All You Need

02/08/2024

ขออภัยลูกค้าทุกท่าน
วันนี้แม่ค้าป่วย
ทักแชทไว้ได้เลยค่ะ
จะตอบกลับเร็วที่สุดค่า🙏🥹

01/08/2024

26/07/2024

ของกำลังไปส่งนะคะคุณลูกค้า
ขอบคุณที่อุดหนุนนะค้า
#ผ้าขาวม้าคุณภาพดี
#ผ้าฝ้าย100%
#ผ้าขาวม้าคูบัว

25/06/2024

ยังขายผ้าขาวม้านะค้า
ขอบคุณลูกค้าที่น่ารักค่า

11/06/2024

มัสยิดบางหลวง หรือกุฎีโต๊ะหยีหรือกุฎีขาว (อยู่ในชุมชนริมคลองบางหลวง)

ประเภทของแหล่งท่องเที่ยว

แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ประเภทศาสนสถานของชุมชนมุสลิม
(Muslim mosque) และกรุงเทพมหานครยังจัดให้มัสยิดนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวประเภท Unseen in Bangkok

**ลักษณะทางกายภาพ/ความโดดเด่น/การเข้าถึง/ช่วงเวลาการจัดงาน**

🕌**ลักษณะทางกายภาพ**
เป็นมัสยิดของชุมชนมุสลิมนิกายซุนนี มีลักษณะคล้ายวัดพุทธสมัยรัชกาลที่ 3 ตัวอาคารมัสยิดเป็นอาคารชั้นเดียว ก่ออิฐถือปูนสีขาวทั้งหลัง (เป็นที่มาของชื่อกุฎีขาว) ส่วนที่เป็นไม้ทาสีเขียว หลังคาจั่วมุงด้วยกระเบื้อง หน้าบันประดับลายปูนปั้นดอกโบตั๋น (ดอกพุดตาน) มีเสาพะไลรอบทางเดิน จุดสังเกตุที่แยกมัสยิด
นี้ให้ต่างจากวัดพุทธมี 2 จุดคือ สีกระเบื้องหลังคาของมัสยิดมีสีเดียวคือสีเขียวส่วนวัดพุทธกระเบื้องหลังคาจะมีมากกว่า 1 สี เช่น สีส้มกับเขียว สีน้ำเงินกับเหลืองหรือแดง อีกจุดหนึ่งคือที่หน้าบันของวัดพุทธจะประดับด้วยลายดอกไม้เต็มพื้นที่หรือเป็นพระนารายณ์ทรงครุฑ แตมั่สยิดนี้จะประดับกึ่งกลางหน้าบันเป็นรูปพานลายใบอะแคนธัส (เป็นศิลปะตะวันตก) รองรับดอกบัวที่ภายในมีตัวอักษรที่คำว่า อัลลอฮ์ (พระเจ้าในศาสนาอิสลาม)

🕌**ความโดดเด่น**
มีสถาปัตยกรรมต่างจากมัสยิดทรงโดมทั่วไป โดยเป็นมัสยิดแห่งเดียวในโลกที่เหมือนวัดไทย ภายในมีซุ้มมิห์รอบเป็นศิลปะที่ผสมผสานชาติไทย จีน ยุโรป มีชามโบราณจากเปอร์เซียอายุกว่า 700 ปีที่จารึกคำสอนของศาสดาติดอยู่ที่ผนังและมีโคมไฟโบราณสีเขียวที่ได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ 6 แขวนที่ด้านบน

🕌**การเข้าถึง/ช่วงเวลาการจัดงาน**
ปกติมัสยิดไม่ได้เปิดให้เข้าไปชมด้านใน การเข้าไปชมต้องติดต่อกับอิหม่ามของมัสยิดและนัดวันเวลา และอนุญาตให้เข้าไปชมหลังจากละหมาดเสร็จแล้ว

ขอขอบคุณ ภาพจาก https://readthecloud.co/ และ https://th.wikipedia.org/ photo by Supanut Arunoprayote

11/06/2024

ลานกิจกรรมด้านหลังวัดซางตาครู้ส สถานที่ Workshop ฝึกทำหมูสร่ง
(อยู่ในชุมชนกุฎีจีน)

ประเภทของแหล่งท่องเที่ยว

แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมประเภทการเรียนรู้และฝึกทำอาหารท้องถิ่น
(Local gastronomy)

🐷**ลักษณะทางกายภาพ**
หมูสร่งเป็นอาหารว่างโบราณจากชาววัง ดั้งเดิมทำด้วยหมูสับคลุกกับรากผักชี พริกไทย น้ำปลา ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ พันด้วยเส้นหมี่ซั่วลวก ทอดให้เหลืองนวล รับประทานกับน้ำจิ้ม การจับเส้นพันหมูสร่ง 1 ชิ้นสามารถพันได้ 3 ถึง 6 เส้น

🐷**ความโดดเด่น**
เป็นของทอดสีเหลืองทอง ที่กรอบ พอง และนุ่ม ทานกับน้ำจิ้มไก่เข้ากันพอดี

🐷**การเข้าถึง/ช่วงเวลาการจัดงาน**
การหาทานหมูสร่งในชุมชนกุฎีจีน นอกจากหาทานได้ที่บ้านสกุลทอง ยังมีคนในชุมชนทำขายกันทั่วไป และเมื่อผา่ นการเรียนรู้แล้วก็สามารถทำทานเองได้

ขอขอบคุณภาพจาก https://www.sgethai.com/ , https://www.wongnai.com/ และ www.kapook.com

11/06/2024

อาหารสยาม-โปรดุเกสบ้านสกุลทอง (อยู่ในชุมชนกุฎีจีน)

🍝**ประเภทของแหล่งท่องเที่ยว**
แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมประเภทการเรียนรู้และฝึกทำอาหารท้องถิ่น
(Local gastronomy)

**ลักษณะทางกายภาพ/ความโดดเด่น/การเข้าถึง/ช่วงเวลาการจัดงาน**

🍝**ลักษณะทางกายภาพ**
บ้านสกุลทองเป็นร้านอาหารไทยผสมโปรตุเกส ต้นตระกูลเป็นนางข้าหลวงในวังสุนันทาได้มีลูกหลานกับชาวโปรตุเกส และมีการสืบทอดอาหารที่ผสมผสานโปรตุเกส จีน และไทยตำรับตระกูลสกุลทองในปัจจุบัน อาหารที่ร้านเป็นสไตล์ไพรเวตคอร์สสำหรับมื้อกลางวันและมื้อเย็น โดยชุดอาหารที่เสิร์ฟประกอบด้วยอาหารว่าง อาหารหลัก และเครื่องดื่ม อาหารว่างเป็น อาหารแบบชาววัง โดยหมูสรง่ เป็นเมนูอาหารว่างประจำร้าน อาหารหลักเป็นแนวโปรตุเกสที่ปรับใช้วัตถุดิบและปรุงรสชาติไทยหรือจีน เช่น ขนมจีนไก่คั่วมาจากสปาเก็ตตี้ไวต์ซอส

🍝**ความโดดเด่น**
อาหารแนวโปรตุเกสแท้ ๆ ส่วนใหญ่ทำจากเนื้อสัตว์และทานคู่กับซุป ถ้าเป็น
อาหารจานหนักจะมีข้าวและมันฝรั่งเป็นส่วนประกอบ ซึ่งมีรสชาติจืดไม่ค่อย
ถูกปากคนไทยทั่วไป แต่เมนูอาหารหลักของที่ร้านบ้านสกุลทองได้ปรับให้เข้ากับสไตล์อาหารไทยและจีน จึงมีรสชาติถูกปากคนไทยส่วนใหญ่ ทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงและรู้จักอาหารโปรตุเกสมากขึ้น

🍝**การเข้าถึง/ช่วงเวลาการจัดงาน**
อาหารที่สยาม-โปรดุเกสบ้านสกุลทอง เปิดให้บริการเวลา 10:00-16:00 น.
หยุดทุกวันพุธ การไปทานอาหารควรโทรจองล่วงหน้า เนื่องจากอาหารบางเมนูต้องใช้เวลาในการเตรียม โดยจองได้ที่เบอร์ 062-605-5665

ขอขอบคุณภาพจากทีมงาน

11/06/2024

เรือนจันทนภาพ (อยู่ในชุมชนกุฎีจีน)

🏘**ประเภทแหล่งท่องเที่ยว**
แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมประเภทการท่องเที่ยวเชิงชิมอาหาร
(Food Tourism)

**ลักษณะทางกายภาพ/ความโดดเด่น/การเข้าถึง/ช่วงเวลาการจัดงาน**

🏘**ลักษณะทางกายภาพ**
เป็นเรือนไทยไม้สักทั้งหลังที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เสาเป็นไม้ตะเคียน หลังคาเป็นทรงจั่วจอมแห มุงด้วยกระเบื้องว่าว หน้าต่างประตูตรงกันทุกด้าน เสาบ้านทุกต้นเป็นสลักไม่ใช้ตะปู กรอบหน้าบันเป็นลายอาทิตย์อุทัย ตัวเรือนประกอบฝาถังโดยรอบ หย่องหน้าต่างแกะสลักและฉลุเป็นลวดลายพุดตานเครือเถา ตัวบ้านเอียงไปทางทิศตะวันตกเล็กน้อยเพราะได้รับผลกระทบจากการทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

🏘**ความโดดเด่น**
- บ้านหลังนี้มีประวัติการสู้รบของกบฏแมนฮัตตันในสมัยจอมพล ป.พิบูล
สงคราม ซึ่งฝ่ายกบฏที่เป็นทหารเรือต้องการยึดอำนาจจากจอมพล ป. เกิด
การต่อสู้กับฝ่ายทหารบกร่วมกับตำรวจที่บริเวณชุมชนแห่งนี้ ทหารเรือได้หนี
มาหลบภัยที่เรือนหลังนี้ แล้วทั้ง 2 ฝา่ ยเกิดการยิงต่อสู้กัน ซึ่งปัจจุบันยังมี
ร่องรอยหลักฐานรูกระสุนที่ผนังบ้านและที่ตู้กระจกภายในบ้านให้เห็นชัดเจน
- ภายในมีตู้โชว์และวอลเปเปอร์จากยุโรปในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่ยังคงสภาพดี

🏘**การเข้าถึง/ช่วงเวลาการจัดงาน**
เรือนจันทนภาพ เปิดให้เข้าชมได้เป็นครั้งคราว ผู้สนใจเข้าชมต้องติดต่อผ่าน
หัวหน้าชุมชนกุฎีจีนเพื่อประสานงานกับคุณจารุภา จันทนภาพ ซึ่งเป็นทายาทเจ้าของเรือนเพื่อขอให้เปิดชมบ้าน

ขอขอบคุณภาพจากเพจ @เครือข่ายการท่องเที่ยวภาคประชาสังคม และกลุ่มตึกรามบ้านช่อง

11/06/2024

ร้านขนมฝรั่ง หลานแม่เป้า
สถานที่ Workshop ขนมฝรั่งกุฎีจีน
(อยู่ในชุมชนกุฎีจีน)

ประเภทของแหล่งท่องเที่ยว

แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมประเภทการเรียนรู้และฝึกทำอาหารท้องถิ่น
(Local gastronomy)

ลักษณะทางกายภาพ/ความโดดเด่น/การเข้าถึง/ช่วงเวลาการจัดงาน
ลักษณะทางกายภาพ
ร้านขนมฝรั่งกุฎีจีน เป็นโรงงานผลิตขนมฝรั่งส่งขายภายในและภายนอกชุมชนโดยมีขั้นตอนการทำขนมแบบต่อเนื่อง เริ่มจากนำไข่เป็ดกับน้ำตาลมาผสมตามสัดส่วนและตีให้เข้ากันจนฟู จากนั้นนำไปผสมกับแป้งสาลีตามสัดส่วนและตีจนส่วนผสมเข้ากัน นำไปหยอดในพิมพ์โลหะรูปถ้วยแฉกขนาดเล็ก แล้วนำพิมพ์ใส่ในเตาอบขนม เมื่อแป้งเริ่มตึงจะโรยผิวหน้าด้วยน้ำตาลและหน้าขนมชนิดต่างๆ เช่น ลูกเกด ฟักทอง จากนั้นปิดด้านบนของเตาด้วยถาดโลหะและนำถ่านมาวางบนถาดโลหะให้ความร้อนกับขนมทั้งด้านบนและด้านล่าง ใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงขนมจะสุก แล้วนำขนมมาแกะออกจากพิมพ์บรรจุใส่ถุงขายต่อไป

ความโดดเด่น
- วิธีอบขนมฝรั่งที่ร้านนี้เป็นวิธีดั้งเดิมที่ใช้เตาแบบโบราณที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ คือ ตัวเตาทำด้วยเหล็กรูปทรงกระบอกด้านในกลวง ในเตามีเบ้าใส่พิมพ์ขนม
ไดห้ ลายชอ่ ง ด้านล่างเตาใสถ่ ่านใหค้ วามร้อน ด้านบนจะมีถาดโลหะสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ถูกยกมาวางปิดปากเตา และตักถ่านไฟวางบนถาดโลหะเพื่อให้ความร้อนกับขนมที่ถูกอบทั้งด้านบนและด้านล่างได้ทั่วถึง
- หน้าขนมที่ใช้สื่อเรื่องราวที่มีความหมายต่างกัน เช่น หน้าฟักเชื่อมแทนความร่มเย็นเป็นสุข หน้าลูกพลับแทนความเป็นมงคล หน้าลูกเกดแทนสุขภาพดี

การเข้าถึง/ช่วงเวลาการจัดงาน
ร้านขนมฝรั่ง หลานแม่เป้า เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09:30-17:30 น.
หากต้องการเรียนฝึกทำขนมต้องนัดล่วงหน้าตามเบอร์โทร. 089 662 5299
ขอบคุณภาพจากทีมงานและเพจ ขนมฝรั่งกุฎีจีน หลานแม่เป้า

11/06/2024

วัดซางตาครู้ส หรือโบสถ์ซางตาครู้สหรือวัดกุฎีจีน (อยู่ในชุมชนกุฎีจีน)

🕍**ประเภทของแหล่งท่องเที่ยว**
แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ประเภทศาสนสถานของคริสต์นิกายโรมัน คาทอลิก (Roman Catholic Church)

🕍**ลักษณะทางกายภาพ**
เป็นอาคารสถาปัตยกรรมสมัยฟื้นฟูเรเนซองส์ แบบยุโรปผสมจีน มีผังเป็นรูป
สี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านสกัดหลังอาคารเป็นรูปหกเหลี่ยม มีหลังคาทรงปั้นหยามุงกระเบื้อง หน้าโบสถ์หันสูแ่ ม่น้ำเจ้าพระยา ทางเข้ามีช่องประตู 3 ช่องเป็นประตูโค้ง มีหน้าต่างกลมตกแต่งด้วยลายกลีบดอกไม้ ตรงกลางเป็นหอระฆังทรงโดมรูปไข่ด้านบนมีไม้กางเขน ภายในโบสถ์มีฝ้าเพดานทรงประทุนมีลายดาวเพดานในช่องสี่เหลี่ยมจัตุรัส ด้านในสุดมีไม้กางเขนตั้งอยู่ ด้านหลังโบสถ์เป็นซุ้มหลังคาทรงจั่วแบบคลาสสิกตกแต่งด้วยปูนปั้นแบบคอรินเธียน

11/06/2024

บ้านวินเซอร์ (อยู่ในชุมชนกุฎีจีน)

**ประเภทของแหล่งท่องเที่ยว**

แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ประเภทโบราณสถาน (Archaeological
site) ได้รับการขึ้นทะเบียนจากกรมศิลปากรเมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2567

ลักษณะทางกายภาพ/ความโดดเด่น/การเข้าถึง/ช่วงเวลาการจัดงาน

ลักษณะทางกายภาพ
เป็นบ้านไม้เก่า 2 ชั้นสภาพทรุดโทรม ผังบ้านเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ผังพื้นตรงกันทั้งชั้นล่างและชั้นบน ด้านล่างยกสูงและก่ออิฐถือปูนเป็นเสาตอม่อรองรับพื้นไม้ชั้นล่าง มุขด้านหน้าตกแต่งเป็นซุ้มโค้งและมีพนักระเบียง ตัวบ้านหันหน้าออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เป็นบ้านของหลุยส์วินเซอร์พ่อค้าอังกฤษเจ้าของห้างวินด์เซอร์

**ความโดดเด่น**
เป็นบ้านไม้โบราณแกะสลักลวดลายขนมปังขิงมองดูมีเสน่ห์ จนเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของชุมชนกุฎีจีนที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาเช็คอินและถ่ายภาพ มีสิ่งที่คนเข้าใจไม่ถูกต้องคือที่จริงบ้านนี้ไม่ใช่บ้านพักของหลุยส์วินเซอร์แต่เป็นของญาติท่าน บ้านที่ท่านพักจริงจะอยู่บริเวณพื้นที่โล่งติดกับบ้านหลังนี้ซึ่งพังไปนานแล้ว

**การเข้าถึง/ช่วงเวลาการจัดงาน**
บ้านวินเซอร์ยังไม่สามารถเข้าไปชมภายในบ้านได้ ต้องรอดูการบูรณะจากกรมศิลปากรและให้เจ้าของบ้านอนุญาตให้เข้าชมก่อน แต่สามารถดูด้านนอกของบ้านและรอบ ๆ บ้านได้ ตรงทางเดินเลียบฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาได้ตลอดเวลา

ขอขอบคุณภาพจาก https://th.wikipedia.org/

11/06/2024

วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร (อยู่ในชุมชนวัดกัลยาณ์)

***ประเภทของแหล่งท่องเที่ยว***

แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ประเภทโบราณสถาน (Archaeological site) ได้รับการขึ้นทะเบียนจากกรมศิลปากรเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2492 กลุ่มศาสนสถานที่เป็นวัดไทย (Buddhist temple) ในสมัยรัชกาลที่ 3

ลักษณะทางกายภาพ/ความโดดเด่น/การเข้าถึง/ช่วงเวลาการจัดงาน

***ลักษณะทางกายภาพ***

เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรมหาวิหาร พื้นที่เขตพุทธาวาสประกอบด้วยวิหารหลวงเป็นอาคารประธานที่มีขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางระหว่างพระอุโบสถกับวิหารน้อย วิหารหลวงเป็นสถาปัตยกรรมแบบประเพณี (มีช่อฟ้า ใบระกา และหางหงส์) ส่วนพระอุโบสถและวิหารน้อยเป็นสถาปัตยกรรมแบบพระราชนิยมผสมผสานกับศิลปะจีน แต่ละอาคารมีเสาพะไลเพื่อรับปีกหลังคารอบอาคารระหว่างวิหารหลักกับวิหารน้อยมีหอระฆังที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

***ความโดดเด่น***
- พระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ที่สร้างจากโลหะทองผสมหนึ่งเดียวของไทย พระอุโบสถยังมีจิตรกรรมฝาผนังแสดงวิถีชุมชนไทย จีน และมุสลิมในรัชกาลที่ 3 ที่ใช้เป็นแหล่งศึกษาทางประวัติศาสตร์ได้
- ทางเข้าวิหารหลวงมีซุ้มประตูหินที่เชื่อว่าเป็นประตูนำโชคลาภ ภายในวิหารประดิษฐานหลวงพระพุทธไตรรัตนนายก (หลวงพ่อโตซำปอกง) พระปางมารวิชัยขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงเทพ นอกจากนี้ยังมีกำปั่นโบราณ 2 ใบของเจ้าสัวโตพระสหายของรัชกาลที่ 3 เป็นวัตถุโบราณ 200 ปีที่ตกทอดมาถึงปัจจุบัน
- จิตรกรรมฝาผนังในวิหารน้อยมีภาพหมอบรัดเลย์แพทย์ชาวอเมริกันที่มาเผยแพร่ศาสนา นำการแพทย์สมัยใหมม่ าใช้ และตั้งโรงพิมพ์อักษรไทยครั้งแรก
การเข้าถึง/ช่วงเวลาการจัดงานวิหารหลวงและวิหารหลักเปิดให้เข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 8:00-16:00 น.
พระอุโบสถเปิดเฉพาะวันที่มีพิธีทางศาสนาหรือต้องขออนุญาตเป็นการเฉพาะ

หมายเหตุ :
เมื่อถึงเทศกาลตรุษจีนของทุกปีจะมีการจัดงานไหว้ขอพรหลวงพ่อโตซำปอกงในพระวิหารหลวงหลังใหญ่ ชาวไทยเชื้อสายจีนและชาวจีนจะพากันมาไหว้หลวงพ่อในช่วงเวลาตั้งแต่ห้าทุ่มไปจนถึงเลยเที่ยงคืนไป อันเป็นช่วงย่างเข้าสู่ปีใหม่ของจีนเพื่อความเป็นสิริมงคล

11/06/2024

ศาลเจ้าเกียนอันเกง (อยู่ในชุมชนวัดกัลยาณ์)

**ประเภทของแหล่งท่องเที่ยว**

แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ประเภทโบราณสถาน (Archaeological
site) ได้รับการขึ้นทะเบียนจากกรมศิลปากรเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2562 กลุ่มศาสนสถานจีน (Chinese shrine)

ลักษณะทางกายภาพ/ความโดดเด่น/การเข้าถึง/ช่วงเวลาการจัดงาน

ลักษณะทางกายภาพ
ศาลเจ้าตั้งอยู่ระหว่างวัดกัลยาณมิตรกับวัดซางตาครู้ส ศาลเจ้ามีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาเดิมเป็นอาคารสองหลังคือ ศาลเจ้าโจวซือกงและศาลเจ้ากวนอู จนมาถึงสมัยรัชกาลที่ 3 ชาวจีนฮกเกี้ยนที่ตามเสด็จพระเจ้าตากสินมหาราชมายังกรุงธนบุรีได้ร่วมกันสร้างศาลขึ้นใหม่เหลือเพียงหลังเดียวตามที่เห็นในปัจจุบัน และมีการอันเชิญพระโพธิสัตว์กวนอิมเป็นองค์ประธานในศาลเจ้า
ความโดดเด่น
- อาคารศาลเจ้าเป็นไม้สักทั้งหลังภายในตกแต่งด้วยไม้และกระเบื้องโค้ง มีงานแกะสลักไม้และภาพจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับเทพเจ้าจีนและเรื่องสามก๊กซึ่งเป็นศิลปะจีนฮกเกี้ยนที่มีความประณีตและสมบูรณ์ ที่น่าสนใจคือศาลเจ้ายังคงสภาพความเก่าแก่ปราศจากการทาสีตกแต่งให้ดูใหม่ จึงดูมีมนต์ขลัง
- พระโพธิสัตว์กวนอิมเป็นปางสมาธิขณะทรงจีวรพระ ทำจากไม้แกะสลักและปิดทองทั้งองค์ ดูเผิน ๆ คล้ายกับพระทั่วไปกำลังนั่งสมาธิ ซึ่งเจา้ แม่กวนอิมรูปลักษณะนี้ไม่ค่อยได้เห็นในที่อื่น ๆ นา่ จะมีที่เดียวในประเทศไทย
- ด้านข้างพระโพธิสัตว์กวนอิมยังมีเทพเจ้าทั้งสองฝั่ง ฝั่งซ้ายเป็นองค์หม่าโจ้ว (เจ้าแม่ทับทิม) เทพที่ชาวจีนโพ้นทะเลนับถือและอันเชิญท่านมาคุ้มครองในระหว่างการเดินทาง ฝั่งขวาเป็นศาลเจ้าพ่อกวนอู ซึ่งท่านประดิษฐานอยู่ที่ศาลเจ้าแห่งนี้มาตั้งแต่แรก จึงมีอายุเก่าแก่มากกว่า 200 ปี

การเข้าถึง/ช่วงเวลาการจัดงาน
ศาลเจ้าเกียนอันเกงเปิดให้เข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 7:00-17:00 น.

หมายเหตุ :
ได้มีการสืบทอดประเพณีพิธีกินเจเดือนเก้าที่ศาลเจ้าเกียนอันเกงตั้งแต่
อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยพิธีกินเจจะจัดอย่างเรียบง่าย ซึ่งน้อยคนนักที่จะ
ทราบว่าที่ศาลเจ้าแห่งนี้มีการจัดพิธีกินเจสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน

13/03/2024

ถ้าเราไม่ยอมลบเรื่องแย่ๆ ออกไปบ้าง
เราจะไม่มีพื้นที่ สำหรับสิ่งดีๆ ในอนาคต
เต็มทุกพื้นที่ ถึงเวลาลบออกบ้างแล้วนะ 🥹

11/01/2024

อยากมีสุขภาพดี
อยากลดน้ำหนัก
ต้องกินโปรตีนให้ได้วันละ 1-1.5 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม

โปรตีน สำคัญกับร่างกายของเราอย่างไร

ในร่างกายของเราประกอบด้วยโปรตีนมากกว่า 70%
โปรตีนเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยสร้างเสริม
ซ่อมแซม และฟื้นฟูความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ
เมื่อกล้ามเนื้อแข็งแรง ระบบการเผาผลาญของเราจะดีไปด้วย
ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทำให้เราป่วยยาก
โปรตีนเป็นแหล่งพลังงานให้กับร่างกาย
โปรตีนช่วยให้เราอยู่ท้อง รู้สึกอิ่มได้นานมากขึ้น

แล้วโปรตีนในปริมาณที่เพียงพอ คือเท่าไหร่ ต้องคำนวณยังไงล่ะ?

วิธีคำนวณโปรตีน กินโปรตีน 1.5 เท่าของน้ำหนักตัว

บุคคลทั่วไปที่ไม่ได้ออกกำลังกาย ควรได้รับโปรตีน 0.8-1 กรัม/ น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
บุคคลที่ออกกำลังกายเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง ออกกำลังกายเบา ๆ ควรได้รับโปรตีน 1-1.2 กรัม/ น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
บุคคลที่ออกกำลังกายค่อนข้างหนัก ต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อ ควรได้รับโปรตีน 1.5-3 กรัม/ น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม (ระดับความต้องการโปรตีนแตกต่างกันออกไป ตามความเข้มข้นของการออกกำลังกาย)
หรือในกลุ่มอื่นๆ ที่ร่างกายควรได้รับปริมาณโปรตีนที่แตกต่างออกไป เช่น

คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ ควรได้รับโปรตีน 1.1-1.3 กรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เพื่อบำรุงร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ

ตัวอย่างการคำนวณ
น้ำหนักตัว 52 กิโลกรัม และมีการออกกำลังกายเป็นประจำ
และต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อ
1.5 กรัม x 52 กิโลกรัม = โปรตีน 78 กรัม

โปรตีน 78 กรัม คืออะไร

ปริมาณที่ว่าคือปริมาณสารอาหารโปรตีน ไม่ใช่น้ำหนักของอาหาร ซึ่งการที่เราจะรู้ว่าอาหารแต่ละชนิด แต่ละหน่วยให้โปรตีนกี่กรัม เราก็จะต้องมากางตารางโภชนาการเทียบเอา ซึ่งอาหารที่เป็นแหล่งของโปรตีนที่เราคุ้นเคย เช่น

ไข่ไก่ 1 ฟอง ให้โปรตีนประมาณ 7 กรัม
อกไก่ 100 กรัม ให้โปรตีนประมาณ 32 กรัม
กุ้ง 100 กรัม ให้โปรตีนประมาณ 24 กรัม
เนื้อวัว (ไม่ติดมัน) 100 กรัม ให้โปรตีนประมาณ 23 กรัม
เนื้อหมูสันใน 100 กรัม ให้โปรตีนประมาณ 30 กรัม
เนื้อปลาแซลมอน 100 กรัม ให้โปรตีนประมาณ 25 กรัม
นมถั่วเหลือง 1 แก้ว ให้โปรตีนประมาณ 7 กรัม
นมวัว 1 แก้ว ให้โปรตีน (ประมาณ 250 กรัม) ให้โปรตีนประมาณ 8 กรัม
โยเกิร์ต 1 ถ้วย ให้โปรตีนประมาณ 13 กรัม

เท่ากับว่าในกรณีของนางสาว A ที่ร่างกายควรได้รับโปรตีน 78 กรัมต่อวัน หากกินอกไก่วันละ 200 กรัม และไข่ไก่ 2 ฟอง
ก็จะได้รับปริมาณโปรตีนรวม 78 กรัม ซึ่งก็เพียงพอกับความต้องการของร่างกายพอดี แต่ก็คงเป็นไปได้ยากที่เราจะกินอกไก่ 200 กรัมได้ทุกวัน หรือจะรับโปรตีนจากอกไก่เพียงอย่างเดียวก็เสี่ยงทำให้ร่างกายรับสารจำเป็นอื่น ๆ ไม่ครบถ้วน ดังนั้นแล้วเราจึงควรรับโปรตีนและสารอาหารจากหลาย ๆ แหล่งสับเปลี่ยนกันไป ทั้งจากเนื้อสัตว์ นมและผลิตภัณฑ์จากนม รวมจนถึงผัก/ผลไม้ที่มีโปรตีนสูง

Cr. women.trueid.net