ทัวร์ญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่น โอซาก้า โตเกียว ฮอกไกโด by หนุ่มสาวทัวร์

26/04/2023

สำหรับบางคนที่รอคอย :)

ยกเลิกการแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด รวมทั้งใบรับรองผลตรวจโควิดเป็นลบ ในการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป

ดูข้อมูลเพิ่มเติม (ภาษาญี่ปุ่น) : https://www.anzen.mofa.go.jp/info/pcwideareaspecificinfo_2023C019.html

อนึ่ง สำหรับการลงทะเบียนล่วงหน้าในเว็บไซต์ Visit Japan Web ยังไม่มีประกาศการเปลี่ยนแปลง หากมีข้อมูลอัพเดท จะแจ้งให้ทราบต่อไป

#เที่ยวญี่ปุ่น #ไปเที่ยวญี่ปุ่นกัน

21/04/2023

ถ้าราคาJR Pass สูงแบบนี้ ไปเที่ยวทัวร์ดีกว่าไหม

เมื่อ 14 เมษายนที่ผ่านมา JR-GROUP ได้ประกาศปรับราคาบัตรเหมาจ่ายรถไฟ Japan Rail Pass ขึ้นทั้งนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป

สำหรับราคาที่ปรับใหม่ และรายละเอียดต่างๆ เชิญดูได้ที่ลิงค์นี้ (ภาษาญี่ปุ่น)

当ページでは、JavaScriptを使用しております。 ご使用のブラウザのJavaScript機能を有効にして、ページを再読込してください。

04/04/2023

ซากุระบานที่คิวชู ว้าวๆ ใครอยากไปยกมือขึ้น!

17/01/2023

ท่องเที่ยวจังหวัดโอคายาม่า
ทิวทัศน์ฤดูหนาวและกิจกรรมฤดูหนาวที่คุณสามารถเพลิดเพลินได้ในเมืองคากามิโนะ

ชมธารน้ำแข็งที่เมืองเมืองคากามิโนะ (Kangamino Town) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดโอคายาม่า ในฤดูหนาวปกคลุมด้วยหิมะสีขาวบริสุทธิ์ และมีกิจกรรมมากมายให้คุณได้สัมผัสประกอบการกับหิมะและน้ำตกน้ำแข็ง เป็นประสบการณ์ที่สามารถทำได้ที่นี่เท่านั้น ไปทำกิจกรรมฤดูหนาวในเมืองคากามิโนะที่น่าสนุกกันเถอะ!

ธารน้ำแข็งแห่งน้ำตกอิวาอิ สูงประมาณ 10 เมตร กว้าง 6 เมตร จุดเด่นคือสามารถเดินไปรอบ ๆ ที่ด้านหลังน้ำตกซึ่งเรียกว่า "Urami no Taki" ในฤดูหนาว น้ำในน้ำตกจะจับตัวเป็นน้ำแข็ง และน้ำตกน้ำแข็งที่สูงตระหง่านก็ปรากฏขึ้น ในฤดูหนาวจะปิดเป็นบางช่วงเนื่องจากมีหิมะตก แต่มีทัวร์พร้อมไกด์ที่จะพาคุณเดินบนหิมะและชมธารน้ำแข็งได้อย่างปลอดภัย

น้ำตกอิวาอิเป็นที่รู้จักในชื่อ "Urami no Taki" ซึ่งคุณสามารถมองเห็นน้ำตกที่กลายเป็นน้ำแข็งได้จากด้านหลัง ในฤดูหนาว หิมะหนาประมาณ 2 เมตร และด้วยอุณหภูมิติดลบนั้นทำให้น้ำตกกลายเป็นน้ำแข็งได้ซึ่งจะมีลักษณะของน้ำหยดและน้ำแข็งย้อยเป็นลักษณะที่สวยงามเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติในฤดูหนาว น้ำตกอิวาอิถูกจำกัดการเดินทางบางช่วงเพื่อความปลอดภัยซึ่งต้องอยู่ภายใต้การดูแลเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่มีประสบการณ์ !! โปรดเพลิดเพลินไปกับไกด์ของคุณ

กิจกรรมเดินสำรวจด้วยรองเท้าหิมะ(Snowshoes)
การเดินป่าในฤดูหนาวเป็นวิธีการที่ไม่เหมือนใคร ด้วยอุปกรณ์อย่างรองเท้าหิมะ (Snowshoes) จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้คุณเดินบนหิมะได้อย่างเพลิดเพลิน ความรู้สึกของการเดินบนทุ่งหิมะนุ่มเป็นพิเศษ ในช่วงฤดูหิมะของทุกปี จะมีการจัดเดินเขาด้วยรองเท้าหิมะเพื่อชมธารน้ำแข็งของน้ำตกอิวาอิ

วันที่เปิดจองได้ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 2023 ถึง 19 กุมภาพันธ์ 2023
เว็บไซต์สำหรับจอง https://tabi.kagamino.holiday/?c=booking-1&plan_pk=69
ราคา ผู้ใหญ่ : 5,800 เยน นักเรียนมัธยมต้นลงไป: 4,800 เยน (ราคานี้รวม
ค่ามัคคุเทศก์ ค่าประกัน 500 เยน รวมตั๋วส่วนลดการท่องเที่ยว)
*ค่าเช่าชุด Snowshoe เพิ่มอีก 1,000 เยน
จำนวนผู้เข้าร่วม 4 - 10 คน ต่อทริป
เวลาในการทำกิจกรรม 09:30-12:30 น (ต่อ 1 รอบ)

ข้อมูลทั่วไป
เว็บไซต์การจอง : https://tabi.kagamino.holiday/?c=plan-2&pk=69
ที่อยู่ พื้นที่ Kagamino-cho Kamisaibara (เฉพาะผู้เข้าร่วมเท่านั้นที่จะได้รับการติดต่อ)
หมายเลขโทรศัพท์ (กลุ่มวิจัยการท่องเที่ยวคางามิ TEL 0868-54-7655)
เว็บไซต์ https://www.okayama-kanko.jp/feature/340/page

11/10/2022

ร้านญี่ปุ่นแบบนั่งกินดื่ม (Izakaya) เสิร์ฟผ้าเช็ดมือยังไง

10/10/2022

famous donburi in Fukushima . Super fresh seafood !!

10/10/2022

มาแล้ว พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่น
หลัง Oct 11 ,2022 มาตรการป้องกันโควิดและการเข้าประเทศถูกผ่อนคลายลงเยอะมาก ...​วางแผนเที่ยวกันเลยค่า
หรือเที่ยวสบายๆกับหนุ่มสาวทัวร์ เราก็มีรายการหลากหลายให้เลือก
https://www.jrailpass.com/blog/japan-autumn-leaves-forecast

16/09/2022

ปีหน้า 2023 เทศกาลประจำฤดูหนาว Sapporo Snow Festival กลับมาจัดแน่นอนแล้ว ระหว่าง 4-11 กุมภาพันธ์ 2023

ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดโควิด19 เทศกาลหิมะซัปโปโร (Saporo Snow Festival) เกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ก็ไม่สามารถจัดงานได้ตามปกติซึ่งปีที่ผ่านมาก็ทำได้แบบออนไลนืเท่านั้น แต่ปี2023 ทางซับโปโรประกาศยืนยันจัดงานแน่นอน พลาดไม่ได้!

ไปญี่ปุ่น กับหนุ่มสาวทัวร์ ^^

https://www.sapporo.travel/en/event/event-list/sapporo_snow_festival/

26/08/2022

เส้นทางจาริกแสวงบุญสู่ต้นกำเนิดจิตวิญญาณของญี่ปุ่น

Kumano Nachi Taisha Grand Shrin
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเส้นทางแสวงบุญที่พาดผ่านเทือกเขาคิอิ (Kii) มีชื่อเสียงในฐานะจุดกำเนินจิตวิญญาณที่ทรงพลังที่สุดในญี่ปุ่น ณ สถานที่แห่งนี้คุณจะรู้สึกกลมกลืนกับธรรมชาติที่น่าเกรงขามที่สุดของญี่ปุ่น เส้นทางแสวงบุญคุมะโนะโคโดะเป็นแรงบันดาลใจต่อผู้จาริกแสวงบุญมานับพันปี พวกเขานำไปสู่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 3 แห่ง ทำให้พวกเขามีโอกาสสัมผัสถึงต้นกำเนิดของจิตวิญญาณที่เชื่อมโยงคุมาโนะ ซันซังและศาลเจ้าใหญ่ทั้ง 3 แห่ง ที่เป็นหัวใจของวัฒนธรรมทางจิตวิญญาณของญี่ปุ่น ผสมผสานความเชื่อในศาสนาชินโตของชนพื้นเมืองกับพุทธศาสนาเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน เส้นทางคุมาโนะ โคโดะ ได้พาดผ่านป่าเขียวชอุ่มและหมู่บ้านห่างไกลที่มีทิวทัศน์ภูเขาแบบพาโนรามา สถานที่ต่างๆ เช่น ศาลเจ้า Hana-no-iwaya และบันไดหิน Daimonzaka ที่เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งจิตวิญญาณ ในคาบสมุทรคิอิ คุณสามารถเดินตามรอยของผู้แสวงบุญได้ นักท่องเที่ยวสามารถผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ รวมทั้งจิตวิญญาณในออนเซ็น (บ่อน้ำพุร้อน) ที่ไม่เหมือนใครได้ตลอดทาง น้ำพุร้อนเหล่านี้เป็นแหล่งของการทำให้บริสุทธิ์และพลังบำบัดที่น่าอัศจรรย์

Kumano Hongu Taisha

ศาลเจ้าคุมาโนะ ฮอนกุ ไทฉะ (Kumano Hongu Taisha) ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางผืนป่า เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต ที่สร้างจากไม้โดยปราศจากตะปู นับเป็นสิ่งก่อสร้างอันน่าทึ่งด้วยการใช้การสอดสลักและการจัดวางตำแหน่งที่สลับซับซ้อนให้เกิดการเชื่อมต่อกันอย่างแข็งแรงด้วยการใช้ไม้เท่านั้น เป็นสถานที่ทางศาสนาที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ มีรากฐานมาจากการสักการะธรรมชาติมากว่าสองพันปี เดินประมาณ 5 นาทีจากศาลเจ้า และคุณจะพบกับโทริอิยักษ์ (ประตูศาลเจ้า) ที่โอยูโนะฮาระ ซึ่งเดิมเป็นที่ตั้งของคุมาโนะ ฮอนกุ ไทฉะ และเชื่อว่าเทพเจ้าที่ประดิษฐานอยู่ที่นี่เชื่อว่าได้ลงมายังโลกเป็นครั้งแรก

Kumano Nachi Taisha
ศาลเจ้าคุมาโนะ นาจิ ไทฉา (Kumano Nachi Taisha) สามารถเข้าถึงได้โดยการปีนขึ้นไปบนทางเดินของศาลเจ้าที่ปูทางลาดด้วยหิน หลังจากปีนบันไดหินที่ปกคลุมไปด้วยตะไคร่น้ำที่รู้จักกันในชื่อ Daimonzaka ศาลเจ้าซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางของภูเขานาจิ (Mt.Nachi)เผยให้ทัศนียภาพกว้างไกลของภูเขาโดยรอบและมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นจุดที่นิยมถ่ายรูปมาที่สุด ด้วยสีแดงของโทริอิประตูศาลเจ้าและสีอาคารที่ตัดกันอย่างสวยงามกับใบไม้สีเขียวบนภูเขาอย่างสวยงาม อีกทั้งน้ำตกนาจิที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีความสูงถึง 133 เมตร เป็นสิ่งเตือนใจที่เป็นรูปธรรมว่าธรรมชาติมีทั้งน่ากลัวและศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร

Kumano Kodo
เนินไดมอนซากะ เป็นส่วนหนึ่งของหนึ่งในสามถนนโบราณของญี่ปุ่น คุมาโนะ โคโดะ เป็นภาพที่งดงามด้วยหินปูที่มีตะไคร่น้ำเกาะและเขียวชอุ่มด้วยต้นสนซีดาร์ยักษ์ ประตูหินโทริอิและสะพานฟุริคาเสะเคลือบสีแดงสด ตั้งอยู่บนภูเขานาจิที่เชื่อกันว่าเป็นจุดแยกระหว่างโลกศักดิ์สิทธิ์และโลกของมนุษย์

08/08/2022

ดอกไม้ไฟโอมาการิคืออะไร?

โอมาการิ (Omagari) เป็นชื่อรวมสำหรับเทศกาลดอกไม้ไฟที่จัดขึ้นในพื้นที่โอมาการิของเมืองไดเซ็น (Daisen) จังหวัดอาคิตะ (Akita) ซึ่งจัดขึ้น 4 ครั้งต่อปี หรือในฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว การแสดงดอกไม้ไฟที่มีชื่อเสียงที่สุดคือการแข่งขันดอกไม้ไฟแห่งชาติซึ่งจัดขึ้นช่วงสิ้นเดือนสิงหาคมของทุกปี (ปีนี้จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2565) เรียกอีกอย่างว่าเป็นเทศกาลดอกไม้ไฟที่สำคัญ 3 เทศกาลของญี่ปุ่น นักทำดอกไม้ไฟระดับแนวหน้าจากทั่วประเทศมาร่วมแข่งขันกันด้วยความหลงใหลและภาคภูมิใจเพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศในญี่ปุ่น โดยดึงดูดผู้มาเยือนมากกว่า 800,000 คนต่อปี นอกจากนี้ คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับดอกไม้ไฟในธีมต่างๆ เช่น ดอกไม้ไฟที่มีกลิ่นอายความเป็นสากลในฤดูใบไม้ผลิ โดยเชิญบริษัทดอกไม้ไฟในต่างประเทศมาร่วมแสดง การแสดงดอกไม้ไฟในฤดูใบไม้ร่วง และดอกไม้ไฟใหม่โดยช่างทำดอกไม้ไฟรุ่นเยาว์ในฤดูหนาว

02/08/2022

เที่ยวสนุก "มิเอะ" เจแปน

ถิ่นกำเนิดแห่งจิตวิญญาณชาวอาทิตย์อุทัย
ศาลเจ้าอิเสะ (Ise Jingu) เป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ในเมืองอิเสะ จังหวัดมิเอะ เรียกอย่างเป็นทางการว่า "Jingu" เป็นคำทั่วไปสำหรับเรียกศาลเจ้าและเป็นที่ตั้งของศาลเจ้า 125 แห่ง รวมทั้ง Naiku และ Geku ถือว่าเป็นศูนย์กลางของศาลเจ้าชั้นสูงสุดในในญี่ปุ่น เป็นที่เคารพรักและนับถือกันอย่างมากของคนญี่ปุ่นในฐานะถิ่นกำเนิดเทพเจ้าAmaterasu เทพีแห่งดวงอาทิตย์ ในสมัยเอโดะเมื่อประมาณ 200 ปีที่แล้ว เป็นสถานที่ที่คนญี่ปุ่นทุกคนใฝ่ฝันอยากไปเยือนอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต และยังคงนิยมกันมาจนถึงปัจจุบันก็ยังมีคนมาสักการะอย่างมากมาย

เยี่ยมชม Ise Jingu จาก Geku
เมื่อไปที่ศาลเจ้า เป็นเรื่องปกติที่จะไปสักการะศาลเจ้าชั้นนอกก่อน แล้วจึงไปที่ศาลเจ้าชั้นใน จุดแรกที่จะไปคือ ”Geku" ซึ่งใช้เวลาเดินเพียง 7 นาที จากทางออก JR ของสถานี Iseshi อย่างเป็นทางการเรียกว่า "Toyouke Daijingu" และเป็นศาลเจ้าที่ประดิษฐาน "Toyouke Omikami" ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่ดูแลอาหารสำหรับ "Amaterasu Omikami" ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่ประดิษฐานอยู่ในศาลเจ้าด้านใน "โทโยเกะ โอมิคามิ" เป็นที่เคารพนับถือในฐานะเทพผู้พิทักษ์แห่งอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และอุตสาหกรรม

วิธีสักการะบูชา
เมื่อเข้าไปในศาลเจ้า ให้ข้ามสะพานที่ศาลเจ้าทั้งชั้นนอกและชั้นใน โปรดทราบว่าทางเข้าศาลเจ้าชั้นนอกจะอยู่ทางซ้าย และทางเข้าศาลเจ้าด้านในจะอยู่ทางด้านขวา ในการบูชาให้ปฏิบัติบูชาสองครั้ง (ทำความเคารพมากที่สุดสองครั้ง) จากนั้นปรบมือสองครั้ง (ปรบมือสองครั้ง) และคำนับบูชาหนึ่งครั้ง (ทำความเคารพสูงสุดหนึ่งครั้ง)

ประวัติศาตร์อันยาวนานกว่า 2000 ปี
Naiku ซึ่งอยู่ห่างจาก Geku โดยมีรถบัสประจำทางประมาณ 20 นาที มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "Kotai Jingu" และสร้างขึ้นเมื่อประมาณ 2,000 ปีที่แล้วเป็นที่ประดิษฐานเทพเจ้า "อามาเทราสึ โอมิคามิ" ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือในฐานะบรรพบุรุษของคนญี่ปุ่นและได้รับการบูชาว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดที่สุด สถานที่ศักดิ์สิทธิ์รายล้อมด้วยแมกไม้เขียวขจีร่มครึ้มและเป็นบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์

ข้ามแม่น้ำมุ่งสู่พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์
สะพานอุจิ เป็นสะพานสไตล์ญี่ปุ่นดังเดิมเหนือแม่น้ำอีซูซุที่สวยงามและใสสะอาด ถือเป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และดินแดนของเทพเจ้า หลังจากข้ามสะพานและเดินตามทางเดินขณะเหยียบก้อนกรวด คุณจะพบว่าตัวเองอยู่ในบริเวณศักดิ์สิทธิ์ หากคุณมาที่ศาลเจ้าในขณะที่สัมผัสถึงช่วงเวลาพิเศษ คุณจะรู้สึกสดชื่นและบริสุทธิ์ โปรดชำระร่างกายและจิตใจที่โชสึยะก่อนเข้าไปสักการะ

เที่ยว กิน ชม ช็อป อย่างเพลิดเพลิน!　
หลังจากเยี่ยมชมศาลเจ้าแล้ว คุณควรไปที่ Okage Yokocho โดยใช้เวลาเดินเพียง 5 นาที จากสะพาน Uji ใน Naiku ร้านค้าประมาณ 50 ร้าน เรียงรายอยู่ในเมืองเก่า ด้วยสถาปัตยกรรมของเส้นทางอิเซจิ เมื่อประมาณ 200 ปีที่แล้ว และคุณสามารถเดินเล่นได้อย่างอิสระ มีของให้ชม กิน ซื้อ และเพลิดเพลิน เช่น อาหารตามฤดูกาลและกิจกรรมต่างๆ เช่น การแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับภาพ อาหารรสเลิศที่กินได้เฉพาะในอิเสะ และสินค้าเบ็ดเตล็ดสไตล์ญี่ปุ่นที่ใช้เป็นของฝากจากที่จำลองมาจากสมัยก่อนอย่างครบครั้น

ข้อมูลนักชิม ร้านค้าเก่าแก่ "Wakamatsuya" ของ Ise Kamaboko
นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1905 เรายังคงถ่ายทอดรสชาติที่แท้จริงของการทำผลิตภัณฑ์จากแป้งที่ฐานของศาลเจ้า Ise Jingu เราไม่ใช้สารกันบูดสังเคราะห์ อยากให้คุณลอง Kamaboko แสนอร่อยที่คงรสชาติดั้งเดิมของปลาได้อย่างดี

26/05/2022

👜👜 แพคกระเป๋ารอเที่ยวญี่ปุ่นได้เลย 🇯🇵🇯🇵
ข่าวล่าเพิ่งประกาศจากญี่ปุ่นว่า
📣 ประเทศไทยจัดอยู่ในกลุ่มประเทศความเสี่ยงโควิดต่ำ (กลุ่มสีน้ำเงิน) 💙

เริ่ม 10 มิ.ย. 2565 คนไทยสามารถเข้าท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นได้โดย
✨ ผ่านกรุ๊ปบริษัททัวร์เท่านั้น
✨ ไม่ต้องกักตัว
✨ ไม่ต้องตรวจโควิดที่สนามบินญี่ปุ่น
✨ ตรวจ RT-PCR มีผลเป็นลบก่อนเข้าญี่ปุ่น ไม่เกิน 72 ชั่วโมง
✨ไม่ต้องแสดงใบฉีดวัคซีน (ฉีดอะไร กี่เข็มก็เข้าได้)
✨สำหรับวีซ่า อาจยังต้องทำ (รออัพเดทอีกที)

ทั้งนี้ทางรัฐบาลญี่ปุ่นให้บริษัททัวร์ไทย🇹🇭 และบริษัททัวร์ญี่ปุ่น 🇯🇵 ประสานงานในการกำหนดความชัดเจนของจำนวนคน เส้นทาง และเป็นตัวแทนทำเรื่องการลงทะเบียนในระบบยืนยันสุขภาพของผู้เข้าประเทศ (ERFS)

รู้แบบนี้แล้ว ติดเราเรา หนุ่มสาวทัวร์ให้ช่วยประสานให้คุณได้เลยค่า 🥰🥰

📞 02-625-1555
🖥 www.NoomSaoTours.co.th
📱 Line official:
https://line.me/R/ti/p/%40rxh6567a

ข้อมูลเพิ่มเติม
https://www.mhlw.go.jp/content/000943167.pdf

22/05/2022

อาณาจักรแห่งโมจิ จังหวัดมิเอะ!
หากได้มีโอกาสเดินทางไปที่จังหวัดมิเอะ เราขอแนะนำให้ไปชิมขนมโมจิที่ขึ้นชื่ออย่าง "Akafuku Mochi" ซึ่งมีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ อากะฟุกุ โมจิ เป็นขนมญี่ปุ่นที่ทำจากข้าวจนกลายเป็นเค้กข้าว โมจิ ซึ่งนิยมทานคู่กับชาเขียวคั่วหรือ โฮจิฉะ ที่มีให้ได้ลิ้มลองกันได้ที่ร้าน และซื้อเป็นของฝากยอดนิยมอีกด้วย และในช่วงฤดูร้อน จะปรับเมนูเพิ่มเติมเป็น “น้ำแข็งไสอากะฟุกุ หรือ Akafuku Ice” ซึ่งจะมีการขายในช่วงเวลาที่จำกัด น้ำแข็งไสอากะฟุกุ ประกอบด้วยถั่วและโมจิที่เข้ากันได้ดีกับน้ำแข็งเย็นๆ เป็นเมนูของหวานที่เราแนะนำเมื่อมาเยี่ยมชมจังหวัดมิเอะ ในฤดูร้อน!
นอกจากจากอากะฟุกุ โมจิ อันมีชื่อเสียงแล้ว ยังมีโมจิมากกว่า 10 ชนิด ในจังหวัดมิเอะ ซึ่งรสชาติ รูปร่างและการทำนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งเป็นการสืบทอดการทำโมจิกันมาอย่างยาวนาน

โมจิไคโดหรือถนนแห่งโมจิที่ถือกำเนิดขึ้นในบริเวณศาลเจ้าอิเสะ จิงกู 🚶
อิเสะ จิงกู หรือ ศาลเจ้าอิเสะ มีนักเดินทางจำนวนมากมาเยือนเพื่อสักการะศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งแต่สมัยเอโดะตามสมญา "อิเสะ สักครั้งในชีวิต" ในสมัยก่อนที่ไม่มีรถไฟหรือรถยนต์ ผู้คนมากมายเดินทางไปที่อิเสะ จิงกู โดยมีจุดประสงค์เพื่อไปแสวงบุญและ “โมจิ” เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการเติมเต็มท้องของนักเดินทาง โมจิที่กินได้เร็วและอิ่มท้อง จึงกลายเป็นอาหารมาตรฐานของ "โออิเสะ-ไมริ" จากสมัยก่อนจนมาถึงปัจจุบัน โมจิยังคงเป็นสินค้าที่มีคุณค่าและราคาสูง เมื่อการมาเยือนอิเสะครั้งหนึ่งในชีวิต โมจิจึงกลายเป็นเมนูยอดนิยมที่มีคุณค่าสำหรับนักท่องเที่ยว🥰

“นากะ โมจิ” รูปร่างคล้ายลิ้นเป็นเครื่องหมายการค้า👅
ความพิเศษของเมืองยกไคจิ – เมืองคุวานาจิ จังหวัดมิเอะ คือ "นากะ โมจิ" ซึ่งได้ชื่อนี้มาจากชื่อสถานที่ของ “ฮินากะ” ซึ่งเป็นที่ตั้งของย่านโรงน้ำชา ในขณะนั้นนากะ โมจิเป็น มีลักษณะโดดเด่นด้วยรูปร่างทรงยาวคล้ายลิ้น! ซึ่งจะไม่เห็นแบบนี้ในพื้นที่อื่น ส่วนผสมประกอบด้วยถั่วแดงบดและอบทั้งสองด้าน จำหน่ายเป็นของที่ระลึกสำหรับการเยี่ยมชมอิเสะมาตั้งแต่สมัยเอโดะ

“เฮนบะ โมจิ” ที่มาของชื่อจากในประวัติศาสตร์
นักเดินทางที่ขี่ม้าไปยังศาลเจ้าอิเสะ จิงกู จะต้องเอาม้าไปฝากไว้ในสถานที่ที่ถูกเรียกว่า “เฮนบะ โช” (Henba sho) และโมจิชนิดนี้มักจะมีการรับประทานในบริเวณ​ใกล้เคียงนี้ จึงเรียกกันติดปากว่า "เฮนบะ โมจิ" เอกลักษณ์ของโมจิชนิดนี้คือทั้งสองด้านของเฮนบะโมจิมีสีน้ำตาลอ่อนและมีลักษณะโค้งมน เนื้อนุ่ม ข้างในอัดแน่นไปด้วยไส้ถั่วแดง ซึ่งรสชาติของถั่วแดงนั้นไม่หวานเกินไป หากได้ทานสักครั้ง ก็จะต้องขอลองทานอีกเรื่อยๆ อย่างแน่นอน
มีจำหน่ายบริเวณถนนโอฮาไรมาจิและด้านหน้าสถานีเมืองอิเสะด้วย หากมีโอกาสได้ไปเที่ยวที่ศาลเจ้าอิเสะ จิงกูก็อย่าลืมลองไปถ้าทานกันดูนะ

“คามิโย โมจิ” กลิ่นหอมละมุนที่ทำจากใบโยโมกิในธรรมชาติ ♪
“คามิโย โมจิ” เป็นโมจิที่ทำจากใบของต้นโยโมกิมีสีเขียวซึ่งเป็นสีธรรมชาติและผสมกับถั่วแดงกวนรสหวานปานกลาง ทำให้ทั้งสีและกลิ่นคล้ายกับใบโยโมกิในธรรมชาติโดยไม่ใช้สารปรุงแต่งใดๆ ดังนั้นจึงดีต่อสุขภาพอย่างยิ่ง สามารถหาทานได้ที่บริเวณใกล้ๆ ศาลเจ้าอิเสะจิงกู ที่ไนกุ และเกะกุ หากเหนื่อยล้าจากการเดินเยี่ยมชมอิเสะ ก็ขอแนะนำให้หยุดพักที่บริเวณโมจิไคโดหรือถนนแห่งโมจิ แวะชิบน้ำชาพร้อมๆกับทานโมจิแสนอร่อยกันเถอะ!

16/05/2022

ทะเลแหวก "ถนนคุโรชิมะวีนัส" ที่เซโตะอุจิ ...​ทะเลในของจังหวัดโอคายาม่า

อุชิมาโดะ เมืองเซโตะอุจิ หรือที่รู้จักในชื่อ "ทะเลอีเจียนของญี่ปุ่น" ฉันได้ยินมาว่าเกาะเล็กๆ สามเกาะ ได้แก่ คุโรชิมะ นากาโนะโคจิมะ และฮาตาโนะโคจิมะ ซึ่งลอยอยู่นอกชายฝั่ง สามารถเชื่อมต่อและเดินในเวลาน้ำลงได้ในวันที่น้ำลด ตอนนี้เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการถ่ายภาพ PV และการถ่ายภาพงานแต่งงาน!

การเดินทาง จากท่าเรือของโรงแรม-รีสอร์ต ริมทะเลไปยังคุโรชิมะโดยเรือเล็ก
อันดับแรก ให้มุ่งหน้าไปยังคุโรชิมะซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น จากนั้นให้ขึ้นเรือจากท่าเรือของโรงแรมแล้วล่องเรือหันหน้าออกสู่ทะเลผ่าน The Hotel Limani & Spa โรงแรม รีสอร์ตทันสมัยที่ในทะเลอีเจียนของอุชิมาโดะ ใช้เวลาเดินทาง 5 นาที เป็นวิธีที่สะดวกสบายในการล่องเรือรับลมและค่อยๆ เคลื่อนตัวไปบนผิวน้ำ ซึ่งคุณสามารถเห็นสาหร่ายที่เรียกว่าหญ้าอีลกราส ซึ่งโปร่งใสมาก!

ถึงคุโรชิมะแล้ว! มุ่งหน้าสู่ถนนคุโรชิมะวีนัส หรือทะเลแหวกได้ทันที
ถนนคุโรชิมะวีนัส ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจนกว่าจะเข้าใกล้เกาะ แต่เมื่อเรือเดินทางเข้าใกล้แล้วเราก็จะเริ่มมองเห็นสันทรายปรากฏชัดขึ้นอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ เมื่อคุณลงจากท่าเรือ คุณจะพบคุโรชิมะ ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความเงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติ การเดินเที่ยวบนทะเลแหวกนั้นมีช่วงเวลาที่จำกัดตามเวลาน้ำขึ้น-น้ำลง

ข้ามแนวสันทรายเส้นแรกไปยัง "นากาโนโคจิมะ"
ในวันที่ท้องทะเลเงียบสงบเป็นวันที่เหมาะสำหรับการออกทะเล ผิวน้ำเรียบเหมือนกระจกส่องสะท้อนภาพของชายฝั่งที่ห่างไกลอย่างสวยงาม ระหว่างทางอาจได้พบกับปลาดาวน่ารักที่มีสีสันสดใส เนื่องจากถนนคุโรชิมะวีนัสนี้ เป็นสันทรายในทะเลจึงมีโอกาสได้พบกับสัตว์ทะเลอย่างใกล้ชิดได้

“หินหัวใจ” ที่นากาโนะโคจิมะ!
ที่ชายฝั่งมีแนวทางเดินที่สามารถเดินลัดเลาะได้รอบเกาะนากาโนะโคจิมะ จะมีลานหินเรียงรายซึ่งเป็นบริเวณที่มี "หินรูปหัวใจ” เรียงรายอยู่ที่นี่! จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมถนนสายนี้จึงถูกเรียกว่า "จุดจับคู่" และกล่าวกันต่อมาว่าถ้าใครที่ได้แตะหินเหล่านี้ ความปรารถนาของผู้นั้นจะเป็นจริง หินรูปหัวใจที่สวยงามเรียงรายอยู่ใต้ท้องฟ้าแจ่มใสนั้นช่างงดงามจริงๆ!

ระหว่างเดินทางกลับบ้าน
ใช้เวลาบนเกาะประมาณ 40 นาที ถนนวีนัสมีความยาวประมาณ 800 เมตร แต่ด้วยทัศนียภาพทั้งสองฝั่ง การใช้เวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วในพริบตา ได้เวลากลับไปที่ท่าเรือคุโรชิมะ กลับไปที่ "The Hotel Limani & Spa" ขณะที่มองเห็นถนนวีนัสจากเรือขากลับ Venus Road Tour พร้อมความรู้สึกและอารมณ์ที่ไม่ธรรมดามากมาย

Romantic Trip
คือการใช้เวลาเดินทางจากโรงแรมรีสอร์ทด้วยเรือเล็กที่มีความเป็นส่วนตัวและเดินบนแนวสันทรายที่สามารถเยี่ยมชมได้ในช่วงเวลาที่โชคดีเท่านั้น เป็นการใช้เวลาอันมีค่าด้วยอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความสุขและเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของถนนวีนัสและท้องทะเลซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดจับคู่สำหรับคู่เดท

ข้อมูลทั่วไป
โปรดตรวจสอบวันทำการด้านล่างและทำการจองทางโทรศัพท์หรือทางออนไลน์ล่วงหน้าเท่านั้น
จนถึงเวลา 18.00 น. ล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน
・ ระยะเวลาที่ต้องการ: ประมาณ 1 ชั่วโมง
・ ราคา: ผู้ใหญ่ 2,500 เยน นักเรียนชั้นประถมศึกษา 1,500 เยน เด็ก 550 เยน อายุ 0 ถึง 3 ปี ฟรี * รวมภาษี
・ จำนวนคน: เริ่มต้น 2 คน

ข้อมูลอ้างอิง : https://www.okayama-kanko.jp/experience/07/page

15/05/2022

ญี่ปุ่นกำลังจะเปิดประเทศให้คนไทย? 🇯🇵🇯🇵🤔

มีคนสอบถามหนุ่มสาวทัวร์เข้ามาเยอะหลังจากเห็นการประโคมข่าวว่าญี่ปุ่นกำลัง "เปิดประเทศ" ในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ เห็นได้ชัดเลยว่า คนไทยคิดถึงญี่ปุ่นกันมากขนาดไหน 😘😘

ซึ่งจากที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คิชิดะ ฟูมิโอะ กล่าวว่าญี่ปุ่นจะเริ่ม "พิจารณา" ผ่อนคลายมาตรการควบคุมพรมแดนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดให้กลุ่มประเทศ G7 "อย่างเป็นขั้นเป็นตอน" เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาระหว่างที่เยือนอังกฤษ ทำให้หลายคนที่เฝ้ารอวันที่จะได้เข้าไปสัมผัสประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง ประเมินอย่างมีความหวังว่าคนไทยน่าจะมีโอกาสเร็วๆนี้เช่นกัน 🇹🇭🇯🇵

แต่...🤔🤔🤔 จากข้อมูลที่ทางเราได้รับตรงมาจากญี่ปุ่น บวกกับวิเคราะห์สไตล์การจัดการของญี่ปุ่นที่มีระบบ ระเบียบและขั้นตอน ตลอดจน ณ วันนี้ก็ยังไม่มีการประกาศอะไรออกมาเพิ่มเติมซึ่งผิดวิสัยของญี่ปุ่นที่ปกติจะแจ้งล่วงหน้าอย่างมีแบบแผน ทำให้เราสรุปว่าการเปิดให้นักท่องเที่ยวไทยได้เข้าไปญี่ปุ่นอาจยังมี "ข้อจำกัด"

🇹🇭🇯🇵 เดือนมิถุนายน จึง "ไม่ใช่" การเปิดประเทศแบบ "เปิดประตูเต็มบาน" เหมือนประเทศไทยบ้านเรา แต่เป็นการเริ่ม "แง้มบานประตู" ออกนิดหน่อย ด้วยมาตรการที่ระมัดระวัง ซึ่งมาตรการที่เราทราบมาเบื้องต้น เช่น

- เพิ่มจำนวนโควต้าคนเดินทางเข้าประเทศจาก 10,000 เป็น 20,000 คน
- ยังต้องขอวีซ่าในการเข้าประเทศญี่ปุ่น
- อาจต้องมีการกักตัวและต้องมีผลตรวจโควิด
- คนที่ฉีดวัคซีนครบ+เข็มกระตุ้น (3เข็ม) ด้วยแบรนด์ Pfizer, Astra, Moderna, Johnson & Johnson หรือ Novavax (ไม่นับเข็มจากวัคซีนสัญชาติจีนนะจ๊ะ) 💉💉
-✨✨⚡⚡ ที่สำคัญที่สุด ในช่วงแรก นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าญี่ปุ่นผ่าน "บริษัททัวร์" เท่านั้น 😉 เพื่อที่ทางญี่ปุ่นจะสามารถทราบกำหนดเส้นทางและจำนวนคนได้ ✨✨✨

สัญญานทั่วโลกชี้ชัดว่าผ่านจุดต่ำสุดของการแพร่ระบาดไปแล้ว หลายประเทศเริ่มหันหลังให้ปัจจัยสาธารณสุข และหันหัวเรือสู่ปัจจัยด้านเศรษฐกิจที่เป็นปากท้องของประชาชน รวมถึงญี่ปุ่นก็มีแนวโน้มที่จะผ่อนคลายมาตรการมากขึ้นเรื่อยๆอย่างแน่นอน ซึ่งเดือนมิถุนายนนี้ก็อาจจะเป็นก้าวแรกที่สำคัญ 👍

ถึงเวลาเมื่อไหร่ แม้เพียงเป็นการแง้มประตูเพียงน้อยนิด ถ้ามีโอกาสที่
#หนุ่มสาวทัวร์ จะได้พาคุณไปสัมผัส อาหารสดๆ ที่เที่ยวสวยๆ อากาสดีๆ ช้อปปิ้งได้ทั้งวัน 🏔⛩ 🍙🍣🍜🦀🐟🐡🦪🐙🍓

🚅 เราพร้อมที่จะพาคุณไป...แน่นอน ❤️🇯🇵

Add friend รอกันไว้เลยจ้า
📱 Line official:
https://line.me/R/ti/p/%40rxh6567a
📞 02-625-1555
🌍 www.NoomSaoTours.co.th

#ทัวร์ญี่ปุ่น #ญี่ปุ่นเปิดประเทศ #เที่ยวญี่ปุ่น #เที่ยวกับคนที่รู้ใจไปกับคนที่รู้จริง

13/05/2022

การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เมืองเซ็มโบกุ
เมืองเซ็มโบกุ (Semboku) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี2005 จากการควบรวมของเมืองทาซาวาโกะ เมืองคาคุโนะดาเตะ และหมู่บ้านนิชิกิ อันมีสถานที่ท่องเที่ยวโด่งดังมากมาย เช่น ทะเลสาบทาซาวาโกะ, คาคุโนะดาเตะ, และ นิวโตะ ออนเซ็น ซึ่งล้วนมีชื่อเสียงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ที่นิยมชมชอบการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เน้นประสบการณ์การทำฟาร์มและหมู่บ้านบนภูเขา โดยในช่วงการแพร่ระบาดของ Covid-19 ทุกพื้นที่ของเมืองยังทำงานอย่างแข็งขัน เตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศรวมทั้งในเอเชียอีกด้วย

Semboku City Rural Experience Association
ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนกันระหว่างเมืองกับชนบทและการฟื้นฟูภูมิภาคโดยใช้ความรู้และทรัพยากรการท่องเที่ยวที่ได้รับการปลูกฝังมาหลายปี นอกจากนี้เรายังเปิดรับทัศนศึกษาจากต่างประเทศและกลุ่มแลกเปลี่ยนดูงานระหว่างประเทศและขณะนี้เรากำลังลงทะเบียนเป็นตัวแทนการท่องเที่ยวที่ จำกัดเฉพาะภูมิภาค เรากำลังดำเนินการสร้างแผนกิจกรรมสร้างประสบการณ์การเดินทางแบบที่มีลักษณะเฉพาะในจังหวัดอาคิตะ ดังนั้นโปรดติดต่อเราหากต้องการข้อมูลใดๆ เมื่อเดินทางไปยังเมืองเซ็มโบกุ โปรดดูรายละเอียดจากเว็บไซต์ของเราได้ที่ http://semboku-gt.jp/en/

ในเซ็มโบกุนั้น มีที่พักหลายประเภทให้เลือกตั้งแต่ โรงแรมออนเซน เพนชั่น บ้านไร่ และโรงแรมแบบเรียวกังก็มีให้เลือก แต่หากต้องการสัมผัสประสบการณ์แบบท้องถิ่นอย่างแท้จริงแล้ว เราขอแนะนำให้พักแบบเกสต์เฮาส์ ซึ่งเป็นที่พักที่มีห้องขนาดเล็กกว่าโรงแรมหรือโรงแรมขนาดเล็ก หลายแห่งดำเนินกิจการโดยบุคคลหรือครอบครัว จึงมีบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง (ภาพบรรยากาศคล้ายการพักแบบโฮมสเตย์) เพื่อให้ได้สัมผัสประสบการณ์การใช้ชีวิตอย่างคนอาคิตะของญี่ปุ่น อย่างแท้จริง

01/04/2022

ใครคิดถึงซากุระที่ญี่ปุ่น วันนี้เรามีภาพสวยๆของซากุระที่ #ไซตามะ มาฝาก ^^

🌐 www.NoomSaoTours.co.th
✅ Line official:
https://line.me/R/ti/p/%40rxh6567a
📞 Tel: 026251555

#เที่ยวญี่ปุ่น

29/03/2022

"Ghibi Park" จะเปิดให้บริการในจังหวัดไอจิในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2022

Studio Ghibi จะถ่ายทอดเสน่ห์ของ "Aichi, home of the Ghibi Park" เป็นวีดีโอแนะนำสถานที่นี้ อย่าลืมมาแวะชมสถานที่ท่องเที่ยว 15 แห่งที่กลายมาเป้นจุดถ่ายทำวิดีโอนี้กันนะคะ
Play along with the Wind - Aichi, home of the Ghibli Park - (Full Version)
https://www.youtube.com/watch?v=NygxxFKWTtU

[Special Web Site of This Movie]https://www.aichi-now.jp/kaze/[Outline]Ghibli Park will open on November 1st, 2022, in Aichi Prefecture, a place with vibrant...

11/03/2022

ไซตามะจังหวัดที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งธรรมชาติที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบรูณ์ อีกทั้งเป็นแหล่งธรรมชาติใกล้เมืองหลวง เดินทางง่ายใกล้โตเกียว
วันนี้เราจะพาไปชมสวนดอกไม้ 5 แห่ง ในไซตามะ ที่สวยงามราวกับอยู่บนสวรรค์ หากได้มาญี่ปุ่น
ไม่ควรพลาด รับรองได้รูปคู่กับดอกไม้สวยๆ สีสดใสเป็นบันทึกความทรงจำที่ดีแน่นอน

1.Hitsujiyama Park
สวนฮิสึจิยามะ เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ อยู่ที่เมืองชิชิบุ จังหวัดไซตามะ ไฮไลท์ของที่นี่คือ ทุ่งดอกชิบะซากุระที่จะบานเต็มเนินเขาทำให้เนินเข้ากลายเป็นสีชมพูสดใส จนได้ฉายาว่าเนินแห่งชิบะซากุระ เนินเขาแห่งนี้จะมีดอกชิบะซากุระ หรือดอกมอสสีชมพู บานสะพรั่งกว่า 4 แสนต้น ในฤดูใบไม้ผลิช่วงกลางเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม เนินเขาสลับสูงต่ำที่เต็มไปด้วยดอกไม้ตัดกับสีท้องฟ้าสดใสเป็นบรรยากาศ
ที่สวยงามคุ้มค่าแก่การได้มาชมเป็นอย่างยิ่ง

2. Gongendo Park
อีกจุดฟินไม่แพ้กันเพราะสวยงามราวกับหลุดเข้าไปในภาพวาด คือ สวนกอนเก็นโด ตั้งอยู่เมืองซัตเตะ จังหวัดไซตามะ เป็นจุดชมดอกนาโนะฮานะและดอกซากุระ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
ดอกนาโนะฮานะ สีเหลืองอร่ามเบ่งบานบนพื้นที่กว่า 50,000 ตารางเมตร ตัดกับดอกซากุระสีชมพูที่บานสะพรั่งเรียงรายอยู่รอบๆ กว่า 1,000 ต้น ประสานกันเป็นอุโมงค์ซากุระยาวสุดลูกหูลูกตายาวเกือบ 1 กิโลเมตร เรียกได้ว่าไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนของสวนก็ถูกโอบล้อมดอกไม้ ช่วงเวลาที่ดอกซากุระบานหรือประมาณช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนของทุกปี

3. Kumagaya Sakura Tsutsumi
สวน Kumagaya Sakura Tsutsumi เป็นอีกจุดฮิตในการชมซากุระเรียบริมแม่น้ำ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำอารากาวะ เมืองคุมะกายะ จังหวัดไซตามะ เป็นจุดชมซากุระที่สวยและมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งของญี่ปุ่น ติดอันดับ 100 จุดชมซากุระที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น สวนริมน้ำที่มีอุโมงค์ต้นซากุระบานสะพรั่งทอดยาวถึง 2 กิโลเมตร
ไม่เพียงเท่านี้ ความพิเศษของที่นี่นอกจากชมดอกซากุระบานสะพรั่งในช่วงกลางวันแล้ว ในช่วงกลางคืนมีจะมีการประดับไฟที่ต้นซากุระ แสงไฟอุ่นๆ ช่วยให้ต้นซากุระดูสวยโดดเด่นสะดุดตามากขึ้น จะประดับไฟประมาณ 2 สัปดาห์ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนถึงกลางเดือนเมษายน

4. Tenku No Poppy (Sky of Poppy)
อีกหนึ่งสวนดอกไม้ที่ควรค่าแก่การมาเยือนคือ Tenku No Poppy คุณจะได้สัมผัสกับความความสดใสของดอกป็อปปี้สีแดงกว่า 12 ล้านดอกเบ่งบานเต็มเนินเขา มองไปทางก็มีแต่ดอกป๊อปปี้สีแดงสดใสตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้าได้อย่างสวยงาม ดอกป็อปปี้นั้นแสดงถึงสัญญาณแห่งความรัก ความเอื้ออาทร ความอ่อนโยนที่แสนอบอุ่น ดอกป็อปปี้จะบานเต็มที่ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม

5. Shinrin Park
สถานที่สุดท้ายที่จะพลาดไม่ได้เลยหากท่านได้ไปเยือนไซตามะ นั่นก็คืออุทยานแห่งชาติ Shinrin Park เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของญี่ปุ่น และเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดไซตามะ ในสวนมีการปลูกดอกไม้ไว้นานาชนิด ท่านจึงสามารถเพลิดเพลินกับดอกไม้ตามฤดูกาล และในสวนสาธารณะยังมีกิจกรรมมากมายให้คนทุกช่วงวัยได้เพลิดเพลินกัน ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ออกกำลังกาย โซนร้านค้าสำหรับสายช็อป
เอาไว้ซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้าน สนามเด็กเล่นและสระน้ำสำหรับหนูๆ และพื้นที่สำหรับย่างบาร์บีคิว
ที่ไม่ว่าจะมากับครอบครัวหรือเพื่อนฝูงก็สามารถสนุกไปกับการทานบาร์บีคิวพร้อมกับชื่นชมธรรมชาติรอบๆ สวนไปด้วย และที่สวน Shinrin Park ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมาก รอให้ทุกคนได้มาสนุกกัน

04/03/2022

Gotemba Premium Outlets
"HILL SIDE" พื้นที่ช็อปปิ้งโซนใหม่พร้อมเปิดตัวแล้ว!

ใครที่เคยไปช้อปที่ญี่ปุ่นต้องเคยไปที่นี่ Gotemba Outlet ซึ่งได้เปิดพื้นที่ใหม่เพิ่มเติม เมื่อเดือนมิถุนายน 2020 ที่ผ่านมา ทำให้มีจำนวนร้านค้าเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 100 แห่ง และศูนย์อาหารแห่งใหม่ "Itadaki Terrace" และสนามเด็กเล่นที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามของภูเขาไฟฟูจิ ก็ถูกเพิ่มเข้ามาด้วย รวมร้านค้าทั้งสิ้นประมาณ 290 แห่ง รวมทั้งร้านอาหารและเครื่องดื่ม ที่จะเชื่อมต่อกับพื้นที่เดิม "HOTEL CLAD” ที่เปิดเมื่อธันวาคม 2019 และบ่อน้ำพุร้อน Day Trip "Konohananoyu" ก็ปรากฏอยู่ในเว็บไซต์เดียวกัน พัฒนาเป็นช้อปปิ้งรีสอร์ทที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งเป็นตัวแทนของประเทศญี่ปุ่น ก้าวข้ามขอบเขตของเอาท์เล็ตแบบเดิม

เสน่ห์ของ HILL SIDE - Part 1 : แหล่งรวมแบรนด์ดังที่หลากหลายสไตล์
แบรนด์ดังจากหลากหลายแนวมารวมตัวกันที่บริเวณ HILL SIDE มีอุปกรณ์กีฬาและเสื้อผ้าแบรนด์ชั้นนำ อาทิ Puma, Under Armour, Lululemon, Onitsuka Tiger ซึ่งเป็นที่นิยมในต่างประเทศ รองเท้าผ้าใบ Atlantic Stars ฯลฯ และสำหรับอุปกรณ์ในครัว Le Creuset, Zwilling แบรนด์แฟชั่นอย่าง Beams, Banana Republic ฯลฯ มาในราคาที่เหมาะสมเพื่อให้คุณเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้ง

เสน่ห์ของ HILL SIDE - Part 2 : สวรรค์ของนักชิมที่รวบรวมร้านดังและร้านดังในย่านนี้
มีร้านอาหารที่น่าสนใจมากมายในบริเวณ HILL SIDE ได้แก่ "Eggs'n Things" เป็นร้านที่มีชื่อเสียงมากจากฮาวาย "ร้านอาหารย่างถ่านซาวายากะ" มีความโดดเด่นด้วยการย่างแฮมเบอร์เกอร์ด้วยถ่านซาวายากะและร้านทงคัตสึ "ทงคัตสึต้ม" ของฮาโกเนะโกระ และอีกหลายร้าน เช่น "ทามุระ กินคัตสึเทอิ” นอกจากนี้ยังมีอาหารรสเลิศมากมายที่ใช้วัตถุดิบจากจังหวัดชิซูโอกะ ดังนั้น อย่าพลาดการช้อปปิ้งและชิมอาหารรสเลิศ!

27/02/2022

Kumano Sanzan เส้นทางแสวงบุญอันศักดิ์สิทธิ์

Kumano Sanzan เป็นชื่อเรียกของศาลเจ้าที่สำคัญ 3 แห่ง ประกอบไปด้วย “ศาลเจ้าคุมะโนะ ฮายาทามะ ไทชะ” (Kumano Hayatama Taisha), ศาลเจ้า “คุมะโนะ ฮงกู ไทชะ” (Kumano Hongu Taisha) และ “ศาลเจ้าคุมะโนะ นาจิ ไทชะ” (Kumano Nachi Taisha) และวัดอีก 2 แห่ง ซึ่งที่ คุมะโนะโคโด (Kumano Kodo) , น้ำตกนาจิ (Nachi Falls) และ คุมะโนะ ซันซัง (Kumano Sanzan) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 2004 หลังจากนั้นเป็นต้นมา ก็ได้รับการยกย่องจากทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง รวมถึงได้รับคะแนนสูงสุดสามดาวใน Michelin Green Guide อีกด้วย มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากจากในประเทศและต่างประเทศเดินทางมาเยี่ยมชมไม่ขาดสาย หลายคนที่มาเยือนมักมาเยี่ยมชมส่วนใหญ่เป็นนักบุญที่มาแสวงบุญ หรือ นักเดินป่า ที่นี่ก็มีคอร์สเดินป่าแบบผู้เริ่มต้นเดินป่าไปจนถึงนักเดินป่ามือโปร บนเส้นทาง Kumano Kodo มีหลากหลายเส้นทางด้วยกัน เช่น "Iseji“, "Kohechi“, "Ohechi" และ "Kiiji" เป็นต้น

1. Kumano Hayatama Taisha Grand Shrine
ศาลเจ้าคุมะโนะ ฮายะทะมะ ไทฉะ (Kumano Hayatama Taisha) เป็นหนึ่งในสามศาลเจ้าของคุมะโนะซันซัง (Kumano Sanzan) อันศักดิ์สิทธิ์ เป็นสถานที่เคารพสักการะของชาวญี่ปุ่นมาช้านาน เป็นศาลเจ้าที่มีสีแดงสด สร้างโดย Izanagi Nomikoto เดิมมีหินโกโตบิคิ (Gotobiki-iwa) ซึ่งมีตำนานกล่าวว่าเหล่าเทพของคุมะโนะได้ลงมายังหินยักษ์ก้อนนี้ จึงเป็นที่สักการบูชา ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ที่อยู่ในรายชื่อมรดกโลกของ UNESCO เท่านั้น ยังเป็นสถานที่ที่คนญี่ปุ่น และชาวต่างชาติ นิยมมาท่องเที่ยวอีกด้วย

2. Kumano Hongu Taisha Grand Shrine
ศาลเจ้าคุมะโนะ ฮงกู ไทฉะ (Kumano Hongu Taisha) เป็นหนึ่งในสามศาลเจ้าของคุมะโนะ ซันซัง (Kumano Sanzan) อันศักดิ์สิทธิ์ ในพื้นที่นี้มีต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อายุมากกว่า 2,000 ปี เป็นที่เคารพนับถืออย่างมากในหมู่ชาวญี่ปุ่น เชื่อกันว่าถ้าได้มาอธิษฐานสวดมนต์จากที่แห่งนี้จะส่งผลให้เป็นที่รักและโชคดีต่อไปในภายภาคหน้า นอกจากนี้เวลาไปไหว้ศาลเจ้า สามารถขอลงตราประทับโกะชุอิน (Goshuin) ได้เช่นกัน
*โกะชุอิน Goshuin คือ แสตมป์และอักษรที่เขียนด้วยพู่กันจากวัดหรือศาลเจ้าในประเทศญี่ปุ่น เพื่อเป็นการแสดงว่าเราได้มาขอพร ณ สถานที่แห่งนี้แล้ว ซึ่งถือเป็นตัวแทนของเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธ์

3. Kumano Nachi Taisha Grand shrine
ศาลเจ้าคุมะโนะ นาชิ ไทฉะ (Kumano Nachi Taisha Grand Shrine) ศาลเจ้าในศาสนาชินโตแห่งนี้ เป็นหนึ่งในสามศาลเจ้าของคุมะโนะ ซันซัง (Kumano Sanzan) อันศักดิ์สิทธิ์ และเป็นหนึ่งในเส้นทางแสวงบุญของชาวญี่ปุ่นมาแต่โบราณ จุดเด่นอยู่ที่เจดีย์สีแดงซัมจูโนะโตะ (Sanjunoto Pagoda) ที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าน้ำตกนาชิ (Nachi Falls) ที่สูงถึง 133 เมตร ซึ่งนับเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดและมีปริมาณน้ำมากที่สุดในญี่ปุ่น อีกทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย

25/02/2022

เที่ยวสนุก "มิเอะ" เจแปน
ข้อมูลการท่องเที่ยวจุดชมดอกบ๊วย & ดอกซากุระ Saveรอไว้ได้เลย!

25/02/2022

นาดะ (Nada) ตั้งอยู่ในเมืองโกเบ (Kobe) จังหวัดเฮียวโงะ โด่งดังเรื่องสาเกอย่างมาก เป็นแหล่งผลิตสาเกที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น เนื่องจากมีข้อได้เปรียบในด้านสถานที่ตั้ง และวัตถุดิบคุณภาพ ทั้งการมีข้าวคุณภาพดีสำหรับการทำสาเก น้ำบริสุทธิ์จากใต้ดิน ที่นี่มีความพิเศษตรงที่ มีการจัดแสดงภาชนะที่ทำจากไม้และเครื่องจักรต่าง ๆ ที่ใช้ในการกลั่นตั้งแต่สมัยเอโดะจนถึงปัจจุบัน เรามาทำความคุ้นเคยกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของสาเก และเพลิดเพลินไปกับพิพิธภัณฑ์สาเกที่นาดะกัน สาวกสาเกถูกใจสิ่งนี้อย่างแน่นอน ที่นี่ไม่ใช่มีเฉพาะโรงกลั่นเหล้าสาเกอย่างเดียวนะ ย่านนาดะแห่งนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกมากมาย บางที่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์สาเก ให้นักท่องเที่ยวได้ชมประวัติความเป็นมาของการทำสาเกตั้งแต่สมัยแรกเริ่ม จนถึงปัจจุบัน ที่สำคัญ ยังสามารถซื้อสาเกกลับมาเป็นของฝากได้อีกด้วย

1.Hakutsuru Sake Brewery Museum พิพิธภัณฑ์โรงกลั่นสาเกฮาคุซึ
ที่นี่ไม่ได้มีเพียงผลิตภัณฑ์สาเกเท่านั้น ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมาย เช่น เหล้าบ๊วย, เหล้าที่ใช้สำหรับทำอาหาร เช่น ไวน์ โซจู ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เป็นต้น ตัวอาคารถือว่าเป็นอาคารแบบดั้งเดิมในพื้นที่ของโรงกลั่นที่ทันสมัย นับเป็นพิพิธภัณฑ์โรงกลั่นที่ครบเครื่องโดดเด่นมาก ภายในนั้นมีการจัดแสดงนิทรรศการอุปกรณ์ขนาดจริง และโมเดลจำลองโรงกลั่น เพื่อให้นักท่องเที่ยว ผู้มาเยี่ยมชมเข้าใจได้ง่ายขึ้นว่าโรงหมักสาเกในสมัยก่อนเป็นอย่างไร และวิธีสาธิตการทำสาเก ตั้งแต่ต้นจนจบ
ที่อยู่ : 4-5-5 Sumiyoshi-minamimachi, Higashinada-ku, Kobe
เวลาเปิด-ปิด : 9:30-16:30 (เข้าชมก่อน 16:00)
วันปิดทำการ : ทุกวันจันทร์ (หากวันจันทร์เป็นวันหยุดราชการจะปิดวันอังคาร)
วัน Obon (13-15 กรกฎาคม) / วันหยุดช่วงปีใหม่
Website : https://www.hanshin.co.jp/global/en/nada/breweries/hakutsuru/
https://www.hakutsuru.co.jp/english/culture/museum.html

2. พิพิธภัณฑ์สาเกคิคู มาซะมูเนะ (Kiku-Masamune Sake Brewery Museum)
พิพิธภัณฑ์ Kiku-Masamune Sake Brewery Museum ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1659 มีประวัติศาตร์ยาวนานถึง 350 ปี ที่นี่ก่อตั้งขึ้นในรูปแบบ “การนำเสนอสาเกแบบดั่งเดิม” (the origin of sake) ถือได้ว่าเป็นโรงผลิตสาเกที่ก่อตั้งที่นี่ยาวนานมากๆ ที่นี่เป็นโรงผลิตสาเกที่โด่งดังมากในนาดะ ด้านใน จัดแสดงวิธีสาธิตการทำสาเกตั้งแต่สมัยแรกๆ อุปกรณืในการทำสาเกในสมันโบราณบางชิ้น ก็เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นอีกด้วย ที่พิเศษอีกอย่างหนึ่งของที่นี่ มีการสาธิตการทำถังหมักสาเก หรือที่เรียกว่า“kimoto-zukuri" เป็นกระบวนการด้วยมือแบบดั่งเดิมใช้เวลาหมักประมาณ 4 สัปดาห์ นอกจากนี้ ยังเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากที่นี่ไม่เพียงแต่มีแค่การสาธิตวิธีการทำสาเกเท่านั้น ยังมีให้ชิมนามะสาเก (สาเกสด), ไอศกรีมสาเก และยังมีผลิตภัณฑ์/สกินแคร์ ขึ้นชื่อ ใช้ส่วนประกอบของสาเกอยู่ในสกินแคร์อีกด้วย
ที่อยู่ : 1-9-1 Uozaki-nishimachi, Higashinada-ku, Kobe
การเดินทาง : เดิน 10 นาที จาก Hanshin Railway Uozaki Station
เวลาเปิด-ปิด : 09:30 – 16:00
วันปิดทำการ : วันหยุดช่วงปีใหม่
Website : https://www.hanshin.co.jp/global/en/nada/breweries/kikumasamune/
https://www.kikumasamune.co.jp/kinenkan/en/index.html

3. พิพิธภัณฑ์ซากุระ มาซะมูเนะ (Sakuramasamune Memorial Hall "Sakuraen")
พิพิธภัณฑ์ซากุระ มาซะมูเนะ ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1625 1659 เป็นโรงกลั่นสาเกที่มีชื่อเสียงยาวนาน ถึง 400 ปี สาเกของที่นี่ใช้ข้าวในการหมักสาเกใน Hyogo ใช้น้ำจากใต้ดินที่มีคุณภาพสูงใช้ในการหมักสาเก ที่นี่ยังถือได้ว่าเป็นที่บุกเบิกโรงกลั่นสาเกในย่านนาดะอีกด้วย ด้านใน จัดแสดงวิธีสาธิตการทำสาเก และมีสาเกให้นักท่องเทียวได้ลองชิมอีกด้วย
ที่อยู่ : 4-3-18 Uozaki-minamimachi, Higashinada-ku, Kobe
การเดินทาง : เดิน 5 นาที จาก Hanshin Railway Uozaki Station
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 19:00
วันปิดทำการ : วันอังคาร
Website : https://www.hanshin.co.jp/global/en/nada/breweries/sakuraen/
http://www.sakuramasamune.co.jp/english.html

4. โรงกลั่นโกเบ ชูชินคัน (Kobe Shu-Shin-Kan Brewery)
โรงกลั่นโกเบ ชูชินคัน ได้รับรางวัล International SAKE Challenge 2017 (A world-renowned sake contest) ที่ Kobe Shu-Shin-Kan Brewery เปิดให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาเยี่ยมชมกันแบบทุกขั้นตอนการผลิต เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของสาเกฟุกุจู ที่นี่ยังเป็นโรงกลั่นสาเกที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง ทั้งนี้ยังมีร้านค้าขนาดใหญ่ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์สาเก และมีร้านอาหารอีกด้วย
ที่อยู่
ค่าใช้จ่าย
เวลาเปิด-ปิด
วันปิดทำการ
: 1-8-17 Mikage-tsukamachi, Higashinada-ku, Kobe
: ฟรี
: 10:00 – 18:00
: วันปีใหม่ (วันที่ 1-3 มกราคม ของทุกปี)
Website https://www.hanshin.co.jp/global/en/nada/breweries/kobeshushinkan/
https://enjoyfukuju.com/en/

5. โรงกลั่นสาเกฮามะฟุกุซึรุ กินโจ (Hama Fukutsuru Ginjo Kobo)
โรงกลั่นสาเกฮามะฟุกุซึรุกินโจ ก่อตั้งในสมัยเมจิตอนต้น (ประมาณปี ค.ศ.1900) ด้วยตอนนั้น โรงกลั่นต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก ที่ต้องเผชิญกับสงครามโลกครั้งที่ 2 และ แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ (The Great Hanshin-Awaji Earthquake) ทำให้โรงกลั่นสาเกแห่งนี้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก โดยปัจจุบันมีการบูรณะโรงกลานสาเกแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ เป็นพิพิธภัณฑ์ โดยผู้ชมสามารถเข้าชมกระบวนการทำสาเกทั้งหมดผ่านหน้าต่างกระจกได้แบบเรียลไทม์ตลอดทุกฤดูกาล ซึ่งรวมถึงขั้นตอนแรกตั้งแต่การหุงข้าว, หมัก ไปจนถึงการคัดแยกจนมาเป็นสาเก อีกทั้งภายในมีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับกระบวนการผลิตต่าง ๆ
ที่อยู่
การเดินทาง
ค่าใช้จ่าย
เวลาเปิด-ปิด
วันปิดทำการ
: 4-4-6 Uoazaki-minamimachi, Higashinada-ku, Kobe
: เดิน 7 นาที จาก Hanshin Railway Uozaki Station
: ฟรี
: 10:00 – 17:00
: ทุกวันจันทร์ (หากวันจันทร์เป็นวันหยุดราชการจะปิดวันอังคาร)
วัน Obon (13-15 กรกฎาคม) / วันหยุดช่วงปีใหม่
Website https://www.hanshin.co.jp/global/en/nada/breweries/hamafukutsuru/
https://www.hamafukutsuru.co.jp

6. Sawanotsuru Museum พิพิธภัณฑ์สาเกซาวาโนะซึรุ
โรงหมักสาเกที่ก่อตั้งมายาวนานได้ฉลองครบรอบ 300 ปี เมื่อปีที่แล้วนี่เอง ด้วยการใช้วิธีการผลิตสาเกแบบดั้งเดิมและวัตถุดิบชั้นดีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงปัจจุบัน อาคารโรงกลั่นสาเกสร้างขึ้นในสมัยเอโดะตอนปลาย ได้รับการบูรณะอย่างพิถีพิถัน และดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของเหล้าสาเกในญี่ปุ่น อีกทั้งพิพิธภัณฑ์แหล่งนี้ ถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งในสมบัติทางวัฒนธรรมพื้นบ้านที่สำคัญของเฮียวโกะ อีกด้วย
ที่อยู่
การเดินทาง
ค่าใช้จ่าย
เวลาเปิด-ปิด
วันปิดทำการ
: 1-29 Oishi-minamimachi, Nada-ku, Kobe
: เดิน 10 นาที จาก Hanshin Railway Uozaki Station
: 10:00 – 16:00
: วันพุธ / วัน Obon (13-15 กรกฎาคม)
: วันหยุดช่วงปีใหม่
Website https://www.hanshin.co.jp/global/en/nada/breweries/sawanotsuru/
https://www.sawanotsuru.co.jp/site/?wovn=en