At Here Co., Ltd. Travel Agent

At Here Co., Ltd. Travel Agent ตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารเครื่องบิน At Here Co.,Ltd. Travel Agent.
311/7 Prajak Silpakhom Rd, T.Makkang, A.Muang, Udon Thani 41000

Reservations & Ticketing.
(9)

Open Monday - Saturday 10:00 - 20:00 O'clock
Tel : +66 42-244-305 : +66 42-212-285 Mobile : +66 86-458-2608
Fax : +66 42-343-681 Email : [email protected]

Thank you for choosing At Here Co.,Ltd.

แอร์อินเดียขอโทษ หลังไฟลท์ดีเลย์ทำผู้โดยสารนับ 100 ติดค้างที่ภูเก็ตนาน 80 ชม.ผู้โดยสารกว่า 100 คนของเที่ยวบินสายการบินแอ...
21/11/2024

แอร์อินเดียขอโทษ หลังไฟลท์ดีเลย์ทำผู้โดยสารนับ 100 ติดค้างที่ภูเก็ตนาน 80 ชม.

ผู้โดยสารกว่า 100 คนของเที่ยวบินสายการบินแอร์อินเดีย (Air India) ที่เตรียมออกเดินทางไปยังกรุงนิวเดลี ต้องติดค้างอยู่ที่ภูเก็ตนานกว่า 80 ชั่วโมง หลังเครื่องดีเลย์หลายครั้ง เนื่องจากปัญหาทางเทคนิค

เที่ยวบิน AI377 ของสายการบินแอร์อินเดียมีกำหนดเดินทางออกจากสนามบินนานาชาติภูเก็ตไปยังเมืองหลวงของอินเดียในคืนวันที่ 16 พฤศจิกายน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สายการบินแจ้งผู้โดยสารว่าเกิดความขัดข้องทางเทคนิค ทำให้เที่ยวบินจะต้องล่าช้าออกไป 6 ชั่วโมง และเวลาออกเดินทางถูกเลื่อนไปเป็นวันที่ 17 พฤศจิกายน จนกระทั่งในเวลาต่อมา หลังจากรออยู่ที่สนามบินนานหลายชั่วโมง ผู้โดยสารก็ถูกเรียกขึ้นเครื่อง แต่กลับต้องลงจากเครื่องในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา เนื่องจากเที่ยวบินดังกล่าวถูกยกเลิก

รายงานข่าวระบุว่า หลังจากนั้น เครื่องบินลำเดิมได้ถูกจัดเตรียมเพื่อออกเดินทาง โดยสายการบินยืนยันว่าแก้ไขปัญหาทางเทคนิคเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม หลังจากบินขึ้นได้ประมาณสองชั่วโมงครึ่ง เครื่องบินต้องกลับมาลงจอดที่ภูเก็ตเนื่องจากเกิดปัญหาทางเทคนิคอีกครั้ง ส่งผลให้ผู้โดยสารนับร้อยชีวิต ซึ่งรวมถึงเด็กและผู้สูงอายุ ต้องติดค้างอยู่ที่ภูเก็ตตั้งแต่นั้น

แอร์อินเดียออกแถลงการณ์ขอโทษและแสดงความเสียใจที่ทำให้ผู้โดยสารได้รับความไม่สะดวก พร้อมกับเน้นย้ำว่าเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินได้ดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่ผู้โดยสารต้องเผชิญแล้ว ซึ่งรวมถึงการจัดหาที่พักโรงแรมและอาหาร การคืนเงิน และการจัดหาเที่ยวบินทดแทน

อย่างไรก็ตาม ผู้โดยสารจำนวนหนึ่งโพสต์ข้อความแสดงความไม่พอใจผ่านโซเชียลมีเดีย โดยระบุว่าไม่ได้รับการสื่อสารหรือความช่วยเหลือที่ดีพอจากทางสายการบิน

"โปรดดำเนินการเรื่องนี้โดยด่วน เราติดค้างอยู่ที่ภูเก็ต ให้เราขึ้นเครื่องทั้งที่ยังไม่พร้อมจะบิน ซึ่งเป็นความเสี่ยงอย่างยิ่งและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต" ผู้ใช้รายหนึ่งโพสต์บนเอ็กซ์ (X) พร้อมเรียกร้องให้รัฐมนตรีกระทรวงการบินพลเรือนของอินเดียเข้ามาจัดการในเรื่องนี้

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า เที่ยวบินแอร์อินเดียอีกเที่ยวบินหนึ่งจากปารีสไปเดลีต้องเปลี่ยนเส้นทางไปที่จัยปูร์ เนื่องจากหมอกควันหนาทึบในเมืองหลวง ขณะที่นักบินของเที่ยวบินดังกล่าวปฏิเสธที่จะบินต่อด้วยเหตุผลว่าหมดเวลาปฏิบัติหน้าที่แล้ว ส่งผลให้ผู้โดยสารที่ติดค้างต้องเดินทางไปเดลีด้วยรถบัส

โดย ปนัยดา ปัทมโกวิท/ปรียพรรณ มีสุข

https://www.ryt9.com/s/iq38/3564604

กาตาร์ แอร์เวย์ส คาร์โก จับมือ MASkargo ผสานความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งใหม่กาตาร์ แอร์เวย์ส คาร์โก ผู้นำระดับโลกด้านการข...
20/11/2024

กาตาร์ แอร์เวย์ส คาร์โก จับมือ MASkargo ผสานความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งใหม่

กาตาร์ แอร์เวย์ส คาร์โก ผู้นำระดับโลกด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศ ประกาศเปิดตัวความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งใหม่กับ MASkargo สายการบินขนส่งสินค้าภายใต้ Malaysia Aviation Group

การเปิดตัวความร่วมมืออย่างเป็นทางการในครั้งนี้ที่ได้รับเกียรติจาก นายมาร์ค ดรุช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายคาร์โกของ กาตาร์ แอร์เวย์ส คาร์โก และ นายมาร์ค เจสัน โธมัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ MASkargo ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างการเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าทั่วโลกและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน

ความร่วมมือที่ได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ได้ประสบความสำเร็จในการขนส่งสินค้ามากถึง 2,400 ตัน รวมถึงสินค้าที่มีวันหมดอายุกว่า 600 ตัน และเภสัชภัณฑ์ 130 ตัน

เที่ยวบินโบอิ้ง 777 ของ กาตาร์ แอร์เวย์ส คาร์โก จะเริ่มให้บริการจากโดฮาไปกัวลาลัมเปอร์ สัปดาห์ละ 2 เที่ยว เพื่อเป็นการเพิ่มความสามารถในการขนส่งสินค้ารายสัปดาห์มากกว่า 200 ตัน ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นี้จะช่วยเสริมสร้างการเชื่อมโยงและเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งไปยังซิดนีย์และเมลเบิร์น ด้วยเครื่องบินขนส่งสินค้าแอร์บัส A330 ของ MASkargo ที่มีความสามารถในการขนส่งสินค้ารายสัปดาห์มากกว่า 75 ตัน ด้วยเวลาเชื่อมต่อที่รวดเร็วเพียง 8 ชั่วโมงที่กัวลาลัมเปอร์ ศูนย์กลางการขนส่งที่สนามบินนานาชาติฮาหมัด (DOH) และสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ (KUL) จะมีบทบาทสำคัญในการให้บริการการเชื่อมต่อที่ไร้รอยต่อ และสิ่งอำนวยความสะดวกในการขนส่งที่ทันสมัย

ข้อตกลงในครั้งนี้ช่วยเปิดโอกาสให้ทั้ง MASkargo เข้าถึงจุดหมายที่สำคัญในยุโรป กลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) เลแวนต์ และแอฟริกา และช่วยให้ กาตาร์ แอร์เวย์ส คาร์โก ได้เพิ่มความสามารถในการเข้าถึงตลาดในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนตลาดท้องถิ่นในกัวลาลัมเปอร์ โดยเปิดโอกาสให้สามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังตลาดทั่วโลกได้มากขึ้นอีกด้วย

นายมาร์ค ดรุช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายคาร์โกของ กาตาร์ แอร์เวย์ส คาร์โก กล่าวว่า "ในฐานะที่เราคือผู้นำระดับโลกด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศ การร่วมมือกับ MASkargo ในครั้งนี้ถือเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเราในการมอบบริการที่ยอดเยี่ยมและโซลูชั่นที่ปรับให้ตอบโจทย์กับความต้องการ พร้อมกับขยายเครือข่ายระดับโลกของเราผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ไปด้วยกัน

"ด้วยการมัดรวมจุดแข็งของเราเข้าด้วยกัน เราสามารถมอบการเชื่อมโยงและประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสินค้าของพวกเขาจะไปถึงตลาดทั่วโลกในสภาพที่ดีที่สุด เรารู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งกับโอกาสที่เราจะได้รับและยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างมาตรฐานความเป็นเลิศในอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางอากาศต่อไป"

นายมาร์ค เจสัน โธมัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ MASkargo กล่าวเสริมว่า "วันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับ MASkargo ที่ได้ร่วมมือกับ กาตาร์ แอร์เวย์ส คาร์โก ในการสร้างเครือข่ายการขนส่งสินค้าทางอากาศระดับโลกที่เชื่อมโยงกันอย่างแท้จริง ความร่วมมือนี้เป็นการพัฒนาครั้งสำคัญในภารกิจของ MASkargo เพื่อเชื่อมโยงลูกค้าของเราเข้ากับโลก ด้วยความรวดเร็วและประสิทธิภาพที่มากยิ่งขึ้น"

"จากความร่วมมือในครั้งนี้ MASkargo จะสามารถเชื่อมโยงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับจุดหมายปลายทางสำคัญระดับนานาชาติได้ดียิ่งขึ้นกว่าที่เคย ความร่วมมือกับ กาตาร์ แอร์เวย์ส คาร์โก ช่วยเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานและความสามารถของเรา ทำให้เราสามารถสนับสนุนเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าที่มีความต้องการสูงไปยังตลาดโลกที่กว้างขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในด้านการขนส่งสินค้าอีกด้วย"

ในเดือนกรกฎาคม 2567 กาตาร์ แอร์เวย์ส คาร์โก และ MASkargo ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ เพื่อมอบการบริการที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้าคาร์โกและเสริมสร้างความร่วมมือในการดำเนินงาน ข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจด้านการขนส่งสินค้าเชิงกลยุทธ์นี้ ช่วยให้ทั้งสองสายการบินสามารถเสริมสร้างจุดแข็งของเครือข่ายและความสามารถในการขนส่งของกันและกันให้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับเพิ่มข้อเสนอการขนส่งสินค้าของทั้งสองสายการบินอย่างมีนัยสำคัญ

ความร่วมมือระหว่าง กาตาร์ แอร์เวย์ส และมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ยังคงครอบคลุมไปถึงการขนส่งผู้โดยสาร โดยทั้งสองสายการบินเป็นสมาชิกของพันธมิตร oneworld และมีความร่วมมือที่แข็งแกร่งในด้านการให้บริการผู้โดยสารอีกด้วย ข้อตกลงการบินโดยใช้รหัสเที่ยวบินร่วมกัน (codeshare agreement) ซึ่งครอบคลุมถึง 62 จุดหมายปลายทางในมาเลเซีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกา และแอฟริกา แสดงถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองสายการบินในการมอบประสบการณ์การเดินทางที่ราบรื่น การร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ ในปี 2565 ช่วยเสริมสร้างความร่วมมือนี้ต่อไป พร้อมกับเพิ่มทางเลือกในการบินและจุดหมายปลายทางสำหรับผู้โดยสาร

https://www.ryt9.com/s/prg/3564351

การบินไทยเปิดให้แปลงหนี้เป็นทุนภาคสมัครใจตามแผนฟื้นฟู 19-21 พ.ย. 67การบินไทยเดินหน้าแปลงหนี้เป็นทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ หล...
19/11/2024

การบินไทยเปิดให้แปลงหนี้เป็นทุนภาคสมัครใจตามแผนฟื้นฟู 19-21 พ.ย. 67

การบินไทยเดินหน้าแปลงหนี้เป็นทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ หลังไฟลิ่งมีผลใช้บังคับ เปิดให้เจ้าหนี้แสดงเจตนาการใช้สิทธิโดยความสมัครใจได้ระหว่างวันที่ 19-21 พฤศจิกายน 2567

วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมเดินหน้าปรับโครงสร้างทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ หลังจากแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) สำหรับการใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุนของบริษัทฯ ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้มีผลใช้บังคับเป็นที่เรียบร้อยแล้วในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 โดยการแปลงหนี้เป็นทุนตามแผนฟื้นฟูกิจการ ประกอบไปด้วย

(ก) การแปลงหนี้เดิมของเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการแบบภาคบังคับเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Mandatory Conversion) จำนวนไม่เกิน 14,862,369,633 หุ้น ที่ราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 37,828 ล้านบาท

(ข) การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 4,911,236,813 หุ้น ที่ราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 12,500 ล้านบาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงหนี้เดิมของเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการเป็นทุนเพิ่มเติมโดยความสมัครใจ (Voluntary Conversion)

(ค) การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,903,608,176 หุ้น ที่ราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 4,845 ล้านบาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงหนี้ดอกเบี้ยใหม่ตั้งพักของเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการเป็นทุนโดยความสมัครใจ

ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเป็นบวก และดำเนินการยกเลิกการฟื้นฟูกิจการให้สำเร็จ

สำหรับเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการที่มีสิทธิแปลงหนี้เป็นทุน ได้แก่ เจ้าหนี้กลุ่มที่ 4 เจ้าหนี้กลุ่มที่ 5 เจ้าหนี้กลุ่มที่ 6 และเจ้าหนี้กลุ่มที่ 18-31 ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้ อ้างอิงรายชื่อ ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2567 จะไม่ต้องดำเนินการใด ๆ ในส่วนการแปลงหนี้เป็นทุนแบบภาคบังคับตามข้อ (ก) ข้างต้น โดยจะได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนโดยอัตโนมัติ

ทั้งนี้ สำหรับการใช้สิทธิแปลงหนี้เดิมตามแผนฟื้นฟูกิจการเป็นทุนเพิ่มเติม (Voluntary Conversion) และ/หรือใช้สิทธิแปลงหนี้ดอกเบี้ยตั้งพักใหม่เป็นทุนตามข้อ (ข) และ (ค) ข้างต้น เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการที่มีสิทธิแปลงหนี้เป็นทุนสามารถแสดงเจตนาการใช้สิทธิดังกล่าว ได้ระหว่าง วันที่ 19 พฤศจิกายน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 เวลา 16.00 น. (หรือเวลาทำการของแต่ละสาขา) ผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่งดังนี้

• สำนักงานใหญ่บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) สำหรับการส่งใบแสดงเจตนาด้วยเอกสารตัวจริง (Hard Copy)
• สำนักงานใหญ่และสาขา ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สำหรับการส่งใบแสดงเจตนาด้วยเอกสารตัวจริง (Hard Copy)
• ระบบออนไลน์ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ผ่านระบบ Money Connect by Krungthai บน Krungthai NEXT Application (สำหรับบุคคลธรรมดาเท่านั้น โดยจะต้องดำเนินการเปิดบัญชีธนาคารผ่านระบบ Krungthai NEXT)

เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการที่มีสิทธิแปลงหนี้เป็นทุนสามารถดาวน์โหลดเอกสารใบแสดงเจตนาในการใช้สิทธิ และรายละเอียดเอกสารประกอบผ่านทาง https://bit.ly/TGVoluntary

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพของหุ้นการบินไทยหลังจากวันที่กลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เจ้าหนี้ที่ได้รับการจัดสรรหุ้นจากการแปลงหนี้เป็นทุนภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการทุกราย (ทั้งในส่วน Mandatory Conversion, Voluntary Conversion และดอกเบี้ยใหม่ตั้งพัก) ถูกกำหนดห้ามมิให้ขายหุ้นเพิ่มทุนเป็นระยะเวลานับตั้งแต่วันที่ได้รับจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากการแปลงหนี้เป็นทุน จนกว่าจะครบระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่หุ้นของการบินไทยกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยหุ้นจำนวนร้อยละ 25 ของหุ้นที่ถูกห้ามขายสามารถขายได้เมื่อครบกำหนด 6 เดือน ดังนั้น เจ้าหนี้ที่ได้รับการจัดสรรหุ้นจากการแปลงหนี้เป็นทุนแต่ละรายจะได้รับหุ้นในรูปแบบใบหุ้น (Scrip) เท่านั้น และใบหุ้นดังกล่าวจะถูกเก็บรักษาไว้ที่บริษัทฯ หรือผู้ดูแลรับฝากทรัพย์สิน (Custodian) ที่บริษัทฯ กำหนดในระหว่างระยะเวลาห้ามขายหุ้น

อย่างไรก็ตาม การบินไทยยังคงดำเนินการในการชำระหนี้สำหรับมูลหนี้คงเหลือ ของเจ้าหนี้แต่ละราย ในกรณีที่ไม่ได้มีการแปลงหนี้เป็นทุนโดยความสมัครใจ (Voluntary Conversion) เพิ่มเติม ซึ่งได้กำหนดไว้ตามแผนตั้งแต่ปี 2567-2579 พร้อมทั้งมุ่งมั่นพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารงานและคุณภาพการบริการเพื่อเพิ่มรายได้และส่วนแบ่งทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ผ่านการกำหนดกลยุทธ์เครือข่ายเส้นทางบินและปรับปรุงฝูงบินให้สอดรับกับแนวโน้มของตลาด มุ่งเน้นการให้บริการคุณภาพสูงด้วยอัตลักษณ์ความเป็นไทยพัฒนาช่องทางการขายเพื่อเพิ่มสัดส่วนยอดขายผ่านช่องทางของบริษัทโดยตรง ทั้งเว็บไซต์ และแอปพลิเคชันใหม่ ตลอดจนมีแผนพัฒนาศูนย์บริการลูกค้าต่างประเทศเพื่อขยายการให้บริการผู้โดยสารได้หลากหลายขึ้น สอดรับเป้าหมายในการเป็นผู้นำตลาดในประเทศและศูนย์กลางการบินของภูมิภาค เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในอนาคต

ภายหลังกระบวนการแปลงหนี้เป็นทุนดังกล่าวแล้วเสร็จ การบินไทยจะดำเนินการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนอีกส่วนรวมกับหุ้นที่เหลือจากการที่เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการไม่ใช้สิทธิหรือใช้สิทธิไม่เต็มจำนวนจากการใช้สิทธิแปลงหนี้เดิมของเจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการเป็นทุนเพิ่มเติมโดยความสมัครใจ (Voluntary Conversion) (หากมี) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของการบินไทยก่อนการปรับโครงสร้างทุนที่มีที่อยู่จัดส่งเอกสารในประเทศไทยตามข้อมูลที่ปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 เท่านั้น พนักงานของการบินไทย และบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ตามลำดับ ในราคาที่ผู้บริหารแผนกำหนด ที่จะต้องไม่ต่ำกว่า 2.5452 บาทต่อหุ้น

กระบวนการปรับโครงสร้างทุนในครั้งนี้มีเป้าหมายให้ส่วนของผู้ถือหุ้นกลายเป็นบวก ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขสำคัญในการยกเลิกการฟื้นฟูกิจการ รวมทั้งยังส่งผลให้การบินไทยมีสถานะทางการเงินที่ดีขึ้น โดยมีกำหนดแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 หลังจากนั้นจะจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการบริษัทซึ่งเป็นเงื่อนไขตามที่แผนฟื้นฟูกิจการกำหนด ก่อนยื่นคำร้องยกเลิกการฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง และนำหุ้น THAI กลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2568 อีกครั้ง

หมายเหตุ: การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และโปรดอ่านหนังสือชี้ชวนหรือข้อมูลที่มีสาระตรงตามข้อมูลสรุปสาระสำคัญของหลักทรัพย์ (Executive Summary) อย่างรอบคอบ

https://mgronline.com/business/detail/9670000110825

สายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ เปิดเส้นทางบินปฐมฤกษ์ บินตรงกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) - เชนไน (อินเดีย) เริ่มบินวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ...
19/11/2024

สายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ เปิดเส้นทางบินปฐมฤกษ์ บินตรงกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) - เชนไน (อินเดีย) เริ่มบินวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2567

https://www.ryt9.com/s/prg/3563961

สายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ เปิดเส้นทางบินปฐมฤกษ์ บินตรงกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) - กัลกัตตา(อินเดีย) เริ่มบินวันที่ 16 ธันวาคม 2...
19/11/2024

สายการบินไทย ไลอ้อน แอร์ เปิดเส้นทางบินปฐมฤกษ์ บินตรงกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) - กัลกัตตา(อินเดีย) เริ่มบินวันที่ 16 ธันวาคม 2567

https://www.ryt9.com/s/prg/3563933

"สปิริต แอร์ไลน์" สายการบินโลว์คอสต์ใหญ่สุดสหรัฐ ประกาศล้มละลายสปิริต แอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำรายใหญ่ที่สุดขอ...
19/11/2024

"สปิริต แอร์ไลน์" สายการบินโลว์คอสต์ใหญ่สุดสหรัฐ ประกาศล้มละลาย

สปิริต แอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ประกาศล้มละลายในวันนี้ (18 พ.ย.) พร้อมกับยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อขอฟื้นฟูกิจการและขอพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 11 ของกฎหมายล้มละลายสหรัฐ

การประกาศล้มละลายในวันนี้มีขึ้น หลังจากที่สปิริต แอร์ไลน์พยายามฟื้นตัวขึ้นจากวิกฤตการณ์ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 และความล้มเหลวในการขายกิจการให้แก่สายการบินเจ็ทบลู

ทั้งนี้ สปิริต แอร์ไลน์ประสบปัญหาขาดทุนมากกว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นปี 2563 และเผชิญภาระหนี้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2564

อย่างไรก็ดี แม้ว่าสปิริต แอร์ไลน์ประกาศล้มละลายในวันนี้ แต่ทางสายการบินจะยังคงดำเนินการต่อไป ขณะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ โดยลูกค้ายังคงสามารถซื้อตั๋วและเดินทางกับทางสายการบินตามปกติ

โดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

https://www.ryt9.com/s/iq29/3563864

ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ลัดฟ้าสู่มหานครแดนภารตะ! เปิดบินตรง "ดอนเมือง-เดลี" โปรโมชั่นคุ้มเริ่มต้น 3,290 บาทต่อเที่ยวสายการบ...
18/11/2024

ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ลัดฟ้าสู่มหานครแดนภารตะ! เปิดบินตรง "ดอนเมือง-เดลี" โปรโมชั่นคุ้มเริ่มต้น 3,290 บาทต่อเที่ยว

สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ (เที่ยวบินรหัส XJ) สยายปีกบุกตลาดอินเดีย เปิดบินตรงเส้นทาง "ดอนเมือง-นิวเดลี" พาคนไทยสัมผัสความวิจิตรอลังการตามแบบฉบับมหานครแดนภารตะ ด้วยราคาที่พลาดไม่ได้ เริ่มต้น 3,290 บาทต่อเที่ยวเดียว เริ่มบินตั้งแต่ 15 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป จองโปรโมชั่นได้ตั้งแต่ 15-24 พฤศจิกายน 2567 เดินทางได้ตั้งแต่ 15 ธันวาคม 2567-26 มีนาคม 2568 จองเลยที่แอป AirAsia MOVE

นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ พร้อมเปิดตลาดบินสู่ประเทศอินเดีย โดยบินตรงสู่จุดยุทธศาสตร์สำคัญที่สุดที่เมือง "เดลี" เมืองศูนย์กลางวัฒนธรรม การค้าและเศรษฐกิจ โดยเดลี เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลต์ของอินเดียจำนวนมาก โดยการที่ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เปิดบินตรงเชื่อมเมืองหลวงมหานครของทั้ง 2 ประเทศ ไทยและอินเดีย ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ และทำให้การเดินทางระหว่างกันสะดวกคุ้มค่ายิ่งขึ้น โดยไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ให้บริการที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อเส้นทางภายในประเทศที่ใหญ่ที่สุดของไทย

"ตั้งแต่ 15 ธันวาคมเป็นต้นไป เราจะเริ่มบินตรง ดอนเมือง-นิวเดลี 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทุกวันพุธและอาทิตย์ และจะเพิ่มเป็น 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์และอาทิตย์ ตั้งแต่ 15 มกราคม 2568 เชื่อว่าเส้นทางนี้จะได้การตอบรับที่ดีทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะโอกาสในการดึงนักท่องเที่ยวอินเดียเข้าไทยจำนวนมาก พร้อมเชื่อมต่อเที่ยวบินแบบ Fly Thru เส้นทางภายในประเทศ อาทิ เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ หาดใหญ่ หรือเชื่อมต่อไปที่เมืองพัทยา โดยการเปิดบินตรงสู่เดลี ทำให้แอร์เอเชียมีเส้นทางบินเชื่อมไทย สู่อินเดียมากที่สุด รวม 13 เมือง 15 เส้นทาง" นายธรรศพลฐ์กล่าว

เส้นทางบิน "ดอนเมือง-เดลี" ให้บริการด้วยสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ (เที่ยวบินรหัส XJ) กับเครื่องบินแบบแอร์บัส A330 จำนวน 285-377 ที่นั่ง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงกว่า โดยเที่ยวบิน XJ230 ออกจากดอนเมือง เวลา 12.45 น. ถึงเดลี เวลา 15.50 น. และเที่ยวบิน XJ231 ออกจากเดลีเวลา 17.05 น. ถึงดอนเมือง เวลา 22.50 น.

เดลี เป็นมหานครเมืองประวัติศาสตร์ของอินเดีย ซึ่งรวมพื้นที่ของ "นิวเดลี" เมืองหลวงของประเทศไปด้วย โดยเดลีเต็มไปด้วย มัสยิด สุเหร่าสถาปัตยกรรมอันงดงามอยู่มากมาย มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ อาทิ ประตูอินเดีย(India Gate) ป้อมปราการแดง(Red Fort) วัด Akshardham วัดฮินดูหินทรายสีชมพูที่ใหญ่ที่สุดในโลก วัดดอกบัว(Bahai Temple) วัดหินอ่อนรูปดอกบัวบานที่มีสถาปัตยกรรมล้ำสมัย เป็นต้น รอให้ทุกคนรอบินไปสัมผัสกับแอร์เอเชีย

https://www.ryt9.com/s/prg/3563653

แก้ปัญหาตั๋วแพงช่วงปีใหม่!! 6 สายการบินเพิ่มเที่ยวบินรองรับเดินทางนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาค...
18/11/2024

แก้ปัญหาตั๋วแพงช่วงปีใหม่!! 6 สายการบินเพิ่มเที่ยวบินรองรับเดินทาง

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ราคาตั๋วเครื่องบินที่อาจจะมีราคาสูงในช่วง ระหว่างวันที่ 27?28 ธันวาคม 2567 และ วันที่ 1?2 มกราคม 2568 เนื่องด้วยมีการเดินทางโดยสารเครื่องบินเพิ่มมากขึ้น และจำนวนอากาศยานที่สายการบินทุกสายมีอยู่ ยังมีจำนวนน้อยกว่าช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 อยู่ที่ 76 ลำ หรือคิดเป็น 25% ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการโดยสารด้วยเครื่องบินโดยตรง

ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) หรือ CAAT เข้าติดตามสถานการณ์ค่าโดยสารอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะช่วงปลายปีและช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ พร้อมทั้งให้หารือร่วมกับสายการบินและหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มเที่ยวบินให้เพียงพอกับปริมาณความต้องการในการเดินทาง และแก้ปัญหาราคาตั๋วแพงในช่วงวันหยุดยาวพร้อมกำชับให้ทุกฝ่ายเตรียมการเพื่อรองรับและอำนวยความสะดวกประชาชนที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้

ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) หรือ CAAT เข้าติดตามสถานการณ์ค่าโดยสารอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะช่วงปลายปีและช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ พร้อมทั้งให้หารือร่วมกับสายการบินและหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มเที่ยวบินให้เพียงพอกับปริมาณความต้องการในการเดินทาง และแก้ปัญหาราคาตั๋วแพงในช่วงวันหยุดยาวพร้อมกำชับให้ทุกฝ่ายเตรียมการเพื่อรองรับและอำนวยความสะดวกประชาชนที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า โดยล่าสุดได้รับความร่วมมือจากสายการบินทั้ง บมจ.การบินไทย (THAI) และสมาคมสายการบินประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วย สายการบินบางกอกแอร์ สายการบินไทยแอร์เอเชีย สายการบินนกแอร์ สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ และสายการบินไทยเวียตเจ็ท จัดทำแผนเพื่อเพิ่มเที่ยวบิน รวมถึงปรับชนิดอากาศยานให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อทำการบินทั้งเมืองหลักและเมืองรอง ได้แก่ อุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด นครพนม เชียงใหม่ เชียงราย น่าน กระบี่ ภูเก็ต นครศรีธรรมราช หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี และสมุย

โดยสมาคมสายการบินประเทศไทย จะมีจำนวนเที่ยวบินเพิ่มมากขึ้น 247 เที่ยวบิน และมีจำนวนที่นั่งเพิ่มถึง 48,244 ที่นั่ง ซึ่งจำนวนที่นั่งที่เพิ่มมานี้จะมีตั๋วราคาไม่สูงรวมอยู่ด้วย และจะเดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2567 ถึง 5 มกราคม 2568 โดยตั๋วเที่ยวบินพิเศษที่เพิ่มมานี้จะเข้าสู่ระบบการขายตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567

แก้ปัญหาตั๋วแพงช่วงปีใหม่!! 6 สายการบินเพิ่มเที่ยวบินรองรับเดินทาง
ขณะที่ การบินไทย จะปรับชนิดอากาศยานเพื่อให้มีจำนวนที่นั่งมากขึ้นในบางวัน ในเส้นทาง ภูเก็ต กระบี่ เชียงใหม่ และเชียงราย ซึ่งจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมไปจนถึงต้นเดือนมกราคม 2568 และทำให้มีจำนวนที่นั่งเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวถึง 25,144 ที่นั่ง ดังนั้นจึงมีที่นั่งเพิ่ม 73,388 ที่นั่ง

นอกจากนี้ได้ให้ CAAT ประสานหน่วยงานด้านการบินทั้งสายการบิน บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. กรมท่าอากาศยาน (ทย.) บมจ. การบินกรุงเทพ (BA) และบริษัท วิทยุการบิน (บวท.) เพื่อวางแผนจัดสรรตารางเวลาการบินของสนามบิน และขอขยายเวลาการให้บริการเพื่อให้สายการบินสามารถทำการบินได้มากขึ้นทั้งช่วงเช้าและช่วงดึก และขอให้สนามบินที่มีการจราจรคับคั่งผ่อนผันเวลาการเปิดให้บริการ เพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง โดยเฉพาะวันที่ 27-28 ธันวาคม 2567 และวันที่ 1-2 มกราคม 2568 ซึ่งจะเป็นช่วงมีการเดินทางสูงกว่าช่วงเวลาปกติ

โดยในการเดินทางนั้นขอให้ประชาชนวางแผนการเดินทางในช่วงเทศกาล เนื่องจากจะมีความต้องการในการเดินทางสูงกว่าช่วงเวลาปกติ จึงทำให้ตั๋วโดยสารมีราคาสูงขึ้นตามความต้องการ รวมทั้งขอให้ตรวจสอบราคาค่าโดยสารผ่านช่องต่าง ๆ ก่อนทำการซื้อ โดยเฉพาะการซื้อผ่านตัวแทนออนไลน์หรือ OTA ในเวลากระชั้นชิด ที่อาจพบราคาตั๋วที่สูงกว่าปกติ

ดังนั้นจึงแนะนำให้ซื้อตั๋วโดยสารตรงกับเว็บไซต์ของสายการบิน เนื่องจากมีการควบคุมราคาเพดานค่าโดยสารจาก CAAT รวมทั้งเมื่อเกิดเหตุเปลี่ยนแปลงการเดินทางหรือต้องการการชดเชยกรณีต่าง ๆ ผู้โดยสารจะสามารถประสานโดยตรงกับสายการบินได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดย CAAT จะตรวจสอบราคาค่าโดยสารในช่วงเทศกาลอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ค่าโดยสารเกินกว่าราคาเพดานที่กำหนด

นอกจากนี้ CAAT ขอแนะนำให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทางมาสนามบิน เนื่องจากช่วงเทศกาลจะมีปริมาณการเดินทางหนาแน่น แม้ว่าผู้ให้บริการสนามบินจะได้เตรียมการไว้แล้ว แต่ก็อาจมีจุดที่ติดขัดได้บางเวลา และขอให้ผู้โดยสารติดตามข่าวสารจากทางสายการบิน ศึกษาเรื่องเอกสารที่ต้องใช้ในการเดินทาง รวมถึงสิทธิของผู้โดยสารหากเที่ยวบินล่าช้า หรือถูกยกเลิก ได้จากจุดประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจและสามารถผ่านจุดตรวจต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น

โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/รัชดา คงขุนเทียน

https://www.ryt9.com/s/iq03/3563615

สนามบินเชียงใหม่คึกคัก!! นทท.แห่เที่ยวงานยี่เป็ง คาดเงินสะพัดกว่า 2 พันลบ.นายณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ...
18/11/2024

สนามบินเชียงใหม่คึกคัก!! นทท.แห่เที่ยวงานยี่เป็ง คาดเงินสะพัดกว่า 2 พันลบ.

นายณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) เปิดเผยว่า ภาคความปลอดภัยในการคมนาคมทางอากาศนั้น สายการบินพร้อมใจกันงดทำการบินในช่วงเวลาปล่อยโคมในวันกระทงเล็กที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ระหว่างเวลา 10.00 - 12.00 น. และ 19.00 -01.00 น. และในวันกระทงใหญ่ที่ 16 พฤศจิกายน 2567 ระหว่าง 19.00 - 01.00 น.แม้ว่าจะทำให้มีผลต่อการยกเลิกและเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินดังกล่าว เป็นจำนวนมาก แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีเที่ยวบินเสริมเพิ่มขึ้น และบางสายการบินได้เปลี่ยนแบบเครื่องบินในการทำการบินเป็นเครื่องบินลำที่ใหญ่ขึ้น เพื่อให้มีจำนวนที่นั่งจุผู้โดยสารได้มากขึ้น

ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 14 - 17 พฤศจิกายน 2567 ในช่วงเทศกาลยี่เป็งนั้น มีการยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมด 82 เที่ยวบิน เปลี่ยนแปลงรวม 100 เที่ยวบิน และจัดเที่ยวบินเพิ่มเติม 34 เที่ยวบิน บวท. มั่นใจในความปลอดภัยและความสะดวกในการเดินทางทางอากาศ เนื่องจากทุกหน่วยงานด้านการเดินอากาศร่วมกันสนับสนุนประเพณีและวัฒนธรรมให้คงอยู่สืบไป

ทั้งนี้ บวท. ได้กำหนดมาตรการ กำหนดทิศทางขึ้น-ลงของอากาศยาน จากทางวิ่ง 36 ด้านทิศใต้ ที่มีการแจ้งการปล่อยโคมควันหนาแน่น เป็นมาทำการบินลงยังทางวิ่ง 18 ด้านทิศเหนือแทน และจากการเฝ้าระวังเรื่องการปล่อยโคมควันตามรายงานมาตรการรองรับสถานการณ์โคมลอย 2567 ได้รับรายงานในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา 13.00 น. ภายหลังจากพ้นช่วงเวลาอนุญาตให้ปล่อยโคมควัน ว่ามีสายการบินทำการขึ้นลง ณ สนามบินเชียงใหม่ช่วงเวลา 12.00 - 13.00 น. จำนวน 16 เที่ยวบิน และในช่วงเทศกาลนี้ มีสถิติจำนวนเที่ยวบิน ณ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ถึงวันละ 226 - 236 เที่ยวบินต่อวัน ซึ่งเป็นจำนวนใกล้เคียงกับก่อนการเกิดสถานการณ์ COVID-19 จึงเป็นแนวโน้มที่ดีต่อเศรษฐกิจของท้องถิ่นต่อไป

โดย รัชดา คงขุนเทียน

https://www.ryt9.com/s/iq03/3563462

DMT ยิ้ม! ปริมาณจราจรคึกคัก ดันงบ Q3/67 กำไรสุทธิแตะ 265 ลบ. โค้งสุดท้ายไปต่อ "ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์" คัมแบคดอนเมือง เข้า...
18/11/2024

DMT ยิ้ม! ปริมาณจราจรคึกคัก ดันงบ Q3/67 กำไรสุทธิแตะ 265 ลบ. โค้งสุดท้ายไปต่อ "ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์" คัมแบคดอนเมือง เข้าไฮซีซั่น ดันรายได้ปี 67 โต 10% ตามนัด

บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง (DMT) ประกาศงบไตรมาส 3/67 กวาดรายได้ค่าผ่านทางกว่า 619 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% กำไรสุทธิ 265 ล้านบาท อานิสงส์ปริมาณการจราจรคึกคัก รับท่องเที่ยวบูม ฟากผู้บริหาร "ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย"มั่นใจไตรมาส 4/67 สดใส เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น บวกแรงหนุนสายการบิน "ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์" คัมแบคดอนเมือง ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.67 ดันยอดใช้ทางยกระดับพุ่ง หนุนรายได้ปี 67 โต 10% ตามแผน พร้อมเดินหน้าเข้าร่วมประมูลโครงการภาครัฐ สร้างโอกาสเติบโต

ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) (DMT) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส 3/2567 หรือในงวด 3 เดือน มีรายได้ค่าผ่านทาง 619 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29 ล้านบาท หรือ 5 % เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 265 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนของปี 2567 มีรายได้ค่าผ่านทาง 1,825 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106 ล้านบาท หรือ 6 % เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 770 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากปริมาณการจราจรและทางยกระดับเติบโตอย่างต่อเนื่อง และการบริหารจัดการด้านรายจ่ายรวมถึงการบริหารผลตอบแทนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/67 คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจาก ถือเป็นช่วงไฮซีซั่น เพราะเป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยว ทำให้ปริมาณการจราจรทางยกระดับคึกคัก อีกทั้งยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่สายการบิน ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ย้ายกลับมาใช้สนามบินดอนเมือง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ผลักดันรายได้ในปี 2567 เติบโต 10% ตามแผนงานที่วางไว้ โดยคาดว่าปริมาณจราจรเฉลี่ยต่อวันจะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 116,000 คันต่อวัน จากปี 2566 เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 106,907 คันต่อวัน

กรรมการผู้จัดการ DMT กล่าวว่า บริษัทฯมีความพร้อมเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งงานโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ของภาครัฐ โดยมีเป้าหมาย คือ M82 M5 และ จุดพักรถริมทางหลวง เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตในอนาคต และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ

DMT ยังให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนด้าน ESG ในการใช้พลังงานทดแทนครบวงจรต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาได้ติดตั้ง Solar Rooftop ในระยะที่ 2 บนอาคารด่านทั้ง 8 ด่าน และติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดพลังงานบนโคมไฟถนนบนทางยกระดับ 1,540 ต้น ครบถ้วนแล้ว และในไตรมาส 4 นี้ได้ดำเนินการต่อเนื่องในการติดตั้ง Solar Rooftop ในระยะที่ 3 ณ อาคารสำนักงานใหญ่ในพื้นที่ส่วนที่เหลือ เพื่อให้ครอบคลุมทั้งหมด รวมทั้งจะมีการนำวัสดุลดความร้อนมาใช้ในการบำรุงรักษาทางยกระดับ เช่น สีลดโลกร้อน ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก (Hydraulic Cement หรือปูนลดโลกร้อน) การดำเนินงานขับเคลื่อนด้าน ESG อย่างต่อเนื่องเป็นส่วนช่วยในด้านสิ่งแวดล้อม และยังช่วยให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลง และมีกำไรเพิ่มขึ้น โดยล่าสุด ได้มีการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า และปรับปรุงศูนย์อำนายความสะดวก ณ ด่านเก็บค่าผ่านทางดินแดง เพื่อรองรับปฏิบัติการ (ยานยนต์ไฟฟ้า) และช่วยเหลือผู้ใช้บริการทางยกระดับอุตราภิมุข กรณีฉุกเฉินเท่านั้น ซึ่งได้เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน 2567

นอกจากนี้ DMT ได้มีการวางแผนลดก๊าซเรือนกระจกองค์กรโดยมีเป้าหมาย Carbon Neutral และ Net Zero Emission ตลอดห่วงโซ่คุณค่าของการให้บริการ ประกอบไปด้วยแผนระยะสั้น ระยะยาว และแผนบริหารความเสี่ยง

https://www.ryt9.com/s/prg/3563120

สายการบินแห่ยกเลิกเที่ยวบินเส้นทางบาหลี หลังภูเขาไฟปะทุสายการบินนานาชาติหลายแห่งได้ยกเลิกเที่ยวบินทั้งขาไปและขากลับที่เก...
14/11/2024

สายการบินแห่ยกเลิกเที่ยวบินเส้นทางบาหลี หลังภูเขาไฟปะทุ

สายการบินนานาชาติหลายแห่งได้ยกเลิกเที่ยวบินทั้งขาไปและขากลับที่เกาะบาหลีในวันนี้ (13 พ.ย.) หลังจากภูเขาไฟปะทุและพ่นเถ้าถ่านสูงถึง 10 กิโลเมตร ส่งผลให้ผู้คนหลายพันคนต้องอพยพออกจากพื้นที่

สายการบินเจ็ทสตาร์ (Jetstar) และแควนตัส (Qantas) ระบุว่า ได้หยุดการให้บริการเที่ยวบินไปยังบาหลีในวันนี้เพื่อความปลอดภัย ขณะที่เว็บไซต์ติดตามเที่ยวบินไฟลท์เรดาร์24 (FlightRadar24) ยังแสดงให้เห็นว่าเที่ยวบินของแอร์เอเชีย (AirAsia) และเวอร์จิ้น (Virgin) ก็ถูกยกเลิกเช่นกัน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ภูเขาไฟเลโวโตบิ ลากิ-ลากิ ในจังหวัดนูซาเติงการาตะวันออกของอินโดนีเซีย ซึ่งอยู่ห่างจากบาหลีประมาณ 800 กิโลเมตร ได้ระเบิดครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 พ.ย. และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน นับตั้งแต่นั้น ภูเขาไฟลูกนี้ก็ได้ระเบิดซ้ำหลายครั้ง รวมถึงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (12 พ.ย.)

อาหมัด เซาวกี ชาฮับ ผู้จัดการทั่วไปของท่าอากาศยานนานาชาติงูระห์ไรบนเกาะบาหลี กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 4 ถึง 12 พ.ย. มีการยกเลิกเที่ยวบินที่มาถึงบาหลีแล้ว 80 เที่ยวบิน รวมถึงเที่ยวบินจากสิงคโปร์ ฮ่องกง และหลาย ๆ เมืองในออสเตรเลีย

ทั้งนี้ เถ้าถ่านจากภูเขาไฟเลโวโตบิ ลากิ-ลากิ พุ่งขึ้นสูงถึง 10 กิโลเมตร และทางการได้กล่าวว่าเถ้าถ่านจากภูเขาไฟได้ตกลงมาปกคลุมพื้นที่รอบ ๆ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ย. 67)

https://www.infoquest.co.th/2024/445341

บางกอกแอร์เวย์ส (BA) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 รายได้รวม 6.5 พันล้าน เผย 9 เดือนแรกผู้โดยสาร 3.3 ล้านคนบริษัท กา...
14/11/2024

บางกอกแอร์เวย์ส (BA) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 รายได้รวม 6.5 พันล้าน เผย 9 เดือนแรกผู้โดยสาร 3.3 ล้านคน

บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส (BA) ประกาศผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2567 โดยมีรายได้รวม 6,489.3 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 15.3 เมื่อเทียบกับปี 2566 จากช่วงไฮซีซั่นของเส้นทางบินสมุย อัตราขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) ร้อยละ 79.0 จำนวนผู้โดยสารที่ให้บริการ 1.06 ล้านคน เติบโตร้อยละ 8.2 จากปีที่ผ่านมา หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 76.2 ของจำนวนผู้โดยสารช่วงก่อน Covid-19 สำหรับงวด 9 เดือนแรก มีจำนวนผู้โดยสาร 3.31 ล้านคน อัตราขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) ร้อยละ 81.9 พร้อมเผยผลกำไรสุทธิแตะ 3,264.9 ล้านบาท ติดตามข้อมูลข่าวสารพร้อมเข้าชมรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับนักลงทุนสัมพันธ์ได้ทางเว็บไซต์ https://investor.bangkokair.com/th/

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากแนวโน้มของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการเดินทางโดยอากาศยานของทุกภูมิภาคทั่วโลกจากช่วงที่ผ่านมาที่มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของเส้นทางบินสมุย ส่งผลให้ไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 6,489.3 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 15.3 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่เติบโตจากสัดส่วนของรายได้บัตรโดยสารของธุรกิจสายการบิน ที่มีสัดส่วนร้อยละ 68.7 ทำให้ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีกำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 878.1 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปี 2566 และมีกำไรสุทธิ 673.3 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทฯ ไม่มีผลกำไรจากรายการพิเศษดังเช่นปีก่อนหน้า และสำหรับงวด 9 เดือน บริษัทฯ มีกำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 3,893.9 ล้านบาท และ มีผลกำไรสุทธิ 3,264.9 ล้านบาท โดยเป็นผลกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ 3,256.6 ล้านบาท และมีกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 1.55 บาท

"ในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 สายการบินฯ มีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.8 เทียบปีก่อนหน้า เป็นผลจากกลยุทธ์เพิ่มจำนวนเที่ยวบินเข้า-ออกสนามบินสมุยเพื่อรองรับอุปสงค์การเดินทางในฤดูกาลท่องเที่ยว ส่งผลให้มีจำนวนเที่ยวบิน 12,044 เที่ยวบิน และมีจำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ 1.06 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.2 จากปีที่ผ่านมา อัตราขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) ร้อยละ 79.0 สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของของปริมาณการขนส่งผู้โดยสารทั่วโลก โดยมีผู้โดยสารที่มาจากจุดขายบัตรโดยสาร (Point-of-Sales) ผ่านเว็บไซต์และระบบเชื่อมต่อตรงกับบริษัทฯ ร้อยละ 47.0 และจากต่างประเทศร้อยละ 39.0 ของผู้โดยสารทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่มาจากภูมิภาคยุโรปและเอเชีย (ไม่รวมประเทศไทย)"

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 20,004.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.5 และมีกำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 3,893.9 ล้านบาท รวมทั้งมีผลกำไรสุทธิ 3,264.9 ล้านบาท โดยมีจำนวนผู้โดยสาร 3.31 ล้านคนเติบโตขึ้นร้อยละ 10.3 เทียบกับปี 2566 อัตราขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) ร้อยละ 81.9 และปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.3 เทียบปีก่อนหน้า นายพุฒิพงศ์ กล่าวสรุป

ติดตามข้อมูลข่าวสารพร้อมเข้าชมรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับนักลงทุนสัมพันธ์ได้ทางเว็บไซต์ https://investor.bangkokair.com/th/

https://www.ryt9.com/s/prg/3562684

FAA สั่งสายการบินสหรัฐฯ ระงับให้บริการในเฮติ 30 วัน เซ่นปมเครื่องบินถูกยิงข่าวต่างประเทศ Wednesday November 13, 2024 10:...
13/11/2024

FAA สั่งสายการบินสหรัฐฯ ระงับให้บริการในเฮติ 30 วัน เซ่นปมเครื่องบินถูกยิง

ข่าวต่างประเทศ Wednesday November 13, 2024 10:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

องค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) เปิดเผยในวันอังคาร (12 พ.ย.) ว่า FAA จะห้ามไม่ให้สายการบินสหรัฐฯ ทุกแห่งดำเนินการในเฮติเป็นเวลา 30 วัน หลังเกิดเหตุเครื่องบินพาณิชย์ 3 ลำถูกยิงเมื่อวันจันทร์ (11 พ.ย.)

สำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) ระบุในแถลงการณ์อีกฉบับว่า FBI กำลังตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและกำลังทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านการบังคับใช้กฎหมายอื่น ๆ

FAA ได้ออกประกาศระงับการดำเนินงานของสายการบินสหรัฐฯ ในดินแดนและน่านฟ้าของเฮติในระดับต่ำกว่า 10,000 ฟุต (3,048 เมตร) เป็นเวลา 30 วัน โดยระบุถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในการบินที่เกิดจากความไม่มีเสถียรภาพด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง

สายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ (American Airlines) ระบุในวันอังคารว่า เครื่องบินของสายการบินเป็นเครื่องบินของสหรัฐลำที่ 3 ที่ถูกยิงในเฮติ โดยจากการตรวจสอบเครื่องบินของเที่ยวบิน 819 ที่เดินทางมาจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของเฮติ หลังจากลงจอดที่เมืองไมอามีพบว่า ส่วนนอกของเครื่องบินมีร่องรอยถูกยิงจากกระสุนปืน

อเมริกัน แอร์ไลน์ระบุว่า "เรากำลังร่วมงานกับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น" และได้ระงับการให้บริการในเฮติไปจนถึงวันที่ 12 ก.พ.

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เครื่องบินลำหนึ่งของสายการบินสปิริต แอร์ไลน์ส (Spirit Airlines) ที่เดินทางไปยังกรุงปอร์โตแปรงซ์ ถูกยิงด้วยกระสุนปืน และต้องเปลี่ยนเส้นทางไปลงจอดที่สาธารณรัฐโดมินิกันซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่เที่ยวบินของสายการบินเจ็ตบลู แอร์เวย์ส (JetBlue Airways) ที่เดินทางกลับมาจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ถูกพบว่าได้รับความเสียหายจากกระสุนปืนหลังเดินทางถึงนิวยอร์ก

ทั้งนี้ สปิริต แอร์ไลน์สระบุว่า เครื่องบินได้รับความเสียหายและต้องหยุดใช้งานขณะที่ลงจอดในเมืองซันติอาโก ทางตอนเหนือของโดมินิกัน ขณะที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินได้รับบาดเจ็บ 1 ราย แต่ไม่มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

โดย ตนุพัฒน์ ปิยะรัตน์/กัลยาณี ชีวะพานิช

https://www.ryt9.com/s/iq38/3562229

ที่อยู่

306/20-21 ถนน ประจักษ์ศิลปาคม
Udon Thani
41000

เวลาทำการ

จันทร์ 10:00 - 20:00
อังคาร 10:00 - 20:00
พุธ 10:00 - 20:00
พฤหัสบดี 10:00 - 20:00
ศุกร์ 10:00 - 20:00
เสาร์ 10:00 - 20:00

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ At Here Co., Ltd. Travel Agentผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง At Here Co., Ltd. Travel Agent:

แชร์


Udon Thani สำนักงานตัวแทนจัดการท่องเที่ยวอื่นๆ

แสดงผลทั้งหมด