้าชมนานถึง 2 ปี เลเซอร์โปรเจคเตอร์ที่ใช้จึงต้องมีประสิทธิภาพและความทนทานสูง ซึ่งเทคโนโลยีเลเซอร์ของเอปสันสามารถใช้งานได้นานถึง 20,000 ชั่วโมงโดยที่คุณภาพของภาพที่ฉายไม่ลดลง และไม่ต้องมีการบำรุงรักษาใดๆ”

นายยรรยง กล่าวต่อว่า “ปัจจุบัน ตลาดโปรเจคเตอร์ทั่วโลกกำลังอยู่ในช่วง technological shift หรือการเปลี่ยนเทคโนโลยีจากการใช้หลอดภาพมาเป็นเครื่องกำเนิดแสงเลเซอร์ ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่า ให้ภาพฉายที่คมชัดและคุณภาพดีขึ้น ขณะที่ราคาก็เริ่มจับต้องได้มากขึ้น จึงเป็นโอกาสดีสำหรับทุกองค์กรที่ต้องการซื้อเลเซอร์โปรเจคเตอร์ ไปใช้ หรือนำไปทดแทนเครื่องรุ่นเดิมในธุรกิจของตนเอง โดยขณะนี้เอปสันมีสินค้าเลเซอร์โปรเจคเตอร์จำหน่ายในตลาดมากกว่า 20 รุ่น ตั้งแต่ระดับความสว่าง 2,000 ไปจนถึง 30,000 ลูเมน ครอบคลุมทุกความต้องการใช้งานในทุกประเภทสถานที่”

“หากมองภาพรวมตลาดโปรเจคเตอร์ในปี 2562 จะพบว่าตลาดมีการหดตัวค่อนข้างมาก แต่เกิดขึ้นในกลุ่มสินค้ารุ่นเล็ก ความสว่างไม่เกิน 4,000 ลูเมน ที่ใช้ตามบ้านหรือในร้านค้าขนาดเล็ก สวนทางกับตลาด B2B ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของเอปสัน ที่ประกอบด้วยเอสเอ็มอี บริษัทขนาดใหญ่ สถาบันศึกษา หน่วยงานราชการ ออร์แกไนเซอร์ และธุรกิจบันเทิง ที่ต้องการใช้โปรเจคเตอร์ความสว่างปานกลางถึงสูงพิเศษ ความละเอียดระดับ Full HD มีรูปแบบการเชื่อมต่อที่หลากหลาย และคุณสมบัติพิเศษเฉพาะด้าน ส่วนปี 2563 แม้จะมีวิกฤตโควิด-19 แต่ตลาดโปรเจคเตอร์ กลับไม่ได้หดตัวรุนแรงเหมือนที่มีการคาดการณ์ เอปสันเองก็เริ่มออกสินค้าใหม่สู่ตลาดตั้งแต่ช่วงต้นไตรมาสสามที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับค่อนข้างดี ทั้งยังมีแผนที่จะเปิดตัวเลเซอร์โปรเจคเตอร์รุ่นใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายในช่วงสิ้นปีอีกด้วย”

“การที่ตลาดโปรเจคเตอร์จะกลับมาฟื้นตัวเต็มที่จำเป็นต้องได้รับแรงสนับสนุนจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว การที่รัฐบาลมีมาตรการด้านการท่องเที่ยวออกมามากมาย หรือพยายามผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางธุรกิจไมซ์ (MICE) ในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงการกำหนดให้สถานที่จัดงานไมซ์ประเภทต่างๆ ที่จะได้รับการรับรองตามมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย หรือ Thailand MICE Venue Standard (TMVS) จากสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB จำเป็นต้องมีความพร้อมด้านเทคโนโลยี อีกทั้งการที่ภาคเอกชนมีความคิดริเริ่มในการสร้างสรรค์อีเวนท์และสถานที่ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ อย่างงาน House of Illumination ปัจจัยเหล่านี้ล้วนช่วยเร่งให้เกิดการลงทุนเทคโนโลยีประสิทธิภาพสูงในองค์กรต่างๆ เพิ่มขึ้น เพื่อรับประกันคุณภาพและประสิทธิผลของงาน และส่งเสริมภาพลักษณ์ในระดับสากล” นายยรรยง กล่าว

ร่วมสัมผัสที่สุดแห่งเทคโนโลยีเลเซอร์โปรเจคเตอร์จากเอปสันได้แล้วในงาน House Of Illumination ตั้งแต่ 28 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป ที่ชั้น 8 เซ็นทรัลแกลอรี่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ราคาบัตรเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ 350 บาท บัตรนักเรียนและนักศึกษา ราคา 300 บาท และบัตรเด็ก (สูงไม่เกิน 130 ซม.) ราคา 250 บาท ซื้อบัตรได้ที่หน้างาน หรือทางออนไลน์ได้ที่ www.houseofillumination.com สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 065-956-0170 และติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของงานฯ ได้ที่ทางเฟสบุ๊ค House of Illumination

28/10/2020

สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดตัวหลักสูตร TREA ACADEMY

นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ประกาศผนึกกำลัง 13 สมาคมอสังหาฯ ทั่วภูมิภาค แถลงข่าวเปิดตัวหลักสูตรพัฒนาผู้ประกอบการอสังหาฯ ทั้งคอร์สระยะสั้น “ต่อยอดการพัฒนาอสังหาฯ ปรับกลยุทธ์สู้วิกฤตในปี 2021” และคอร์สระยะยาว “TREA ACADEMY” เรียนรู้ด้านการดำเนินธุรกิจอสังหาฯ แบบครบวงจร เพื่อพัฒนาสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจ พร้อมเปิดตัวแพลตฟอร์ม “อสังหาฯ มาร์เก็ต เพลส” จะเป็นช่องทางการตลาดออนไลน์ที่รวมสินค้าที่อยู่อาศัยทุกประเภท ทุกทำเล ทั่วประเทศเกือบ 300 บริษัท นำสินคุณภาพกว่า 1,000โครงการ เพื่อให้ผู้ซื้อทั่วประเทศสามารถเข้าถึงได้ง่าย ณ โรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยท์ เทอมินอล 21 เมื่อเร็วๆ นี้

28/10/2020

สัมภาษณ์เรื่องเด่นเย็นนี้ ช่อง 3 จากงานแถลงข่าวการจัดกิจกรรมของสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย