เทยแบกเป้เที่ยว

เทยแบกเป้เที่ยว จะพาทุกคนเที่ยวรอบโลกไปเที่ยวด้วยกันนะ

เธอ!!!!!!ทริปนี้เหมาะกับสายลุยมากๆ ดีต่อใจสุดๆ ไปทริปเดียวคุ้มมาก ได้ทั้งเดินป่า ปีนหน้าผา โรยตัว โหนสลิง จบในทริปเดียว ...
05/11/2024

เธอ!!!!!!ทริปนี้เหมาะกับสายลุยมากๆ ดีต่อใจสุดๆ ไปทริปเดียวคุ้มมาก ได้ทั้งเดินป่า ปีนหน้าผา โรยตัว โหนสลิง จบในทริปเดียว ถ้าสนใจมาตามลอยเทยกันได้เลยจ้า......

#เทยแบกเป้เที่ยวลาว
#เทยแบกเป้เที่ยวปากเซ

วันเดินทาง
วันที่ 11 ตุลาคม กลับวันที่ 16 ตุลาคม 2567
BKK -->UBON -->Pakse Loas -->UBON -->BKK

สรุปค่าใช้จ่าย
+ ราคาทัวร์นครชัยแอร์ กรุงเทพ-อุบลราชธานี รอบ 22:30 ราคา 602 บาท
+ ค่าทัวร์ Tree Top Explorer 3วัน2คืน ราคา 11,500 บาท/คน (กรุ๊ป9คน)
+ ค่าตั๋วเครื่องบินของสายการบินนกแอร์ จาก อุบลราชธานี-กทม ราคา 883 บาท
+ ค่าโรงแรมที่ Arawan Riverside Hotel ปากเซ วันที่ 12 ตุลาคม ราคาห้องละ 1,000 บาท คนละ 500 บาท
+ ค่าโรงแรมที่ Arawan Riverside Hotel ปากเซ วันที่ 15 ตุลาคม ราคาห้องละ 1,000 บาท คนละ 500 บาท
+ ค่ารถเหมาจากบขสอุบลมาที่ด่านช่องเม็กคนละ 200 บาท
+ ค่ารถเหมาจากด่านช่องเม็กไปเมืองปากเซคนละ 100 บาท
+ ค่ารถเหมาจากเมืองปากเซมาที่ด่านช่องเม็ก คนละ 200 บาท
+ ค่ารถเหมาจากช่องเม็กไปสนามบินอุบลคนละ160 บาท

รวมค่าใช้จ่ายคราวๆ = 14,645 บาท บวกค่ากินค่าของฝากเพิ่มกันเองนะจ๊ะ กลุ่มเราไปกัน9คน

โปรแกรมการเดินทางทริปนี้
วันที่ 11 ตุลาคม 2567
ทริปนี้เทยแบกเป้เที่ยวไปกันพร้อมทีมงาน 9 ชีวิตค่ะ วันศุกร์ที่ 11 ตุลา ทุกคนทำงานไม่ได้ลา เลยนั้งรถทัวร์รอบดึกสุดไปคือรอบ 22:30 น. ให้ไปถึงที่อุบลตอนเช้า ทุกคนเลยแบกกระเป๋ากันมาที่ออฟฟิตทำงานเสร็จก็แปลงร่างแบกเป้เดินทางมานัดเจอกันที่หมอชิตกันค่ะ

วันที่ 12 ตุลาคม 2567
เรามาถึงที่บขสอุบลราว 8 โมงเช้า ก็เข้าห้องน้ำซักแห้งล้างหน้าแปรงฟัน กินก๋วยจั๊บอุบลที่ร้านในบขส จิบกาแฟ หารถไปด่านช่องเม็ก วันที่เราไปเป็นวันหยุดยาวค่ะ รถสาธารณะที่ไปด่านคือจองเต็มหมด เราเลยหาแท็กซี่เหมากันไปสองคันที่ด่านช่องเม็กหารถได้คันละ 800 บาท เดินทางไปที่ด่านก็ราวๆชั่วโมงครึ่ง 93 กิโลเมตรจากบขสอุบล
แนะนำอย่าลืมพาสปอตไปนะเพราะทริปนี้เราพักเกินสามวันทำบัตรผ่านแดนได้แค่สามวันพาสปอตได้15วันถ้าอยู่เกินโดนปรับวันละ 500 บาท ผ่านด่านเสร็จเราก็หารถเหมาไปปากเซได้รถสองแถวคันละ1,000บาท สมาชิกเรามีทั้งหมด 12 คนนั้งได้สบายๆ อีกสามคนไม่ได้ไปทริปโหนสลิงเที่ยวแค่ในปากเซ
มาถึงโรงแรมก็ราวบ่าย 3 โมง เอาของไปเก็บที่โรงแรมแล้วเหมารถพาไปเที่ยวต่อที่ ปราสาทหินวัดพู เป็นมรดกโลกของลาวใต้เลย ใครมาที่นี้ครั้งแรกแนะนำห้ามพลาด เทยเคยมาสองรอบแล้ว รอบแรกเราเช่ามอร์ไซค์แล้วขับมาเที่ยวก็ชิวดีเสียค่าเข้าคนละ 200 บาท มีรถกอล์ฟพานั้งไปชมปราสาทหินวัดพู กลับโรงแรมพักผ่อนจบทริป

วันที่ 13 ตุลาคม 2567
08:30 น. จะมีรถของบริษัท Green Discovery Laos มารับเราที่โรงแรมเพื่อออกเดินทางไปหมู่บ้านหนองหลวง เป็นจุดเริ่มต้นออกเดินทางของทัวร์นี้ ชื่อทัวร์นี้คือ Tree Top Explorer ทัวร์ 3 วัน 2 คืน ทริปนี้จะมีโหนสลิงทั้งหมด 22 เส้นแบบจุกๆ บางเส้นยาวถึง 500 กว่าเมตร พอมาถึงที่หมู่บ้านหนองหลวงเราก็จัดกระเป๋าที่จะเอาเข้าป่า ส่วนอะไรที่ไม่เอาไปก็ฝากไว้ที่รถตู้ได้ เราจะใส่อุปกรณ์เซ็ฟตี้สำหรับโหนสลิงที่นี้เลยใส่แล้วก็ออกเดินทางกันเลยค่ะ วันแรกเดินป่ากันราวๆสิบกว่ากิโลเมตรค่ะ แล้วก็โหนสลิง 9 เส้น ช่วงแรกๆทางเข้าป่าอาจจะมีทากนะค่ะแนะนำให้ใส่ถุงกันทากสำหรับคนที่กลัวทาก แต่ถ้าใครไม่กลัวก็ไม่เป็นไรไม่ได้มีเยอะมาก วันแรกโหนสลิงเข้าที่พัก เราพักบนบ้านต้นไม้กันค่ะ ทัวร์นี้มีแม่บ้านมาคอยทำอาหารให้เราทุกมื้อ เช้า เที่ยง เย็น และทำอาหารอร่อยมากๆกินเกลี้ยงทุกมื้อ

วันที่ 14 ตุลาคม 2567
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อย ครึ่งวันแรกทริปนี้เราจะไปปีนหน้าผา และโรยตัวตรงหน้าน้ำตกตาดขมึน บอกเลยว่าเช้าของวันนี้ใช้กำลังเยอะมากๆยัดข้าวไปให้แน่นๆนะค่ะ ปีนหน้าผาโหดมันฮา ส่วนโรยตัวคือเสียวสุดๆ ตอนเที่ยงเดินกลับมาที่พัก ทางแม่บ้านเตรียมอาหารเที่ยงไว้ให้ รับประทานอาหารเที่ยงเสร็จก็ออกเดินทางโรยตัวเส้นที่เหลืออีก 13 เส้น โหนกันยันเย็นไปเลย เส้นโหนสลิงของวันนี้คือสุดๆ สวยมากๆ เส้นยาวสะใจสุดๆ จบกิจกรรมโหนตัวก็โหนกลับที่พักค่ะ พักที่เดิมอีกคืนที่ 2 รับประทานอาหารค่ำ พักผ่อนเอาแรง

วันที่ 15 ตุลาคม 2567
วันที่ 3 วันสุดท้าย รับประทานอาหารเช้าเสร็จก็เก็บของเก็บกระเป๋าออกเดินทางกลับ เส้นนี้มีปีนหน้าผาเดินป่ากลับหมู่บ้านหนองหลวง กินอาหารเที่ยงที่หมู่บ้าน เก็บของอาบน้ำแล้วกลับเมืองปากเซ เพื่อนบางคนก็กลับอุบลต่อเลยส่วนเทยก็พักเที่ยวที่ปากเซต่อ เข้าพักที่โรงแรมเดิมที่ปากเซ Arawan Riverside Hotel สำหรับคืนนี้เทยออกล่าเที่ยวผลับที่เมืองปากเซ สนุกๆจอยๆ แนะนำผับที่นั้น Waivan Heart Beat Pub Pakse, Plousio, Phat Phong Bar

วันที่ 16 ตุลาคม 2567
ออกเดินทางกลับสนามบินอุบลราชธานี บินกลับกรุงเทพ จบทริปค่ะ

อุปกรณ์ที่ควรเตรียม
+เสื้อกันฝน
+ถุงกันทาก
+สเปย์กันยุงซอฟเฟลฝาสีชมพู(ฉีดทาก)
+ครีมกันแดด
+แว่นกันแดด
+หมวก
+รองเท้าเดินป่า(สต๊าทดอยแนะนำ)
+ไฟฉายเข้าห้องน้ำกลางคืน
+อุปกรณ์ทำแผล
+เสื้อแจ็กเกตกันแดด
+ถุงมือปีนเขา
+อุปกรณ์อาบน้ำ (ยาสีฟัน แปรงสีฟัน สบู่ แชมพู)
+พาวเว้อแบงค์สำหรับสองคืน
+ผ้าเช็ดตัว

สนใจจองทัวร์ติดต่อได้ตามนี้ บอกพี่บุญว่าตามรอยเทยแบกเป้เที่ยวมา ดูแลเหมือนญาติมิตร
+ ID line :boun.treetop​

อุปกรณ์ถ่ายรูป
+ iPhone 8+
+ Huawei pro-30
+ Insta360 X3

ติดตามและพูดคุยกันต่อได้ที่
IG : [ mathewtrip ] https://www.instagram.com/mathewtrip/
Facebook : https://www.facebook.com/Uthumma.Matthew
Youtube Chanel : https://www.youtube.com/channel/UCzgkLsQW7rGyZFlD38ixJUQ
TickTok : www.tiktok.com/

สวัสดีจ้า มารีวิวทริปประจำปีของแอดนะค่ะ เพื่อเป็นไอเดียในการวางแผนท่องเที่ยว ทริปปีนี้จะพาทุกคนไปเที่ยวอเมริกากันค่ะ ปีน...
23/07/2024

สวัสดีจ้า มารีวิวทริปประจำปีของแอดนะค่ะ เพื่อเป็นไอเดียในการวางแผนท่องเที่ยว ทริปปีนี้จะพาทุกคนไปเที่ยวอเมริกากันค่ะ ปีนี้แอดไปเที่ยวทั้งหมด 20 วันค่ะ รูปเยอะมาก แต่ขออนุญาตลงแค่รูปปกที่ไปแต่ละที่นะค่ะ รูปเยอะเกินไปเอามาให้ชมแต่พอสังเขป มาดูกันว่าแอดไปเที่ยวที่ไหนกันบ้าง

#เทยแบกเป้เที่ยวอเมริกา
#เทยแบกเป้เที่ยวนิวยอร์ก
#เทยแบกเป้เที่ยวยูทาห์

วันเดินทาง
วันที่ 27 เมษายน กลับวันที่ 17 พฤษภาคม 2566

BKK -->New York-->Salt Lake City-->Utah-->Las Vegas -->San Francisco -->BKK

สรุปค่าใช้จ่าย
+ ราคาตั๋วเครื่องบินไป-กลับ Bkk- New York  San Francisco-BKK 27,270 บาท
เดินทางด้วยสายการบิน Philippines Airline
+ ค่าโรงแรมสำหรับ 5 คืน ที่นิวยอร์ก 14,500 บาท
+ ค่าตั๋วเครื่องบินจาก New York – Salt Lake City 6,500 บาท
+ ค่าตั๋วเครื่องบินจาก Salt Lake City-San Francisco 4,500 บาท
+ ค่าโรงแรม ค่าน้ำมัน ค่ากิน ทริปยูทาห์และลาสเวกัส 5 วัน หาร4 คน ตกคนละ 19,000 บาท
+ ค่าประกันการเดินทาง 3,323 บาท
+ ค่าโรงแรมที่ San Francisco 3 คืน 7,919 บาท (ไปเที่ยวคนเดียว)
+ ค่าเน็ตโรมมิ่ง Travel World True 15 G 30 Days 1,711 บาท
+ Budget ค่ากินค่าเที่ยว 40,000 บาท

รวมค่าใช้จ่ายคราวๆ = 124,723 บาท บวกค่ากินค่าของฝากเพิ่มกันเองนะจ๊ะ

วันที่ 27 เมษายน – 2 พฤษภาคม 2567
ที่นิวยอร์กเราพักกันที่ Skylight.NYC เป็นบ้านพักแบบ Home stay ราคาน่ารักเจ้าของเป็นคนไทย และดังมากๆสำหรับคนไทยไปเที่ยวนิวยอร์กห้องเต็มเร็วมากๆต้องจองล่วงหน้ากันนานๆเลยที่นี้ เทยเที่ยวหลักๆรอบเมืองนิวยอร์กตามด้านล่าง
+ American Museum of Natural History
+ Central park
+ Statue of Liberty รูปปั่นเทพีเสรีภาพ
+ 9/11 memorial & Museum
+ Brooklyn Bridge
+ Cruise Trip Circle line queens (ทริปเรือสำราญสองชั่วโมงครึ่ง)
+ Empire State sky viewpoint
+ Time square/Washington Square Park/Chelsea Market

วันที่ 2 - 4 พฤษภาคม 2567
จากนิวยอร์กไปซอลท์เล็กเราบินภายในประเทศใช้เวลาสองชั่วโมงกว่าๆ ที่พักเราพักบ้านของพี่สาวที่นี้ Salt Lake city เป็นเมืองเล็ก สงบเงี่ยบ สวย อากาศคือดี ภูเขาล้อมรอบ มีความรู้สึกปลอดภัย ต่างจากนิวยอร์กมากๆ ที่นี้ขับรถเที่ยวรอบเมือง เป็นเมืองที่คนมาเล่นสกีกันค่ะ
+ Natural History Museum of Utah
+ Park City (ที่เล่นสกี)
+ City hall

วันที่ 5 - 6 พฤษภาคม 2567
วันที่ 5 เราเดินทางออกจากบ้านแต่เช้าๆ มุ่งหน้าไป Las Vegas และแวะเที่ยวระหว่างทางไปด้วย ถึงลาสเวกัสเย็นๆ
+ Visit Bryce Canyon National Park
+ Las Vegas city night tour

วันที่ 6 ช่วงกลาวันที่ลาสเวกัส เราก็ไปเที่ยวเขื่อน Hoover Dam ไม่ไกลจากตัวเมืองมากขับรถไปชิวๆ แล้วก็มาถ่ายรูปเก็บบรรยากาศเมืองลาสเวกัส ตกเย็นก็ละลายทรัพย์กับคาสิโน มาทั้งทีต้องบริจากให้เจ้าที่

วันที่ 7 พฤษภาคม 2567
เช้าวันที่ 7 เราออกเดินทางกันแต่เช้าไปที่เมืองเพจ Page City แวะเที่ยวแคนย่อนต่างๆและก็พักที่เมืองเพจหนึ่งคืน
+ Visit Horseshoe Bend
+ Visit Antelope Canyon

วันที่ 8 - 9 พฤษภาคม 2567
หลังจาก Check-out โรงแรมเสร็จแล้วเราก็ออกเดินทางไปที่ Moab วันนี่เราจะไปเที่ยวที่ Arches National Park หนึ่งวันเต็มๆสำหรับเก็บที่นี้ ค้างคืนที่ Moab พักที่นี้ทั้งหมด 2คืน
+ Visit Arches National Park
+ Canyonland National Park

วันที่ 10 พฤษภาคม 2567
เดินทางกลับที่ Salt Lake city ผักผ่อน

วันที่ 11 พฤษภาคม 2567
เราบินจาก Salt Lake City ไปที่ San Francisco city ใช้เวลาราวๆ 3 ชั่วโมงกว่าๆก็มาถึงเมืองซานฟาน เราหาที่พักไม่ไกลจากสนามเท่าไหร่นั้งรถแท็กซี่มาก็ราวๆ 20 นาทีก็มาถึงที่โรงแรม พักผ่อนเอาแรงวันแรกที่นี้

วันที่ 12-14 พฤษภาคม 2567
3 วันที่เหลือมีพี่ที่รู้จักเป็นพยาบาลที่ซานฟาน อาสาขับรถพาเที่ยว พาเก็บสถานที่หลักๆของเมืองซานฟาน และพาไปไร่เชอร์รี่ ไปกินจนอิ่มก่อนแล้วค่อยเก็บมาชั่งน้ำหนัก 555 แล้วก็ไปละลายทรัพย์ที่ San Francisco Premium Outlets เราบินรอบดึกราวหกทุ่มของวันที่ 14 พ.ค ทั้งขาไปและกลับใช้สายการบิน Philippines Airline คือดีบริการอาหารอิ่มตลอดทุกเส้นทาง ลำใหญ่สะดวกสบายไม่ได้แย่เลย มาถึงไทยก็วันที่ 16 พ.ค ช่วงเที่ยงวัน

เป็นทริปอเมริกาครั้งแรกที่จัดนักจัดเต็มคุ้มค่ามากๆได้ไปหลายๆที่เจอหลายๆอย่าง เนื่องจากข้อมูลเยอะ ถ้าจะรีวิวแบบละเอียดๆคงยาว เอาพอสังเขปละกัน แต่ถ้าใครมีคำถามอื่นที่อยากรูก็ทักมาถามได้เลยนะจ๊ะ ยินดีช่วยจ้า

อุปกรณ์ถ่ายรูป
+ iPhone 8+
+ Huawei pro-30
+ Insta360 X3

ติดตามและพูดคุยกันต่อได้ที่
IG : [ mathewtrip ] https://www.instagram.com/mathewtrip/
Facebook : https://www.facebook.com/Uthumma.Matthew
Youtube Chanel : https://www.youtube.com/channel/UCzgkLsQW7rGyZFlD38ixJUQ
TickTok : www.tiktok.com/

สวัสดีเพื่อนๆทุกคนจ้า เทยแบกเป้เที่ยวเอาทริปยุโรปมาฝาก เพื่อใครกำลังมองหาที่เที่ยวที่ประเทศออสเตรีย และประเทศสวีตเซอร์แล...
02/12/2023

สวัสดีเพื่อนๆทุกคนจ้า เทยแบกเป้เที่ยวเอาทริปยุโรปมาฝาก เพื่อใครกำลังมองหาที่เที่ยวที่ประเทศออสเตรีย และประเทศสวีตเซอร์แลนด์ ทริปนี้ 2 ประเทศ 14 เมือง 22 วัน รูปภาพเยอะยากจะแยกรีวิวทีละเมืองก็จะเยอะไปหน่อยเอาแค่ภาพตัวอย่างมาให้ชม แน่นข้อมูลและค่าใช้จ่ายนะ ไปดูกันว่า22วันนี้เทยไปเที่ยวไหนมาบ้าง

#เทยแบกเป้เที่ยวยุโรป
#เทยแบกเป้เที่ยวออสเตรีย
#เทยแบกเป้เที่ยวสวีตเซอร์แลนด์

วันเดินทาง
วันที่ 27 กรกฎาคม กลับวันที่ 17 สิงหาคม 2566

BKK -->Vienna Austria-->Hall Statt-->St.Wolfgang-->Zalzburg-->Zell Am See-->Alpbach-->Innsbruck-->Zurich Switzerland-->Luzern-->Inter Laken-->Bern-->Fribourg-->Luasanne-->Geneva-->BKK

สรุปค่าใช้จ่าย
+ ราคาตั๋วเครื่องบินไป-กลับ Bkk-Vienna à Geneva-BKK 33,180 บาท
+ ค่าโรงแรมสำหรับ 22 วัน หารกับเพื่ออีกคนตกคนละ 34,705 บาท
+ ค่า Swiss Travel Pass 10 Days second class คนละ 15,643 บาท
+ ค่า Vienna Pass 3 days card 5,343 บาท
+ ค่าวีซ่า ออสเตรีย 3,761 บาท
+ ค่าประกันการเดินทาง 1,525 บาท
+ ค่าเอเจ้นจองตั๋วเครื่องบินหลอกขอวีซ่า 300 บาท
+ ค่าเน็ตโรมมิ่ง Travel World True 15 G 30 Days 1,711 บาท

รวมค่าใช้จ่ายคราวๆ = 99,168 บาท บวกค่ากินค่าของฝากเพิ่มกันเองนะจ๊ะ ของเรารวมๆทั้งหมดก็ประมาณแสนห้าหมื่น

วันที่ 1 - 3 (28-30 July 2023) Vienna Austrai
เราพักกันที่กรุงเวียนนา 4วัน3คืน สถานที่ท่องเที่ยวที่เราไปเก็บ
+ Schonbrunn Palace พระราชวังเชินบรุนน์
+ Chonbrunn Zoo
+ Wiener Prater
+ St.Stephen's Cathedral มหาวิหารเซนต์สตีเฟน
+ Austria National Library
+ Giant Ferris Wheel
+ Hofburg Palace พระราชวังฮอฟบวร์ก
+ Albertina Museum
+ Belvedere Palace พระราชวังเบลเวอเดียร์

วันที่ 4 (31 July 2023) Hallstatt
นั้งรถไฟจาก Vienna to Obertraun สถานีรถไฟที่ฮัลล์สตัทท์ ไปโอเบอร์เทราน์ ใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่าๆถึงที่พัก เราพักกันที่ Dormio Resort Obertraun ที่พักดีมีอาหารเช้าเลิศๆ ติดทะเลสาบ ราคาไม่แรง นั้งเรือไปหมู่บ้านฮอลล์สแตทท์ราว 30 นาที หรือสามารถนั้งรถบัสไปได้ 10 นาทีก็ถึงหมู่บ้านแล้ว สถานีรถไฟ สถานีรถบัส และถ้าเรือติดกับที่พักเลยจ้า สำหรับที่นี้ก็เที่ยวหมู่บ้านที่น่าอยู่ที่สุดในโลก ถ่ายรูปชิวๆ

วันที่ 5 (1 Aug 2023) St.Walfgang
ตอนเช้าเรากลับไปหมู่บ้านฮอลล์สแตทท์ด้วยรถบัส 10 นาทีก็ถึงรถมีทุกๆ 30 นาที เดินถ่ายเก็บบรรยากาศตอนเช้าที่หมู่บ้าน เพราะเมื่อวานเรานั้งเรือ Cruise มาที่หมู่บ้านแล้วเช้านี้ก่อนเช็คเอาท์โรงแรมเลยมาเก็บบรรยากาศก่อนไป วันนี้ออกเดินทางไปที่ เซ้นท์วูล์ฟกัง โดยนั้งรถไฟไปที่สถานนี Steeg-Gosau Bahnhof station แล้วก็ซื้อตั๋วรถบัสเดินทางไปต่อที่ St.Walfgang im Salzkammergut station ใช้เวลาเดินทางรวมรอรถก็ราวๆ 3ชั่วโมง เราต่อรถบัสไปที่พักเราต่อ เราพักที่ Hoferbauergut ออกนอกเมืองไปไกลนิดที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาดเลยถ้ามาที่
+ Schafberg Viewpoint นั้งรถไฟไต่เขขึ้นไปชมจุดชมวิวบนภูเขาSchafberg ค่าขึ้นคนละ 48 EUR

วันที่ 6 - 7 (2 - 3 Aug 2023) Zalzburg
เราพักกันที่เมืองซาลซ์บูร์กที่นี้ 2 คืน เมืองนี้มีปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศออสเตรีย และยังสมบูรณ์สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ เราพักกันที่ Adlerhof ราคาไม่แรงใจกลางเมือง ติดร้านอาหารไทยราคาถูกกว่าอาหารฝรั่ง ที่เที่ยวที่เราไปเก็บเมืองนี้
+ Mozartplatz
+ Schloss Hellbrunn
+ Mirabell Palace
+ Fortress Hohensalzburg ปราสาทโฮเอินซาลซ์บูร์ก

วันที่ 8 (4 Aug 2023) Zee am See
เมืองนี้เป็นเมืองที่ตากอากาศของคนรวยชาวยุโรปก็ว่าได้ สวยเงียบสงบ เมืองเล็กไม่ใหญ่ สถานที่เที่ยวที่เราไปเก็บ
+ Schmittenhohe Viewpoint ที่นี้ห้ามพลาด วิวสวยจริง ใช้กระเช้าขึ้นไปเสียคนละ 36 EUR

วันที่ 9 (5 Aug 2023) Alpbach
เช้าวันนี้เดินทางนานหน่อยเปลี่ยนรถไฟสองรอบ แล้วนั้งรถบัสไปที่พัก เราพักกันอยู่หมู่บ้านอัลฟ์บัช เป็นหมู่บ้านเล็กมีเถือกเขาเอลล์ล้อมรอบ เราพักกันที่ Hotel Jagdhof
+ เดินเที่ยวรอบหมู่บ้านถ่ายรูปวิวภูเขาและดอกไม้ต่างๆ

วันที่ 10 (6 Aug 2023) Innsbruck
เรานั้งรถไฟจากสถานี Alpbach train station to Innsbruck train station ใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆก็มาถึงเมือง อินส์บรูค คือเมืองสุดท้ายของประเทศออสเตรีย ติดกับชายแดนประเทศสวีตเซอร์แลนด์ เราพักกันที่ Pension Stoi budget guesthouse อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ ที่นี้เราเดินเที่ยวๆรอบเมือง วันที่ไปมีตลาดนัดวันอาทิตย์ด้วยเลยเดินๆหาของกินแล้วก็ชิวิวริมแม่น้ำพักผ่อน ก่อนเดินทางไกลพรุ่งนี้ไปเมืองซูริค ประเทศสวีตเซอร์แลนด์

วันที่ 11 (7 Aug 2023) Zurich, Switzerland
เทยนั้งรถไฟจากสถานี Innsbruck train station to Zurich HB Main Station นั้งรถไฟ3ชั่วโมงกว่าๆ ถ้าชั้นสองบอกเลยว่ามียืนเบียดกันยาวเลยถ้าไม่ได้จองที่นั้งมา เพราะเส้นนี้คนใช้เยอะ มาถึงซูริชก็บ่าย4โมงเย็นแล้วจ้า เก็บของเข้าโรงแรมเราพักกันที่ Homestay Zurich Center แล้วก็ไปบ้านรุ่นพี่ที่โรงเรียน นางเตรียมลาบ ส้มตำ แกงหน่อไม้ไว้รอต้อนรับ วันนี้เดินชมเมืองยามเย็นชิวๆ

วันที่ 12 (8 Aug 2023) Zurich, Switzerland
เราพักที่ซูริชสองคืนวันนี้เรานั้งรถไฟราวๆหนึ่งชั่วโมงไปที่น้ำตกไรน์ Fhine Falls สวยมากๆนั้งรถไฟจากสถานี Zurich HB station to Neuhausen Rheinfall station เดินไปน้ำตกราว 500 เมตรก็ถึงเลย เป็นน้ำตกที่สวยและใหญ่มาก มีนั้งเรือชมน้ำตกด้วย เที่ยวชมน้ำตกเสร็จ เหลือเวลาอีกครึ่งวันก็กลับมากเก็บเมืองซูริช เดินเที่ยวถ่ายรูปจุดชมวิวต่างๆของเมือง และก็นั้งเรือสำราญชมทะเลสาบซูริชต่อ เนื่องด้วยเรามีบัตร Swiss Travel pass ขึ้นฟรีเลยจ้า

วันที่ 13 (9 Aug 2023) Luzern, Switzerland
จากซูริชมาที่เมืองลูเซิร์นไม่ไกลค่ะ ราวๆ 40นาทีนั้งรถไฟ Zurich HB Main Station to Luzern Bahnhöfe train station เราพักกันที่ Ibis Budget Luzern City เรามาถึงโรงแรมช่วงเช้าห้องว่างก็เช็คอินเข้าห้องได้เลย เก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้วก็ไปที่ท่าเรือลูเซิร์น วันนี้เราจะนั้งเรือสำราญไปท่าเรือวิทซ์นาว (Vitzau) ใช้เวลานั้งเรือประมาณ 1 ชั่วโมง และนั้งรถไฟไต่เขาริกิ (Rigi Kulm) ราวๆ 30 นาทีก็ถึงยอดเขาจุดชมวิวเมืองลูเซิร์น ทั้งเรือและรถไฟไต่เขาฟรีถ้ามีบัตร Swiss Travel pass ถ้ามาเมืองลูเซิร์นห้ามพลาดทริปนี้สวยมากๆ ช่วงบ่ายก็นั้งเรือกลับเมืองเดินชมเมืองไปสถานที่ดังๆของเมืองถ่ายภาพชิวๆดื่มด่ำบรรยากาศเมืองริมทะเลสาบ

วันที่ 14 - 15 (10 - 11 Aug 2023) Interlaken, Switzerland
วันนี้เรานั้งรถไฟสาย GoldenPass Line to Interlaken Ost station ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ระหว่างทางคือวิวหลักล้านมากๆ เรามาถึงอินเตอร์ลาเคนช่วงเช้า พักที่ New WEst Station7 ชื่อที่พักจ้า มาเช็คอินก็ได้ห้องเลยเก็บกระเป๋าเสร็จก็ออกไปเที่ยววันนี้เราจะไปเก็บหมู่บ้านที่มีน้ำตกจากหน้าผาชื่อว่าหมู่บ้านเลาเอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen) แต่ก่อนไปหมู่บ้านนี้มันจะมีกระเช้านั้งขึ้นไปแล้วต่อด้วยรถไฟไต่เขาเพื่อไปชมวิวยอดเขาจุงเฟรา ซึ่งเราจะขึ้นพรุ่งนี้ ที่นี้ก็สวยมีรีสอร์ทข้างบนวิวสวยมากๆ เสร็จแล้วก็ไปที่หมู่บ้าน คนเยอะมากๆที่นี้ เดินถ่ายรูปเก็บบรรยากาศ

วันที่สอง ที่อินเตอร์ลาเคนวันนี้เราขึ้นยอดเขาจุงเฟรา เป็นยอดเขาที่ค่าขึ้นแพงที่สุดในสวีตแล้ว ค่าขึ้นราวๆ 200 ฟรังค์ แต่ถ้ามีบัตร Swiss Travel pass สามารถเอามาเป็นลดได้ เหลือประมาณราว 155 ฟรังค์ ราคาปรับขึ้นลงอยู่กับว่า ช่วงหน้าไฮหรือโลว์ ช่วง Weekend หรือวันธรรมดาด้วยนะ ที่ยอดเขานี้จะมีฮิมะตลอดทั้งปี นั้งรถไฟขึ้นไปได้เลย ทั้งขึ้นและลงใช้เวลาเกือบทั้งวันเลยนะ


วันที่ 16 (12 Aug 2023) Bern, Switzerland
นั้งรถไฟจากสถานี Interlaken Ost station มายังสถานี้รถไฟ Bern Station ไม่ถึงชั่วโมงก็ถึงแล้วไม่ไกลกัน เราพักกันที่ Los Lorentes Apartments Bern City โรงแรมนี้สามารถเช็คอินด่วนได้ มาก็ได้ห้องเลย นั้งรถรางออกไปเที่ยวรอบเมือง เมืองเบิร์นเป็นเมืองหลวงของประเทศสวีต และเป็นเมืองมรดกโลกเป็นเมืองเก่าแก่ มีตึกโบราณเยอะมากๆ

วันที่ 17 (13 Aug 2023) Fribourg, Switzerland
จากเมืองเบิร์นนั้งรถไฟมาที่เมืองฟรีบูรก์แค่30นาทีก็ถึงแล้ว เราพักกันที่ Hotel De La Rose เราไปฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมเนื่องจากไปถึงเช้า แล้วก็เดินเที่ยวรอบๆเมือง เป็นเมืองไม่ใหญ่ มีเส้นทางเดินป่าด้วย เดินทั้งวันเพราะเป็นเมืองที่สวย เงียบสงบ

วันที่ 18 (14 Aug 2023) Lausanne, Switzerland
เช้านี้เดินทางกันต่อนั้งรถไฟจากเมืองฟรีบูรก์ไปที่เมืองโลซานใช้เวลาเกือบๆชั่วโมงก็ถึง ที่นี้เราพักกันที่ Hotel Du Marche เมืองนี้เป็นเมืองเกิดของ ร.8และร.9 ด้วยนะเมืองติดกับทะเลสาบเจเนวา มีไร่องุ่นสำหรับทำไวน์แถวๆชานเมืองด้วย เรานั้งรถไฟจากโลซานไปสถานี Cully station นั้งรถไฟราวๆสิบนาทีก็ถึงจะเป็นไร่องุ่น ติดกับริ่มทะเลสาบเจเนวา มีที่สำหรับตั้งแคมป์ว่ายน้ำ ร่องเรือใบ สวยงามมากๆ แล้วเราก็กลับเมืองเพื่อเดินชิวถ่ายรูปเก็บบรรยากาศในเมืองต่อ

วันที่ 19 (15 Aug 2023) Geneva, Switzerland
นั้งรถไฟจากโลซานมาที่เจเนวาแค่สามสิบนาทีก็ถึง เราพักกันที่ Geneva Hostel เมืองนี้เป็นเมืองสุดท้ายของทริปแล้ว ช่วงเช้าเราเดินเที่ยวรอบเมืองหาถ่ายรูปเล่น และตอนเย็นก็หาซื้อของฝากที่เมืองนี้

วันที่ 20 (16 Aug 2023) Geneva, Switzerland
ออกจากโรงแรม 7 โมงเช้า เดินทางไปสนามบินเจเนวา เราบินรอบ 09:40 น. บินไปต่อเครื่องที่กาต้า แล้วก็ถึงกรุงเทพ วันที่ 17 Aug 2023 ถึงไทยราวเที่ยงวันพอดี

อุปกรณ์ถ่ายรูป
+ iphone 8+
+ Huawei pro 30

ติดตามและพูดคุยกันต่อได้ที่
IG : [ mathewtrip ] https://www.instagram.com/mathewtrip/
Facebook : https://www.facebook.com/Uthumma.Matthew
Youtube Chanel : https://www.youtube.com/channel/UCzgkLsQW7rGyZFlD38ixJUQ
TickTok : www.tiktok.com/

สวัสดีลูกเพจทุกคนจ้า มันถึงเวลาแล้วที่เราจะพาทุกคนไปเที่ยวต่างประเทศกันนับตั้งแต่โควิดมาก็ครบ3ปีเต็มๆที่ไม่ได้ออกไปแบกเป...
02/06/2023

สวัสดีลูกเพจทุกคนจ้า มันถึงเวลาแล้วที่เราจะพาทุกคนไปเที่ยวต่างประเทศกันนับตั้งแต่โควิดมาก็ครบ3ปีเต็มๆที่ไม่ได้ออกไปแบกเป้เที่ยวต่างประเทศเลย วันนี้แอดเลยจะมารีวิววิธีการขอวีซ่าเชงเก้ง หรือวีซ่าไปเที่ยวโซนยุโรป ต้องทำไงบ้างควรขอประเทศไหนดีถ้าเราไปหลายๆประเทศในทริปเดียว ตามแอดมาจะพาไขข้อสงสัยและพาไปทำวีซ่ากันค่ะ

ต้องบอกไว้ก่อนว่าบางคนไปเที่ยวยุโรปไปหลายประเทศ ตอนแอดไปเมื่อปี2019 แอดแบกเป้เที่ยวยุโรป 6 ประเทศในทริปนั้น ซึ่งบางคนก็จะงงว่าควรไปขอวีซ่าประเทศไหนดีเพราะไปหลายประเทศใช่ไหม เขานับกันอย่างนี้ถ้าไปหลายประเทศให้นับประเทศที่เราไปเที่ยวหลายวันสุด อย่างเช่น ออสเตรีย 3 วัน สวีท 10 วัน เยอรมัน 5 วัน แบบนี้ก็ให้ทำการขอวีซ่าประเทศสวีทเซอร์แลนด์ได้เลย แต่ถ้าเท่ากันเหมือนของแอดปีนี้คือเราจะไปออสเตรีย 10 วัน และเที่ยวสวีท 10 วัน ถ้าวันเท่ากันก็ให้ขอวีซ่าประเทศที่เราเดินทางไปถึงวันแรก ฉนั้นทริปนี้แอดเลยต้องไปขอวีซ่าประเทศออสเตรีย และเราสามารถยื่นขอวีซ่าล่วงหน้าได้นานถึง 6 เดือนก่อนเดินทางด้วยนะแก โอเคมาดูเรื่องเอกสารกัน

#เทยแบกเป้เที่ยววีซ่าออสเตรีย
#วีซ่าออสเตรีย

เอกสารที่ต้องการในการยื่นขอวีซ่าสำหรับประเทศออสเตรีย

1.กรอกแบบฟอร์มใบคำร้องขอวีซ่าช ดาวน์โหลดแบบฟอร์มการยื่นคำร้องขอวีซ่า

https://visa.vfsglobal.com/tha/th/aut/

2.หนังสือเดินทางเล่มปัจจุบัน (หนังสือเดินทางต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 3 เดือน ก่อนวีซ่าจะหมดอายุ ) พร้อมสำเนา จำนวน 2 แผ่น สำเนาหน้าวีซ่าเชงเก้นทั้งหมดที่มีอายุไม่เกิน 5 ปีหนังสือเดินทางเล่มปัจจุบัน (หนังสือเดินทางต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 3 เดือน ก่อนวีซ่าจะหมดอายุ )

3.ตารางการเดินทาง จะต้องพิมพ์เท่านั้น (มีตัวอย่างตารางการเดินทางของแอดใต้โพสนะเพื่อเป็นแนวทาง)

4.เอกสารการจองตั๋วเครื่องบินไปกลับต้องเดินทางออกจากประเทศไทย และเดินทางกลับเข้ามาที่ประเทศไทย (Ticket Reservation) ท่านจะต้องยื่นตั๋วเครื่องบิน ณ วันที่ยื่นใบคำร้องขอวีซ่า

(เราใช้เอเจ้นในการจองพวกตั๋วเครื่องบินแบบหลอกให้ก่อนใบละ 300 บาท ติดต่อคุณอาร์ท เบอร์โทรหรือไลน์เบอร์นี้เลย 098-905-9087)

5.เอกสารเกี่ยวกับที่พัก (Hotel Booking) จำเป็นต้องครอบคลุมตลอดระยะเวลาการเดินทาง และสัมพันธ์กับตั๋วเครื่องบินของผู้สมัคร ระบุข้อมูลการจองทั้งหมด้ป็นภาษาอังกฤษ (ผู้เข้าพัก วันที่เข้าพัก โรงแรม ที่อยู่และโทรศัพท์) ให้ชัดเจน

(แอดจองผ่าน agoda ที่มันสามารถยกเลิกห้องพักได้ ที่สำคัญในใบจองโรงแรมต้องมีชื่อนามสกุลเราเป็นคนเข้าพักใน agoda เพิ่มชื่อผู้เข้าพักได้ แล้วก็ปริ้นออกมาไปกี่วันก็ต้องมีที่พักทุกวันจนกลับ)

6. เอกสารทางการเงิน เช่น (สมุดบัญชีธนาคาร ย้อนหลัง 6 เดือน พร้อมปรับสมุดล่าสุด หรือ Bank Certificate จากธนาคารไม่เกิน 1 เดือน ในกรณีที่มีการออกค่าใช้จ่ายให้กัน จำเป็นที่จะต้องทำหนังสือ Sponsor Letter ( ต้องเป็น บิดา มารดา หรือ สามี ภรรยา ) พร้อมแนบเอกสารเชื่อมโยงความสัมพันธ์ อาทิ เช่น ทะเบียนสมรส หรือ สูติบัตร พร้อม แปลภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาเยอรมัน

7.หนังสือรับรองการทำงานตัวจริง 1 ฉบับ ให้ระบุ อาชีพ เงินเดือน และระยะเวลาในการทำงาน ( เป็นภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาเยอรมัน ) หรือ กรณีประกอบธุรกิจส่วนตัว ให้ใช้ใบจดทะเบียนการค้าที่มีชื่อผู้สมัคร ( ส่วนกรณีที่ไม่ได้ประกอบอาชีพ ผู้สมัครจำเป็นต้องทำหนังสือชี้แจงถึงที่มาของรายได้ในชีวิตประจำวัน และหลักฐานอื่นๆ) ถ้าเป็นนักเรียนต้องมีหนังสือรับรองการเป็นนักเรียน หรือ นักศึกษาตัวจริง

8.เอกสารประกันภัยการเดินทาง (ยอดเงินประกันข้นต่ำ 30,000 ยูโร ซึ่งรับรองโดยบริษัทประกัน ซึ่งเป็นบริษัทประกันที่จดทะเบียน และการคุ้มครองครอบคลุมในประเทศแถบยุโรป

(แอดให้รุ่นพี่แอดเอง คุณทอม โทร.092-267-7651 Line ID: beentom)

9. รูปถ่ายที่ใช้ในการยื่นขอวีซ่า รูปถ่ายจำนวน 2 รูปที่ ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน ซึ่งเป็นรูปถ่ายสี ฉากหลังเป็นสีอ่อน (ขาว หรือ ครีม) กว้าง 35 มม ยาว 45 มม

10. ใบเปลี่ยนชื่อเป็นภาษาอังกฤษตัวจริงและสำเนา

11. สำเนาเอกสารอสังหาริมทรัพย์ หรือเจ้าของบริษัท ที่เราเป็นเจ้าของแนบไปด้วย

12. สำเนาวีซ่าเชงเก้งอันเก่า พร้อมหน้าที่มีตราประทับเข้าและออกประเทศเชงเก้ง ถ้ามี

13. พาสปอตเก่าที่มีวีซ่าเชงเก้ง ให้นำเอาไปด้วย พร้อมถ่ายสำเนาหน้าพาสปอต แนบด้วยสำเนาวีซ่า

14. ใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด 2 เข็มขึ้นไป ยุโรปยอมรับวัคซีนของ Pfizer, Astrazeneca, Johnson & Johnson and Moderna. แอดขอจากหมอพร้อมฟอร์มภาษาอังกฤษได้เลยไม่เสียตัง

15. ค่าวีซ่าตอนที่แอดไปยื่นคือวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ค่าวีซ่า 3,761 บาท ชำระด้วยเงินสดเท่านั้น

ขั้นตอนการยื่นขอวีซ่า

หลังจากเราเตรียมเอกสารตามที่แอดบอกเรียบร้อยแล้วเราก็เข้าไปในเว็ปของ VFS ตามลิงค์นี้เลย

https://visa.vfsglobal.com/tha/th/aut/

พอกดเข้าไปแล้วไปตรงการจองนัดหมายล่วงหน้า แล้วก็ไปเลือกวันที่เราจะนัดยื่นเอกสารได้เลย พอนัดยื่นแล้วเราจะได้ใบนัดมาปริ้นออกมาวันที่ไปยื่นวีซ่าให้นำติดตัวไปด้วย เราสามารถเข้าศูยน์ยื่นวีซ่าล่วงหน้าได้ 5 นาที ถ้านัด 10 โมงเช้า เราก็เข้ารอบ 09:55 น.ได้เลย ถ้าศูนย์ยื่นวีซ่าของ VFS โซนยุโรปจะมีประเทศ สวิตเซอร์แลนด์, เยอรมนี, สาธารณรัฐเช็ก, ออสเตรีย, โครเอเชีย, อิตาลี, นอร์เวย์, สวีเดน, สโลวาเนีย, เดนมาร์ก, เนเธอร์แลนด์, ไอซ์แลนด์, เบลเยี่ยม, ฟินแลนด์

ซึ่งวันที่แอดไปยื่นซีว่าออสเตรีย คนไปยื่นวีซ่าออสเตรียมีน้อยมากๆ ส่วนใหญ่คนจะไปยื่นวีซ่า เยอรมัน อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์เยอะ วันนั้นเลยยื่นเสร็จเร็ว และวันที่ 24 มีนาคม 2566 ก็ได้รับพาสปอตพร้อมวีซ่าส่งมาที่คอนโด รวมเวลา 10 วัน

เป็นไงบ้างแอดว่าไม่ยากนะถ้าเตรียมเอกสารให้ครบเรียบร้อยตามนี้ ยังไงปีนี้แอดจะพาเจาะลึก ออสเตรียและสวีตเซอร์แลนด์เดินทาง 27 กรกฎาคม 2566 – 17 สิงหาคม 2566 รวมการเดินทางก็ 22 วันแบบจุกๆไปเลยจ้า 55555 เรื่องทริปไว้แอดจะมาริววิวแบบจุกๆให้ลูกเพจได้ตามลอยนะจ๊ะ ขอจบการรีวิวเรื่องวีซ่าไว้เพียงเท่านี้ ฝากติดตามกันด้วยนะ สวัสดี

#เที่ยวยุโรป #เที่ยวยุโรปด้วยตัวเอง #เที่ยวยุโรปด้วยกัน #ทำวีซ่าท่องเที่ยว #ทำวีซ่ายุโรป #ทำวีซ่า

ม่อนจอง จ.เชียงใหม่ แกๆๆเดินไม่อยากต้องไปแล้วหละ ทริปนี้แอดจะพาเพื่อนๆไปเดินเล่นชิวๆเหมือนเดินเล่นที่สวนหลังบ้านเรานี้เอ...
16/12/2022

ม่อนจอง จ.เชียงใหม่ แกๆๆเดินไม่อยากต้องไปแล้วหละ ทริปนี้แอดจะพาเพื่อนๆไปเดินเล่นชิวๆเหมือนเดินเล่นที่สวนหลังบ้านเรานี้เอง ที่ ดอยม่อนจอง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อ จ.เชียงใหม่

#เทยแบกเป้เที่ยวดอยม่อนจอง
#เทยแบกเป้เที่ยวเชียงใหม่

วันเดินทาง
วันเสาร์ ที่ 3 ธันวาคม กลับวันที่ 4 ธันวาคม 2565

ทริปดอยม่อนจองนี้ต้องใช้รถไปที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง จะขับรถไปเองก็ได้ แต่คณะเทยแบกเป้เที่ยวเราไปกัน 17 คน เลยเช่ารถตู้จากเชียงใหม่ไปที่หมู่บ้านมูเซอจุดรายงานตัวและจุดเตรียมสำภาระลูกหาบและรถโฟวิล ทางขึ้นดอยม่อนจองจะมีสองทาง จองกันได้ทั้งสองที่คือจองขึ้นที่หมู่บ้านมูเซอได้ลิมิต 200 คนต่อวัน และอีกที่ บ้านห้วยปูลิงลิมิตได้ 200 คนต่อวันเช่นกัน (ค่าเช่ารถ ลูกหาบ ค่าเข้าอุทยาน ค่ารถโฟวิล ข้อมูลอยู่ด่านล้างนะ) พอรายงานตัวที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อด้วยบัตรประชาชนแต่ละคนครบ 17 คนแล้วก็นั้งรถตู้อีกหน่อยเข้าหมู่บ้านมูเซอ กลุ่มเรามีเช่าเต้น ถุงนอน ไฟล์ชีส ผ้าปูรองนอน หมูกระทะสำหรับ4ชุด ก็ไปรับของและก็เลือกลูกหาบแบกสัมภาระ ส่วนรถโฟวิลทีมเราต้องใช้ 3 คัน เพื่อไปจุดเดินท้าว จากหมู่บ้านมูเซอไปใช้เวลาราวๆ 1 ชั่วโมงด้วยรถโฟวิล ทางคืออรรถรสมาก 5555 เดินอะไม่เหนื่อย แต่เหนื่อยสุดคือนั้งรถโฟวิลนี้แหละท่านผู้ชม ส่วนตัวเดินง่ายไม่ยาก ระยะทางราวๆ 5 กิโลเมตร เราเดินกัน2ชั่วโมงครึ่ง มียากจุดเดียวคือด่านสุดท้ายคือเนินหมาหอบ ชันชิดอกมีที่เดียวก่อนถึงจุดตั้งแคมป์จ้า

ตารางทริปดอยม่อนจอง
-- > วันที่ 2 ธันวาคม 2565
- เดินทางมาตัวเมืองเชียงใหม่ เช่าโรงแรม เที่ยวตัวเมืองเชียงใหม่

-- > วันที่ 3 ธันวาคม 2565
- ราวๆตี 4 รถมารับที่โรงแรมเดินทางไปที่ดอยม่อนจอง
- แวะซื้ออาหารเช้า ซื้อเตรียมอาหารเที่ยง พวกหมูปิ้งข้าวเหนียว และอาหารสำหรับเย็นและเช้าบนดอย ที่ตลาดเช้าอ.ฮอด
- ถึงอุทยานลงทะเบียนเปลี่ยนรถ โฟวิลต่อขึ้นเขา
- เดินชิวๆเหมือนสวนหลังบ้านขึ้นยอดดอยม่อนจอง

-- > วันที่ 4 ธันวาคม 2565
- เดินแต่เช้าแบบสดชื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้น ถ่ายรูปกับทะเลหมอกที่ฟูฟอง ที่กระทบกับแสงสีทองของพระอาทิตย์ หมอกสีทอง
- รับอาหารเช้า American breakfast กับกาแฟสดทำมือกาแฟอาราบิกาจากเทือกเขาแอล
- เก็บสัมภาระเดินทางลงดอย
- ขึ้นรถแบบตอนมากับสู่ตัวเมืองเชียงใหม่
- จบทริป

ติดต่อเรื่องทัวร์
- เช่ารถตู้จากเชียงใหม่ มาที่ดอยม่อนจอง จะเหมาหรือจอย โทรหาป้าแป๋วรถตู้ได้เลย
โทร. 081-027-0581

- ติดต่อจองขึ้นดอยม่อนจอง อาหาร เต้นท์ รถโฟวิล โทรหาพี่ดาคนในหมู่บ้านมูเซอเอง
โทร. 084-374-9932

ค่าใช้จ่ายในทริป
1.ค่ารถจาก ตัวเมืองเชียงใหม่ ไปอุทยาน 2 คัน ไปกลับคันละ 6,000 บาท รวม 12,000
2.ค่ารถจาก อุทยานไปตีนดอยโฟวิล คันละ 3000 ใช้ 3 คัน 9,000 บาท
3.ค่าเข้าอุทยานคนละ 20 บาท
4. ค่ารถยนต์ 4ล้อคันละ 60 บาท
5. ค่ากางเต้นท์หลังละ 50 บาท/วัน
6. ลูกหาบ กิโลกรัมละ 30 บาทโดยทั่วไป แต่ถ้ามีฝนเดินยากจะขึ้น 40 บาทต่อกิโลกรัม

ทริปนี้ตั้งแต่รถรับจากตัวเมืองเชียงใหม่ และสังกลับเชียงใหม่ สำหรับ 17 คน ค่าใช้จ่ายคนละ 1,500 บาท

อื่นๆ
เต๊นท์ ที่รองนอน ถุงนอน ไฟล์ชีส
มีให้เช่า อย่างละ 100 บาท

จุดรายงานตัว
GPS : https://goo.gl/maps/sMzn1hv4UHgLnG4Z6

จุดนัดพบที่หมู่บ้านมูเซอ
GPS : https://goo.gl/maps/Yk1cJVip2MVgJsu19

อุปกรณ์ถ่ายรูป
+ iphone 8+
+ Huawei pro 30

ติดตามและพูดคุยกันต่อได้ที่
IG : [ mathewtrip ] https://www.instagram.com/mathewtrip/
Facebook : https://www.facebook.com/Uthumma.Matthew
Youtube Chanel : https://www.youtube.com/channel/UCzgkLsQW7rGyZFlD38ixJUQ
TickTok : www.tiktok.com/

สวัสดีทุกคนจ้า ทริปนี้แอดจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวน่าน ครั้งที่เท่าไหร่ของแอดแล้วจำไม่ได้ 5555 ถ้าใครติดตามเทยแบกเป้เที่ยวมาตล...
01/11/2022

สวัสดีทุกคนจ้า ทริปนี้แอดจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวน่าน ครั้งที่เท่าไหร่ของแอดแล้วจำไม่ได้ 5555 ถ้าใครติดตามเทยแบกเป้เที่ยวมาตลอดจะรู้ว่ามีทริปจังหวัดน่านบ่อยมาก เที่ยวเท่าไหร่ไม่เคยจะหมด ที่เที่ยวเยอะมาก ธรรมชาติ อากาศ ผู้คน วัฒนธรรมคนน่าน บอกเลยถ้าเธอได้มาน่านรับรองจะติดใจ ทริปนี้แอดจะพาไปสุดเขตแดนน่าน-ลาวเลยทีเดียว เราจะไปตั้งแคมป์กันที่หมู่บ้านเปียงซ้อ อ.เฉลิมพระเกียรติ และจะพาไปพักรีสอร์ทชิกๆที่อ.บ่อเกลือกันจ้า ปะไปเที่ยวกันเลย

#เทยแบกเป้เที่ยวน่าน
#เทยแบกเป้เที่ยวหมู่บ้านเปียงซ้อ

วันเดินทาง
คืนวันศุกร์ ที่ 21 ตุลาคม กลับคืนวันที่ 24 ตุลาคม 2565

- วันแรกทำงานเสร็จห้าโมงครึ่ง เราเลยเอากระเป๋าเป้ไปออฟฟิตด้วยเลย ทำงานเสร็จเปลี่ยนชุดออกเดินทางไปที่หมอชิต ขึ้นรถทัวร์รอบ 19:30 น. รถทัวร์ถึงน่านเช้าวันที่ 22 ราวๆหกโมงเช้าจ้า

- เช้าวันที่สอง เราได้ทำการจองมอไซค์ร้านแถวๆบขสไว้เรียบร้อยแล้ว รับมอไซค์ก็ขับรถไปตลาดเช้าน่าน หาซื้ออาหารสำหรับไปตั้งแคมป์ และก็หาอาหารเช้ากินที่นั้นด้วยเลย
วันนี้เราออกเดินทางจากน่านไป หมู่บ้านเปียงซ้อระยะทางราว 118 กิโลเมตร เส้นทางขับสะดวกสะบาย แต่ทางขึ้นหมู่บ้านนั้นคือโหดมาก มอไซค์แนะนำให้เอารถที่เป็นแบบเกียร์ไปนะ รถยนต์พวกรถเก๋งคันเล็กๆไม่แนะนำ

ลานกางเต้นภูยิ้มวิวแคมป์ปิ้ง
GPS : https://goo.gl/maps/ZLHXmRHQ3gWx4vX29

โฮมสเตย์ เปียงซ้อ
GPS : https://goo.gl/maps/PHH3rH99BEKEuueN9

- เช้าวันที่สาม ตื่นมาจิบกาแฟดรีฟที่ลานกางเต้นท์พี่เขาทำกาแฟดรีฟมาให้ชิมด้วย และก็ทานข้าวอะไรเสร็จก็ออกไปถ่ายรูปเก็บบรรยากาศรอบๆหมู่บ้าน เกือบๆสิบโมงเช้าออกเดินทางไปที่อ.บ่อเกลือ ราวๆ40 กิโลเมตรวันนี้
เราจองที่พักไว้ที่ Arpo de Marng (อาร์โป เดอะ มาง) รีสอร์ทติดริมน้ำวิวสวยแถวบ่อเกลือโบราณเลยจ้า ค่าที่พักก็หลักพันขึ้น ติดริมน้ำก็ราคาอัฟขึ้นตามวิว ที่นี้บรรยากาศดี เหมาะแก่การมาพักผ่อน เราจองที่พักรวมอาหารค่ำและเช้า อาหารค่ำมีเมนูอาหารเหนือ 3 อย่าง กับข้าวเหนียวนางเอกห่อด้วยใบตอง ที่มนุษย์ทั่วไปกินไม่อิ่มแน่นอน มีแต่นางเอกช่องหลากสีเท่านั้นอิ่ม เคยเห็นแต่ในทีวี 5555 ดีที่สั่งชาบูไว้หนึ่งชุด ซึ่งต้องแจ้งก่อนเที่ยงวันเข้าพัก ก็ชาบูบ้านๆทั่วไปแต่ราคาระดับพาราก่อนเด้อชุดละ 700 บาท มีผักจัดชุดน่ารักๆกับเนื้อสไลบางๆ พร้อมน้ำจิ้มสองรสชาติ แนะนำขับรถชิวๆหากินด้านนอกดีกว่าเก็บเงินไปซื้อเบียร์มานั้งจิบชิวริมน้ำคุ้มกว่าจ้า

GPS: https://g.page/ArpoDeMarngResort?share

- เช้าวันที่สี่ ทางที่พักก็จะเอาข้าวต้มมาเสิฟให้ แล้วเราก็ออกไปเที่ยวบ่อเกลือเก็บบรรยากาศหากาแฟจิบ ราวๆสิบโมงก็ออกเดินทางกลับตัวเมืองน่าน เรานั้งรถสมบัติทัวร์กลับรอบ 19:00น. ถึงกทมก็ราวๆตี5กลับถึงคอนโดก็ราวๆ 6 โมงเช้า อาบน้ำแต่งตัวไปทำงานแบบสดชื่น Fresh Fresh มากแม่ 555 จบทริปน่านครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้จ้าาาา

สรุปค่าใช้จ่ายทริป สำหรับหาร2คน
+ ค่าลานกางเต้นท์คนละ 150 บาท
+ ค่าเช่ามอไซค์วันละ 350 บาท 3 วันรวม 1,050 บาท
+ ค่ารถทัวร์ไปกลับกทม-น่าน 1,344 บาท
+ ค่าที่พักที่ Arpo de Marng (อาร์โป เดอะ มาง) 2,690 บาท
+ ค่าน้ำมันรถ 300 บาท
#ค่าอื่นๆนอกเนื้อจากนี้มีอีกบริการกันเอาเองนะ

ทริปนี้สรุปค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมดตกคนละ 5,389 บาท ทำให้ถูกกว่านี้ได้ไหม ทำได้นะไม่สั่งชาบูชุดละ700บาทก็ลดไปเยอะละ เบียร์เอ๋ย ไม่ดื่มก็ลดไปเยอะ ของเทยจัดเต็มไง

อุปกรณ์ถ่ายรูป
+ iphone 8+
+ Huawei pro 30
+ Gopro 9
+ Drone DJI mini 2

ติดตามและพูดคุยกันต่อได้ที่
IG : [ mathewtrip ] https://www.instagram.com/mathewtrip/
Facebook : https://www.facebook.com/Uthumma.Matthew
Youtube Chanel : https://www.youtube.com/channel/UCzgkLsQW7rGyZFlD38ixJUQ
TickTok : www.tiktok.com/

สวัสดีค่ะทริปนี้แอดจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวจังหวัดสระบุรีกันค่ะ ทริปนี้เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาเที่ยวน้อยแค่เสาร์อาทิตย์ก็ไปได้...
09/09/2022

สวัสดีค่ะทริปนี้แอดจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวจังหวัดสระบุรีกันค่ะ ทริปนี้เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาเที่ยวน้อยแค่เสาร์อาทิตย์ก็ไปได้ ไปสัมผัสบรรยากาศแคมปิ้งริมน้ำ ซึ่งน้ำใสมากๆ และสามารถเดินป่าปีนเขาไปชมน้ำตกที่สูงที่สุดในภาคกลางและสวยงามมากๆ ทั้งหมดนี้แค่ 2 วัน 1 คืน เดินทางจากกรุงเทพไม่ไกลใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ข้อมูลพร้อมรายละเอียดตามด้านล่างเลยจ้า

#เทยแบกเป้เที่ยวสระบุรี
#เทยแบกเป้เที่ยวน้ำตกโกรกอีดก

วันเดินทาง
วันเสาร์ ที่ 3 กันยายน กลับวันที่ 4 กันยายน 2565

Day 1

ที่พักเทยแบกเป้เที่ยวเราทริปนี้ที่ บ้านสวนงาม สระบุรี ที่พักมีบ้าน 5 หลัง 2 – 8 คน โดมโปร่งแสง 2 หลัง รถบ้าน 2 คัน กระโจม 5 หลัง เพราะฉะนั้นวันหยุดศุกร์เสาร์อาทิตย์ จึงเป็นที่หมายปองแย่งชิงกันมากๆ ถ้าคิดจะมาวันหยุดล่ะก็ รีบโทรไปจองไว้ล่วงหน้าเลยจ้า

รายละเอียดที่พัก

+ที่พักรวมอาหารเช้า

ที่พักมีแอร์ - ห้องน้ำส่วนตัว

- 🏠 บ้านอบอุ่น (8 ท่าน) 7,500 (วันหยุด 8,000) - ใกล้น้ำ

- 🏘️ บ้านอิ่มเอม (4 - 6 ท่าน) 6,000 (วันหยุด 6,500) - ใกล้น้ำ

- 💒 บ้านอิงธารา, 💒 บ้านอิงธาร (2 ท่าน) (2 ท่าน) 3,600 (วันศุกร์-วันหยุด 3,900) - ติดริมน้ำ (เซตอาหารเช้าลอยน้ำ) ✨

- ⛅️ โดมโปร่งแสง (2 ท่าน) 3,300 (วันหยุด 3,600) - อาหารเช้า VIP เสริฟหน้าโดม ✨

- 🚐 รถบ้าน (A) (2 ท่าน) 3,200 (วันหยุด 3,500)

- 🏡 บ้านไออุ่น, 🚐 รถบ้าน (B), 🍑 โดมพีช (2 ท่าน) 2,800 (วันหยุด 3,000)



ที่พักพัดลม - ห้องน้ำรวม

- 🎪 กระโจม (2 ท่าน) 1,800 (วันหยุด 2,000)

- 🏕️ เต็นท์เช่า (2 ท่าน) 1,500 (วันหยุด 1,700)

- 🏞️ นำเต็นท์มาเอง ❌ ไม่รวมอาหารเช้า ท่านละ 250 (วันหยุดท่านละ 300)

🍀 เสริมเตียง 700 - 1,200 บาท


- มีร้านอาหารอาหารตามสั่ง

- ฟรี ! เด็กอายุไม่เกิน 7 ปี (ถ้ามี 2 คน คิดเป็นผู้ใหญ่ 1 คน)

- ฟรี ! สัตว์เลี้ยง

❌ ห้ามสัตว์เลี้ยงลงเล่นน้ำ


จองห้องพักได้ IB ไปที่เพจ: https://m.facebook.com/baansuanngam/

โทร. 081-911-9653

GPS: https://goo.gl/maps/tgaCDB511u6eTqsb7


Day 2

วันที่สองนี้เราทำกิจกรรมเดินป่าชมน้ำตกที่ น้ำตกโกรกอีดก ซึ่งขับรถจากที่พักบ้านสวนงามไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงจุดลงทะเบียนขึ้นน้ำตกโกรกอีดก เอารถไปจอดไว้ที่นั้นแล้วทางวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวฯ ชะอม มีรถรับเราจากที่จอดรถมาส่งที่ลงทะเบียน เสียค่าเข้าชมคนละ 300 บาท รอบแรกจะเปิดขึ้นชมตั้งแต่ 08:00 น. รอบสุดท้ายคือ 10:00 น. รับนักท่องเที่ยวต่อวันจำนวนจำกัด แนะนำให้โทรจองก่อนไปดีกว่า ระยะทางขึ้น 4 ลง 4 รวม 8 กิโลเมตร ทางเดินยากความยากจาก 5 ให้ 3.5 ทางชั้นมีบางช่วงตอนปลายกิโลเมตรสุดท้าย ที่ทำให้เดินขึ้นยากคือทางเดินเป็นหินตลอดทางและมีโคลนตมทำให้ลื่นและเดินยาก เกิดอุบัติเหตุขาพลิกบ่อย ควรระวังให้ดีๆนะค่ะ น้ำตกคือสวยงามมากๆ สักครั้งต้องไปให้ได้


คำแนะนำ

-รองเท้าเตะห้ามเด็ดขาด

-รองเท้าสวยงามห้าม ต้องรองเท้าเดินป่าเท่านั้น

-ที่จุดลงทะเบียนมีรองเท้าสตาร์ทดอยให้นักท่องเที่ยวเช่า 50 บาท อันนี้ดีมากๆ

-ควรติดถุงมือไปด้วยจะมีช่วงต้องจับเชือกดึงเชือกขึ้นและลง

-นำอาหารไปสำหรับหนึ่งมื้อด้วยและน้ำ 2 ขวดเล็ก

จุดลงทะเบียนขึ้นน้ำตกโกรกอีดก โดย วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวฯ ชะอม

GPS: https://goo.gl/maps/YEHMV5pqk3fPgfMd6

โทร. 065-706-2959, 087 041 3013



สรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้

+ 2,000 บาทต่อคน ไปกัน 9 คน รวมค่าเดินทางจากกทมไปกลับ ค่าอาหาร เครื่องดื่ม ที่พัก และค่าน้ำตก ทุกอย่างแล้ว

อุปกรณ์ถ่ายรูป

+ iphone 8+
+ Huawei pro 30
+ Drone DJI mini 2


ติดตามและพูดคุยกันต่อได้ที่

IG : [ mathewtrip ] https://www.instagram.com/mathewtrip/
Facebook: https://www.facebook.com/Uthumma.Matthew
Youtube Chanel: https://www.youtube.com/channel/UCzgkLsQW7rGyZFlD38ixJUQ
TikTok: www.tiktok.com/

ที่อยู่

Bangkok
10270

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 00:00
อังคาร 09:00 - 00:00
พุธ 09:00 - 00:00
พฤหัสบดี 09:00 - 00:00
ศุกร์ 09:00 - 00:00
เสาร์ 09:00 - 00:00
อาทิตย์ 09:00 - 00:00

เบอร์โทรศัพท์

+66897150156

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ เทยแบกเป้เที่ยวผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง เทยแบกเป้เที่ยว:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์

เทยแบกเป้เที่ยว

เหตุผลหลักๆที่กะเทยซึ่งงานยุ่งล้นมืออยู่แล้ว ทั้งงานประจำ ทั้งงานบริษัททัวร์ตัวเอง แต่ทำไมมาเขียนเพจเทยพาเที่ยว เพราะเวลาไปเที่ยวไหน หรือเพื่อนๆใครจะไปเที่ยวที่ไหนทุกคนก็จะมาขอคำปรึกษาหรือทำเส้นทางให้หน่อย เลยตั้งใจไว้ว่าจะเขียนเพจดีกว่าเพื่อเป็นข้อมูลให้กับเพื่อนๆทุกคน บอกไว้เลยจะไม่ใช่เป็นเพจการท่องเที่ยวแบบสร้างฝันคือรูปสวยมาก พีเซ็นต์เลิศ แล้วกูจะไปยังไงหละ เพจแบบนี้เยอะแยะ กะเทยเรียกเพจสร้างฝัน แต่เพจนี้จะเน้นให้ทุกคนอ่านแล้วเก็บกระเป๋าออกเดินทางตามเส้นทางกะเทยได้เลย นี้คือความตั้งใจของกะเทยเอง และอยากสนับสนุนคนไทยแบกเป้ไปเที่ยวเอง คุณจะได้รับรู้เสนห์ของการเที่ยวแบบแบกเป้เที่ยว ได้เพื่อนใหม่ มิตรภาพ ความยิ่งใหญ่และความสวยงานของโลกใบนี้ ยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วสะพายออกไปสู่โลกภายนอกพร้อมๆกะเทยกัน Let’s go!!!