08/12/2024
#ไฮไลท์ดูวาฬ วันอาทิตย์ ที่ 8 ธันวาคม 2567
เป็นวันที่ 3 ของการออกดูวาฬในสัปดาห์นี้ วันนี้ช่วงเช้าคลื่นลมเป็นใจให้กับเรา ลมสงบ ทะเลเรียบ แต่มีเมฆปกคลุมอยู่ทั่วฟ้า และในพยากรณ์อากาศเองก็แจ้งว่า ช่วงสาย ๆ ของวัน ยาวไปจนช่วงบ่ายจะมีลมเข้ามาเติม เราเลยวางแผนว่าวันนี้จะแล่นเรือออกไปทางปากแม่น้ำท่าจีนเลย มุ่งหน้าบริเวณใกล้เคียงที่เดิมที่เราเจอวาฬเมื่อวาน
วันนี้เรือเรามีลูกค้าเต็มความจุเรือ มีลูกค้าบางท่านก็เป็นลูกค้าเก่าที่เคยออกดูวาฬกับเราเมื่อปีที่แล้ว วันนี้ก็ออกมาดูวาฬกับเราด้วยเช่นกัน และเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันแล้ว ลูกค้ากลุ่มนี้เดินทางมาจากไต้หวัน เป็นกลุ่มผู้ชื่นชอบวาฬเป็นพิเศษ แม้ปีที่แล้วจะได้ภาพวาฬเกือบครบทุกท่าแล้ว ขาดเพียงแค่วาฬกระโดด ปีนี้พวกเธอก็มาลุ้นภาพวาฬกระโดด เรียกได้ว่าออกดูวาฬด้วยกันจนสนิทกัน จนเป็นเพื่อนกัน
เรือเราแล่นไปถึงกลางปากแม่น้ำท่าจีน ใกล้กับจุดเมื่อวานก็พบวาฬตัวหนึ่งว่ายโผล่ขึ้นมาข้างเรือเรา และด้วยลักษณะลำตัวที่โค้งคอไม่เหมือนใครก็ทำให้เราทราบทันทีว่าวาฬตัวนี้คือ “เจ้าบางแสน” วาฬตัวเดียวกันกับที่เราเจอเมื่อวาน วันน้ีเราเจอบางแสนอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับจุดเมื่อวาน มันป้วนเปี้ยนอยู่แถวขอบ ๆ ของกลุ่มเรือรุนเคย และใช้เวลาอยู่ใต้น้ำแต่ละครั้งนานมาก ๆ สันนิษฐานได้ว่ามันอาจจะกำลังกินเคยอยู่ใต้น้ำก็เป็นได้ เพราะมันมักจะโผล่ขึ้นมาใกล้กับจุดที่มันดำลงไป และบางครั้งก็มักจะว่ายวนไปรอบ ๆ หลายครั้งหลายหนก็โผล่ขึ้นมาหายใจไม่ไกลจากเรือเราที่ลอยลำเฝ้าดูพฤติกรรมของมันอยู่
แต่ละครั้งที่เจ้าบางแสนดำน้ำลงไปนั้น มักจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 นาที และก่อนที่มันจะดำลงไป มันก็มักจะขึ้นหายใจให้เราเห็นก่อน 2-3 ครั้ง เหมือนมันขึ้นมาเติมอากาศเฮือกใหญ่ให้เต็มปอดก่อน มุดน้ำลงไปไล่กินฝูงเคยด้านล่าง นอกจากเจ้าบางแสนแล้ว ก็ยังมีวาฬเดี่ยวที่มองเห็นได้ในระยะไกลอีก ประมาณ 3-4 ตัว ที่อยู่ลึกลงไปด้านใต้ของจุดที่เราดูเจ้าบางแสนอยู่ แต่วาฬแต่ละตัวที่เราเห็นนั้นก็มีพฤติกรรมไม่ต่างจากเจ้าบางแสนนัก พวกมันมักจะใช้เวลาอยู่ใต้น้ำนานมากก่อนจะขึ้นมาหายใจแต่ละครั้ง เราตามเจ้าบางแสนจนจู่ ๆ ก็เหมือนมีใครเปิดอุโมงค์ใต้น้ำสำหรับวาฬ เจ้าบางแสนโผล่ขึ้นมาหายใจให้เราเห็นครั้งสุดท้ายก่อนที่มันจะว่ายหายไป
แม้เจ้าบางแสนจะว่ายหายไปแล้ว ไม่ว่าเราจะมองหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ จนสุดท้ายต้องย้ายจุดไปหาวาฬอีกชุดหนึ่ง ในตอนแรกเราเห็นแค่ตัวเดียว แต่ในครั้งที่สองที่เราเห็นมันกลายเป็นวาฬแม่ลูก ซึ่งมาทราบภายหลังว่าเป็น “แม่ข้าวเหนียวและเจ้าข้าวเจ้า” สองแม่ลูกที่หายหน้าหายตาไปนาน วันนี้ก็กลับมาเข้าอ่าวแล้ว แต่พฤติกรรมก็เหมือน ๆ กันหมด ดำน้ำนาน ๆ และโผล่ขึ้นมาอย่างรวดเร็วก่อนจะทำแบบนี้ซ้ำ ๆ เราตามวาฬแม่ลูกคู่นี้ได้เพียงครู่เดียวเท่านั้น เพราะจังหวะนั้นเอง แม่ข้าวเหนียวได้ว่ายไปหาเรือลากคู่ ที่กำลังกู้อวนกันอยู่ และมันเองก็น่าจะรู้ว่าเข้าใกล้เรือมากเกินไป ทั้งแม่ข้าวเหนียวและเจ้าข้าวเจ้า ขึ้นมาหายใจใกล้กับเรือหนึ่งครั้ง ก่อนที่จะมุดน้ำ ดำหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทิ้งไว้แต่เรือเราให้ลอยเคว้งกลางทะเล.
สต๊าฟนัท