Tourthaiway Tourthaiway offers various kinds of tour and travel all over Thailand to people from all walks of life.

วังพญาไท 2567, Phayathai Palace 2024
14/05/2024

วังพญาไท 2567, Phayathai Palace 2024

🌧หน้าฝนปีนี้ ถ้ายังไม่ได้มีแพลนไปเที่ยวให้ฉ่ำใจที่ไหน ขอเชิญชวนไปเที่ยว🚌ลาวกันดีกว่า ไปนั่งรถไฟ🚄ความเร็วสูงลาว-จีนกัน ดู...
01/05/2023

🌧หน้าฝนปีนี้ ถ้ายังไม่ได้มีแพลนไปเที่ยวให้ฉ่ำใจที่ไหน ขอเชิญชวนไปเที่ยว🚌ลาวกันดีกว่า ไปนั่งรถไฟ🚄ความเร็วสูงลาว-จีนกัน ดูว่าจะโก้แค่ไหน ไปเยือนเมืองหลวง เวียงจันทน์ ชมสถาปัตย🏨เก่าๆฝรังเศส ไปชมกุ้ยหลินเมืองลาวกัน ว่างามสักแค่ไหน ไปตักบาตรข้าวเหนียว ไปดู🙋‍♀️วิถีชีวิตประชาชนคนลาวกัน ว่าเป็นจังได๋กัน แล้วมาร่วมเดินทางไปด้วยกัน..✌️.

#เพราะชีวิตคือการเดินทาง

💥อากาศร้อน🥵 ๆ อย่างนี้ ไปเที่ยวทะเลคลายร้อนก้นดีกว่า เชิญชวน 🙇‍♀️พ่อแม่พี่น้อง นักเดินทาง ท่องเทียว ทั้งหลาย มาร่วมเดินท...
24/04/2023

💥อากาศร้อน🥵 ๆ อย่างนี้ ไปเที่ยวทะเลคลายร้อนก้นดีกว่า
เชิญชวน 🙇‍♀️พ่อแม่พี่น้อง นักเดินทาง ท่องเทียว ทั้งหลาย มาร่วมเดินทางไปด้วยกันที่ รอบนี้เราลงไปที่อัญมณีแห่งอันดามัน🏝 ภูเก็ต ไปเล่นน้ำทะเลกันให้คลายหายร้อน ไปชมวัฒนธรรมบาบ๋า ญ่าญ๋า กันว่าน่ารัก น่าชื่นใจแค่ไหน ไปชมแหลมที่งดงามที่สุดในเมืองไทย ไปล่องเรือ🛥กลางทะเล ให้สดชื่นหัวใจกัน แล้วมาร่วม✈️เดินทางไปด้วยกัน..

#เพราะชีวิตคือการเดินทาง

เวียดนามกลาง ดานัง บาน่าฮิลล์ ฮอยอัน เว้ เดินทางประมาณกลางเดือน มกรา ปี2566 ที่ผ่านมา มาดูบรรยากาศบ้านเมืองและแหล่งท่องเ...
20/04/2023

เวียดนามกลาง ดานัง บาน่าฮิลล์ ฮอยอัน เว้ เดินทางประมาณกลางเดือน มกรา ปี2566 ที่ผ่านมา มาดูบรรยากาศบ้านเมืองและแหล่งท่องเที่ยวกัน ดูว่างามสู้บ้านเราได้ไหม..แล้วมาร่วมเดินทางไปด้วยกัน...
#เพราะชีวิตคือการเดินทาง

😊ฤดุร้อนบ้านเราปีนี้ ถ้ายังไม่ได้วางแผนว่าจะไปไหนดี ขอเชิญชวนพี่น้องนักเดินทาง มาร่วม✈️ออกเดินทางไปด้วยกัน ที่เวียดนามกล...
14/01/2023

😊ฤดุร้อนบ้านเราปีนี้ ถ้ายังไม่ได้วางแผนว่าจะไปไหนดี ขอเชิญชวนพี่น้องนักเดินทาง มาร่วม✈️ออกเดินทางไปด้วยกัน ที่เวียดนามกลาง อดีตแดนดินถิ่นอาณานิคมของจีนและฝรั่งเศสมานมนาน ท่านสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอของอารยธรรม🏯 สถาปัตยกรรมทั้งจีนและ🏚ฝรั่งเศสได้ในดินแดนแห่งนี้ ที่เมืองดานัง-เมืองโบราณ ฮอยอัน-เขาบาน่าฮิลล์-และเมืองเว้
มาเดินทางไปพักผ่อน ไปคลายร้อนกัน ไปนั่งกระเช้าลอยฟ้าที่สูงและยาวที่สุดโนโลก เที่ยว🎪ดิสนีย์แลนด์ดานัง อลังการกับสะพาน✋มือ เยือนเมืองโบราณฮอยอันเมืองแห่ง 3 วัฒนธรรมผสานกันทั้งจีน ญี่ปุ่น เวียดนาม เพลินกับเรือกระด้งท่ามกลางดง🌴มะพร้าว ไปน🙏มัสการเจ้าแม่กวนอิมยักษ์ที่วัดหลินอิ๋ง ชมสะพานมังกรสัญลักษ์ของดานัง ไปที่เมืองเว้ เมืองแห่ง มรดกโลก ไปชมพระราชวังโบราณ สุสานไคดิงห์ อลังการ งามมาก ฯลฯ จะมัวรอช้าอยู่ใย จองเลยวันนี้ แล้วมาร่วม🚌เดินทางไปด้วยกัน 🙏

#เพราะชีวิตคือการเดินทาง
http://line.me/ti/p/~kapookreturn

✈️ทริป กทม-ฮานอย-ซาปา 3วัน2คืน (อาทิตย์ที่ 11-อังคารที่ 13 ธันวาคม ปีพุทธศักราช2565) 😊
26/12/2022

✈️ทริป กทม-ฮานอย-ซาปา 3วัน2คืน (อาทิตย์ที่ 11-อังคารที่ 13 ธันวาคม ปีพุทธศักราช2565) 😊

✈️ทริป กทม-ฮานอย-ซาปา 3วัน2คืน (อาทิตย์ที่ 11-อังคารที่ 13 ธันวาคม ปีพุทธศักราช2565) 😊🙇‍♀️สวัสดีครับ พี่น้องนักเดินทาง ท...
26/12/2022

✈️ทริป กทม-ฮานอย-ซาปา 3วัน2คืน (อาทิตย์ที่ 11-อังคารที่ 13 ธันวาคม ปีพุทธศักราช2565) 😊

🙇‍♀️สวัสดีครับ พี่น้องนักเดินทาง ทั้งหลาย ผู้มีหัวใจไม่เคยหยุดนิ่งกับการออกแสวงหา ตราบที่แรงยังมี ลมหายใจยังอยู่
🚒ทริปนี้ ทัวร์ไทยเวย์ (Tourthaiway) พากรุ๊ปนักเดินทางทั้งหมด 15 ชีวิตกับหนึ่งหัวหน้าทัวร์เดินทางไปยัง ฮานอย-ซาปา ที่เวียดนามเหนือ (Hanoi-Sapa@North Vietnam) ด้วยกัน มีอายุตั้งแต่สาวน้อย 16 ปี จนถึงสว วัย 70 กว่าๆ ประกอบไปด้วย ยายปิ่น ยายเสถียร ยายสมหวัง ป้าแอ๊ด พี่สุนี พี่เล็ก พี่หน่อย คุณว่าน คุณยุพิน พี่ไพรัช พี่ชลอ เจ๊แดง น้องโต น้องทับทิม น้องเดือน
วันอาทิตย์ที่ 11 ตอนตี 3 เราพบกันที่สนามบินดอนเมืองเพื่อนั่งเครื่องออกเดินทางไปฮานอย ขั้นตอนผ่านพิธีการศุลกากรไม่มีอะไรยุ่งยากมาก ไม่มีการตรวจโควิด19 แล้วนาทีนี้ แต่เท่าที่สังเกตดู พี่น้องนักเดินทางคนไทยเรายังใส่หน้ากากกันเยอะอยู่ เครื่องกลุ่มเราออกตอน 7 โมงนิดๆ และไปถึงปลายทางที่เมือง ฮานอยตอน 8.40 น. โดยประมาณ แต่กว่าจะออกจากสนามบินได้ ก็เกือบๆ 10 โมงเช้า สาเหตุเพราะว่า สนามบินฮานอยคลาคล่ำไปด้วย นักเดินทางจากทั่วมุมโลก เรียกได้ว่าหนาแน่นพอดู แค่ต้องเข้าคิวตีตรา passport ก็ร่วมๆ ครึ่งชั่งโมงไปแล้ว โน่นนี่นั่นอีก สัมผัสแรกของฮานอย เมืองหลวงเวียดนาม วันนี้ คืออากาศหนาวเย็นสบาย กำลังดี ประมาณ13-14 องศาได้ ไม่ถึงหนาวจัด หลังจากชักรูปสนามบินกันแล้ว เราก็ออกเดินทางด้วยรถตู 29 ที่นั่ง มุ่งตรงไปซาปากันเลย ระหว่างทางก็แวะกันที่จุดพักรถหนึ่งรอบเพื่อเข้าห้องน้ำกัน ห้องน้ำในชานเมืองเวียดนามนี้ ยังด้อยกว่าบ้านเราพอควร เพราะพี่ไทยเรา จะมีค่อนข้างครบไม่ว่า กาแฟ อาหาร ของฝาก สารพัด ห้องน้ำก็เข้าฟรี ส่วนที่นี่จะเก็บตังค์ค่าใช้ห้องน้ำ ประมาณ 3-5 บาท/คน ของฝากของขายก็มีเหมือนกัน แต่ให้อารมณ์เหมือนคิวรถ ตจว ประมาณนั้น แล้วก็เดินทางต่อไปที่เมือง หล่าวกาย (Lao Cai) ซึ่งเป็นเมืองชายแดนระหว่างเวียดนามกับจีน บ้านนี้เมืองนี้ จัดผังเมืองได้สวยงาม ทำเกาะกลางถนนได้สวย เป็นระเบียบ เราไปถึงชายแดนนี้ก็ร่วมๆบ่ายโมง ตรงบริเวณชายแดนเวียดนาม-จีนนี้มี นักท่องเที่ยว มาเที่ยวชมกันหนาตาพอควร จุดที่พลาดไม่ได้ (Highlight) ก็คือบริเวณฐานแท่งหินสลัก4 เหลี่ยมหัวลูกศรสลักภาษาเวียดนามกับสัญลักษณ์ดาวเดียวของเวียดนามบอกให้รู้ว่าฝั่งตรงนี้คือดินเวียดนามและข้างหน้าที่มองเห็นนั่นคือชายแดนประเทศจีนที่เมืองยูนนาน โดยมีแม่น้ำแดงเป็นพรมแดนธรรมชาติคั่นระหว่างกลางของ 2 ประเทศ ฝั่งจีนตอนนี้จะมองเห็นงานก่อสร้างตึกสูงใหญ่หลายแห่ง กำลังดำเนินงานก่อสร้างกันอยู่ ยังไม่แล้วเสร็จดี มีสะพานข้ามแม่น้ำที่สร้างเพื่อเชื่อมระหว่าง 2 ประเทศในการเดินทางไปมาหาสู่และทำการค้าขายระหว่างกัน อย่างงไรก็ดี ส่วนมากจะเป็นจีนเป็นฝ่ายขายมาทางฝั่งเวียดนามซะมากกว่า แล้วก็ได้เวลาอาหารเที่ยง เราทานกันที่เมืองหล่าวกายนี้แหละ เมื่ออิ่มอร่อยกันดีแล้ว ก็ได้เวลาไปผจญภัยกันต่อที่สะพานกระจกมังกร (Dragon Glass Bridge) ซึ่งห่างจากหล่าวกายประมาณ 1 ชั่วโมงได้ เป็นสะพานกระจกใส (Sky-walk) แห่งใหม่ที่เมืองนี้สร้างขึ้นมาใหม่เป็นสะพานแก้วใสแห่งแรกในเวียดนาม สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,000 เมตร ในวันที่ฟ้าเปิด ไม่มีเมฆหมอกหนามากเราจะได้ชมทัศนียภาพอันงดงามของเทือกเขา Hoang Lien Son จากมุมสูง แต่วันนี้เราเจอทั้งลมหนาว ทั้งหมอกหนา ทำให้ไม่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้เต็มตา มีเป็นช่วงๆ ที่ลมพัดผ่านหมอกไป ก็ได้เห็นกันบ้าง การขึ้นมาสะพานกระจกนี้ มีลิฟต์แก้วกลางแจ้งสูงประมาณ 300 เมตรนำขึ้นมา แต่บอกได้เลยว่าสูงมากๆ จากพื้นด้านล่างถ้ามองลอดกระจกลงไป ประมาณได้ว่า 500 เมตรเป็นอย่างน้อย แล้วจากนั้นเราไปต่อกันที่น้ำตกสีเงินหรือ Silver Waterfall ซึ่งอยู่ในเส้นทางเดียวกับสะพานมังกรนี้เช่นกัน แต่เนื่องจากว่าความมืดมาเยือน บวกกับลมหมอกหนาวอันเย็นยะเยือกมาซะก่อน ทำให้เราไม่ได้เห็นทัศนียภาพของน้ำตก ได้ยินแต่เสียงน้ำไหลซู่ๆ พร้อมกับสัมผัสบรรยากาศอันหนาวเย็นเจี๊ยบหน้าน้ำตก ก็ต้องออกเดินทางไปเข้าที่พักกันในคืนแรก เพราะแต่ละคนเหนื่อยกันมามากจากการนอนน้อยเมื่อคืนก่อนวันเดินทาง
วันที่ 2 (จันทร์ที่12/12/22) เราเริ่มวันโดยการกินบุฟเฟต์เช้าที่โรงแรมกันก่อน อิ่มหนำสำราญกันแล้ว เราออกเดินทางไปต่อกันที่เขาฮามรอง (Hamrong Mountain) เขานี้อยู่ในตัวเมืองซาปาเลย ซึ่งเมืองเขาได้ลงทุนทำบันไดหินให้ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางขึ้นลงได้อย่างสะดวกสบาย เราสามารถชื่นชมวิวได้ตลอดทางที่เดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆ มีหลายจุดสวยงามมาก บรรยายภาพได้เหมือนสวนดอกไม้เมืองหนาวในหมอก ที่งดงามมาก มีจุดให้เราได้แวะถ่ายรูปมากมายเต็มไปหมด ช่วงกลางๆ เขา เป็นลานกว้างพอควร ถูกปรับแต่งทัศนียภาพเป็นลานดอกไม้ มีเพิงพักให้พักผ่อนได้ และไม้ดัดแต่งคำว่า “SAPA” ให้ชักรูปกันว่าเรามาถึงแล้ว ตรงนี้อยากแนะนำว่า พี่น้องถ้าอยากพิชิตยอดนี้ได้ ต้องฟิตระดับหนึ่ง ทางไปไม่ได้ชันหรือลำบากอะไรมาก แต่เนื่องจากบรรยากาศที่หนาวมากพร้อมๆกับหมอกหนาทำให้พื้นทางเดินเปียกชุ่มตลอดเวย์ เพราะฉนั้น ถ้าต้องการไปให้ถึงยอดต้องเตรียมตัวทั้งรองเท้า เสื้อผ้าและร่างกายในระดับหนึ่ง เมื่อฉ่ำกันแล้ว เราก็ลงเขาเพื่อไปขึ้นรถราง วิ่งจากเมืองซาปาไปยังตีนเขาฟานซิปันเพื่อขึ้นกระเช้าไฟฟ้าอีกที รถรางเมืองซาปานี้ต้องไปขึ้นกันที่ สถานีซาปา หรือ SAPA STATION ซึ่งเป็นอาคารโรงแรมเก่าสไตล์โคโลเนียลสวยงามโดดเด่นอยู่ใจกลางเมืองซาปาเลย และตัวรถไฟก็ออกแบบเป็นรถรางไฟฟ้า ดีไซน์เหมือนรถรางที่วิ่งกันในยุโรปหรือในซานฟรานซิสโก สภาพดี สวยงาม น่านั่ง ระหว่างทางเราจะได้ชมวิวเมืองซาปาแบบเต็มๆ ตามทางขึ้นเขาที่คดเคี้ยว ทั้งหุบเขา เหว ต้นไม้ สวนไม้ดอกสองข้างทางที่รถไฟวิ่งผ่าน งดงามมากๆ รถแล่นมีความยาวประมาณ2กิโลเมตร โดยใช้เวลาไปที่สถานีกระเช้าประมาณ6นาที เมื่อถึงสถานีไฟฟ้า เรายังมีจุดถ่ายรูปสวยๆ อีกจุดก่อนขึ้นกระเช้า ซึ่งสถานีเขาออกแบบเป็นสวนดอกไม้ (Flower Garden) ให้เราได้ชื่นชมบรรดาพรรณพฤกษานาๆพรรณงดงามตา ก่อนจะขึ้นบันไดไปขึ้นกระเช้าไฟฟ้าอีกที เมื่อมาถึงจุดขึ้นกระเช้า กระเช้าของที่นี่มีขนาดใหญ่กว่าที่เมืองดานังเขาบาน่าฮิลล์พอควร เพราะสามารถนั่งต่อรอบได้ถึง 10 กว่าคน เป็นกระเช้าใหญ่ สภาพดี เพราะเพิ่งผ่านการซ่อมบำรุงมาไม่นานนี่เอง หน้าหนาวของซาปานี่ ต้องเรียกว่าทำให้ที่นี่เป็นเมืองในหมอกจริง ๆ เพราะหมอกเยอะมาก บางช่วงแทบมองไม่เห็นวิวเลย และภูเขาฟานซีปันได้ฉายาว่า "หลังคาแห่งอินโดจีน" (Roof of Indochina) สูง 3,143 เมตร เป็นยอดเขาสูงที่สุดในเวียดนาม อยู่ห่างจากกลางเมืองซาปา9 กิโลเมตร ในอดีตต้องใช้วิธีเดินเขาเพื่อไปยังยอดใช้เวลา 2-3 วัน แต่ปัจจุบันนั่งกระเช้าไฟฟ้าได้ เราใช้เวลาในกระเช้าร่วมๆ 20 นาที ก็เกือบถึงยอดเขา ระหว่างทางก็เห็นหมอกหนาๆ สลับกับวิวทิวเขาด้านล่างสลับคละกันไปเป็นระยะๆ เมื่อมองลงมาเบื้องล่างแล้ว ก็ให้รู้สึกทึ่งจริงๆว่า เขาสร้างกระเช้านี้มาได้อย่างไร บนเขาที่ทั้งสูงชันและยาวขนาดนี้ เมื่อถึงปลายทางของกระเช้าแล้วก็ยังไม่ใช่ยอดสุดของเขาอยู่ดี เรายังต้องเลือกว่าจะเดินขึ้นเขาเองหรือนั่งรถรางต่ออีกรอบเพื่อไปให้ถึงยอดให้ได้ คณะเราก็เห็นพ้องต้องกันว่าจะนั่งรถรางกันต่ออีกรอบเพื่อไปให้ถึงยอด แล้วค่อยให้ใครสมัครใจอย่างไรก็เลือกเอาเองว่า ขาลงจะเดินลงหรือนั่งรถรางลงมาก็ได้ ช่วงเราขึ้นมาบนเขาฟานซีปันนี้ เรียกว่าฟ้าเปิดแล้ว เป็นใจให้เราได้เห็นวิวทิวเขาฟานซีปันกันเต็มตา ทิวเขาเป็นแนวหลดหลั่นกันไป งดงามตามาก นอกจากนั้น อยากแนะนำว่าถ้าเราเลือกเดินลงจากยอดเอง ข้อดีเลยเราจะได้ยลองค์เจ้าแม่กวนอิมยักษ์และพระพุทธรูปองค์ดำขนาดใหญ่มากแบบใกล้ชิด ซึ่งอลังการและงดงามมาก แต่เราต้องแลกด้วยการเดินเท้าเข้าไปดู เพราะถ้านั่งรถรางลงมาจากยอดเขาจะได้เห็นวิวจากในรถเท่านั้น ไม่สามารถเดินไปชมระยะประชิดได้ เพราะรถต้องไปตามรางตลอดเวย์นั่นเอง เมื่อเราลงมาจากเขาฟานซีปันแล้ว สถานีต่อไปเราไปต่อกันที่หมู่บ้านก๊าดๆ เป็นหมู่บ้านชาวม้ง คล้ายๆกับม้งทางเหนือบ้านเรา ตั้งอยู่กลางหุบเขา ถูกรายล้อมด้วยหุบเขาน้อยใหญ่ สวยงามมาก เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ใจกลางหมู่บ้านมีการปลูกสร้างกังหันวิดน้ำขนาดใหญ่ เป็นเสมือนสัญญลักษณ์ของชุมชน ร้านรวงขายกาแฟและของฝากก็มีบ้างพอสมควร และมีการแสดงเต้นรำท้องถิ่นของชาวม้งให้ชม ช่วงเย็นๆสัก 4โมงเย็นเป็นต้นไป อากาศเย็นสบายดีมาก มีน้ำตกที่ชายขอบหมู่บ้าน สวยงาม สบายตา การลงมาหมู่บ้านนี้ จะเดินเท้าลงเองเป็นเส้นทางลงเขา มีการทำทางบันไดเรียบร้อยตลอดทาง เพื่อให้สดวกในการเดินลงเขา ระยะทางก็ร่วมๆ 1 กิโลเมตรได้ หรือใครอยากใช้บริการมอไซด์ ซึ่งคนท้องถิ่นมาหารายได้พิเศษกันก็มีให้บริการตลอด อยากแนะนำว่า ขาลงเขาไปหมู่บ้านให้เดินเอาเพื่อจะได้ชมวิถีชีวิตคนเขาและชมวิวสวยๆ ระหว่างทางเดิน ส่วนขาขึ้นจากหมู่บ้านค่อยนั่งมอไซด์มาก็ได้เพื่อช่วยให้ไม่เหนื่อยมาก แล้วก็ได้เวลาเติมอาหารมื้อเย็นก่อนเข้าที่พักหลังจากลุยกันมาทั้งวัน
วันที่ 3 (อังคารที่ 13ธันวาคม 2565) เราอิ่มหนำกับมื้อเช้าแล้ว ล้อรถก็หมุนที่ 7โมงครึ่งโดยประมาณ เรากำลังมุ่งหน้ากลับไปที่ฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม ร่วมๆเที่ยงวันเราก็ถึงฮานอยกัน อากาศที่นี่ก็ยังเย็นสบาย กำลังดีเลย อยู่ที่ประมาณ 13-14 องศาโดยประมาณ แต่ต่างจากซาปาโดยสิ้นเชิงตรงที่ว่า ฮานอยไม่มีหมอกหนาชื้นแฉะเลย อากาศเย็นแห้งๆ เมื่อมาถึงเราไปทานเที่ยงกันก่อนในฮานอย แล้วจากนั้นไปเริ่มต้นที่สุสานโฮจิมินห์ (Hochiminh Mausoleum) ที่นี่เป็นลานจตุรัสขนาดใหญ่ ให้อารมณ์เหมือนจตุรัสเทียนอันเหมินของจีนที่ปักกิ่งอย่างนั้นเพียงแต่ย่อส่วนลงมา มีอาคารใหญ่ที่สร้างเพื่อเก็บศพของโฮจิมินห์เก็บไว้โนโลง แต่มีการกวดขันเข้มงวด แม้แต่การเข้าใกล้ตัวอาคารยังทำไม่ได้มีการกันเส้นไว้ เพื่อเป็นเขตแดนจำกัด ดังนั้นนักท่องเที่ยวจึงไม่สามารถเข้าไปชมภายในได้เลย ทำได้แต่ถ่ายรูปจากภายนอกตัวอาคารเท่านั้น แปลกใจเหมือนกันว่าแล้วจะสร้างไว้เพื่อประโยชน์อะไร คนก็ไม่ให้เข้าไปชมในอาคาร มีทหารยามรักษาการณ์โดยรอบ เป็นสัญลักษณ์บ่งชี้ว่าเมืองนี้ยังปกครองแบบสังคมนิยมชัดเจน ทุกอย่างถูกคุมเข้มงวดจากรัฐบาล แม้แต่การถ่ายรูปในสถานที่ราชการอย่างสนามบิน ก็ต้องระมัดระวังกันด้วยเพราะเห็นมากับตาว่า เจ้าหน้าที่ รปภ เวียดนาม ที่สนามบินเดินเข้าหาทันทีที่เห็นนักท่องเที่ยวกำลังถ่ายรูปหรือวีดีโอบริเวณรอบๆสนามบิน เดินมาสั่งให้หยุดถ่ายทันที เพราะฉนั้นนักท่องเที่ยวต้องระวังตัวกันไว้พอสมควร อีกเรื่องคือการใช้แตรรถ ที่เวียดนามนี้ ไม่ว่าจะเป็นดานัง ดาลัด ฮานอย คนเวียดนามจะบีบแตรกันเป็นปรกติเมื่อสัญจรกันไปมาบนถนนน ดังนั้นเมื่อเราอยู่บนถนนหนทางในเวียดนาม เสียงแตรเป็นเรื่องปรกติมาก คนเวียดไม่ถือว่าเป็นการหาเรื่องกัน แต่เขารู้กันว่าเป็นการเตือนกันบนถนน แต่บ้านเรามักจะหัวร้อนกับเสียงแตร บีบกันทีไร คอยจะมีเรื่องกันเรื่อยเลย แล้วเราก็ไปต่อกันที่บ้านพักของโฮจิมินห์ ที่นี่ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี มีทหารยามทุกที่ ดูแลความเรียบร้อย เราดูได้แต่ข้างนอก ไม่สามารถเข้าไปในห้องนอน ห้องทำงานได้ บ้านพักก็สร้างสไตล์เรียบง่าย หลังไม่ใหญ่ มี2 ชั้น ด้านหน้ามีสระน้ำขนาดกลางๆ ทำให้ร่มรื่นเย็นสบาย มีห้องจัดแสดงเล็กๆ โชว์รถประจำตำแหน่งตอนยังมีชีวิตอยู่ ห้องนิทรรศการแสดงเรื่องราวความเป็นมาของโฮจิมินห์ เสร็จจากนี้เราไปต่อกันที่เจดีย์เสาเดียว (One Pillar Pagoda) สร้างขึ้นเพื่อถวายเแด่เจ้าแม่กวนอิม ตั้งอยู่กลางสระบัว มีขนาดย่อมๆเล็กกว่าศาลาพักรอรถเมล์บ้านเราหน่อย ปลูกสร้างอยู่บนเสาต้นเดียว มีทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะมาขอพรให้ได้ลูกกับเจ้าแม่กวนอิมที่เจดีย์เสาเดียวแห่งนี้เสมอ เป็นสถาปัตยกรรมจีนชัดเจน สวยงามและบำรุงรักษาได้ดี และเป้าหมายต่อไปคือที่วิหารวรรณกรรมวันเหมียว เป็นวัดโบราณแห่งหนึ่งของเวียดนาม มีประวัติความเป็นมายาวนานเกือบพันปี และถือเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของเวียดนาม สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.107เพื่ออุทิศให้แก่ขงจื๊อ ปราชญ์ชาวจีน ผู้ยึดมั่นในคุณธรรม ปัจจุบัน วิหารวรรณกรรมเป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์การศึกษาของเวียดนาม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของฮานอย แสดงผลงานด้านศิลปกรรม ทั้งงานปั้น แกะสลัก และรูปภาพ ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน มีความงดงามทางสถาปัตยกรรมแบบจีนทุกกระเบียดนิ้ว คือเป็นอาคารที่ล้อมลานกว้างโล่งทั้งสี่ทิศ ที่เรียกว่า “ซื่อเหอย่วน” ซึ่งถือว่าเป็นรูปแบบบ้านพื้นฐานของชาวจีน ให้ความรู้สึกเหมือนมาอยู่เมืองจีนอย่างไงอย่างงั้น แต่งดงามมาก โดยลานซื่อเหอย่วนนี้จะถูกทอดออกเป็นช่วงๆ เราสามารถเดินลึกเข้าไปได้ถึง 5 ชั้นก็ถึงชั้นในสุดของลานสี่เหลี่ยมจตุรัส เพราะตามประวัติศาตร์นั้น จีนเคยปกครองเวียดนามยาวนานนับพันปี ดังนั้นสิ่งปลูกสร้างหลักๆ ที่โดดเด่นในหลายเมืองของเวียดนามจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะได้รับอิทธิพลของจีนมาเต็มๆ ที่นี่เป็นจุดสุดท้ายของการท่องเที่ยวในวันนี้ จากนี้เราก็เตรียมตัวเดินทางกลับ กรุงเทพฯ กันตามแผน เวลาก็ล่วงมาบ่ายคล้อยแล้ว เราถึงสนามบินก็ร่วมๆเกือบ 5 โมงเย็น ก็มาร่วมทานอาหารมื้อเย็นก่อนขึ้นเครื่อง พอมาถึงขั้นตอนการตรวจศุลกากรเวียดที่ฮานอยนี้ หัวหน้าทัวร์เจอปัญหาเล็กน้อย เพราะดันไปเอา Power Bank ไว้ในกระเป๋าโหลด ต้องโดนเรียกตัวกลับไปห้องเย็น อีกรอบเพื่อเอาออกมาเก็บไว้ในกระเป๋าถือ ดังนั้นพี่น้องนักเดินทางทั้งหลาย จงจำให้ขึ้นใจว่าที่เวียดนามนี้เข้มงวดเอาเรื่องจริง ๆเรื่องตรวจคนเข้าหรือออกเมือง ช่วงขณะเรามานั่งรอเครื่องที่ GAGE แล้ว ก็ยังเห็น สาวนักท่องเที่ยวฝรั่งอยู่คน โดนเจ้าหน้าที่เวียด ตม มาตามถึงที่นั่งที่รอที่ GATE เลย เจอปัญหาเดียวกันเลยคือเรื่อง Power Bank ให้ไปเอาออกและเก็บไว้ในกระเป๋าถือ
สรุปแล้วทริปนี้ เหนื่อยจริง หนาวจริงและวิวสวยจริงๆ แบบไม่เคยหนาวอย่างนี้มาก่อนในชีวิต และก็นับเป็นหนึ่งในประสบการณ์ชีวิตที่มีแต่การออกเดินทางเท่านั้นที่ให้เราได้ สายใยของพี่น้องร่วมทริป รอยยิ้ม ความผูกพัน มิตรภาพ เสียงหัวเราะ และประสบการณ์ใหม่ของดินแดนที่ได้ชื่อว่าเป็นหลังคาของอินโดจีนนี้ จะยังคงเป็นความประทับใจไม่รู้ลืม จนกว่าเราจะมีโอกาสได้มาร่วมเดินทางด้วยกันใหม่ ตอนนี้ ขอขอบคุณและไว้พบกันใหม่ ตอนนี้ขอกล่าวคำว่า “สวัสดีค่ะ”🙏

25/11/2022
เที่ยว ดานัง-ฮอยอัน-บาน่า-เว้ 4D3N😊ขอเชิญชวนพ่อแม่พี่น้อง 🤹‍♂️นักเดินทาง ผู้ไม่เคยหยุดนิ่งอยูกับที่ มาร่วมออก✈️เดินทางไป...
17/10/2022

เที่ยว ดานัง-ฮอยอัน-บาน่า-เว้ 4D3N
😊ขอเชิญชวนพ่อแม่พี่น้อง 🤹‍♂️นักเดินทาง ผู้ไม่เคยหยุดนิ่งอยูกับที่ มาร่วมออก✈️เดินทางไปด้วยกัน หน้าหนาวต้นปีหน้า ไปเที่ยวด้วยกันที่เวียดนามกลาง เมืองดานัง ไปนั่งกระเช้าลอยฟ้าที่สูงและยาวที่สุดโนโลก เที่ยว🎪ดิสนีย์แลนด์ดานัง อลังการกับสะพาน✋มือ เยือนเมืองโบราณฮอยอันเมืองแห่ง 3 วัฒนธรรมผสานกันทั้งจีน ญี่ปุ่น เวียดนาม เพลินกับเรือกระด้งท่ามกลางดง🌴มะพร้าว ไปน🙏มัสการเจ้าแม่กวนอิมยักษ์ที่วัดหลินอิ๋ง ชมสะพานมังกรสัญลักษ์ของดานัง ไปที่เมืองเว้ เมืองแห่ง มรดกโลก ไปชมพระราชวังโบราณ สุสานไคดิงห์ อลังการ งามมาก ฯลฯ จองเลยวันนี้ แล้วมาร่วม🚌เดินทางไปด้วยกัน 🙏

#เพราะชีวิตคือการเดินทาง
http://line.me/ti/p/~kapookreturn

☃️หนาวนี้ไม่รู้จะไปเที่ยวไหนดี..เชิญชวนมาเที่ยวซาปา..ดีกว่า 😊 ซาปา(Sa Pa) เมืองชายแดน⛰ตอนเหนือเวียดนามในจังหวัดหล่าวกาย ...
29/09/2022

☃️หนาวนี้ไม่รู้จะไปเที่ยวไหนดี..เชิญชวนมาเที่ยวซาปา..ดีกว่า 😊
ซาปา(Sa Pa) เมืองชายแดน⛰ตอนเหนือเวียดนามในจังหวัดหล่าวกาย ติดกับชายแดนประเทศจีน มีวิว🏜ทิวทัศน์สวยงามมาก จุดเด่นคือการทำนาขั้นบันได อาคาร🛖และผังเมืองแบบฝรั่งเศส (French Colonial) เช่นโบสถ์⛪️คาทอลิกกลางเมือง
ซาปาอยู่ตะวันออกสุดของเทือกเขา🏔หิมาลัยและเป็น
👉ที่ตั้้งของยอดเขาฟานซีปัน ยอดเขาที่สูงสุดในเวียดนามสูง 3,143 เมตร 👉บางปีมีหิมะตกในหน้าหนาว บรรยากาศจึงโรแมนติกมาก เหมาะแก่การมาเที่ยว
👉อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีอยู่ที่ 15-16 องศาเซลเซียส หนาวสุดช่วงธันวาคม-มกราคม
ซาปาดังไปทั่วโลก
👉จาก🌅วิวนาข้าวขั้นบันไดสีเหลืองทองที่หลั่นกันตามความชันของภูเขา มีเขาน้อยใหญ่ล้อมรอบ ทะเลหมอกสีขาวปนเทา
👉เป็นเมืองตากอากาศคลาสสิคสุดแห่งเวียดนามเหนือ อากาศเย็นสบายทั้งปี
🚡มีกระเช้าไฟฟ้ายาวสุดในโลกขึ้นยอดเขาฟานซิปัน
👉เป็นสวิสเซอร์แลนด์แห่งเวียดนาม เป็นยุโรปแห่งตะวันออกที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างถวิลหามาเยือน….. แล้วมาร่วมเดินทางไปด้วยกัน++++++++++

#เพราะชีวิตคือการเดินทาง

☃️หน้าหนาวปีนี้ไปเยือนประเทศเพื่อนบ้านเราอย่างเขมร เสียมเรียบกัน ชมสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่นครวัด 1ใน7 สิ่งเหลือเชื่อของโ...
20/09/2022

☃️หน้าหนาวปีนี้ไปเยือนประเทศเพื่อนบ้านเราอย่างเขมร เสียมเรียบกัน ชมสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่นครวัด 1ใน7 สิ่งเหลือเชื่อของโลกใบนี้ ล่องทะเลสาปโตนเล นครธม และปราสาทหินโบราณอีกมาก แล้วมาร่วมเดิทางไปด้วยกัน 🙏
#้เพราะขีวิตคือการเดินทาง

👨‍มาเที่ยวเบตงกันดีกว่า ต้นปีหน้า อากาศกำลังเย็นสบาย กับทริปเบาๆ สบายๆ ที่ใต้สุดแดนสยาม ชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่ ณ.วันนี้ ...
20/08/2022

👨‍มาเที่ยวเบตงกันดีกว่า ต้นปีหน้า อากาศกำลังเย็นสบาย กับทริปเบาๆ สบายๆ ที่ใต้สุดแดนสยาม ชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่ ณ.วันนี้ สงบเงียบไม่มีปัญหาความรุนแรงอะไรให้น่ากลัวเหมือนกับข่าวก่อนหน้านี้ สะพานลอยฟ้า (Skywalk) อัลเยอร์เวง ก็ยังรอให้ท่านไปเยือนกับหมอกหนาที่ปกคลุมตลอดทั้งปี อาหารท้องถิ่นรสเด็ดก็รอให้ท่านได้ลิ้มลองกัน อัธยาศัย มิตรไมตรีของคนท้องถิ่น ก็มีให้ได้สัมผัส ได้พบเจอกัน และยังมีอีกมาก ที่จาระไนกันไม่หมด จะมัวช้า อยู่ใย จองเลยวันนี้ แล้วมาร่วมเดินทางไปด้วยกัน 🙇‍♀️

#เพราะชีวิตคือการเดินทาง

🙇‍♀️มาเที่ยวดานัง เวียดนามกลางกันดีกว่า หน้าหนาวนี้ อากาศกำลังเย็นสบาย ไปนั่งกระเช้าไฟฟ้าไต่เขาที่ยาวที่สุดโนโลก (ลง Gui...
19/08/2022

🙇‍♀️มาเที่ยวดานัง เวียดนามกลางกันดีกว่า หน้าหนาวนี้ อากาศกำลังเย็นสบาย ไปนั่งกระเช้าไฟฟ้าไต่เขาที่ยาวที่สุดโนโลก (ลง Guiness Book World of Record) ยาวเกือบ 6 กิโลเมตร โดยไม่มีการแวะพัก ไปเที่ยวเมืองในเทพนิยาย ปราสาทเก่าที่สวยงาม สไตล์ฝรั่งเศส เพลิดเพลินกับเครื่องเล่นทั้งกลางแจ้งและในร่ม เช่น ชมหนัง 4D, รถไฟเหาะ, บ้านผีสิง, แมงมุมเวียนหัว หรือหามุมถ่ายภาพสวยๆ กับสะพานทอง (Golden Bridge) ที่เป็น highlight ใหม่ของเมืองดานัง สามารถชมวิวเมืองดานังได้ 360องศา และเมืองเก่าฮอยอัน เป็นมรดกโลกของเวียดนามที่สะท้อนเรื่องการผสมผสานวัฒนธรรมระหว่าง จีน-ญี่ปุ่น-เวียดนามเข้าด้วยกันได้อย่างงดงามและลงตัว ต่อดวยนั่งเรือกระด้ง วัฒนธรรมความบันเทิงของชาวกั๊มถ่านที่ล่องเรือร้องเพลงกันอย่างเพลิดเพลิน และอื่นๆ อีกมาก ที่ไม่ควรพลาดกับหน้าหนาวนี้ จะรอช้าอยู่ใย จองเลยวันนี้ แล้วมาร่วมเดินทางไปด้วยกัน🙏

😊ขอเชิญชวนพ่อแม่พี่น้อง 🤹‍♂️นักเดินทาง ผู้ไม่เคยหยุดนิ่งอยูกับที่ มาร่วมออก✈️เดินทางไปด้วยกัน ช่วงปลาย🌧ฝน ต้นหนาวนี้ ไปเ...
29/07/2022

😊ขอเชิญชวนพ่อแม่พี่น้อง 🤹‍♂️นักเดินทาง ผู้ไม่เคยหยุดนิ่งอยูกับที่ มาร่วมออก✈️เดินทางไปด้วยกัน ช่วงปลาย🌧ฝน ต้นหนาวนี้ ไปเที่ยวด้วยกันที่เวียดนามกลาง เมืองดานัง ไปนั่งกระเช้าลอยฟ้าที่สูงและยาวที่สุดโนโลก เที่ยว🎪ดิสนีย์แลนด์ดานัง อลังการกับสะพาน✋มือ เยือนเมืองโบราณฮอยอันเมืองแห่ง 3 วัฒนธรรมผสานกันทั้งจีน ญี่ปุ่น เวียดนาม เพลินกับเรือกระด้งท่ามกลางดง🌴มะพร้าว ไปน🙏มัสการเจ้าแม่กวนอิมยักษ์ที่วัดหลินอิ๋ง ชมสะพานมังกรสัญลักษ์ของดานัง ฯลฯ จองเลยวันนี้ แล้วมาร่วม🚌เดินทางไปด้วยกัน 🙏

#เพราะชีวิตคือการเดินทาง
http://line.me/ti/p/~kapookreturn

13/07/2022

✍️Wherevery you are in Thailand, be there, otherwise you are going to miss the opportunity to enjoy a magic 🫂moment and once in a life time. Amazing Thailand all over the country is waiting for all of you to get explored by your own eye sights. Things happen for a reason so that's why won't you enjoy it while you can. Don't procastinate because you never know for sure tomorrow will come or not. So, just do it today because tomorrow is too late and tomorrow never comes. Amazing Thailand 2022!😊

#เพราะชีวิตคือการเดินทาง

✍️ขอเชิญชวนไปเที่ยวเมืองลาวกับรถไฟฟ้า🚃ความเร็วสูง ลาว - จีน ซึ่งได้ฤกษ์เปิดบริการไปแล้วเมื่อ 3 ธันวา 2564 👉รถไฟความเร็วส...
02/07/2022

✍️ขอเชิญชวนไปเที่ยวเมืองลาวกับรถไฟฟ้า🚃ความเร็วสูง ลาว - จีน ซึ่งได้ฤกษ์เปิดบริการไปแล้วเมื่อ 3 ธันวา 2564
👉รถไฟความเร็วสูงขบวนนี้มีมูลค่าเกือบ 2 แสนล้านบาท ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับชาวลาวและไทยเป็นอย่างมาก ผู้คนอยากทดลองนั่งรถไฟสายประวัติศาสตร์นี้สักครั้งในชีวิต
👉เส้นทางรถไฟลาว-จีนมีทั้งหมด 32 สถานีทั้งสถานีรับส่งผู้โดยสารและสถานีขนส่งสินค้า ปัจจุบันเปิดให้บริการรับส่งผู้โดยสารในฝั่งลาว 6 สถานี ระยะเวลาเดินทางนานสุดคือ 4 ชั่วโมง 20 นาทีจากเวียงจันทน์ถึงบ่อเต็น ซึ่งถ้าเดินทางโดยทางรถยนต์แล้วต้องใช้เวลาเดินทางนานกว่า 13 ชั่วโมง

👉รถไฟสายนี้เป็นส่วนหนึ่งของระเบียงเศรษฐกิจจีน-อินโดจีน และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt & Road Initiative -- BRI) ที่จีนริเริ่มในปี 2013 เพื่อขยายเส้นทางการขนส่ง เชื่อมต่อผู้คนใน 70 ประเทศทั่วโลกทั้งทางบกและทางทะเล และวิ่งผ่านเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยวหลายแห่ง
👉ความเร็วในการขนส่งผู้โดยสารสามารถเร็วได้กว่า 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ของลาวจะวิ่งที่ความเร็ว 160-200 กม/ต่อชั่วโมง แล้วมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายประวัติศาสตร์ของขบวนรถไฟสายนี้ด้วยกัน 🙏
#เพราะชีวิตคือการเดินทาง

✍️ไปเที่ยว 🚌ภูเก็ตกันดีกว่า...สาธารณสุขไทยกำลังจะเริ่มเปิด 😷mask ให้คนไทยเราได้หายใจโล่งๆ และกลับมามีชีวิตแบบปรกติเดิม ๆ...
23/06/2022

✍️ไปเที่ยว 🚌ภูเก็ตกันดีกว่า...สาธารณสุขไทยกำลังจะเริ่มเปิด 😷mask ให้คนไทยเราได้หายใจโล่งๆ และกลับมามีชีวิตแบบปรกติเดิม ๆ ไม่ใช่ (New Normal) กันเสียที หลังจากเราต้องใช้ชีวิตกันแบบการใส่หน้ากากเข้าหากันมาหลายปี 55 ทริปนี้ขอเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องมาร่วมท่องไข่มุกอันดามันด้วยกัน
🏝เกาะภูเก็ตอยู่ภาคใต้เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่สุดของไทยในทะเล 🏖อันดามัน ทั้งเกาะถูกล้อมด้วยมหาสมุทรอินเดีย การเดินทางเข้าภูเก็ตไปได้ทั้งทางเรือ ทางรถยนต์โดยผ่านจังหวัดพังงา ข้ามสะพานสารสิน และทางอากาศ
ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดัง ได้รับความนิยมไปทั่วโลก กับหาดทรายละเอียดสีขาวนวล น้ำทะเลสีมรกต โรงแรมและที่พักหลายระดับ นอกจากความสวยงามของเกาะและทะเลแล้ว ภูเก็ตมีประวัติศาสตร์และความรุ่งเรืองมายาวนาน เช่นย่านเมืองเก่าภูเก็ตที่หลากไปด้วยตึกเก่าชิโนโปรตุกีสทั้งสองฝากฝั่งถนน เป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจน ตึกเก่าเหล่านี้กระจายไปทั่วเมือง หรือจะเป็นความงามตามธรรมชาติอย่างแหลมพรหมเทพ จุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่อยู่ใต้สุดของเกาะ เป็นแหลมโค้งไล่ระดับทอดตัวสู่ท้องทะเล รายล้อมด้วยต้นตาลที่แทรกอยู่เรียงราย และอื่นๆอีกมากมายทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรม ทำให้ภูเก็ตเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก...แล้วมาร่วมเดินทางไปด้วยกัน

#เพราะชีวิตคือการเดินทาง

✍️เช้ามืดตอน 6โมงโดยประมาณของวันที่ 12 มิถุนายน พุทธศักราช 2565 คณะทัวร์ของพี่สีพร้อมลูกหลานและเพื่อนฝูงได้ออกเดินทางมุ่...
19/06/2022

✍️เช้ามืดตอน 6โมงโดยประมาณของวันที่ 12 มิถุนายน พุทธศักราช 2565 คณะทัวร์ของพี่สีพร้อมลูกหลานและเพื่อนฝูงได้ออกเดินทางมุ่งหน้าไปพักผ่อน ท่องเที่ยวกันที่ สังขละบุรี ศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรี รวมเวลา 3 วัน 2 คืน งานนี้ คณะเราได้ไปเยือน เยี่ยมเยียนหลายแห่งด้วยกัน บรรยากาศการเดินทางเป็นไปอย่าง ง่ายๆ สบายๆ ไม่เร่งรีบอะไร แถมทั้งแต่ละจุดที่เราไป นักท่องเทียวไม่หนาแน่น เพราะเราเลือกเดินทางกันวันอาทิตย์ เลยทำให้แต่ละแห่งที่ไปเที่ยว คนไม่หนาแน่นเกิน เรียกว่ากำลังดี จุดแรกที่เราไปคือสังขละบุรี ที่วันนี้เริ่มเปิดให้ผู้คนที่นั่นไม่ต้องใส่หน้ากากกันโควิดกันได้แล้วในที่โล่งแจ้ง และผู้คนก็กลับมาทำกินกันได้ตามปรกติ เรือก็วิ่งได้แล้ว สะพานมอญก็ยังตระหง่านอยู่เหมือนเดิน ช่วงนี้น้ำมายังไม่หลากมากนัก เลยทำให้วัดจมน้ำ สามารถขึ้นไปเดินเที่ยวชมก้นได้ตามอัธยาศัย หลังจากเราไปอิ่มอร่อยกันที่ร้านท้องถิ่นที่สังขละ เราไปต่อกันที่ด่านเจดีย์ 3 องค์ จุดที่ถือกันว่าเป็นสุดเขตแดนของตะวันตก ชายแดนไทยพม่าที่นี่ วันนี้เรียกได้ว่ายังไม่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากนัก เพราะโควิดยังไม่ฟื้นคืนมาเต็มที่ ร้านรวงของพ่อค้า แม่ขายทั้งอาหาร ของฝาก เหล้ายา อัญมณี ฯลฯ ก็เปิดขายกันประปราย ไม่ถือว่าแน่นหนาเหมือนตอนก่อนโควิดมา จากนั้นคณะเราไปล่องเรือชมทัศนียภาพและความงามของเขื่อนเขาแหลม (เขื่อนวชิราลงกรณ์) และวัดจมน้ำกัน นั่งตากลมเขื่อนเย็นๆ สบายๆ มีน้องไกด์มอญคอยให้ข้อมูลอีกต่างหาก ก็ชิลไปตามๆ กัน เสร็จสรรพแล้ว เราก็เข้าที่พักคืนแรกกันที่สังขละบุรี คืนนี้มีปาร์ตี้เล็กๆ ในครอบครัวพี่สี เจ้าของวันเกิด ก็ต้องมี Happy Birth Day to You กันพอหอมปากหอมคอ ก่อนแยกย้ายกันพักผ่อนตามอัธยาศัย เช้าวันที่ 2 เราไปตักบาตรกันแต่ก่อน 6 โมงเช้า เรียกได้ว่า อิ่มบุญกันทั่วหน้า บรรยากาศสะพานมอญเข้านี้ สดชื่นดีจริงเลย เพราะคนไม่มาก ไม่มีใครมาแย่งซ๊นกับคณะเรามาก ถ่ายรูปแล้วออกมาสวย เพราะคนไม่มาก ไม่ต้องรอคิวเหมือนช่วงก่อนโควิด ซึ่งแน่นมากตอนเช้ามืด เมื่ออิ่มบุญ และชมวิวแล้วก็ได้เวลาออกเดินทางไกลไปเขื่อนศรีนครินทร์ ไปเล่นน้ำเขื่อนและนอนบนแพลอยน้ำกัน ทริปนี้เรามีเด็กเล็กมาด้วยกัน 3 คน ก็สนุกเพลินกันแบบลืมไม่ลงละกัน55 เราค้างคืนกันที่แพ 1 คืนแล้วเช้าวันถัดมาหลังจากเบรคฟาสแล้ว ก็มุ่งหน้าเดินทางไปวัดถ้ามังกรทองและชมต้นจามจุรียักษ์ก่อนแวะซื้อของฝากก่อนมุ่งหน้ากลับเป้าหมายของเรา และอย่างที่กล่าวมาหลายครั้ง หลายหนแล้วว่า ทุกๆ การออกเดินทางในแต่่ละครั้งมักให้อะไรเรามากกว่าการไปชื่นชมแหล่งท่องเที่ยว เปลี่ยนที่กิน เปลียนที่นอน เท่านั้น แต่การได้แลกเปลี่ยนวิธีคิด ทัศนคติ และมิตรภาพของเพื่อนร่วมทริปที่ร่วมเดินทางไปด้วยกัน เขียนมาถึงบรรทัดนี้แล้ว คณะผู้จัดทัวร์ ทัวร์ไทยเวย์ ต้องกราบขอบพระคุณพี่สีและพี่น้องร่วมคณะอีกครั้งที่ให้โอกาสเราได้นำพาคณะท่านได้ออกเดินทางไปในทริปนี้ และจนกว่าจะมีโอกาสได้ร่วมเดินทางด้วยกันใหม่อีกครั้งในอนาคต เราขอแทนคำขอบคุณ ด้วยภาพสวยๆ ที่บันทึกไว้ตลอดทริปการเดินทาง ให้ท่านได้ทัศนะและเลือกโหลดเก็บไว้ดูตามต้องการ และเพราะชีวิตคือการเดินทาง ขอขอบคุณและสวัสดีค่ะ 🙏
#เพราะชีวิตคือการเดินทาง

✍️ปีพุทธศักราช 2565 เพลาเช้ามืดของวันพุทธที่ 11 พฤษภาคม คณะทัวร์เล็กๆคณะหนึ่งภายใต้การนำของ ทัวร์ไทยเวย์ ได้ออกเดินทางโด...
03/06/2022

✍️ปีพุทธศักราช 2565 เพลาเช้ามืดของวันพุทธที่ 11 พฤษภาคม คณะทัวร์เล็กๆคณะหนึ่งภายใต้การนำของ ทัวร์ไทยเวย์ ได้ออกเดินทางโดยทางนกเหล็กจากสนามบินดอนเมือง เพื่อมุ่งหน้าสู่ใต้สุดแดนสยามติดชายแดนไทยมาเลเซียนามว่า "เบตง" จังหวัดยะลา ดินแดนที่มองกันว่ามีการก่อการร้ายเยอะ (ว่ากันอย่างนั้น ตามข่าวสารหนะนะ) กรุ็ปนี้ประกอบไปด้วย เฮียเล็ก ป้านิด ป้าดวงจันทร์ ป้าเพ็ญจิต พี่ชลอ พี่หวี พี่แดง และทีมงานทัวร์ไทยเวย์อีก 2 รวมทั้งสิ้น 9 ชีวิตด้วยกัน งานนี้เราเดินทางด้วยกัน 3 วัน 2 คืน พักที่เบตงทั้ง 2 คืน การเดินทางทรืปนี้ ให้เราได้รู้ ได้เห็น อะไรมากมายหลายอย่าง อย่างที่คนไม่ได้ออกมาด้วยจะไม่เห็น เช่นว่า ที่ว่าเป็นเมืองนี้น่ากลัว มีแต่การก่อการร้ายนั้น จริงๆ ภาพที่เห็น ไปเห็นมากับตาเราเอง บ้านเมืองก็สงบเรียบร้อย ผู้คนก็ทำมาหากินตามปรกติ รอยยิ้ม อัธยาศัย มืตรไมตรีของผู้คนก็มีให้เฉกเช่นแห่งหน ตำบลอื่นเช่นกัน อาหารพื้นเมืองที่ว่าไปเบตงแล้วห้ามพลาดเราก็ไม่พลาดเช่นกัน ไม่ว่าได้ไปกิน ไก่สับเบตง ปลานิลสายน้ำไหล ถั่วเจี๋ยน เคาหยก และอีกมาก ว่าง่ายๆ อร่อยไปตามๆ กัน รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวไหนที่เป็น Highlight ที่มาแล้วต้องไปชม เราก็ไม่ให้พลาดเช่นกัน เช่น วันช้างให้ (วัดหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด) ชมวิวเขื่อนบางลาง วัดพุทธาธิวาส อุโมงเบตงมงคลฤทธิ์ อุโมงปิยะมิตร OKเบตง Skywalk อัลเยอร์เวง สุดเขตแดนไทยมาเลเซีย สนามบอลบนเขา วัดถ้ำยะลา และอื่นๆ อีกมาก และนอกเหนือจากการไปเปลี่ยนที่ทานอาหาร เปลี่ยนที่นอนแล้ว พี่น้องร่วมทริปก็มีโอกาสได้สนทนาแลกเปลี่ยน มุมมอง โลกทัศน์ วิธีคิด และประสบการณ์ของแต่ละคน มาแชร์กัน มาแลกเปลี่ยนกัน ก่อให้เกิดมิตรภาพ ของเพื่อนมนุษย์ในชาติเดียวกัน ถึงจะต่างที่มา แต่รักในการเดินทางเหมือนกัน ประโยชน์ก็่ตกทั้งแก่ตัวผู้เดินทางเอง คือท่านจะได้ไม่เกิดปัญหาเป็นโรคซึมเศร้า เพราะว่าเมื่อออกเดินทางแล้วมีกิจกรรมให้ทำเยอะ เพื่อนเยอะ และอื่น ๆ เลยทำให้ท่านไม่ซึมเศร้าแน่นอน รับประกันได้ 55 ว่ากันว่าคนที่ออกเดินทางได้นั้นต้องเป็นคนมีบุญถึงพร้อม 3 อย่างด้วยกัน ขาดอย่างใด อย่างหนึ่งก็จะไม่มีทางได้ออกเดินทางท่องเที่ยวแน่นอน คือ 1) ต้องมีเงินมากพอ ถ้าจนหนัก ก็ต้องกระเสีอกกระสนแค่หากินเลี้ยงปาก เลี้ยงท้องไปวันๆ หมดสิทธิ์เที่ยว 2) สุขภาพต้องแข็งแรง ถ้าป่วยแล้ว ใครจะมีอารมณ์หรือมีแรงเดินทางเที่ยวหละ จริงไหม และ3) ต้องมีรสนิยมกับชีวิตว่า ชีวิตคือการเดินทางถึงจะมีการออกเดินทางท่องเที่ยว ถ้าคิดว่าเป็นเรื่องสิ้นเปลืองเงินทองแล้วหละก็ ก็จบแล้ว เพราะไม่ได้ไปไหนแน่ เพราะขาดรสนิยมนั่นเอง และทุกครั้งที่ท่านออกเดินทาง มีคนอื่นได้ประโยชน์จากท่านเสมอ เช่น ทัวร์ ไกด์ คนรถ ร้านอาหาร ขายของฝาก โรงแรม สายการบิน แหล่งท่องเที่ยว คนท้องถิ่น ฯลฯ ว่าง่ายๆ คือท่านทำให้เกิดเงินทองหมุนเวียน ช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติให้เขามีกิน มีใช้ขึ้นมานั่นเอง เพราะชีวิตคือการเดินทาง และทริปนี้ก็เช่นกัน บันทึกความทรงจำอันอบอุ่น สวยงามและมิตรภาพที่เกิดจากการมาร่วมเดินทางด้วยกันนั้น เราได้บันทึกไว้เป็นรูปภาพสวยๆ เป็นความทรงจำแทนคำพูดนับร้อย นับพัน ลองมาดูกันนะค่ะ ว่าใครไปทำอะไร ที่ไหน อย่างไรกันบ้าง และท้ายที่สุดนี้ ต้องขอกราบขอบพระคุณลุงป้าพี่น้องร่วมทริปครั้งนี้ ที่ให้โอกาสเราได้พาท่านไปในที่ๆท่านอยากไป รอจนกว่าจะได้มีโอกาสเดินทางร่วมกันอีกครั้งในอนาคตอันใกล้นี้ นาทีนี้ขอขอบคุณและสวัสดีค่ะ🙏

😊ขอเชิญชวนพี่น้องมาร่วมท่องเที่ยว🚌เมืองสังขละบุรี ศรีสวัสดิ์ เมืองกาญจนบุรี ด้วยกัน มาล่องเรือ⛵️ชมความงามของเขื่อน🗻เขาแห...
20/05/2022

😊ขอเชิญชวนพี่น้องมาร่วมท่องเที่ยว🚌เมืองสังขละบุรี ศรีสวัสดิ์ เมืองกาญจนบุรี ด้วยกัน มาล่องเรือ⛵️ชมความงามของเขื่อน🗻เขาแหลม ชมวัดเก่าแก่ในตำนาน 🛕วัดจมน้ำ วัดสมเด็จเก่า ตามด้วยไปเยี่ยมชมความงดงามยามเช้าของสะพานมอญ สะพานไม้ที่ยาวสุดในประเทศไทย ไปนมัสการวัดหลวงพ่ออุตตมะ ไปดูสุดเขตชายแดนไทยพม่าที่ด่าน🛕เจดีย์ 3 องค์ แล้วเดินทางไปเยือนเขื่อนศรีนครินทร์ ไปสนุกเพลิดเพลินกับเครื่องเล่นน้ำหลากหลายชนิดบนผืนน้ำ ก่อนไปชมความงามปนความเหลือเชื่อของทางรถไฟสายมรณะที่ถ้ำกระแซ และอื่นๆ อีกมากมาย....

✌️แล้วมาร่วมเดินทางไปด้วยกัน เพราะชีวืต😷นี้ไม่นาน รีบไขว่คว้าหาความสุขและกำไรชีวิตตอนที่ยังทำได้ ก่อนสายเกิน..🙇‍♀️

#เพราะชีวิตคือการเดินทาง

▶️Tel: 084-1188538
084-1430438
Line ID: kapookreturn
▶️http://line.me/ti/p/~kapookreturn

🙏สวัสดีวันปีใหม่ไทย 2565!🥳
13/04/2022

🙏สวัสดีวันปีใหม่ไทย 2565!🥳

🙇‍♀️เชิญชวนมาเที่ยว เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ ด้วยกัน 🏯"เมืองย้อนยุคกว่า 150 ปีที่แล้ว" ✍️เมืองมัลลิกาเปิดภาพและบรรยากาศของว...
08/03/2022

🙇‍♀️เชิญชวนมาเที่ยว เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ ด้วยกัน
🏯"เมืองย้อนยุคกว่า 150 ปีที่แล้ว"

✍️เมืองมัลลิกาเปิดภาพและบรรยากาศของวิถีชีวิตชาวสยามบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ในรัชสมัยล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ ชีวิตของคนไทในยุค ร.ศ.๑๒๔ เกิดการเปลี่ยนแปลงมาก เช่นการประกาศเลิกทาส เมื่อทาสเป็นไท ต้องทำมาหากินด้วยตนเอง ไม่มีเจ้านายอีกต่อไป ต้องพึ่งตนเอง การปรับตัวเพื่อความอยู่รอดนี้ ถือเป็นรากฐานสำคัญของการเปลียนบ้านแปลงเมืองมาจนปัจจุบันนี้
แล้วมาร่วมเดินทางไปที่เมืองมัลลิกาหนีโรคระบาดในเพลานี้ไปด้วยกัน

#เพราะชีวิตคือการเดินทาง
☎️ 084-1189538, 084-1430438
Line: kapookreturn
http://line.me/ti/p/~kapookreturn
[email protected]
www.tourthaiway.com

😊มาเที่ยวเบตงกันดีกว่า...เบตง ใต้สุดแดนสยาม ชายแดนไทย-มาเลเซีย       เบตง...อำเภอขนาดใหญ่ในจังหวัดยะลา ตั้งอยู่ใต้สุดของ...
13/02/2022

😊มาเที่ยวเบตงกันดีกว่า...

เบตง ใต้สุดแดนสยาม ชายแดนไทย-มาเลเซีย
เบตง...อำเภอขนาดใหญ่ในจังหวัดยะลา ตั้งอยู่ใต้สุดของประเทศไทย มีลักษณะคล้ายปลายหอกติดกับประเทศมาเลเซีย อยู่ในแนว⛰เทือกเขาสันการาคีรี ห่างจากเมืองยะลา140 และจากกรุงเทพฯ 1,200 กิโลเมตร
ภูมิประเทศของอำเภอเบตงส่วนใหญ่เป็นเขาสูง จึงทำให้มีอากาศดี มีหมอกตลอดปี ดังคำขวัญประจำเมือง“เมืองในหมอก 🍂ดอกไม้งาม ใต้สุดสยาม เมืองงามชายแดน” เป็น🏚เมืองสงบที่ซ่อนตัวอยู่ในอ้อมกอดของหุบเขาและอากาศแสนสบาย มีจุดชมวิวทะเล☁️หมอกที่งดงาม สามารถชมทะเลหมอกได้ตลอดปี นอกจากมีชื่อในเรื่องเมืองท่องเที่ยวแล้ว ยังมีอาหารรสเด็ด อาหารท้องถิ่นรสเลิศให้ลิ้มลองกัน เช่น ไก่สับเบตง ปลานิลสายน้ำไหล กบภูเขา ปลา🐟จีน หมี่เบตง ฯลฯ เป็นเมืองน่าอยู่ ผู้คน👩‍🦰เป็นกันเอง ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เห็นกันในข่าว มีการผสานทางวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ และมีความหลากทางชาติพันธ์ มี🌳ธรรมชาติที่สวยงามจึงทำให้เบตงเป็นที่ๆนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ มา🚐ท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก

แล้วมาร่วมเดินทางไปด้วยกัน 🙏
#เพราะชีวืตคือการเดินทาง ✌
http://line.me/ti/p/~kapookreturn

🙇น่าน...เมืองเก่าที่มีชีวิต“น่าน” เมืองเล็กๆทางตอนเหนือที่ยังคงรักษาไว้ซึ่งเสน่ห์ของ🏚บ้านเมือง คนล้านนา วิถีชีวิต ศิลปะว...
25/01/2022

🙇น่าน...เมืองเก่าที่มีชีวิต
“น่าน” เมืองเล็กๆทางตอนเหนือที่ยังคงรักษาไว้ซึ่งเสน่ห์ของ🏚บ้านเมือง คนล้านนา วิถีชีวิต ศิลปะวัฒนธรรมและ🌳ธรรมชาติ มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายทั้งด้านประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ เกษตร หรือการท่องเที่ยวชุมชน จึงเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ที่ไม่ควรพลาดที่จะไปเยือน…... ว่าแล้วก็มา...มาร่วม🚐เดินทางไปด้วยกัน
เพราะชีวิตนี้ไม่นาน..อะไรที่เป็นความสุข ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน..อยากทำก็ทำซะ! ✌
#เพราะชีวิตคือการเดินทาง 😊

✍️ Review ปราสาทสัจธรรม วันที่ 15/10/2564 ที่ผ่านมา ผู้เขียนได้ไปเยี่ยมชมปราสาทไม้หลังนี้ จึงได้นำสิ่งละอันพันละน้อย มาแ...
18/11/2021

✍️ Review ปราสาทสัจธรรม วันที่ 15/10/2564 ที่ผ่านมา ผู้เขียนได้ไปเยี่ยมชมปราสาทไม้หลังนี้ จึงได้นำสิ่งละอันพันละน้อย มาแบ่งปันผู้อ่าน ให้ได้รับทราบเป็นข้อมูล ความรู้ ความเข้าใจ เพื่อเกิดประโยชน์ต่อไปในภายหน้า ดังนี้
ที่ตั้ง: แหลมราชเวช พัทยา นาเกลือ บางละมุง ชลบุรี
เนื่องจากตัวปราสาทตั้งอยู่บนแหลม จึงทำให้ผู้มาเที่ยวชมจะได้รับบรรยากาศชายทะเลและรับลมทะเลตลอดเวลา อากาศจึงเย็นสบายไม่ร้อนอบอ้าว แถมทั้งก่อให้เกิดภูมิทัศน์งดงามขึ้นอีกมาก ไม่ว่าจะมองจากพื้นราบหรือมองจากที่สูงลงมาตัวปราสาทก็จะเห็นทะเล จึงถือได้ว่าเป็นชัยภูมิที่งดงามมากอีกแห่งหนึ่งของแหล่งท่องเที่ยวในเมืองพัทยา นอกจากนั้นแล้วที่นี่ยังมีไกด์ประจำปราสาท ซึ่งจะทำหน้าที่พานักท่องเที่ยวเดินเที่ยวชมตามจุด ตำแหน่ง ต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกองค์ปราสาท คอยให้ข้อมูลตามจุดต่างๆที่โดดเด่น และก่อนจะเข้าไปเยี่ยมชมองค์ปราสาทนั้น นทท จะเริ่มต้นจากจุดพักรอ ชมวิว หน้าครัวนาเกลือ ซึ่งเป็นร้านอาหารประจำปราสาท โดยไกด์จะเริ่มการบรรยายจากจุดนี้เป็นจุดแรก ก่อนจะพา นทท เดินลงเนินเขาเพื่อมุ่งหน้าไปตัวปราสาทด้านล่าง ระหว่างทางเดินนั้น สตาฟ จะให้หมวกกันน๊อคไว้สวมใส่ เพื่อความปลอดภัยระหว่างเดินเที่ยวชมภายใน เพราะเหตุที่ว่า ปราสาทแห่งนี้ สร้างไม่เคยเสร็จสมบูรณ์สักที (แรกสร้างเมื่อปี 2524) ล่วงมาถึงวันนี้จะประมาณ 40 ปีโดยประมาณ และที่ว่าสร้างไม่เคยแล้วเสร็จสักทีเพราะว่าขนาดของตัวปราสาทใหญ่โตมาก (W100xL100xH100 M) และโครงสร้างส่วนประกอบทั้งหมดใช้ไม้เนื้อแข็งปลูกสร้างขึ้นมา จึงทำให้งานก่อร่างสร้างต้องทำควบคู่กันไปกับงานซ่อมบำรุง อยู่แบบนี้ตลอดเวลาที่ผ่านมา) จุดต่อไปที่ไกด์จะพาไปนำชมคือโรงช่าง ซึ่งเป็นจุดเตรียมงานทั้งสร้าง ซ่อม แก้ไข ฯลฯ และที่นี่ นทท จะได้เห็น Model หรือแบบจำลองของตัวปราสาทตั้งไว้ให้ทัศนะด้วย และมีร้านขายของฝากของที่ระลึก (Souvenier Shop) สำหรับคนอยากมีอะไรติดมือไปฝากคนที่บ้านด้วย แล้วก็มาถึงไฮไลท์ของการมาเที่ยวชม คือตัวปราสาทไม้นั่นเอง ก่อนจะได้เข้าไปภายในปราสาท ไกด์จะพาเดินเที่ยวชมรอบนอกก่อน ซึ่งมีหลายจุดที่สวยมากเหมาะกับการเก็บภาพปราสาทไว้เป็นที่ระลึกของการมาเยือน แถมยังมีการจัดที่นั่งพักบริเวณหน้าปราสาท สามารถสั่งเครื่องดื่มดับกระหายก็ได้ ก่อนเข้าไปชมภายใน ตรงนี้ผู้เขียน อยากแนะนำว่า การเดินให้ครบรอบกับไกด์ก่อนสัก 1 รอบจะเป็นการดีกว่า การเดินเที่ยวชมเองโดยไม่มีไกด์นำ เพราะว่าไกด์ที่นี่ ได้รับการเทรนมาอย่างดี ทั้งข้อมูลและการบริการ ซึ่งจะทำให้ นทท ได้รับอะไรกลับไปบ้านมากกว่าการเดินเที่ยวชมเพียงอย่างเดียว แล้วมาถึงการเดินเที่ยวชมภายใน นทท จะสังเกตุเห็นได้ว่า ตัวปราสาทนั้นถูกปลุกสร้างอยู่บนฐานไพที (เป็นฐานคอนกรีต) ที่รองรับตัวปราสาทอีกที เมื่อเข้าไปภายในแล้ว จะให้ความรู้สึกขลังๆ ขรึมๆ จากบรรยากาศภายในปราสาท แสง เสียง สี และโครงสร้างต่างรวมถึงการประดับตกแต่งภายใน ผู้เขียนเองแนะนำให้ นทท พินิจงานไม้แกะสลักที่บรรดาช่างศิลป์ได้รังสรรค์งานออกมา จะเห็นว่าเป็นงานที่ละเอียดบรรจง และสลักด้วยมือ บนไม้ทั้งหมด โดยใช้การเข้าไม้แบบโบราณ ไม่มีตะปูยึดเหนี่ยวเข้าด้วยกัน นับเป็นความอุตสาหะอย่างมากของช่างศิลป์ ถึงสามารถสร้างงานออกมาได้ละเอียดและงดงาม โครงสร้างภายในสร้างแบบเป็นจตุรมุข (มีโถงทางเข้า 4 ทาง) โดยที่แต่ละทิศจะสร้างงานไม้สลักสื่อคนละเรื่องกัน ยกตัวอย่างเช่น ทิศตะวันตกว่าด้วยเรื่องธาตุทั้ง 4 หรือด้านตะวันออกว่าด้วยเรื่องการรู้จักบุญคุณเป็นต้น แต่โดยองค์รวมแล้ว ต้องบอกว่างดงามทุกมุม ไม่ว่าทิศไหนก็ดี โดยภาพใหญ่แล้ว งานไม้แกะสลักเหล่านี้ถ่ายทอด ปรัชญาการดำเนินชีวิตของมนุษย์ สอนสัจธรรมให้กับคน ให้เข้าถึงสัจธรรมเหมือนดังชื่อ ปราสาทสัจธรรม (The Sanctuary of Truth) และช่วงที่ผู้เขียนไปนั้น ปราสาทได้แบ่งโซนบริเวณโถงกลางแสดงพระฉายาลักษ์ของในหลวง ร-9 เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระองค์ท่านด้วย ต้องบอกว่าถ้าท่านใดชื่นชอบงานปฺระติมากรรมหรือสถาปัตยกรรมงานไม้แล้วหละก็ ที่นี่ไม่ผิดหวังแน่นอน หลังจากชมถ้วนทั่วแล้ว จะมีจุดให้เราลงนามและแสดงความคิดเห็นในการมาเยี่ยมชม เป็นจดุสุดท้ายก่อนกลับ จริงๆ แล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆที่ปราสาทได้จัดไว้รับ นทท อีก อย่างเช่น ล่องเรือ ขี่รถวิบาก นั่งช้าง เป็นต้น แต่ละกิจกรรมก็มีค่าใช้จ่ายแยกต่างหากจากค่าตั่วชมปราสาท สรุปโดยรวมแล้ว ผุ้เขียนอยากบอกว่า คุ้มค่ากับราคาค่าตั๋วที่จ่าย ถ้าเทียบกับเนื้องานที่เราเห็น ฝีมือช่าง ความอุตสาหะในการรังสรรค์งานออกมาให้ได้งดงามอย่างนี้ เงินที่เราซื้อตั๋ว ส่วนหนึ่งเป็นกำไรของผู้ประกอบการก็จริง แต่อีกส่วนก็เป็นการช่วยให้ช่างศิลป์ ไกด์ท้องถิ่น พนักงานภาคส่วนต่างๆ เหล่านี้ มีงานทำ มีรายได้ เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัว ต่อไป เราเองก็เปรียบเสมือนผู้ช่วยต่อท่อน้ำเลี้ยงให้กลุ่มคนเหล่านี้อยู่ได้ รักษาและต่อยอดงานอันเป็น
เอกลักษณ์อย่างนี้ให้อยู่ได้ ตราบนานเท่านาน 🙏

#แล้วมาร่วมเดินทางไปด้วยกัน
#เพราะชีวิตคือการเดินทาง

ที่อยู่

Thanyaburi
12110

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 17:00
อังคาร 09:00 - 17:00
พุธ 09:00 - 17:00
พฤหัสบดี 09:00 - 17:00
ศุกร์ 09:00 - 17:00
เสาร์ 09:00 - 17:00

เบอร์โทรศัพท์

+66841189538

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Tourthaiwayผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Tourthaiway:

วิดีโอทั้งหมด

แชร์

tourthaiway

We are one of local tour operators in Thailand which is founded by a group of native Thais. Various kinds of tour and travel programs all over Thailand are waiting for people from all walks of life come to get explored by themselves in the land of smile.


บริษัทท่องเที่ยว อื่นๆใน Thanyaburi

แสดงผลทั้งหมด