ปิยนาฏยา

ปิยนาฏยา ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก ปิยนาฏยา, 57/17, Chiang Mai.

https://www.facebook.com/104277620994100/posts/526335155455009/
24/07/2021

https://www.facebook.com/104277620994100/posts/526335155455009/

พี่หนุชวนน้องๆ เยาวชน มาขยับจับกระบวนท่า “โขน” ร่วมกันส่งคลิปเข้ามาประกวดในกิจกรรม หลังโรงโขนไทย Online Activity ภายใต้หัวข้อ “ภูมิใจโขนไทยมรดกโลก”

📃กติกาการร่วมส่งผลงานเข้าประกวดมีดังนี้
1. ผู้ร่วมเข้าประกวดเด็กและเยาวชน อายุไม่เกิน 15 ปี
2. ผู้ร่วมเข้าประกวดสร้างสรรค์ผลงาน VDO Clip สั้นๆ ไม่เกิน 1 นาที โดยถ่าย VDO ตนเอง แสดงเป็นตัวละครโขนที่ตนเองชื่นชอบ เช่น การร่ายรำ ตีลังกาแบบหนุมาน
3. ผู้ร่วมเข้าประกวด นำคลิปโพสต์ลง Facebook ของตนเอง หรือ ผู้ปกครอง เปิดการตั้งค่าเป็นสาธารณะ ติดแฮชแท็ก #ภูมิใจโขนไทยมรดกโลก #หลังโรงโขนไทยพาไปดูให้รู้
4. ผู้ร่วมเข้าประกวด นำ VDO Clip ของตนเอง และภาพแคปเจอร์หน้าจอ Facebook ส่ง inbox มาให้กับทีมงานผ่าน FB: หลังโรงโขนไทย พาไปดูให้รู้
🗓 สามารถร่วมสนุกกับกิจกรรมนี้ได้ตั้งแต่วันที่ 20 - 30 กรกฎาคม 2564 (หมดเขตส่งผลงานภายในเวลา 23.00 น.ของวันที่ 30 ก.ค.64)
🏺 ประกาศผลรางวัล ในวันที่ 5 สิงหาคม 2564
🏺 ผู้ที่ร่วมสนุกกับกิจกรรมจะได้รับ
-ผู้ชนะ รางวัลที่ 1 รับทุนการศึกษา 3,000 บาท
-ผู้ชนะรางวัลที่ 2 รับทุนการศึกษา 2,000 บาท
-ผู้ชนะรางวัลที่ 3 รับทุนการศึกษา 1,000 บาท
-เสื้อที่ระลึก มอบให้ผู้ร่วมกิจกรรมทุกคนที่ส่ง VDO Clip มาเข้าร่วม “ภูมิใจโขนไทยมรดกโลก”
*หมายเหตุ: การตัดสินของคณะกรรมการ หลังโรงโขนไทย พาไปดูให้รู้ ถือเป็นที่สิ้นสุด .
#หลังโรงโขนไทยพาไปดูให้รู้ #โขนไทยภูมิใจมรดกโลก
=================
โครงการ “หลังโรงโขนไทย พาไปดูให้รู้” เป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนทุนจาก กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมุ่งเน้นการสร้างสรรค์ Content เผยแพร่ลงบนสื่อดิจิทัล ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับโขนไทยที่มีความเข้าใจง่าย เพื่อให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ สามารถเข้าถึงแก่นของการแสดงโขน ศิลปวัฒนธรรมศาสตร์และศิลป์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับนาฎศิลป์ชั้นสูงซึ่งเป็นมรดกของชาติ
================

วันนี้รวย วันนี้รวย รีบขอพรไอ้ไข่ จะได้ไปเยี่ยมบ้านท่านด้วยกันนะ......รายละเอียด ทริป “ไหว้พระ-ธาตุใหญ่ ขอพรไอ้ไข่ สวยใส...
16/10/2020

วันนี้รวย วันนี้รวย รีบขอพรไอ้ไข่ จะได้ไปเยี่ยมบ้านท่านด้วยกันนะ......
รายละเอียด ทริป “ไหว้พระ-ธาตุใหญ่ ขอพรไอ้ไข่ สวยใสทะเลกระบี่ วีรชนบ้านบางระจัน”
18-23 พฤศจิกายน 63
ล่องเรือไหว้พระ 9 วัด อยุธยา - องค์พระปฐมเจดีย์ใหญ่ที่สุดในไทย - วัดม่วง -พระพุทธรูปใหญ่ที่สุดในไทย - ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ - วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร - ล่องเรือหางยาว ทัวร์ 4 เกาะทะเลแหวก - ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน - อนุสาวรีย์วีรชนและอุทยานค่ายบางระจัน

วันที่หนึ่ง
วันพุธ ที่ 18 พฤศจิกายน 63
22.00 ออกเดินทาง / บริการของว่าง

วันที่สอง
วันพฤหัสบดี ที่ 19 พฤศจิกายน 63
7.00 ทำธุระส่วนตัว
8.00 (มื้อ1) อาหารเช้า ณ Coffee Old City เมื่อมาถึงอยุธยาต้องลอง เป็นร้านอันดับ 1 ใน tripadvisor อยู่ตรงข้ามวัดมหาธาตุ วิวสวยได้บรรยากาศเมืองเก่าสุดๆ
9.00 ขึ้นรถ
9.10 ท่าเรือ (ทัวร์ท้องถิ่น) ทริป ล่องเรือไหว้พระ 9 วัด อยุธยา (แต่จะไหว้เพียง 8 วัด เพราะจะนับเอาวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร ที่จะไปไหว้เย็นวันนี้ เป็นวัดที่ 9) เลข 9 เป็นเลขมงคลของคนไทย เชื่อว่าส่งผลให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าในทุกด้าน ประสบความสำเร็จ นั่นจึงเป็นที่มาของ "ความนิยมไหว้พระ 9 วัดภายในวันเดียว" และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นเมืองสำคัญในด้านประวัติศาสตร์ชาติ เคยเป็นเมืองราชธานีของไทยยาวนานถึง 417 ปี ที่เต็มไปด้วยวัดวาอารามเก่าแก่งดงาม และโบราณสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากมาย และยังเป็นเมืองมรดกโลกที่ควรค่าแก่การมาเยือน วันหยุดยาวแบบนี้แต่งชุดไทยสวยๆ เดินทางตรงดิ่งมาตามรอย ออเจ้า...กันได้เลยจ้า
1.วัดแคราชานุวาส ตั้งอยู่บนเกาะลอย จึงต้องนั่งเรือข้ามไปเท่านั้น เป็นวัดสำคัญเมื่อครั้งหลวงปู่ทวดได้มาจำพรรษา ณ กรุงศรีอยุธยา เชิญนมัสการหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ปางธุดงค์ วิหารหลวงปู่ทวด ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งกุฏิเดิมของหลวงปู่ทวด ฯลฯ หลวงปู่ทวดเป็นพระอาจารย์ของไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ เราควรกราบไหว้ขอบารมีหลวงปู่ไปดลใจให้ไอ้ไข่ ให้พรเราสมหวังทุกประการ
2.วัดเชิงท่า ใกล้กับคูไม้ร้องซึ่งเป็นอู่เก็บเรือพระที่นั่ง ในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในละคร“บุพเพสันนิวาส” จะมีฉากวัดนี้ปรากฎอยู่ในตอนที่แม่หญิงการะเกดมาทำบุญกรวดน้ำพร้อมคุณพี่หมื่นภายในศาลาการเปรียญหลังใหญ่
3.วัดกษัตราธิราชวรวิหาร ชื่อของวัดทำให้สันนิษฐานว่า คงเป็นวัดที่กษัตริย์ ในสมัยกรุงศรีอยุธยาทรงสร้าง หลังคาพระอุโบสถประกอบด้วยเครื่องไม้ที่แกะสลักอย่างงดงาม สืบทอดรูปแบบมาจากสมัยกรุงศรีอยุธยา ตามความเชื่อผู้ใดได้มากราบมาไหว้จะประสบผลสำเร็จในหน้าที่การงานก้าวหน้ายิ่งใหญ่ขึ้น มีข้าราชการ ทหารตำรวจ จะมาขอพรบารมีเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง มีรูปหล่อสมเด็จพระพนรัตน์ (หลวงพ่อแก่) เป็นพระอาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีที่วัดแห่งนี้แห่งเดียวเท่านั้น ผู้ใดมาขอพรจะได้ตามความประสงค์ ยังมีรูปหล่อของหลวงปู่เทียม อดีตเจ้าอาวาส พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ทางด้านอยู่ยงคงกระพัน และเมตตาได้สร้างชื่อเสียงไว้อย่างมาก ได้รับขนานนามว่า “เทพเจ้าแห่งตะกรุด”
4.วัดไชยวัฒนาราม หรือ วัดชัยวัฒนาราม เป็นวัดสมัยอยุธยาตอนปลาย เป็นวัดที่มีกลุ่มสิ่งปลูกสร้างงดงามมาก มาอยุธยาไม่ควรพลาด วัดนี้อาจถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือเขมรด้วย จึงทำให้มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมส่วนหนึ่งมาจากปราสาทนครวัด และในละคร “บุพเพสันนิวาส” มีฉากของวัดนี้อยู่ด้วยคือ ฉากแรก-เกศสุรางค์และเรืองฤทธิ์มาหาข้อมูลทางโบราณคดีที่วัดนี้ และพบกับวิญญาณแม่หญิงการะเกด
12.30 (มื้อ2) อาหารเที่ยง ณ ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือชามยักษ์ ห้อยขา เมื่อพูดถึง อยุธยา อาหารขึ้นชื่อของที่นี่ คงหนีไม่พ้น "ก๋วยเตี๋ยวเรือ" มาลองร้านที่เขาร่ำลือกันโด่งดังในโลกออนไลน์ จุดเด่นของร้านคือนั่งห้อยขา ติดริมน้ำลมพัดเย็นสบาย ถือว่าเป็นที่แรกในอยุธยา ที่ได้ชมวิวริมแม่น้ำ มองเห็นวัดพุทไธสวรรค์ฝั่งตรงข้าม ทั้งมีเรือแล่นผ่าน เพลิดเพลินทั้งการทานก๋วยเตี๋ยว สมดังสโลแกนของร้าน "ก๋วยเตี๋ยวเรือห้อยขา กินหลักสิบ วิวหลักแสน" ทางร้านคิดค้นเมนูใหม่ คือ ก๋วยเตี๋ยวเรือชามยักษ์ ที่สั่งทำโดยเฉพาะใบละ 2,700 บาท แต่ขายใส่ก๋วยเตี๋ยวที่อัดแน่นเต็มชามถือว่าคุ้มแน่นอน
13.00 ล่องเรือต่อ
5.วัดพุทไธศวรรย์ เป็นพระอารามหลวงที่ใหญ่โตและมีชื่อเสียง ปรากฏตามตำนานว่าพระเจ้าอู่ทองทรงสร้างขึ้นในบริเวณพลับพลาที่ประทับเมื่อทรงอพยพมาตั้งอยู่ก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เมื่อสถาปนากรุงแล้วเสร็จ จึงโปรดให้สร้างวัดนี้ขึ้นเป็นพระราชอนุสรณ์ และในละคร “บุพเพสันนิวาส” ปรากฏวัดนี้ 2 ฉากด้วยกัน ฉากแรกคือฉากหมื่นสุนทรเทวา และหมื่นเรืองราชภักดีฝึกดาบฝึกอาคมในสำนักอาจารย์ชีปะขาว และฉากที่ 2 คือ แม่หญิงการะเกดลอดผ่านม่านอาคมของอาจารย์ชีปะขาวเข้ามายังบริเวณวัด เชื่อว่าทุกท่านจะได้สัมผัสถึงความเข้มขลังจากวัดนี้อย่างแน่นอน
6.วัดนางกุย ตั้งชื่อตามผู้สร้าง ซึ่งนางเป็นผู้ที่มีทรัพย์สินเงินทองมากในสมัยนั้น ในอดีตมีความเจริญรุ่งเรืองมาก เราสามารถพบเจอพระพุทธรูปหลายๆ องค์ที่มีความสวยงามแปลกตา และมีพุทธศิลป์ที่แตกต่างกันออกไป วัดนี้มีสิ่งที่นาสนใจหลายอย่าง ได้แก่ 1)พระประธานอายุกว่า 400 ปี 2) พระพุทธรูปศิลาปางสมาธิ สมัยทวารวดี พุทธศตวรรษที่11-16 3) หลวงพ่อยิ้ม เป็นพระเก่าแก่อยู่คู่กับวัดมาช้านาน (เล่ากันว่า หลวงพ่อได้ลอยมาตามแม่น้ำเจ้าพระยามาติดอยู่หน้าวัด จึงได้อัญเชิญไปประดิษฐ์ฐาน ณ พระอุโบสถ) 4)เจดีย์ พระปรางค์ 5) แม่นางตะเคียน เจ้าแม่ตะเคียนทอง อยู่คู่วัดมานานกว่า 400 ปี สักการะบูชา ขอโชคขอลาภ ชาวบ้านเชื่อว่าเจ้าแม่ตะเคียนทองจะชอบคนที่มาจากที่ไกล เวลาไปขอโชคขอลาภมักจะได้มา (เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงเพราะมีคนเจอมากับตัว เมื่อ พ.ศ 2548 ได้ไปสักการะบูชาพระ ทำสังฆทานที่วัดนี้ และได้เข้าไปขอโชคลาภกับเจ้าแม่ตะเคียนทอง ปรากฏว่าถูกรางวัลที่ 4 หลังจากนั้นก็ไปแก้บน และก็ถูกมาเรื่อยๆ ติดกันหลายครั้ง (แล้วแต่ความเชื่อของบุคคล) หลังจากทำบุญเสร็จ ก็ไปทำทานโดยการให้อาหารปลาได้ที่หลังวัด เป็นท่าน้ำติดกับแม่น้ำ
7.วัดพนัญเชิงวรวิหาร คำว่าพนัญเชิงมากจากคำว่า “พแนงเชิง” มีความหมายว่า “นั่งขัดสมาธิ” จึงหมายถึงวัดแห่งพระพุทธรูปนั่งปางมารวิชัย ซึ่งเป็นองค์พระประธาน และเป็นพระพุทธรูปนั่งปางมารวิชัยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอยุธยา ชาวบ้านนิยมเรียก “หลวงพ่อโต” ชาวจีนเรียกว่า “ซำปอกง” ตามคำให้การชาวกรุงเก่าเล่าว่า เมื่อใกล้จะเสียกรุงศรีอยุธยา พระพุทธปฏิมากรองค์ใหญ่ในพระวิหารหลวง มีน้ำพระเนตรไหลออกทั้งสองข้างจรดพระนาภี ถือเป็นเรื่องอัศจรรย์นัก เหตุนี้ประชาชนจึงมีความเคารพนับถือมาก ผู้คนแน่นขนัดทุกเทศกาล ส่วนใครอยากขอพรเกี่ยวกับความรักหรือขอให้มีบุตร ให้ไหว้ เจ้าแม่สร้อยดอกหมาก อยากมีโชคลาภให้ขอพรกับ ไฉ่ สิ่ง เอี๊ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ว่ากันว่า วัดพนัญเชิง เป็นวัดมหามงคล ศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องการค้าและหน้าที่การงาน ผู้ที่ประกอบธุรกิจนิยมมาไหว้เป็นประจำทุกปี
8.วัดพิชัยสงคราม มีนามปรากฏในราชพงศาวดารว่า "วัดพิชัย" บางแห่งเขียนว่า "วัดพิไชย" ได้เปลี่ยนนามใหม่เป็น "วัดพิชัยสงคราม " ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ประมาณรัชกาลที่ 4 หรือ 5 ในคราวที่ได้นี้การบูรณะปฏิสังขรณ์ เนื่องจากเป็นวัดร้างในช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นต้นมา ที่ได้นามอย่างนั้นถือเอาเหตุผลที่สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีได้ตีฝ่าวงล้อมข้าศึก ออกจากวัดพิชัยมาได้ นับว่าได้รับชัยชนะ ต่อมาเมื่อมีการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดขึ้น จึงขนานนามวัดเสียใหม่ เป็นการเทิดพระเกียรติแลอนุสรณ์แห่งสถานที่วัดนี้
16.00 ขึ้นรถ
18.00 ทำธุระส่วนตัว
18.30 อาหารเย็น (ตามอัธยาศัย) ณ ตลาดโต้รุ่ง องค์พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม จะเปิดขายกลางลานกว้างๆ ในวัดพระปฐมเจดีย์ ซึ่งคนนครปฐมจะเรียกว่า โต้รุ่งองค์พระ มีเอกลักษณ์อย่างหนึ่งคือ ทุกๆ วันจะมีเสียงตามสายชวนให้ทำบุญ ขณะที่ร้านค้ากำลังขายอาหารต่างๆ ตั้งแต่ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ หอยทอด ทอดมัน บัวลอยแต้จิ๋ว ขนมหวาน ไอศกรีม น้ำแข็งไส ลูกชิ้นทอด ฯลฯ เริ่มขายตั้งแต่เวลา 18.00 น. ช่วงแดดร่ม ลมตก ตลาดนี้ เป็นศูนย์รวมการกินของคนทุกเพศทุกวัย
19.00 กราบไหว้ขอพร องค์พระปฐมเจดีย์ พระมหาเจดีย์ทรงระฆังคว่ำที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ถือเป็นอีกสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทยนิยมไปสักการะกันเป็นจำนวนมาก เพราะที่แห่งนี้เป็นปูชนียสถานอันสำคัญของประเทศไทย มีประวัติความเป็นมายาวนาน และเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระพุทธเจ้าเอาไว้ เมื่อกราบไหว้ขอพรกันครบ 9 วัดแล้ว มีบุญไปฝากไอ้ไข่กันเต็มๆ ก็ได้เวลาเดินทางต่อ
20.00 ขึ้นรถ
วันที่สาม
วันศุกร์ ที่ 20 พฤศจิกายน 63
6.00 ทำธุระส่วนตัว
6.30 ขึ้นรถ
7.00 (มื้อ3) อาหารเช้า ร้านโจ๊กกลางซอย อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
7.30 ขึ้นรถ
8.00 ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช “ไอ้ไข่” เป็นวิญญาณเด็กศักดิ์สิทธิ์ มีตำนาเล่าสืบต่อกันมาหลายแบบ บ้างก็ว่า ชาวบ้านแถวนั้นเคยเห็นเด็กวิ่งเล่นอยู่ในบริเวณวัดเสมอๆ แต่เมื่อเข้าไปดูก็ไม่พบว่ามีเด็กมาอยู่อาศัยในบริเวณนั้นแต่อย่างใด เมื่อเจอบ่อยๆ เข้าชาวบ้านจึงเชื่อว่าเด็กที่ปรากฏให้เห็นนั้นเป็นวิญญาณ และเรียกว่าเป็น “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์” เมื่อใครมีเรื่องเดือดร้อน ข้าวของสูญหายก็มักมากราบไหว้บนบานไอ้ไข่ให้ช่วยเหลือ อีกตำนานหนึ่งก็ว่า ไอ้ไข่คือวิญญาณเด็กที่ติดตามหลวงปู่ทวด เกจิดังแห่งปักษ์ใต้เมื่อหลวงปู่ธุดงค์มาถึงบริเวณที่เป็นวัดเจดีย์ในปัจจุบันก็รับรู้ด้วยแผ่นดินอยู่ที่นี่ ทางวัดได้สร้างรูปจำลองของไอ้ไข่ให้ผู้คนมากราบไหว้ปิดทอง ในแต่ละวันก็จะมีผู้คนเดินทางมากราบไหว้กันไม่ขาดสาย ส่วนมากแล้วก็จะมาขอเรื่องโชคลาภ ให้ร่ำให้รวย ให้ค้าขายได้กำไรดีเงินทองไหลมาเทมา บ้างก็มาขอเรื่องของหายขอให้ได้คืน ฯลฯ และสิ่งของที่นำมาแก้บนนั้นก็มีหลากหลาย ที่เห็นมีเป็นจำนวนมากก็เป็นพวกรถของเล่น ชุดเสื้อผ้าของเด็ก ชุดทหารของเด็ก ตุ๊กตาทหาร ตุ๊กตาไก่ชน รวมไปถึงขนม น้ำแดง และไข่ต้ม อีกทั้งบางคนยังเลือกการจุดประทัดเพื่อแก้บนอีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งแรงศรัทธา ที่เขาเล่ากันว่า “ขอได้-ไหว้รับ” ที่ศักดิ์สิทธิ์ไม่น้อย
9.00 ขึ้นรถ
10.00 วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช สร้าง พ.ศ. 854 ภายในบรรจุพระทันตธาตุ (ฟันของพระพุทธเจ้า) เป็นพระเจดีย์ขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้ และเป็นเจดีย์ทรงระฆังขนาดใหญ่องค์แรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรียกขานว่าเป็น “พระธาตุทองคำ” เนื่องจากปลียอดหุ้มด้วยทองคำเหลืองอร่าม ยามแสงแดดตกต้ององค์พระธาตุ เหลื่อมเงากลับทาบทอดไม่ถึงพื้น จนดูเหมือนพระธาตุไม่มีเงา จึงเรียกขานว่า “พระธาตุไร้เงา” อีกฉายาหนึ่ง ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวนครฯ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญของภาคใต้ และไม่แต่พุทธศาสนิกชนชาวไทยเท่านั้น ชาวจีน มาเลเซีย สิงคโปร์ นิยมเดินทางมาสักการะบูชากันอย่างต่อเนื่อง และในวัด มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์นามว่า “พระกัจจายนะ” ชาวบ้านเรียกว่า “พระแอด” นิยมมาขอพรในเรื่องสุขภาพ-ความเจ็บป่วย เชื่อกันว่าพระแอดจะช่วยดลบันดาลให้หายจากความเจ็บไข้ โดยเฉพาะอาการปวดเมื่อย ปวดเอว ปวดหลัง อีกหนึ่งอภินิหารคือการ “ขอลูก” เชื่อว่าท่านมีเมตตาบันดาลลูกให้แก่ผู้ที่มีลูกยาก ยังมีพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งที่คนนิยมไปขอลูก คือ “พระพวย” และในวิหาร​พระ​ม้า​ เป็น​วิหาร​ที่มีบันไดทอดเป็นทางขึ้น​สู่ลานประทักษิณ​รอบองค์​พระ​บรม​ธาตุ​เจดีย์​ ตรง​ส่วน​ยอด​บันไดมีรูปปั้น​ คือ “ท้าวจตุคาม-รามเทพ​” และท้าวจตุโลกบาล​ทั้ง 4 มีหน้า​ที่​อภิบาล​รัก​ษาพระ​บรม​ธาตุ​และเมืองศรีวิชัย​ มีความเชื่อ​เชื่อมโยง​ว่า​ “จตุคาม-รามเทพ” คือ​ พระเจ้าจันทรภานุ หรือ​ พญาศรีธรรม​าโศก​ราช อดีต​กษัตริย์​แห่งนครศรีธรรมราช​ พระองค์ได้สู้รบ​กับกองทัพทมิฬ​จาก​อินเดีย​ใต้​ จัดสร้าง​พระ​บรม​ธาตุ​ สถาปนา​เมือง​ 12 นักษัตร​ หรือ​กรุงศรี​ธรรม​โศก ​สืบทอด​พระ​พุทธ​ศาสนา​ เป็น​อาณาจักร​ยิ่งใหญ่ มีหัว​เมือง​ขึ้น​ถึง ​12 เมือง เรียก​ว่า เมือง​ 12 นักษัตร มีความเชื่อว่า จตุคาม-รามเทพ ทรงฤทธานุภาพในทุกด้าน ตามจารึกของชาวศรีวิชัยได้บอกว่า”มีอานุภาพดุจดังพระอาทิตย์และพระจันทร์ ที่ขจัดความมืดมัวในโลก อธิษฐานขอในสิ่งที่เป็นไปได้ ไม่ขัดต่อศีลธรรม เมื่อได้รับสิ่งที่หวังแล้ว ต้องรักษาสัจจะที่ได้ให้กับพระองค์ ควรสร้างกุศลถวายแด่องค์จตุคาม-รามเทพ ที่สำคัญ อย่าเพียงอธิษฐาน ต้องสร้างกุศลให้แก่ตนครบทุกด้านด้วย ให้ทาน รักษาศีล และบำเพ็ญภาวนา 11.00 ขึ้นรถ
11.30 (มื้อ4) อาหารเที่ยง ร้านขนมจีนป้าเขียว อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช บอกเลยไม่มีใครไม่รู้จัก ไม่ต้องหมุดกูเกิ้ล ถามคนลานสกาใครๆ ก็รู้จักมักจี่ร้านอันโด่งดังนี้ ป้าเขียว ลานสกา ไม่ได้ชื่อเท่อย่างเดียว แต่อร่อยด้วย ฝีมือการทำน้ำยาขนมจีนอันลือลั่น ให้เยอะแบบไม่อั้น แถมใจดีจนเป็นที่รักของคนละแวกนี้ มีหรือที่เราจะไม่ไปหรอย บรรยากาศธรรมชาติกลางสวนกล้วย ลมพัดเย็นสบาย ไม่อิ่มก็กินไปเรื่อยๆ จบขนมจีนก็ต่อของหวานได้สบายๆ ไม่ต้องรีบร้อน โดยมีน้ำยาทั้งหมด 4 แบบคือ ไตปลา รสชาติเข้มเผ็ดสะเด็ดสะเด่า เป่าปากรัวๆ เลยจ้า น้ำพริกหวาน หวานกำลังดีกินตัดกับรสเผ็ดร้อนของน้ำยาไตปลาได้อยู่หมัด น้ำกะทิ ไม่ถึงกับข้นมากแต่มีความหอมกะทิ รสชาตินวลๆ เผ็ดกลางๆ ราดลงไข่ต้มหรอยแรงเข้ากั๊นเข้ากัน และ น้ำแกงป่า ก็จะออกแนวใสๆ ได้กลิ่นเครื่องแกงอ่อนๆ รสชาติเบาๆ ไม่จัดนัก แล้วยังมีพริกน้ำปลาด้วยนะ น้ำปลานี่ยังอร่อยอ่ะ ออกหวานนิดๆ มีหอมซอย ราดลงขนมจีนกินแกล้มกับผักยังเข้ากันได้อีก ที่ขาดไม่ได้เพื่อเพิ่มอรรถรสในการกินก็คือผักเคียงสารพัดชนิดสำหรับกินแกล้ม ไม่ว่าจะเป็นผักดอง ผักลวก ผักสด ซึ่งร้านของป้าเขียวจะใช้ผักพื้นบ้านที่ปลอดสารพิษทั้งหมดไม่อั้นจ้า ยังมีไข่ต้ม ห่อหมก ไก่ทอดร้อนๆ ส่วนเครื่องดื่มก็มีน้ำดื่มเย็นๆ ชา กาแฟ ไมโล โกโก้เย็น หรือไม่ว่าจะเป็นน้ำสมุนไพร น้ำอัดลม เขาก็มี นั่งทานกันให้ท้องแตกไปข้างนึงเลย ป้าเขียวบอกทานได้เรื่อยๆ
12.30 ขึ้นรถ
15.30 เข้าที่พักแบบ (Pool Villa) พูลวิลล่า อ่าวนาง จ.กระบี่ บ้านพักที่มาพร้อมกับ สระว่ายน้ำส่วนตัว เป็นที่พักอีกแบบหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเป็นการเข้ามาพักผ่อนสไตล์บ้านพักตากอากาศ จุดเด่นก็คือสามารถเข้ามาพักได้หลายคนภายในที่พักแห่งเดียว เปรียบได้กับการพักผ่อนในบ้านของคุณกับเครือญาติ หรือมิตรสหาย และในปัจจุบันก็มีบ้านพักพูลวิลล่าเปิดให้บริการมากมายอย่างแพร่หลาย ในทำเลแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตต่างๆ และภายในบ้านพักก็ยังมี สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกมากมาย ห้องพักที่พักได้อย่างสบาย และยังมีห้องครัว ที่มาพร้อมอุปกรณ์ครัว สามารถมาพักผ่อนร่วมกันทำอาหาร และแทบทุกหลังยังมีเตาปิ้งย่าง ทานอาหารกันริมสระ ร้องคาราโอเกะ หรือเล่นเกม เป็นอีกกิจกรรมที่มาพักในบ้านพักพูลวิลล่า นั้นห้ามพลาดเลยทีเดียว
16.30 ร่วมกันเตรียมทำอาหารปิ้งย่าง
18.00 (มื้อ5) อาหารเย็น ปิ้งย่างอาหารทะเล
ร้องคาราเกะ/ดูดวงไพ่ยิปซี ค่าครูตามจิตศรัทธา
วันที่สี่
วันเสาร์ ที่ 21 พฤศจิกายน 63
7.30 เช็คเอาท์/นำสัมภาระขึ้นรถตู้/(มื้อ6) อาหารเช้า
8.30 ขึ้นรถ (ทัวร์ท้องถิ่น) วันนี้ท่านจะได้สนุก เพลิดเพลินกับการดำน้ำดูปะการัง-ว่ายน้ำดูปลา-สัมผัสใต้ทะเล-สัมผัสท้องฟ้า ที่งดงามหลังโควิด-19ไฮไลต์ของทัวร์
ชมปรากฎการณ์ทะเลแหวก สถานที่สุด Unseen Thailand ของจังหวัดกระบี่
สัมผัสหาดทรายขาวที่ทอดยาวเปรียบสะพานที่เชื่อมติดต่อกันทั้งสามเกาะ ที่สามารถเดินจากเกาะหนึ่งไปยังอีกเกาะหนึ่งได้ในเวลาน้ำลด ชมกิจกรรมปีนหน้าผาที่มีชื่อชื่อเสียงระดับโลก
9.30 เตรียมตัวลงเรือ พร้อมฟังไกด์อธิบายรายละเอียดโปรแกรมทัวร์และออกเดินทางโดยเรือหางยาว(เหมาลำ)
10.00 เกาะไก่ จอดเรือลอยลำ ลงเล่นน้ำ ดำน้ำ ชมฝูงปลา ถ่ายภาพคู่กับเกาะไก่ ลักษณะเป็นภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางน้ำรูปร่างคล้ายคอไก่
11.00 ชมปรากฎการณ์ทะเลแหวก สัมผัสหาดทรายที่ขาวเนียนละเอียด ทอดตัวยาวที่เชื่อมติดต่อกันทั้งสามเกาะ ได้แก่ เกาะไก่ เกาะหม้อ และเกาะทับ ที่เราสามารถเดินจากเกาะหนึ่งไปยังอีกเกาะหนึ่งได้ในเวลาน้ำลด น้ำทะเลที่นี่สวยสีฟ้าใส เหมาะแก่การพักผ่อน เล่นน้ำ นอนอาบแดดบนสันทรายที่เนียนนุ่ม และเก็บภาพประทับใจ
12.00 (มื้อ7) อาหารเที่ยง (ข้าวกล่อง) เกาะปอดะ กับบรรยากาศที่เงียบสงบและร่มรื่นรืมชายหาด หลังจากนั้นสามารถเลือกเล่นน้ำ ดำผิวน้ำชมฝูงปลา หรือเลือกที่จะพักผ่อนตามอัธยาศัย เกาะแห่งนี้ ถือเป็นแลนค์มารค์ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง ของการมาท่องเที่ยวกระบี่ มีวิวหน้าผาของภูเขาสูงชันที่ตั้งโดนเด่นอยู่กลางน้ำ น้ำทะเลสีฟ้าใส ผืนทรายสะอาดเนียนุ่มเท้า และบนเกาะมีห้องน้ำของอุทยานไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย
13.00 ออกเดินทางไปยัง หาดไร่เลย์จุดที่เรือจะไปจอดให้ท่านคือ ถ้ำพระนาง หากท่านต้องการขอเนื้อคู่ ความรัก ขอสิ่งที่ท่านปารถนากับพระนางในถ้ำพระนาง และอย่าลืมกลับมาแก้บนด้วยปลัดขิกหากพรนั้นสัมฤทธิ์ผล แล้วมาเล่นน้ำหน้าหาด นอนอาบแดดบนหาดทรายที่ขาวสะอาดไม่แพ้หาดอื่นๆ เดินชมหินงอกหินย้อยและชมกิจกรรมปีนหน้าผาที่ชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก (บนหาดมีห้องน้ำและร้านค้า) หลังจากนั้นเรือนำท่านเดินทางกลับมาถึงท่าเรือ
16.00 ขึ้นฝั่ง อาบน้ำจืด
16.30 ขึ้นรถ
17.00 อาหารเย็น (ตามอัธยาศัย) / เที่ยวถนนคนเดินกระบี่ กิน-ช้อป-สัมผัสบรรยากาศค่ำคืนในเมืองกระบี่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกระบี่ สถานที่ไม่ได้กว้างอะไรมากมาย สามารถเดินได้ทั่วทุกซอกทุมมุม ถนนคนเดินกระบี่เปิดทุกเย็นวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ใครที่มาช่วงนี้ก็ต้องมาเดินเล่นที่นี่ให้ได้ เดินเที่ยว ช้อปเสื้อผ้า ของฝาก กินซีฟู้ด นั่งดื่มหน้าเวทีกลาง ฟังเพลงสากล เพลงท้องถิ่นเพลินๆกันได้ หลังจากเที่ยวชมที่นี่แล้วลองเดินออกไปเดินริมเขื่อนรับลมทะเล-สัมผัสบรรยากาศค่ำคืนของตัวเมืองกระบี่แล้วจะหลงรักกระบี่จนไม่อยากกลับแน่นอน
20.00 ขึ้นรถ

วันที่ห้า
วันอาทิตย์ ที่ 22 พฤศจิกายน 63
1.00 แวะพักร้านคุณสาหร่าย จ.ชุมพร เป็นร้านอาหารและของฝาก บริการอาหารพื้นเมือง อาหารตามสั่งยังเป็นศูนย์รวมของฝากต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมจอดแวะซื้อหาติดมือมาฝาก เนื่องด้วยความหลากหลายนี้เอง การจอดแวะสักครั้งทำให้ได้ของฝากครบ "ขนมและของฝากมากมายหลายยี่ห้อ ให้เลือกจุใจจนตาลาย" ไม่ธรรมดาจริงๆ แวะที่เดียวรับรองคุ้มค่ากับเวลาครับ ได้ของฝากจากที่นี่ติดมือมาเพียบ เดินเข้าไปในร้านก็จะเห็นที่นั่งที่เตรียมไว้มากมาย รองรับนักท่องเที่ยวได้เป็นร้อยคนทีเดียว ภายในร้านคุณสาหร่าย โต๊ะเรียงราย และการจัดวางร้านอาหารหลากหลายเป็นซุ้มๆ ให้เลือกได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นข้าวอาหารจานเดียว ก๋วยเตี๋ยว หรือก๋วยจั๊บมีให้เลือกทั้งสิ้น เมนูเด็ดที่ขอแนะนำคือข้าวต้มปลากะพง เครื่องเล่นสำหรับเด็กร้านคุณสาหร่าย ระหว่างทานอาหารมีเครื่องเล่นสำหรับเด็กจะได้ไม่เบื่อเวลารอผู้ใหญ่ทานข้าวกัน หรือว่าเลือกของฝากนานๆ
2.00 ขึ้นรถ
7.00 ทำธุระส่วนตัว
8.00 (มื้อ8) อาหารเช้า ร้านDoนม Coffee | Milk | Food | Culture “ห้องนั่งเล่นเมืองโพธาราม” นอกจากชื่อที่แปลกแล้ว…บรรยากาศของร้านยังเก๋ไก๋ ไปด้วยดีไซน์ของอดีตผสมปัจจุบันได้อย่างลงตัว เข้ากับย่านชุมชุนตลาดเก่า อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ที่มีชื่อเสียงเรื่อง “เมืองน่าอยู่” สำหรับผู้ที่โหยหาอดีตควรแวะมา ที่นี่เสมือนห้องรับแขกของเมืองโพธารามเป็นจุดนัดพบเพื่อน ชิมเครื่องดื่ม อาหารว่าง ขึ้นชื่อเรื่องนมสด เพราะได้นำนมสดๆ จากฟาร์มหนองโพ ซึ่งเป็นฟาร์มนมชื่อดังของ จ.ราชบุรี ด้านหลังร้านยังจัดเป็นสวนให้ลูกค้านั่งเพลินกับบรรยากาศร่มรื่นเย็นสบาย จนเป็นที่ถ่ายทำละคร ภาพยนตร์ และรายการทีวีหลากหลายเรื่อง ร้านตั้งอยู่ในย่านตลาดเก่าโพธาราม จนทุกวันนี้เป็นจุดแลนด์มาร์คของเมืองโพธาราม คุณอภิชาติ เจ้าของร้าน DOนม (บรรณาธิการ นิตยสาร Travel Guide และประธานชมรมอย่าลืมโพธาราม) เป็นคนโพธารามที่จับและดึงเอาเสน่ห์ของเมืองโพธารามมาใส่ในร้าน Doนม โดยยังคงเสน่ห์เมืองเก่าโพธารามเอาไว้ สถานที่เที่ยวเช็คอินบรรยากาศดี
9.00 ขึ้นรถ
11.30 (มื้อ9) อาหารเที่ยง/วัดม่วง จ.อ่างทอง คุณเคยได้ยินไหมว่า พระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ นั้นอยู่ที่นี่ เราขอพาทุกท่านไปสักการะหลวงพ่อใหญ่ โครงการสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ ก่อสร้างเป็นคานคอนกรีตเสริมเหล็กเป็นชั้น ๆ แบบโครงสร้างตึกสูง 32 ชั้น ก่ออิฐถือปูนฉาบทาสีทองตลอดทั้งองค์ “พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ” พระนามนี้หลวงพ่อเกษมตั้งใจสร้างองค์พระเพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 คณะลูกศิษย์หลวงพ่อเกษม ได้พร้อมใจรวมพลัง ช่วยกันสร้างร่วมกับ ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาด้วย จนการก่อสร้างองค์พระเสร็จสมบูรณ์ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2550 มีระยะเวลาก่อสร้างรวมประมาณ 16 ปี และวัดหน้าตักองค์พระได้ 63.05 เมตร ความสูงจากฐานองค์พระถึงยอดเกศา วัดได้ 95 เมตร ใช้งบประมาณไปกว่า 100 ล้านบาท โดยวัดนี้ จัดอยู่ในแคมเปญ Dream Destinations 3 : เขาเล่าว่า … แคมเปญใหญ่ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยรวมเอาสถานที่ท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อ และตำนานเล่าขาน และการสัมผัสที่ปลายพระหัตถ์พระใหญ่ ความเชื่อว่า ขอให้ท่านประทานพรให้เติบโต เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน
13.00 ขึ้นรถ
14.00 ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน “เที่ยวย้อนยุค ลัดเลาะในถิ่นวีรชน ณ ตลาดบ้านระจัน” จ.สิงห์บุรี ถ้าพูดถึง “ค่ายบางระจัน” หลายคนต้องรู้จักกันแน่นอน กลุ่มชาวบ้านที่ได้สร้างวีรกรรม จารึกอยู่ในประวัติศาสตร์ชาติไทยตอนปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา บางระจัน หรือ บ้านระจัน ยุคไหนวัยไหน เป็นต้องได้ดูหนังดูละครกันทุ๊กกกกกคน ถึงแม้สถานที่นี้จะเคยคึกคักในอดีต แต่วันนี้ต้องบอกเลยว่า ‘บ้านระจัน’ ในตอนนี้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง กลายเป็นตลาดโบราณน่ารักๆ และอบอุ่น มีร้านค้าชาวบ้าน อาหารมากมาย มาเที่ยวแล้วรับรองไม่ท้องว่างกลับไป เพราะมีแต่ของอร่อยๆ น่ากินๆ แถมพ่อค้าแม่ค้า ก็ยังใส่ชุดและพูดจากันแบบชาวบ้านสมัยก่อน ดูแล้วได้บรรยากาศมากๆ ขนมไทยอาหารไทย หากินได้แทบทุกอย่างจากตลาดแห่งนี้ มาชิมมาลองอะไรที่ไม่เคยกิน ไม่เคยรู้จักกับอาหารไทยโบราณๆกันดูสักที แล้วยังมีสิ่งที่ชาวสิงห์บุรีเคารพนับถือ ให้เราได้เข้ามากราบไหว้ หรือขอพร พระอาจารย์ธรรมโชติ เมื่อสมหวังตามใจขอก็ได้มาหาบน้ำแก้บนใส่ในสระน้ำศักดิ์สิทธิ์กัน ที่นี่จะขึ้นชื่อมากเรื่องขอพรเรื่องทหารๆ ยิ่งช่วงไหนมีจับใบดำใบแดง จะเป็นได้เห็นคนแก้บนเป็นผู้ชายกันซะส่วนใหญ่ ที่นี่ยังมีการแสดงวีรกรรมของชาวบ้านที่ปกป้องเอกราชไว้ ได้ทั้งบันเทิงได้ทั้งสาระ ยิ่งถ้าสายกินนี่ยิ่งชอบแน่นอนนน 5555+ มีร้านนวดไทยไว้คอยให้บริการด้วยนะเจ้าค่ะ แล้วทุกคนจะได้ความสุขกลับไป ได้มาเรียนรู้อะไรจากชาวบางระจันกลับไปแน่นอน
15.00 ชมการแสดง
17.00 ขึ้นรถ
17.10 อนุสาวรีย์วีรชนและอุทยานค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี เป็นเมืองยุทธศาสตร์ในการศึกสงครามสมัยอยุธยาที่สำคัญด้วย เรื่องราวที่ได้รับการกล่าวขานมากที่สุดของท้องถิ่นนี้คือ วีรกรรมอันกล้าหาญของชาวบ้านบางระจันที่ช่วยต่อต้านทัพพม่าไว้ได้นาน ดังนั้นจึงมีการสร้างอนุสาวรีย์วีรชนขึ้น เพื่อเป็นการระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญนั้น รวมถึงอุทยานค่ายบางระจันด้วย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่ปัจจุบันสร้างให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เมื่อมาถึงจะเห็นอนุสาวรีย์วีรชนค่ายบางระจันเป็นรูปหล่อประติมากรรมของหัวหน้าชาวค่ายบางระจันทั้ง 11 คน สร้างโดยกรมศิลปากรปรากฏสวยเด่นเป็นสง่าอยู่ในสวน
17.30 ขึ้นรถ
19.30 อาหารเย็น (ตามอัธยาศัย) ณ ศูนย์อาหารขวัญ 2 จุดพักรถสายเหนือ จ.นครสวรรค์ ศูนย์อาหารครบวงจรราคามิตรภาพ ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว ก๋วยจั๊บ ข้าวขาหมู ข้าวหมูแดง พร้อม ด้วยของหวาน ไอศครีม น้ำแข็งใส กาแฟสดที่ใช้เมล็ดคุณภาพจากแบรนด์อโรม่า เข็มข้น กลมกล่อม รวมไปถึงของฝากมากมายมีให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็นโมจิของฝากขึ้นชื่อเมืองนครสววรค์ ขนมหม้อแกงที่ทำด้วยน้ำตาลจากเมืองเพชร ข้าวแต๋นน้ำแตงโมเมืองลำปาง และของฝากอื่นๆ อีกมายมายให้ลูกค้าได้นำติดไม้ติดมือฝากญาติๆ หรือเพื่อนๆ ห้องน้ำสะอาด มากมายหลายห้องที่พร้อมเตรียมไว้สำหรับรองรับผู้โดยสารได้ใช้บริการ นอกจากนั้น ในบริเวณที่กว้างขวางของศูนย์อาหารขวัญ 2 ยังมี ครัวมานา และคาเฟ่คอฟฟี่เวย์ ไว้รองรับผู้โดยสารที่ต้องการรับประทานอาหารตามสั่ง และสเต็ก
21.00 ขึ้นรถ

วันที่หก
วันจันทร์ ที่ 23 พฤศจิกายน 63
4.30 ถึงเชียงใหม่โดยสวัสดิภาพ และเตรียมพบกับสิริมงคล ที่จะบังเกิด ตามเจตจำนง ศรัทธาบารมีที่สร้างไว้
*โปรแกรมทัวร์อาจเปลี่ยนแปลงตามเหมาะสม

ท่านละ 6,789฿ อัตรานี้รวม
- ค่ารถตู้ VIP จำนวน 1 คัน พร้อมน้ำมัน และคนขับบริการนำเที่ยวตลอดรายการ
- ค่าไกด์นำเที่ยว
- ค่าที่พัก Pool Villa (เหมาหลัง) 1 คืน ตามรายการ (ห้องละ 3 ท่าน พักเดี่ยวต้องจ่ายเพิ่มเอง)
- ค่าอาหาร 9 มื้อ ตามรายการที่ระบุ และอาหารว่าง 1 มื้อ
- ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติ
- ค่าทัวร์ท้องถิ่น 2 ทริป
1) ทริป ล่องเรือไหว้พระ 8 วัด อยุธยา (เหมาลำ) เสื้อชูชีพ ประกันผู้โดยสาร
2) ทริป ล่องเรือหางยาว ดำน้ำ 4 เกาะ ทะเลแหวก (เหมาลำ) เสื้อชูชีพ อุปกรณ์ดำน้ำ ผลไม้ น้ำดื่ม ประกันผู้โดยสาร ค่าเข้าชมอุทยาน
สามารถแบ่งจ่ายได้ 3 งวด (งวดละ 2,263฿)
งวด 1) วันสำรองที่นั่ง (ด่วนจำนวนจำกัด จองก่อนเลือกที่นั่งก่อน)
งวด 2) 16 วันก่อนเดินทาง ( 3 พฤศจิกายน 63)
งวด 3) 7 วันก่อนเดินทาง (12 พฤศจิกายน 63)
*หากไม่โอนตามกำหนดถือว่าสละสิทธิ และไม่ได้รับเงินคืน
อัตรานี้ไม่รวม
- รายการอาหารนอกเหนือจากที่จัดให้ในโปรแกรม
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เครื่องดื่มในห้องพัก MiniBar เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์
- ค่าประกันอุบัติเหตุ
- ค่านวดไทย
- ทิปคนขับ
- ทิปไกด์นำเที่ยว
- ดูดวงไพ่ยิปซี
*หากต้องการให้รถตู้บริการรับ-ส่งนอกเส้นทาง คิดค่าบริการ 250 บาท/จุด
กรุณาโอน
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 667-400279-9
ชื่อบัญชี นายกิตติวัฒน์ ขวัญเรืองอริยะ
(โอนแล้วรบกวนส่งสลิปมาที่ ID LINE : cnxpop)
ติดต่อสอบถาม
อ.ป๊อป โทร. 082-171-7794
ID LINE : cnxpop

เมื่อเด็กวัดภาคใต้มาเยือนเชียงใหม่ ณ วัดท่าใหม่อิ ต้องไปต้อนรับไอ้ไข่เชิญมาจาก วัดเจดีย์ นครศรีฯ อยู่เชียงใหม่ได้ 9 วันแ...
15/09/2020

เมื่อเด็กวัดภาคใต้มาเยือนเชียงใหม่ ณ วัดท่าใหม่อิ ต้องไปต้อนรับไอ้ไข่เชิญมาจาก วัดเจดีย์ นครศรีฯ อยู่เชียงใหม่ได้ 9 วันแล้ว
(ตั้งแต่เสาร์ที่ 5 กันยายน ที่ผ่านมา เป็นวันแรงมาก)
ท่านเจ้าอาวาสบอกว่ามีโยมมาบนขอให้ขายที่ได้รอขายมา 2 เดือนแล้ว
คุณพระ!
เพียงสองวันก็ได้ขาย
จึงนำไข่พันฟองมาถวายดังรูปนี้
สาธุ ไอ้ไข่อยากให้ทุกคนเข้าวัดทำบุญเยอะๆร่วมกันจรรโลงพระพุทธศาสนาสืบไป
ปล.ไอ้ไข่ชอบไก่ชน ใครบนระบำไก่ชน บนได้นะ รับแสดงแก้บนจ้า
ให้ไวๆ พรุ่งนี้รวย

03/09/2020

ทริป “ที่สุดแห่งศรัทธาพญานาค”

1-3 ตุลาคม 63
คำชะโนด - บั้งไฟพญานาค - ตลาดท่าเสด็จ - หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย - สระมุจลินท์ พระธาตุบังพวน
- พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน - รูพญานาค วัดโพนชัย - วัดพระธาตุศรีสองรัก

วันแรก
วันพฤหัสบดี ที่ 1 ตุลาคม 63
- 17.07 ออกเดินทาง / บริการของว่าง

วันที่สอง
วันศุกร์ ที่ 2 ตุลาคม 63
- 7.07 ถึงวัดศิริสุทโธ หรือวัดป่าคำชะโนด เวียงวังนาคินทร์ป่าคำชะโนดแดนประกาย
โลกภพภูมิพยานาคนครเมืองบาดาลนครเมืองบังบด สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่าบูชาวัตถุของขลัง บริการของว่าง / หรือจะทานอาหารเช้า (ตามอัธยาศัย)
- 9.07 กราบไหว้ขอพรพ่อปู่แม่ย่านาคราช ต้นประดู่โบราณและบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ณ
1) คำชะโนดวังนาคิน เชื่อว่าเป็นสิริมงคลและทำให้โชคดี จึงทำให้หลายๆ คนตั้งเป้าหมายว่าในชีวิตนี้ต้องมาเยือนป่าอัศจรรย์แห่งความโชคดีนี้ให้ได้สักครั้ง
- 11.07 ทานอาหารเที่ยง (ตามอัธยาศัย)
- 12.07 เดินทางสู่ เมืองหนองคาย
- 13.07 เช็คอินโรงแรมอาบน้ำพักผ่อน หรือช้อปปิ้ง 2)ตลาดท่าเสด็จ หรือ ตลาดอินโดจีน
แหล่งจำหน่ายสินค้าจากกลุ่มประเทศอินโดจีน ยังมีอาหารพื้นเมือง สินค้า OTOP ประจำตำบล ของที่ระลึก และของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ล้วนแล้วแต่สามารถซื้อไปเป็นของฝากได้
- 14.57 ขึ้นรถตู้ VIP ของทางโรงแรมไป บ้านม่วง อำเภอรัตนวาปี จุดที่บั้งไฟพญานาค
มักจะขึ้นเป็นจำนวนมาก เราบริการด้วยเก้าอี้ส่วนตัว ไม่ต้องไปแย่งใคร ไม่ต้องปูเสื่อนั่งพื้นให้เมื่อย และที่สำคัญไม่ต้องไปนั่งรอคิวทนร้อนตั้งแต่ช่วงบ่าย จุดที่นั่งชมเราจะแบ่งเป็น zone ซึ่งแต่ละโซนจะมีที่นั่ง 50 แถว เป็นจำนวน 4 โซน เพื่อให้ท่านได้ชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคอย่างชัดเจน (บริษัททัวร์ท้องถิ่นดูแล)
- 17.57 เพลิดเพลินไปกับการทานอาหารค่ำ (ฟรี) มีแบบ box set พร้อมของว่าง แบบbuffet
ไม่อั้น เช่น ขนมจีนน้ำยา ส้มตำ เฟร้นซ์ฟราย ลูกชิ้นทอด ผลไม้รวม น้ำดื่ม เครื่องดื่มร้อน-เย็น บริการ และ 3) ชมบั้งไฟพญานาค ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่ต้องพิสูจน์ด้วยตาตนเองได้เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น
- 22.37 กลับถึงโรงแรม

วันที่สาม
วันเสาร์ ที่ 3 ตุลาคม 63
- 7.07 ทานอาหารเช้าของทางโรงแรม (ฟรี)
- 7.37 เช็คเอาท์ รถออก
- 8.07 4) หลวงพ่อพระใส ประดิษฐานอยู่ ณ วัดโพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองคาย ตำนาน
พระพุทธรูปหนึ่งเดียวที่พญานาคได้มาร่วมสร้าง
- 9.07 ขึ้นรถเดินทางต่อไป
- 9.37 5) สระมุจลินท์ อยู่ภายในวัดพระธาตุบังพวน อ.เมือง จ.หนองคาย มีความศักดิ์สิทธิ์และมี
ชื่อเสียงมาก เป็นสระน้ำสำคัญประจำจังหวัดหนองคาย น้ำในสระแห่งนี้เป็น 1 ใน 108 จากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศที่ถูกนำไปใช้ในพิธีสรงมูรธราชาภิเษกและน้ำอภิเษก พิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา และพิธีศักดิ์สิทธิ์สำคัญของประเทศไทย เมื่อมาที่นี่แล้วต้องอย่าพลาดชม “สัตตมหาสถาน”โบราณ ที่เป็นของดีระดับโลก หลงเหลือในโลกนี้อยู่เพียงไม่กี่แห่ง
- 10.37 ขึ้นรถเดินทางต่อไป
- 12.07 แวะทานอาหารเที่ยงระหว่างทาง (ตามอัธยาศัย)
- 12.57 ขึ้นรถเดินทางต่อไป
- 14.07 ร่วมชม 6) พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน อ.ด่านซ้าย จ.เลย เป็นสถานที่เก็บ และจัดนิทรรศการ
เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ รวมถึงผีตาโขนที่มีความเชื่อกันว่าเป็นการละเล่นพื้นบ้านที่สืบทอดมาแต่โบราณกาล
- 14.37 เข้าไปกราบสักการะ “องค์พระเจ้าใหญ่” ร่วมกันทำบุญเพื่ออุทิศถวายแด่องค์
พญานาคทั้งหลาย ด้วยความศรัทธาในหัวใจ ขอให้ท่านคุ้มครองแคล้วคลาดภยันตรายต่างๆ ทั้งหลายทั้งปวง ไม่มีเคราะห์โศกโรคภัยอย่าได้กล้ำกราย ทำมาค้าขายอาชีพการงานเจริญรุ่งเรือง 7) รูพญานาค อยู่ด้านหลังองค์พระเจ้าใหญ่ ในวิหารวัดโพนชัย อำเภอด่านซ้าย จ.เลย อายุเก่าแก่กว่า 400 ปี ตามบันทึกระบุไว้ด้วยว่า พระวิหารและพระอุโบสถนั้นสร้างบนขุยพญานาคในอดีต มีความเชื่อกันว่าที่นี่ เป็นจุดที่พญานาคเจาะขึ้นมา เพื่อสักการะและปกปักรักษา “องค์พระเจ้าใหญ่” ในทุกวันพระ
- 15.07 ขึ้นรถเดินทางต่อไป
- 15.17 ดินแดนแห่งสัจจะและไมตรี 8) วัดพระธาตุศรีสองรัก ปูชนียสถานสำคัญของเมือง
ด่านซ้าย จังหวัดเลย “ศรัทธา” นำมาซึ่ง “ปาฏิหาริย์” ถ้ามีโอกาสเชิญแวะไปพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองที่ “ด่านซ้าย”
-16.07 ขึ้นรถเดินทางต่อไป
-17.07 ทานอาหารเย็น (ตามอัธยาศัย) และเดินทางกลับเชียงใหม่
-21.37 ถึงเชียงใหม่โดยสวัสดิภาพ และเตรียมพบกับความโชคดีจากบารมีขององค์
พญานาคทั้งปวงตามศรัทธาของแต่ละท่าน
*โปรแกรมทัวร์อาจเปลี่ยนแปลงตามเหมาะสม

ท่านละ 3,777฿ อัตรานี้รวม
- ค่ารถตู้ VIP จำนวน 1 คัน บริการนำเที่ยวตลอดรายการ
- ค่าโรงแรมที่พัก 1 คืน ตามรายการ (ห้องพัก 2-3 ท่าน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับห้องว่างในวันที่เข้าพัก)
- ค่าอาหาร 2 มื้อ ตามรายการที่ระบุ
- ค่าที่นั่งส่วนตัวชมบั้งไฟพญานาค
- ทิปคนขับ

สามารถแบ่งจ่ายได้ 3 งวด (งวดละ 1,259฿)
งวด 1) วันสำรองที่นั่ง (ด่วนจำนวนจำกัด จองก่อนเลือกที่นั่งก่อน)
งวด 2) 16 วันก่อนเดินทาง (17 กันยายน 63)
งวด 3) 7 วันก่อนเดินทาง (26 กันยายน 63)
*หากไม่โอนตามกำหนดถือว่าสละสิทธิ และไม่ได้รับเงินคืน

อัตรานี้ไม่รวม
- รายการอาหารนอกเหนือในโปรแกรม
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เครื่องดื่มในห้องพัก MiniBar เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์
- ค่าประกันอุบัติเหตุ

กรุณาโอน
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 667-400279-9
ชื่อบัญชี นายกิตติวัฒน์ ขวัญเรืองอริยะ
(โอนแล้วรบกวนส่งสลิปมาที่ ID LINE : cnxpop)

ติดต่อสอบถาม
อ.ป๊อป โทร. 082-171-7794
ID LINE : cnxpop

28/03/2019
กิจกรรมการแสดงโขนเรื่อง “รามเกียรติ์” ตอน สำมนักขาหึงเนื่องในสัปดาห์วันอนุรักษ์มรดกไทยและ ร่วมเฉลิมฉลอง ในโอกาสที่  ยูเน...
18/03/2019

กิจกรรมการแสดงโขนเรื่อง “รามเกียรติ์” ตอน สำมนักขาหึง
เนื่องในสัปดาห์วันอนุรักษ์มรดกไทย
และ ร่วมเฉลิมฉลอง ในโอกาสที่ ยูเนสโกรับรองโขน ให้เป็นตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ แสดงโดย ยุวศิลปินปิยนาฏยา เชียงใหม่
ในวันอาทิตย์ ที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๒ เวลา ๑๘.๓๐น.-๒๐.๐๐น.
ณ Lampang Arts Center (หอศิลป์ลำปาง)

เวลา กิจกรรม
๑๘.๑๕น. พิธีกรกล่าวทักทาย แนะนำตัวและประชาสัมพันธ์รายละเอียดของกิจกรรมนี้
๑๘.๓๐น. พิธีกรเชิญประธานขึ้นสู่เวทีที่ประดิษฐานพระฉายาลักษณ์ ประธานถวายเครื่องสักการะ และเปิดกรวยดอกไม้
พิธีกรเชิญประธานกล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ (เมื่อประธานกล่าวจบทุกคนถวายความเคารพ เปิดเพลงมหาชัย)
พิธีกรเชิญท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน ถ่ายภาพกับนักแสดง
๑๘.๕๐น. พิธีกรกล่าวถึงประวัติความเป็นมาของการแสดงโขน และเรื่องราวที่จะแสดง
๑๙.๐๐น. เริ่มการแสดงโขนเรื่อง “รามเกียรติ์” ตอน สำมนักขาหึง
๑๙.๕๐น. พิธีกรประกาศขอบคุณผู้สนับสนุน และเชิญผู้ชมถ่ายภาพกับนักแสดง
๒๐.๐๐น. เสร็จสิ้นกิจกรรม

ติดต่อสอบถาม โทร.๐๖๒-๓๑๔-๔๑๙๙

หมายเหตุ: สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามเหมาะสม

ที่อยู่

57/17
Chiang Mai
50300

เบอร์โทรศัพท์

0623144199

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ปิยนาฏยาผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง ปิยนาฏยา:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์