Holding A Travel Camera With Nita ถือกล้องท่องเที่ยวกับหญิงเหล็ก

Holding A Travel Camera With Nita ถือกล้องท่องเที่ยวกับหญิงเหล็ก ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก Holding A Travel Camera With Nita ถือกล้องท่องเที่ยวกับหญิงเหล็ก, บริษัทท่องเที่ยว, 344/33 หมู่ 14 ซอยประชาสันติ 12 ถ. นิตโย ต. หมากแข้ง, Udon Thani.

การแสดงโขน (ตอนศึกไมยราพ) ในงานเฉลิมฉลองการก่อตั้งเมืองอุดรธานีครบรอบ 130 ปี  ณพิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี  18 มกราคม 2566
20/01/2023

การแสดงโขน (ตอนศึกไมยราพ) ในงานเฉลิมฉลองการก่อตั้งเมืองอุดรธานีครบรอบ 130 ปี ณพิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี 18 มกราคม 2566

"พลุ" เฉลิมฉลองวันก่อตั้งเมืองอุดรธานี  ครบรอบ 130 ปี ณ พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี 18 มกราคม 2566
20/01/2023

"พลุ" เฉลิมฉลองวันก่อตั้งเมืองอุดรธานี ครบรอบ 130 ปี ณ พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี 18 มกราคม 2566

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ โพสต์นี้จะพาเพื่อนๆไปเที่ยวงานเฉลิมฉลองครบรอบ 130 จังหวัดอุดรธานี  ณอนุสาวรีย์พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรม...
20/01/2023

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ โพสต์นี้จะพาเพื่อนๆไปเที่ยวงานเฉลิมฉลองครบรอบ 130 จังหวัดอุดรธานี ณอนุสาวรีย์พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ซึ่งจัดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 18 มกราคม 2566 ค่ะ ย้อนหลังไปประมาณ 130 ปีวันนี้เป็นวันก่อตั้งเมืองค่ะเป็นวันที่กรมหลวงประจักษ์ฯย้ายทัพทหารจากเมืองหนองคายมาตั้งที่บ้านเดื่อหมากแข้งหรือตัวเมืองอุดรธานีในปัจจุบันนี้ งานนี้มีราชนิกูล"ทองใหญ่" ซึ่งเป็นเชื้อสายของกรมหลวงประจักษ์ฯมาร่วมงานด้วย แล้วก็มีส่วนราชการต่างๆในจังหวัดอุดรธานี พ่อค้า ประชาชน เข้าร่วมงานมีนางรำไม่ต่ำกว่า 70,000 คนในแต่ละปีถือว่ายิ่งใหญ่อลังการค่ะเรามาดูภาพสวยๆกัน

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ที่ติดตามเพจของเอ๋  เมื่อ 3 วันก่อนทางเทศบาลนครอุดรธานีได้ดำเนินการเอาสายไฟฟ้าลงใต้ดินจากถนนเส้นหน้ารา...
29/09/2022

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ที่ติดตามเพจของเอ๋ เมื่อ 3 วันก่อนทางเทศบาลนครอุดรธานีได้ดำเนินการเอาสายไฟฟ้าลงใต้ดินจากถนนเส้นหน้าราชภัฎ (ุถ.ทหาร)และยาวไปจนถึง 5 แยกน้ำพุเชื่อมกับ 4 แยกหอนาฬิกา(ซึ่งเส้น ถ.อุดรดุษฎี บริเวณ 4 แยกหอนาฬิกาได้เอาลงก่อนหน้านี้แล้ว) หลังจากที่เอ๋เสร็จจากงานสำคัญ ช่วงเย็นจึงได้นัดหมายกับเพื่อนๆ ชาวชมรมถ่ายภาพจังหวัดอุดรธานี ซึ่งมีเพื่อน ๆ มากัน 5 คน มาร่วมถ่ายภาพพระอนุสาวรีย์พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ในเวอร์ชั่น ไม่มีสายไฟบนดินให้เกะกะตา โดยจุดที่พวกเอ๋ตั้งกล้องถ่ายกันนั้นอยู่บนสะพานลอยหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ซึ่งทุกปีเมื่อมีการถ่ายนางรำในงานบวงสรวงกรมหลวงประจักษ์ฯในวันก่อตั้งเมือง วันที่ 18 มกราคม พื้นที่บนสะพานลอยแห่งนี้จะถูกจับจองโดยช่างภาพทั่วฟ้าเมืองไทย เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีพื้นที่ให้กางขาตั้งกล้องกันเลยทีเดียว ซึ่งการถ่ายภาพจากมุมนี้ เราจะเห็นแบ็คกราวด์เป็นห้าแยกน้ำพุ และถัดไปคือ 4 แยกหอนาฬิกา ซึ่งวงเวียนทั้ง 3 วงเวียนนี้จะเป็นเส้นตรงไปในแนวเดียวกัน
และไหน ๆ เราก็มาถ่ายพระอนุสาวรีย์พระองค์่ท่านแล้ว เอ๋ก็ขอเล่าประวัติของพระองค์ท่านให้เพื่อน ๆ ชาวเพจได้อ่านกันดีกว่า
พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมเป็นผู้ก่อตั้งเมืองอุดรธานีเมื่อ 129 ปีก่อน พระองค์ท่านทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาสังวาลย์ ทรงเป็นพระราชโอรสลำดับที่ 25 ในจำนวนโอรส-ธิดา ท้้งหมด 82 พระองค์ ประสูติเมื่อวันที่ 5 เดือน เมษายน พระพุทธศักราช 2399 ทรงมีพระนามเดิมว่า "พระองค์เจ้าชายทองกองก้อนใหญ่" สาเหตุที่มาของพระนามนี้เนื่องจากในวันที่พระองค์ท่านประสูตินั้น มีชาวบ้านได้นำทองก้อนใหญ่ที่ขุดได้จากอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้ามาถวายในวัง ว่ากันว่าทองก้อนนี้ใหญ่มาก และเป็นทองที่เนื้อดีที่สุดในประเทศ สมเด็จพ่อทรงเห็นว่าเป็นศุภนิมิตมงคลอันดี จึงได้พระราชทานนามพระองค์ท่านว่า "สมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าชายทองกองก้อนใหญ่"
ในปี พ.ศ. 2428 ซึ่งตรงกับรัชสมัยรัชกาลที่ 5 มีพวกจีนฮ่อมาก่อความวุ่นวายที่มณฑลลาวพวน ในหลวงรัชกาลที่ 5 ได้ทรงแต่งตั้งให้ "พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นประจักษ์ศิลปาคม"(พระยศในขณะนั้น) ดำรงตำแหน่งเป็นแม่ทัพใหญ่ฝ่ายใต้ และโปรดให้จมื่นไวยวรนาถ ดำรงตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ฝ่ายเหนือ ไปปราบฮ่อ ผลจากการปราบฮ่อครั้งนั้นทัพของกรมหลวงประจักษ์มีชัยชนะเหนือฮ่อ หลังจากนั้นพระองค์ท่านได้ตั้งกองทัพอยู่ที่เมืองหนองคาย จนกระทั่งปี พ.ศ.2436 สยามก็เกิดกรณีพิพาทกับฝรั่งเศส ฝรั่งเศสมาล่าเมืองขึ้น ต้องการดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงจึงยกกองกำลังทหารมาปิดปากอ่าวสยามและหันกระบอกปืนใหญ่ไปทางพระบรมมหาราชวัง กดดันให้ในหลวงรัชการที่ 5 เซ็นต์สนธิสัญญามอบดินแดนฝั่งซ้าย ซึ่งสยามเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ในหลวงรัชกาลที่ 5 จึงทรงตัดสินพระทัยยุติข้อพิพาทด้วยการเซ็นสนธิสัญญา เรียกสนธิสัญญาฉบับนี้ว่า "สนธิสัญญา ร.ศ. 112" ใจความคือ สยามต้องยกดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงทั้งหมดให้แก่ฝรั่งเศส (คือ ประเทศลาวในปัจจุบันนี้) และห้ามตั้งกองกำลังทหาร ค่าย คูใด ๆ ในระยะทาง 25 กิโลเมตรจากชายฝั่งแม่น้ำโขง ผลของสนธิสัญญานี้สยามต้องเสียดินแดนถึง 1 ใน 3 ส่วนของประเทศ เป็นผลให้ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงตรอมพระราชหฤทัยจนถึงขั้นประชวร และกองทัพสยามที่ตั้งอยู่ที่เมืองหนองคายจะต้องย้ายค่ายทหารจากเมืองหนองคาย เคลื่อนทัพลงมาทางทิศใต้ตามข้อตกลงกับฝรั่งเศส ชัยภูมิแรกที่กรมหลวงประจักษ์ฯทรงสำรวจ คือลำน้ำโซ่ ลำน้ำสวย ปัจจุบันคือ บ้านน้ำสวย อำเภอสระใคร จังหวัดหนองคาย แต่บริเวณนั้น เป็นที่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ มีไข้ป่าชุกชุม และยังอยู่ห่างจากลำน้ำโขงแค่ 20 กิโลเมตร ไม่ตรงกับข้อตกลงที่ทำกับฝรั่งเศส พระองค์จึงทรงถอยทัพลงมาอีก 30 กิโลเมตร จนมาเจอ "บ้านเดื่อหมากแข้ง" ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ แต่มีชัยภูมิที่เหมาะที่จะสร้างเป็นเมืองใหญ่ในอนาคต กล่าวคือ 1. มีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์ ทางด้านทิศเหนือ มีหนองสำโรง ทิศใต้ มี หนองขอนกว้าง ทิศตะวันออก มีหนองเหล็ก ทิศตะวันตก มี หนองนาเกลือ(หรือปัจจุบันคือ หนองประจักษ์ศิลปาคม) และนอกจากนี้ยังมีลำห้วยหมากแข้ง ซึ่งมีน้ำใสไหลเย็น ไหลผ่าใจกลางเมืองอีกด้วย 2.เคยเป็นหมู่บ้านร้างมาก่อน ไม่ต้องถางป่า 3.มีชัยภูมิที่เหมาะ สามารถเดินทางไปยังหัวเมืองต่าง ๆ ได้โดยสะดวก 4.อยู่ใกล้ชุมชนโทรเลข พระองค์ทรงเล็งเห็นดังนี้แล้วจึงได้ตัดสินพระทัยสร้างบ้านแปงเมืองขึ้นที่ "บ้านเดื่อหมากแข้ง" โดยชาวอุดรนับเอาวันที่พระองค์ท่านเดินทางมาถึง คือวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2436 เป็นวันก่อตั้งเมือง และวันที่พระองค์่ท่านเดินทางมาถึงเป็นวันที่ต้น "จาน" หรือต้น "ทองกวาว"ออกดอกบานสะพรั่งทั่วเมือง เราจึงใช้สัญลักษณ์ดอกจาน เป็นดอกไม้ประจำจังหวัด และสีแสดของดอกจานเป็นสีประจำจังหวัดด้วย
ในวันก่อตั้งเมืองปีหน้า 18 มกราคม 2566 จังหวัดอุดรธานีของเราจะมีอายุครบ 130 ปี จะมีการรำบวงสรวงพระอนุสาวรีย์กรมหลวงประจักษ์ฯ และมีพิธีสู่ขวัญบ้านสู่ขวัญเมือง ทุก ๆ ปี "ราชสกุลทองใหญ่" จะมาร่วมพิธีด้วย ซึ่งนับเป็นเกียรติของประชาชนชาวอุดรธานีเป็นอย่างยิ่ง และไฮไลท์อยู่ที่การรำบวงสรวง ซึ่งคาดว่าปีหน้าจะมีนางรำไม่ต่ำกว่า 70,000 คน และบนสะพานลอยหน้าราชภัฏที่พวกเอ๋ตั้งกล้องนี่แหละ จะเป็นจุดสำคัญของช่างภาพทั่วฟ้าเมืองไทยที่จะมาจับจองพื้นที่บันทึกภาพประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังจากการที่ไม่ได้จัดงานรำบวงสรวงติดต่อกันมาถึง 3 ปีเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19
ร่ายมาทั้งหมดนี้ เอ๋มีความภาคภูมิใจอยากบอกเพื่อน ๆ ว่ารับรองปีหน้างานรำบวงสรวงยิ่งใหญ่แน่นอน เพื่อน ๆ คนไหนอยากจะมาดูให้เห็นกับตาเอ๋ขอเชิญชวนนะคะ แล้วเพื่อนๆ จะรู้ว่าความรู้สึกภาคภูมิใจของคนอุดรมีมากมายขนาดไหน ห้ามพลาดค่ะ 18 มกราคม 2566 เจอกัน...

ที่อยู่

344/33 หมู่ 14 ซอยประชาสันติ 12 ถ. นิตโย ต. หมากแข้ง
Udon Thani
41000

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Holding A Travel Camera With Nita ถือกล้องท่องเที่ยวกับหญิงเหล็กผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์


บริษัทท่องเที่ยว อื่นๆใน Udon Thani

แสดงผลทั้งหมด