JAPAN and I

01/04/2023

ศูนย์แลกเปลี่ยนศิลปะและวัฒนธรรมสวนสาธารณะชิคุโก : Kyushu Geibunkan (九州芸文館) ⚫️
สถาปัตยกรรมแห่งเกาะคิวชู เกาะทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น "ศูนย์แลกเปลี่ยนศิลปะและวัฒนธรรมสวนสาธารณะชิคุโก หรือ Kyushu Geibunkan (คิวชู เกบันคัง)" ผลงานการออกแบบของสถาปนิกชื่อดังระดับโลก Kengo Kuma (เคนโกะ คูมะ) เป็นการออกแบบพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับศิลปะ วัฒนธรรม และธรรมชาติ โดยคำนึงถึงการเป็นสื่อกลางของการพัฒนาของกลุ่มชุมชนในภูมิภาค Chikugo ให้เป็นพื้นที่ที่ได้รับการออกแบบให้เป็นทั้งส่วนจัดแสดงนิทรรศการทางศิลปะ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติ พร้อมทั้งยังมีพื้นที่สตูดิโอสำหรับเวิร์กช็อป สำหรับให้ความรู้ การแลกเปลี่ยนทางศิลปะและวัฒนธรรม
ลักษณะเด่นของตัวสถาปัตยกรรมคือการออกแบบรูปแบบของหลังคาแบบใหม่ โดยเป็นการประกอบกันของหลังคาแบบลาดเอียงหลาย ๆ ชิ้นที่นำมาวางต่อเนื่องกันบนโครงสร้างเหล็ก ตัวหลังคาและผนังอาคารใช้วัสดุหลายอย่างแต่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ตัวอาคารเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนการกระจายตัวอย่างกลมกลืนของสภาพแวดล้อมของสิ่งปลูกสร้างโดยรอบ
การเข้าชม ⚫️
- เวลาเปิดและปิดทำการ 09:00 น. ถึง 21:00 น.
- วันหยุด หยุดทุกวันจันทร์ วันสิ้นปี และวันปีใหม่ของทุก ๆ ปี
- นิทรรศการต่าง ๆ สามารถดูได้จากเว็บทางการ
วิธีการเดินทางโดยรถไฟ ⚫️
- JR Chikugo-Funagoya Station เดินต่ออีก 1 นาที จริง ๆ อยู่หน้าสถานีเลย
- Kyushu Shinkansen Chikugo-Funagoya station เดินต่ออีก 1 นาที
เว็บไซต์ทางการ ⚫️
- https://www.kyushu-geibun.jp/
#เพจท่องเที่ยวญี่ปุ่น #เพจเที่ยวญี่ปุ่น #เพจญี่ปุ่น #เที่ยวญี่ปุ่น #ประเทศญี่ปุ่น #ญี่ปุ่น

01/02/2023

โรงแรมแคปซูล : Capsule Hotel (カプセルホテル) ⚫️

โรงแรมประเภทแคปซูล (Capsule Hotel) ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า カプセルホテル (Kapuseru Hoteru)
เป็นที่พักชั่วคราวประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงในประเทศญี่ปุ่นสำหรับนักท่องเที่ยว หรือแม้แต่คนญี่ปุ่นเอง เนื่องจากราคาถูก เริ่มตั้งแต่หลักร้อยจนถึงพันตามความหรูหรา สิ่งอำนวยความสะดวกมีครบครัน เหมาะสำหรับการเข้าพักค้างคืนระยะสั้น (หรือระยะหนึ่ง ๆ) มาแต่ตัวเปล่ายังได้เลย และโรงแรมประเภทนี้มักจะตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวหรือย่านธุรกิจ ทำให้สะดวกในการเข้าถึงเป็นอย่างมาก

ลักษณะของโรงแรมประเภทนี้ในญี่ปุ่นที่แอดได้เข้าไปพัก "ส่วนมาก" จะเจอแบบแยกที่พักชายและหญิงออกจากกัน รูปแบบที่เราพบเห็นจะมีทั้งแบบที่นอนแบบ Slot ช่อง 2 ชั้นวางซ้อนกันยาวเป็นกำแพง เรามีหน้าที่แค่มุดตัวเข้าไปนอน หรือจะเป็นแบบ Slot ช่อง 2 ชั้น จัดวางอยู่ในซอกใดซอกหนึ่ง ทำเป็นซอย ๆ เพื่อความ Private และมีพื้นที่วางกระเป๋าส่วนตัวนิดหน่อย แต่ตัวอย่างที่แอดเอามารีวิวจะเป็นแบบคนมีกะตังค์หน่อย (มั้ง 555)
เรียกว่า Superior Capsule คือ Slot จะมีขนาดกว้างขวาง เตียงนอนที่ใหญ่นอนสบายขึ้น และพื้นที่ว่างสำหรับเดินไปมา เก็บของ มากกว่า Capsule ทั่วไป ซึ่งห้องประเภทนี้ แล้วแต่โรงแรม Capsule บางที่ก็มี บางที่ก็ไม่มี

ข้อดีของโรงแรม Capsule ⚫️
- ราคาถูก เริ่มตั้งแต่หลักร้อย จนถึงหลักพัน (ถูกสุดที่เคยไปพักคือ 545 บาท อยู่หน้าประตูทางเข้าสถานีรถไฟใต้ดินย่านช็อปปิ้งที่ จ.โอซากะ)
- สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ผ้าเช็ดตัว ชุดนอน อุปกรณ์อาบน้ำทำผม มาแต่ตัวพร้อมเงินได้เลย
- มักตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวหรือย่านธุรกิจ

ข้อเสียของโรงแรม Capsule ⚫️
- เสียง แน่นอนมันไม่ใช่ห้องส่วนตัวที่เก็บเสียง ใครหลับยากนี่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ แต่โรงแรม Capsule หลายที่เข้าใจถึงปัญหานี้ โดยส่วนมากมักจะเตรียมที่อุดหูซิลิโคนไว้ให้ ช่วยได้มั้ยอันนี้ไม่รู้
- ระบบปรับอากาศ ไม่ว่าแอร์หรือฮีตเตอร์จะเป็นของส่วนกลาง แต่อาจจะมีรูหรือช่องเล็ก ๆ อยู่ใน Slot ที่นอนเราให้ด้วย หนาวก็ปิด ร้อนก็เปิด (เฉพาะในช่องที่เรานอนนะ) แต่ถ้าส่วนกลางเค้าตั้งอุณหภูมิไว้ไม่เหมาะสม
ผู้พักอาศัยก็น่าจะไม่ Comforable ในการเข้าพักเท่าไหร่
- ความปลอดภัยของทรัพย์สิน โรงแรมบางที่ก็มีพื้นที่ส่วนที่เป็นห้องล็อกเกอร์สำหรับเก็บของมีค่าหรือกระเป๋าเดินทางพร้อมกุญแจล็อกไว้ให้ บางที่ก็ไม่มีนะ
- พื้นที่ส่วนกลางคับแคบ หรือส่วนกลางอื่น ๆ มีไม่เพียงพอ

สรุป ของแบบนี้ต้องลองเป็นประสบการณ์ชีวิตครับ ⚫️

#เพจท่องเที่ยวญี่ปุ่น #เพจเที่ยวญี่ปุ่น #เพจญี่ปุ่น #เที่ยวญี่ปุ่น #ประเทศญี่ปุ่น #ญี่ปุ่น

04/12/2022

ใบไม้เปลี่ยนสี อาราชิยะมะ : Autumn Leaves 🍁

ปีนี้รู้สึกใบไม้เปลี่ยนสีช้ากว่าปกตินะครับ ตามป่าตามภูเขามันทยอย ๆ เปลี่ยนสีเป็นหย่อม ๆ ไม่ได้บูมเปลี่ยนทั้งภูเขาทั้งลูก มันไม่ฟินอะนะ

สถานที่ : วัดเท็นริวจิ (Tenryu-ji Temple)
วัดเท็นริวจิเป็นหนึ่งในวัดนิกาย"เซ็น"อันดับต้น ๆ ของประเทศญี่ปุ่น ก่อสร้างขึ้นใน ค.ศ. 1339 อยู่ในพื้นที่ของอาราชิยะมะ (ที่มีป่าไผ่นั่นแหละ) จึงเป็นวัดที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์กรยูเนสโก (UNESCO) ด้วยความสำคัญทางประวัติศาสตร์

การเดินทาง 🚆
- สถานี JR ซากะอาราชิยามะ (JR Saga-Arashiyama) เดินประมาณ 13 นาที
- สถานีฮันคิวอาราชิยามะ (Hankyu Arashiyama) เดินประมาณ 15 นาที

ค่าเข้าชม : 500 เยน (ไม่รวมค่าเข้าสักการะอีก 300-500 เยน) 💵

12/03/2022

เกาะมิยาจิมะ : MIYAJIMA (宮島) ⚫️

ส่วนหนึ่งบนเกาะมิยาจิมะ เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าชินโตที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมจากองค์การ UNESCO ในปี ค.ศ. 1996 ซึ่งตัวศาลเจ้ามีอายุเก่าแก่กว่า 1,400 ปี โดดเด่นเสาไม้โทริอิขนาดมหึมา (Torii : 鳥居) ที่เวลาน้ำขึ้นเต็มที่จะทำให้เสาโทริอิยักษ์นี้เหมือนลอยอยู่ในน้ำ ซึ่งเสาโทริอินี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเกาะแห่งนี้ไปโดยปริยาย
อันที่จริงบนแล้วเกาะมีหลาย Activities ที่น่าสนใจมากๆ นะครับ แต่ด้วยเวลาที่จำกัด เลยได้เที่ยวแค่ศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine) กับโทริอิแค่นั้น ค่าเข้าชมในส่วนโทริอินี้จะฟรี แต่หากจะเข้าไปสักการะภายในตัวศาลเจ้ามีค่าเข้านะครับ ผู้ใหญ่ 300 เยน เด็กก็ถูกลงมา อย่างอื่นที่น่าสนใจบนเกาะก็มีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมิยาจิมะ (Miyajima Public Aquarium) หรือจะนั่งเคเบิ้ลขึ้นเขา Mount Misen ชมวิว 360 องศารอบเกาะ
แล้วลงมากินหอยนางรมสดและปลาไหลของขึ้นของเกาะ ต่อด้วยเดินช็อปปิ้งในถนนเล็กๆ ก็ฟินดี แถมมีวัดมีเจดีย์ต่างๆ ให้เข้าชมต่ออีกด้วย แต่หากใครอยากจะพักบนเกาะก็มีโรงแรมให้พักได้ ราคาเริ่มตั้งแต่สองสามพันกว่าบาทจนถึงหลักหมื่น ส่วนตัวคิดว่าแพลนเที่ยวเกาะมิยาจิมะนี้ 1 วันกำลังดีเฉพาะไฮไลท์ครับ
และเคยได้ยินข่าวเก่าแว่วๆ ในปี 2019 ว่าทางท้องถิ่นจะมีการเรียกเก็บภาษีบำรุงเกาะด้วย โดยจะเรียกคนละประมาณ 100 เยน หรือ 30 ต่อคนต่อครั้ง ซึ่งก็ไม่ได้เยอะอะไร ถือซะว่าเป็นค่าบำรุงสถานที่ละกัน

วิธีการเดินทาง ⚫️
1. เริ่มที่สถานี JR Hiroshima station
2. นั่ง JR สายโลคอลธรรมดาไปลงที่สถานี Miyajimaguchi station ประมาณ 30 นาที
3. เดินตรงไปข้างหน้า 5 นาที ไปยังท่าเรือ JR Miyajima ferry ใครใช้พาส Kansai - Hiroshima wide area pass ดูรอบเรือแล้วขึ้นฟรีได้เลย สิทธิประโยชน์ของพาสเดินทางล้วนๆ ส่วนท่าเรืออีกเจ้าเป็น Matsudai เรือจะออกกันทุก 15 นาที ตั้งแต่ 06.00 โมงโดยประมาณ จนถึง 20.00 และ 22.00 น.
4. แต่ถ้าใครไม่มีพาสเดินทางค่าโดยสารเรือก็อยู่ที่ประมาณ เที่ยวละ 180 เยน ไปกลับก็คูณสอง ส่วนเด็กก็เที่ยวละ 90 เยนครับ
5. นั่งเรือไปยังเกา Miyajima ประมาณ 10 นาที
6. ข้อมูลเวลาไปกลับ Timeable shedules ต่างๆ สามารถดูได้ที่ https://jr-miyajimaferry.co.jp/en/timetable/ พี่ยุ่นเค้าชัดเจนมาก

30/10/2021

วัดทอง คินคะคุ-จิ : Kinkaku-ji (金閣寺)] ไม่ใช่วัดอิคคิวซัง ⚫️

วัดทอง คินคะคุ-จิ ไม่ใช่วัดอิคคิวซังนะ ย้ำ!!! วัดอิคคิวซังคือวัดอังโคะคุ-จิ ส่วนวัดนี้เป็นวัดของท่านโชกุนในการ์ตูนครับ

รอบนี้ไม่มีอะไร คุยกับพี่ที่ออฟฟิศเรื่องญี่ปุ่นหลังฤดูมรสุมจะเข้าสู่ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี แล้วนึกถึงที่เมืองเกียวโตเฉยๆ โดยปกติใบไม้จะเปลี่ยนสีจากตอนบนของประเทศไล่ลงมาตอนล่าง ซึ่งสวนทางกับการบานของดอกซากุระในฤดูสปริง ย้ำ!!! ใบไม้เปลี่ยนสีเปลี่ยนจากบนลงล่าง ซากุระบานจากล่างขึ้นบน

การเข้าชม ⚫️
ใหญ่ ¥ 400 , เด็ก ¥ 300 เงื่อนไขพิเศษ : ไม่สามารถใช้ขาตั้งกล้องได้

วิธีการเดินทาง ⚫️
รถไฟใต้ดิน รถไฟบนดินไปไม่ถึงนาจา ต้องต่อรถบัสหรือแท็กซี่เท่านั้น จะนั่งรถไฟมา ก็ต้องมาลงสถานี Kyoto station นี่แหละสะดวกที่สุด แล้วขึ้นรถบัสที่ Kyoto Ekimae Bus Stop สาย 101 หรือ 205 ไปลงป้าย Kinkakuji-michi Bus Stop ได้เลย แต่ JR จะไปลงได้อีกที่ คือสถานี Emmachi แล้วต่อรถบัสสาย 204 หรือ 205 ไปก็ได้
หรือใครพักอยู่ย่านกิออน Gion ก็นั่งบัสยาวๆ สาย 12 ไปลงป้ายวัดทอง Kinkakuji-michi Bus Stop ได้เลยเหมือนกัน

21/09/2021

เตชิมะ อาร์ท มิวเซียม : Teshima Art Museum ⚫️

มิวเซียมที่น่าสนใจที่สุดบนเกาะเตชิมะ (Teshima) 1 ใน 3 หมู่เกาะศิลปะในทะเลเซอิโตะ (SEITO) ของจังหวัดคางะวะ (Kagawa)

มิวเซียมแห่งนี้ถูกออกแบบโดยสถาปนิกชาวญี่ปุ่น คุณริว นิชิซะวะ (Ryue Nishizawa) แห่งบริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมชื่อดังของญี่ปุ่น "Sejima and Nishizawa and Associates" หรือที่รู้จักกันในวงการออกแบบว่า "SANAA" เตชิมะ อาร์ท มิวเซียม เป็นมิวเซียมรูปวงรีที่เปิดพื้นที่ด้านบนคล้ายๆกับยานอวกาศ พื้นที่ภายในออกแบบให้เรียบง่ายสำหรับจัดนิทรรศการหมุนเวียน เปลือกอาคารเป็นคอนกรีต Super Structure หนาเพียง 25 ซม. ในส่วนด้านบนที่เปิดโล่งเล่นกับความรู้สึกและแสง ในขณะที่ผู้เข้าชมทุกคนต่างอยู่ในอาการเงียบสงบ อินไปกับบรรยากาศของการออกแบบ สัมผัสได้ถึงความบางเบาและล่องลอยของพื้นที่ภายใน โดยมีแสงจากหลังคาที่เปิดโล่งด้านบน เป็นหนึ่งในองค์ประกอบของงานสถาปัตยกรรม

3 เกาะศิลปะบนทะเลเซอิโตะได้แก่ เกาะเตชิมะ (Teshima) เกาะนาโอชิมะ (Naoshima) และเกาะอินุจิมะ (Inujima) โดยทั้ง 3 เกาะสามารถแพลนเป็นรูทเที่ยวได้ภายใน 3 วัน (เกาะละ 1 วันโดยประมาณ) บนเกาะแต่ละเกาะจะมีอาร์ทมิวเซียมหรือแกลเลอรี่น่าสนใจบนนั้นหลายแห่ง สำหรับให้เที่ยวชมได้ทั้งวัน บางเกาะมีแมวเพียบเลยนะ ทาสแมวต้องไม่พลาด หากใครเบื่อเที่ยวในเมืองหรือนอกเมือง ลองขึ้นเรือมาเที่ยวเกาะดูงานศิลปะก็เป็นตัวเลือกที่ดี หรือจะพาแฟน พาคู่รักมาเดินเที่ยวถ่ายรูปเล่นก็โรแมนติกไปอีกแบบ
(เดี๋ยวมีแนะนำที่เที่ยวอีก 2 เกาะที่เหลือในคราวหน้านะ)

การเข้าชม ⚫️
ค่าตั๋วเข้าชม: ประมาณ 1,570 เยน หรือ 471 บาท โดยประมาณ เด็กอายุ 15 ปีและต่ำกว่าเข้าชมฟรี
(การเข้าชมเค้าจะจัดกรุ๊ปเล็กๆ เป็นรอบๆ แล้วแต่ปริมาณคนที่เข้าชมในตอนนั้น)
เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้เข้าชม 10.00 และปิดให้เข้าชม 16.00-17.00 แล้วแต่เดือนครับ ช่วงน่าหนาวที่มืดเร็วก็อาจจะปิดเร็ว และโดยปกติจะปิดให้เข้าชมก่อนเวลาปิด 30 นาที
วันปิดทำการ: โดยปกติจะมีวันปิดทำการในระหว่างสัปดาห์อยู่ครับ สามารถเช็คได้โดยตรงที่ https://www.e-tix.jp/teshima/en/

วิธีการเดินทาง ⚫️
จริงๆแล้วตัวเกาะมีท่าเรือขึ้นเกาะได้หลายทาง เพราะเป็น 1 ใน 3 เกาะรูทท่องเที่ยว แต่จากที่ผมได้ไปทั้ง 3 เกาะ ผมไปจากตัวจังหวัดโอคายะมะทั้งหมดครับ ไปวันต่อวัน 1 วัน 1 เกาะ ไม่ได้เดินทางข้ามไปมาระหว่างเกาะแต่อย่างใด งั้นผมจะแนะนำแค่วิธีที่ผมใช้ละกันครับ

1. ผมพักที่จังหวัดโอคายะมะ (Okayama) ใกล้สถานี JR จังหวัดใกล้ๆจังหวัดฮิเมจิ (Himeji)
2. จาก JR Okayama นั่ง JR ไปที่ท่าเรืออูโนะ (Uno Port) ลงที่สถานี Uno Station เดินต่ออีก 3 นาที เพื่อไปท่าเรือขึ้นเรือไปยังเกาะในตอนเช้า ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 1 ชั่วโมง (รอบเรือออกประมาณทุก 2 ชั่วโมง)
3. จากท่าเรืออูโนะ ต่อเรือไปยังเกาะเตชิมะ ค่าเรือ 1,050 เยน (เด็กครึ่งราคา) ไปลงที่ท่าเรือคาระโตะ (Karato) บนเกาะเตชิมะ ซึ่งเป็นท่าเรือที่ใกล้มิวเซียมมากที่สุดครับ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
3. จากนั้นก็เดินไปตัวมิวเซียมอีก 1 กิโลฯนิดๆ ที่จริงมีรถบัสไปนะ จะเช่าจักรยานหรือรถยนต์ก็ได้ แต่ด้วยว่าเราไม่รีบ ภูมิประเทศบนเกาะและวิวสวย เราจึงเดินเอาครับ นักท่องเที่ยวคนอื่นๆก็เดินกันทั่ว
3. ส่วนขากลับผมไปเที่ยวต่อ เลยกลับจากอีกท่าเรือบนเกาะ คือท่าเรืออิเอะอุระ (Ieura) ค่าเรือกลับไปยังท่าเรืออูโนะ 780 เยน (เด็กครึ่งราคา) ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 30 นาที กลับไปที่ท่าเรืออูโนะ
ข้อมูล Transportations ต่างๆ สามารถดูได้ที่ https://teshima-navi.jp/en/access/

Q&A with Japan and I ⚫️

Q: เกาะอยู่จังหวัดอะไรคะ
A: ตั้งอยู่บนเกาะภูมิภาค Chigoku จังหวัดคางะวะ (Kagawa) แต่ตัวเกาะค่อนมาทางแผ่นดินใหญ่ของจังหวัดโอคายามะครับ (Okayama)

Q: อยู่ใกล้จังหวัดหลักหรือเมืองหลักอะไรคะ
A: ถ้าจังหวัดหลักๆที่มีสนามบินจากไทยก็โอซากะครับ แต่ถ้าสโคปลงก็ใกล้จังหวัดฮิเมจิ ใกล้กว่าอีกนั้นก็จังหวัดโอคายามะ

Q: ไปจากโอซากะได้ยังไง ใช้พาสเดินทางอะไรครับ
A: มาจากโอซากะได้ไม่เกิน 1.30 ชม. ด้วย Shinkansen ใช้พาสเดินทาง Kansai-wide area pass แบบ 5 วัน มาลงที่จังหวัดโอคายามะ แล้วค้างที่นี่น่าจะโอเคสุด ไปกลับโอคายะมะ-โอซากะน่าจะโหดไป
(แต่พอลงจาก JR Uno Station แล้วพาสไม่ครอบคลุมการเดินทางแล้วนะ ค่าเรือและค่าใช้จ่ายบนเกาะต้องจ่ายแยกทั้งหมด)

Q: การเดินทางบนเกาะเป็นยังไงบ้างคะ
A: มิวเซียมแต่ละแห่งบนเกาะ บางแห่งเดินหากันได้ บางแห่งเดินไม่ได้ มีทั้งเดิน จักรยาน รถเช่า รถประจำทาง ดูรายละเอียดได้ที่ https://teshima-navi.jp/en/rental/ บนเกาะนี้จากเตชิมะ อาร์ท มิวเซียม ผมนั่งรถประจำทางไปยังมิวเซียมอื่น นอกนั้นเดินเอาครับ เพราะมิวเซียมนี้ค่อนข้างจะอยู่ไกลจากจุดเที่ยวอื่นๆ

17/04/2021

สะพานไม้โบราณคินไตเคียว : The Kintaikyo Bridge (錦帯橋, Kintaikyō) ⚫️

การเดินทางเพียง 20 นาทีจากสถานีรถไฟหลักของเมือง คุณจะได้พบสุดยอดสถาปัตยกรรมสะพานไม้โบราณข้ามแม่น้ำนิชิกิ (Nishiki River) ที่ว่ากันว่าสวยที่สุด ติด 1 ใน 3 ของสะพานในประเทศญี่ปุ่น “ไร้ตะปู” คือแนวคิดการออกแบบสะพานไม้แห่งนี้ โดยก่อสร้างด้วยวิธีเข้าชิ้น (หรือลิ้น) ด้วยสลักแบบดั้งเดิมในทีแรก แต่กาลเวลาผ่านไป เพื่อความแข็งแรงและคงทนต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติ จึงได้มีการใช้แผ่นเหล็กและแท่งเหล็กเพื่อช่วยยึดโครงสร้างจุดต่างๆ ของสะพานไม้โบราณนี้ไว้

สะพานไม้โบราณแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองอิวากูนิ (Iwakuni) ในจังหวัดยามากูจิ (Yamaguchi) ในภูมิภาคชูโกกุ (Chūgoku) ใกล้ๆกับจังหวัดที่คนไทยรู้จักกันดีอย่างฮิโรชิมะโดยเบื้องหน้าของสะพานในอีกฝั่งบนยอดเขาจะเป็นปราสาทอิวากูนิ (Iwakuni Castle) ไม่ว่าคุณจะมาในฤดูกาลไหน สะพานไม้โบราณแห่งนี้ก็พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวเสมอ เดินดูสะพานชมใบไม้เปลี่ยนสี ชมซากุระ เที่ยวงานเทศกาลของเมือง หรือจะเช่ารถขับลงไปแคมป์ปิ้งใต้สะพานก็สามารถทำได้

การเข้าชม ⚫️
ค่าเข้าชม: เดินผ่านสะพานไป-กลับ ผู้ใหญ่ 300 เยน เด็ก 150 เยน
ตั๋วรวม ค่าเดินผ่านสะพาน+เคเบิ้ลคาร์ขึ้นปราสาท+เข้าชมปราสาท ผู้ใหญ่ 940 เยน เด็ก 450 เยน
เวลาเปิด-ปิด: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง (สะพาน)
วันปิดทำการ: เปิดทุกวัน

วิธีการเดินทาง ⚫️
1. จากสถานีอิวาคูนิ (Iwakuni Station) ถึง สถานีคินไตเคียว (Kintai-kyo bus stop) ใช้เวลา 20 นาที ค่ารถบัส 250 เยน (บัสจะออกทุกๆ 5-15 นาที)
2. จากสถานีชินอิวาคูนิ (Shin-Iwakuni Station) ถึง สถานีคินไตเคียว (Kintai-kyo bus stop)
ใช้เวลา 15 นาที ค่ารถบัส 290 เยน (บัสจะออกชั่วโมงละ 2-3 คัน)
(ขอบคุณข้อมูลการเดินทางจาก TalonJapan)

Q&A with Japan and I ⚫️

Q: อยู่ใกล้เมืองหลักไหนมากที่สุดคะ
A: ถ้าเมืองหลักก็ จ.ฮิโรชิมะ 1 ชม. แต่ถ้าเมืองหลักที่มีเที่ยวบินตรงจากไทยก็ จ.ฟุกุโอกะ 2 ชม. ด้วย Shinkansen

Q: ไปจากโอซากะได้ไหม ใช้พาสเดินทางอะไรครับ
A: มาจากโอซากะได้ 2.30 ชม. ด้วย Shinkansen ใช้พาสเดินทาง Kansai-Hiroshima area pass

Q: ควรจัดแพลนเที่ยวยังไงดีค่ะ
A: (ค่ะ = ประหาร) หากมาจากฝั่งฮิโรชิมะ แนะนำให้รวมอยู่ในวันเดียวกับวันที่จะไปเที่ยวเกาะมิยาจิมะ (Miyajima Island) เพราะอยู่ใกล้กัน และการใช้เวลาในแต่ละที่ค่อนข้างลงตัว ดูไม่แน่นมาก

Q: รีวิวการใช้ JR Kansai-Hiroshima area pass มาที่นี่ให้ฟังหน่อยค่ะ
A: ตอนไปผมเริ่มต้นจากจังหวัดโอซากะ ด้วยพาสเดินทาง “Kansai-Hiroshima area pass” มีแบบเดียวคือ 5 วัน แต่ถ้าใช้พาสนี้ คุณจะนั่ง Shinkansen ได้ถึงแค่สถานีฮิโรชิมะ JR Hiroshima station เท่านั้น แล้วค่อยต่อ JR local line จากสถานีฮิโรชิมะด้วยพาสเดียวกันไปยังสถานี JR Iwakuni แล้วนั่งรถบัสที่หน้าสถานีต่อไปยังสะพาน (เฉพาะค่าโดยสารรถบัสไม่ครอบคลุมอยู่ในพาสเดินทาง)

18/04/2020

มาดู 12 เหตุผล ว่าทำไมญี่ปุ่นถึงเป็นประเทศน่าเที่ยวในมุมมองของแอดมินกันครับ
#เพจท่องเที่ยวญี่ปุ่น #เพจเที่ยวญี่ปุ่น #เพจญี่ปุ่น #เที่ยวญี่ปุ่น #ประเทศญี่ปุ่น #ญี่ปุ่น

10/04/2020