เตรียมตัวก่อนเที่ยวทิพย์
ห่างหายกันไปนาน ราวๆ 1 ปี 3 เดือนเห็นจะได้...ลูกเพจแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง หวังว่าทุกท่านจะมีสุขภาพที่แข็งแรง ห้ามการ์ดตกเป็นอันขาดนะ 😷😷😷
⬇️
วันนี้แอดมินกลับมาได้อย่างไร ❓❓❓
ต้องขอเท้าความไปในช่วงสถานการณ์ระบาดระลอก 3 ของเจ้าโรคโควิด-19...พอดีเห็นอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้หลายท่านของแอดมิน ในสมัยวัยกระเตาะมาเผยแผ่แบ่งปันความรู้ตามศาสนสถานและโบราณสถานในประเทศไทย...ทำให้แอดมินเลยเกิดความฮึกเหิมตามไปด้วย 😤😤😤 กอปรกับช่วงที่หยุดไป FB แจ้งว่ามียอดกดไลค์เพิ่มขึ้นหลัก 💯 แน่ะ 😁😁😁 แอบดีใจปลื้มปริ่มมาก ทั้งๆที่ไม่ได้ขยับแม้ปลายนิ้ว 555 วันๆเอาแต่นึกสูตรทำกุนเชียง 🐖...
⬇️
วันนี้ก็เลยขออนุญาตมาปล่อยของกันพอหอมปากหอมคอเสียหน่อย แล้วจะมาสรุปเรื่องให้อีกทีในวัน Guru Purnima 🌝🌝🌝
⬇️
🚩🚩🚩🚩🚩🕉🕉🕉🕉🕉🚩🚩🚩🚩🚩 นานาสาระคเณศจตุรถี บทที่ 11 “ตำนานศรีมยุเรศวร...พระพิฆเนศแห่งเตรตายุค (ยุค/กัลป์ที่ 2 จาก "จตุรยุคตามคติของพราหมณ์")" ตอนที่ 4 “กำราบสินธุอสูร”
.
เมื่อศรีคุเณศมีอายุได้ 10 ขวบปี...มหาฤๅษีเคาตมะได้มาปรึกษากับสดาศิวะ หลังจากที่พระองค์ได้มาพำนักในเขตอาศรมของมหาฤๅษีเคาตมะ ซึ่งสินธุอสูรราชยังคงส่งลูกสมุนมารังควาญอย่างต่อเนื่อง...มหาฤๅษีได้ขอให้สดาศิวะเป็นผู้นำในการออกเดินทางเพื่อหาที่ตั้งถิ่นฐานใหม่...ซึ่งสดาศิวะเห็นด้วย จึงได้นำครอบครัวและเหล่าบริวารออกเดินทางโดยมีเหล่ามุนีร่วมติดตาม...ระหว่างทางคณะของสดาศิวะได้พบกับกองทัพของกมลาสูร ผู้ซึ่งมีศาสตราแห่งพรหมเทพ (แอดมินคาดว่าเป็นศรนาคบาศก์)...ในการต่อสู้กมลาสูรได้ทำร้ายพญานกยูงศิขัณฑีด้วยการใช้ศรยิงไปที่ปีก ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ศรีคุเณศโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ พระองค์ทรงใช้สรรพกำลังและศาสตราเข้าห้ำหั่นกมลาสูร...ผลแห่งสงคราม ศรีคุเณศได้ใช้หอกบั่นเศียรกมลาสูรตกลงมายังแม่น้ำภีม ส่วนศรีคุเณศลงมาประทับริมฝั่งแม่น้ำกฤษณาทางทิศเหนือ...เมื่อเหล่าเทพและมุนีตามมาถึงจุดที่ศรีคุเณศประทับ เหล่าเทพและมุนีได้สรรเสริญชัยชนะของศรีมยุเรศ และได้ขอให้ศรีมยุเรศและสดาศิวะทรงประทับ ณ ดินแดนแห่งนี้...ขณะเดียวกันท้าววิศวกรรมทรงปรากฏกายเบื้องหน้าศรีมยุเรศ สดาศิวะ เหล่าเทพและมุนี พร้อมกับนฤมิตเทวาลัยอันงดงามที่สามารถคุ้มภัยให้แก่เหล่าเทพ เทวดา มุนี และเหล่าบริวาร โดยมหามุนีได้ขนานนามนครแห่งนี้ว่า “มยุเรศปุระ”
.
เมื่อศรีคุเณศมีอายุได้ 15 ขวบปี...พระแม่ปาราวตีได้สนทนากับสดาศิวะถึงเรื่องที่นางกังวลใจเกี่ยวกับศรีคุเณศ นางบอกแก่สดาศิวะว่าถึงเวลาที่จะต้องหาคู่ครองให้กับศรีคุเณศ ซึ่งสดาศิวะเห็นชอบอย่างยินดีปรีดา...ในขณะเดียวกันนารทมุนีได้ปรากฏกายขึ้นเบื้องหน้ามหาเทพและมหาเทวีท่ามกลางบทสนทนา...ทันใดพระแม่ปารวตีได้เอ่ยถามนารทมุนีว่า “ในการเดินทางไปยังทั้งสามโลกของนารทมุนี ท่านเคยพบเจอสตรีนางใดที่คู่ควรกับศรีคุเณศบุตรของเราหรือไม่?” ซึ่งการเดินทางมาพบสดาศิวะและพรหมเทพของนารทมุนีก็เป็นคำขอร้องจากองค์พรหมเทพที่ทำตามคำขอร้องของนางธาตรี ผู้ต้องการถวายนางสิทธิและนางพุทธิให้เป็นชายาแก่ศรีคุเณศ...ความงดงามของนางสิทธิและนางพุทธิเป็นที่กล่าวขานว่า เพียงรัศมีของเทวีทั้งสองสามารถบดบังความงดงามของเหล่าสตรี ผู้เลอโฉมในโลกหล้า เช่น นางอนสูยะ (ภรรยาของมหาฤๅษีอตริ แ
สักการะองค์ศรีสิทธิวินายัก ณ มุมไบ
คำสอน "9 วิธีแห่งการอุทิศตน" ของศรีรามต่อนางศะพารี
สุขสันต์วันอาทิตย์กับคลิปต้อนรับวันหยุด
.
สมาชิกทุกท่านรู้จัก "นางศะพารี" หรือ "นางซาบารี" หญิงชราที่ปรากฏในมหากาพย์รามายณะหรือไม่???
.
นางศะพารี เป็นลูกศิษย์ของฤาษีมาตังคะ ซึ่งเธอได้รับมหาฤาษีเป็นคุรุเทพตั้งแต่วัยเยาว์ ณ เชิงเขาฤาษยามุข...จากนั้นเป็นต้นมานางศะพารีจะคอยปรนนิบัติรับใช้คุรุเทพด้วยดีเสมอมา...ครั้นถึงเวลาที่ฤาษีมาตังคะจะต้องเข้าสู่สมาธิ (ละสังขาร)...มหาฤาษีได้ร้องขอให้นางศะพารี (ซึ่งอยู่ในวัยชรา) ว่า "ศรีรามจะเดินทางมายังอาศรมแห่งนี้...ขอให้นางศะพารีรอต้อนรับ...และให้บอกวิธีการเดินทางไปหา "สุครีพ" ราชาวานร"
.
ภายหลังจากที่ฤาษีมาตังคะเข้าสู่สมาธิ...นางศะพารีได้ทราบข่าวของศรีรามว่าได้เดินทางมาถึงเขาจิตรกูต (เริ่มการออกป่า 14 ปี และเป็นสถานที่พระพรตเสด็จมาทูลเชิญพระรามกลับกรุงอโยธยา)...นางได้เริ่มกิจวัตรประจำวันเพื่อรอต้อนรับศรีราม...ด้วยการโรยดอกไม้เพื่อปูเป็นทางเท้าสู่อาศรม และ การเตรียมพุทรา ซึ่งนางได้ชิมและคัดผลที่มีรสชาดหวานทุกผลด้วยตัวของนางเอง
.
ตอนนี้ท่านจะได้ทราบถึง คำสอน "9 วิธีแห่งการอุทิศตน" ของศรีรามต่อนางศะพารี
.
อรุณสวัสดิ์สมาชิกทุกท่าน
.
.
ยาตราสารถี🚩🚩🚩🚩🚩🕉🕉🕉🕉🕉🚩🚩🚩🚩🚩
#JaiSriRam
#คลิปมีEnglishSubtitle