YOLO Life by JZ

03/23/2024

การขับรถข้ามชายแดนจากอเมริกาไปยังVancouver แคนาดา เราขับข้ามจากชายแดนฝั่งรัฐWashington เริ่มจากเมือง Seattle ใช้เอกสารแค่พาสปอร์ตอเมริกา ส่วนเพื่อนคนไทยใช้พาสไทยที่มีวีซ่าแคนาดา (ถ้าวีซ่าอมริกากับแคนาดาอยู่พาสคนละเล่ม อย่าลืมเอามาทั้งสองเล่ม ต้องใช้เค้าอเมริกาขากลับ) ขับถึงด่าน ยื่นพาสปอร์ตของคนในรถทุกเล่มให้เจ้าหน้าที่ที่ด่าน ทุกคนต้องนั่งในรถไม่ลงรถ เจ้าหน้าถามว่าเดินทางมาจากไหน คนขับตอบจาก Seattle แล้วถามว่ามาทำไม มากี่วัน :มาเที่ยว 3วัน คำถามต่อมานำอาหารหรือแอลกอฮอล์มามั้ย พวกเราว่าไม่มี มีแต่ snack เสร็จก็คืนพาส เป็นอันเสร็จเข้าแคนาดาได้ใช้เวลารถต่อคิว30นาที

ขากลับขับเข้าด่านเดิมมาอเมริกา ตรวจสอบแลดูยากกว่าขาเข้าแคนาดา ต่อคิวยาวกว่าเดิม มีตำรวจK9จูงหมาเดินดมรถทุกคัน ถ้าสุนัขหยุดที่รถคันไหนเจ้าหน้าที่ก็จะขอค้นรถเพื่อตรวจสอบ เดาว่าตรวจระเบิด ยาเสพติด หรือ อาหาร เนื้อสัตว์ อะไรแบบนี้ ระหว่างรถต่อแถวก็แอบเห็นรถคันหน้าไม่ได้ผ่านด่านไป บางคันก็ต้องขับเข้าอีกทาง เราเรียกว่าห้องเย็น เพราะเจ้าหน้าที่จะขอตรวจเอกสารหรือค้นรถเพิ่มเติมถ้าไม่ผ่านก็ให้ขับกลับไปแคนาดาไม่ให้เข้าอเมริกา พอถึงเราเจ้าหน้าที่ก็ถามมาจากไหนกัน บ้านอยู่ไหน เพื่อนเราบอกอยู่ไทย ส่วนเราอยู่อเมริกา เจ้าหน้าที่ก็ทัก สวัสดีครับ แต่เสียงแอบดุดันตามสไตล์ตำรวจอเมริกา ก็ถามพาสชื่อนี้ของคัย ชื่ิอคัยก็แค่ยกมือเพื่อดูหน้าตาว่าตรงกับพาสปอร์ตมั้ย ตรวจสอบเสร็จก็คืนพาสให้ แล้วเจ้าหน้าที่ก็บอกขอบคุณครับภาษาไทย ใช้เวลาทั้งหมด1.45ชั่วโมง

02/15/2024

🥹

02/15/2024

02/15/2024

Basilica of Saint Josaphat

In the Catholic Church, basilica status is reserved for the largest, most beautiful, and most historically important churches. In 1929, St. Josaphat Church was named the third basilica in the United States. Today there are over sixty in the United States. It is as close as we get to a European Cathedral. It is the largest church in Milwaukee, with a seating capacity of over 1,000 on the main floor, hundreds more can be accommodated in the galleries.

11/01/2023

Takachiho

09/06/2023

04/16/2023

ทริปนี้เรานั่งเครื่องบินจากชิคาโกไปลง Montréal-Pierre Elliott Trudeau International Airport แล้วเช่ารถขับไป เมือง Québec ใช้เวลาขับไป3ชม ในเมืองหาที่จอดยากหน่อยเวลาจองโรมแรมหาที่มีที่จอดรถ ส่วนมากจ่ายคืนละCAD$20-30

Quebec เป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดของแคนาดาอยู่ทางตะวันออกของประเทศ และเป็นรัฐเดียวในแคนาดาที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการในระดับรัฐ แต่ใช้ภาษาฝรั่งเศสแทน แต่คนท้องถิ่นพูดภาษาอังกฤษได้หมด รัฐQuébec มีเมืองหลวงในชื่อเดียวกันคือ Quebec และเมืองที่ใหญ่ที่สุดคือมอนทรีออล

สมัยก่อน เคเบคถูกค้นพบโดยชาวฝรั่งเศส และถูกสร้างเป็นอาณานิคมฝรั่งเศสใหม่ ผู้คนส่วนใหญ่ของที่นี่สืบเชื้อสายมาจากชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาตั้งรกรากเมื่อเกือบ 400 ปีก่อน ต่อมามีปัญหากับทางอังกฤษ ดินแดนนี้จึงถูกโอนไปขึ้นกับอังกฤษ หลังจากอังกฤษประกาศให้เอกราช ควิเบค จึงถูกรวมไปกับประเทศแคนาดา

สวยเหมือนได้ไปยุโรปแต่บินจากเมกาใกล้กว่าไปยุโรปหลายชั่วโมง แนะนำร้านอาหาร Restaurant La Buche La Buche จองล่วงหน้าไปเลยรอคิวสองชั่วโมง ร้านอาหารดังย่านนี้ทีเดียว อีกร้าน Chic Shack ออกแนว local junk food นิดๆ ต้องสั่ง Poutine มันคือมันฝรั่งทอดราดด้วยซอสต่างๆ ของขึ้นชื่อเมืองเค้าเลย แต่ส่วนตัวไม่ชอบนะ

01/09/2023

เราเดินทางจากชิคาโก 23พย 2022 บินไปBerlin จากสนามบินซื้อตั๋วรถไฟ24ชั่วโมง นั่งเข้าเมืองประมาณ 30 นาที แต่การนั่งรถไฟที่นี่ไม่มีที่ Scan ตั๋ว แต่อย่าลืมvalidตั๋วครั้งแรกที่ใช้รถไฟนะถ้าใช้รถเมล์ครั้งแรกมีเครื่องตอกตั๋วบนรถเมล์ เราเที่ยวกำแพงเบอร์ลิน อย่าลืมแวะถ่ายกับรูปThe Kiss 2ผู้นำโซเวียตจูบปากกันด้วยนะ อยู่ครงกำแพงเบอร์ลินฝั่งตะวันออก เดินไปถ่ายรูปประตูชัย และศิลปะระลึกถึงชาวยิวที่โดนสังหารหมู่ในยุคสงคราม ชาร์ลีcheck point จุดที่เคยเป็น Border ของอเมริกากับโซเวียตที่รถถังประจันหน้ากันจนเกือบเกิดสงครามโลกครั้งที่3 ต่อมาเดินไปวงเวียนถ่ายรูปอนุเสารีย์ชัย ต่อด้วย Kaiser Wilhelm Memorial Church โบสถ์เก่าแก่เป็นอนุสรณ์ของความรุนแรงของสงคราม ตีกนี้โดนระเบิดพังปี ค.ศ. 1943 ช่วงสงครามโลก เข้าชมความงามของภาพโมเสกบนผนังและเพดาน อยู่ที่เบอร์ลิน1คืน บินต่อไปลง Cologne ค่าเครื่องถูกกว่ารถไฟอีก จากสนามบินเข้าเมืองแค่15-20นาที เพื่อไปเที่ยว Cologne Cathedral คนท้องถิ่นเรียก เคิน ดอม มหาวิหารที่เคยโดนระเบิดถึง16ครั้งในช่วงสงครามแต่ไม่พังมีเสียหายบ้างบางส่วน คนสมัยก่อนเชื่อว่าเพราะความศักด์สิทธิ์ อีกหนึ่งโบราณวัตถุชิ้นสำคัญคือ เจดียสถานทองคำของกษัตริย์ทั้งสามพระองค์ของโรมัน ผลงานของ Nicholas of Verdun ช่างทองที่มีฝีมือเป็นที่ยอมรับในยุคกลาง ที่ใช้เวลาในการสร้างผลงานชิ้นนี้ถึง 38 ปี (ค.ศ.1182-1220) แล้วเดินต่อไปสะพาน Hohenzollern Bridge เป็นสะพานข้ามแม่น้ำไรน์ (Rhine River) มีคนเอาแม่กุญแจไปคล้องแสดงความรักกันเป็นหมื่นๆอัน เรียก Love Locks แถวสะพานนี้มีพวกคนยิปซีเดินทำมาของชื่อที่อยู่บอกให้นักท่องเที่ยวเขียนเพื่ออยากรู้ว่ามาจากไหนกันบ้าง แนะนำให้เดินหนีนะคะ ช่วงที่มาจะมี Christmas Market ทั่วเยอรมันไปหมด แต่ละที่ก็มีแก้วเอกลักษณ์ของตัวเอง พลาดไปได้กับไวน์ร้อนกับแอปเปิ้ลชุบแป้งทอดราดด้วยซอสแอปเปิ้ล และถั่วเคลือบรสต่างๆ เราเดิน1ชม เข้าตลาดคริสมาสต์เกิน4ตลาดมีทั่วไปหมด หลังจากนั้นเดินทางไป Frankfurt นั่งรถไฟชั้น2ไป1.15นาที จะขอแนะนำว่าถ้านั่งชั้น2เราต้องหาที่นั่งว่าง ตอนเราไปค่อนข้างเต็มเลยต้องยืนเอา และที่เก็บสัมภาระเล็กและน้อยมาก บางคนนั่งเฝ้ากระเป๋าหน้าห้องน้ำยาวไปถึงปลายทางก็มีอันนี้เราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ และรถไฟชอบ cancel แบบกะทันหันก่อนเวลาขึ้นไม่กี่นาทีก็มี แอบเซ็ง ต้องไปคิดต่อเจ้าหน้าที่หาตั๋วใหม่เจ้าหน้าที่บางคนบอกใช้ตั๋วเดิมแค่หาว่ารถไฟเที่ยวไหนไปแฟรงเฟริตเอาก็ขึ้นเลย อันนี้งงเหมือนกัน พอถึงFrankfurt ก็เรื่มเดินไม่ไหวแล้วเลยโหลดแอฟLime เช่าScooterขับเที่ยวชมเมืองอยากถ่ายรูปจุดไหนก็แวะจอดถ่ายสะดวกดี ราคาแอบแรงนิดนึงถ้าใช้นาน แวะ Römerberg บ้านตึกสีสันสวยงาม ต่อไป Frankfurt Cathedral ใกล้ๆกันเป็นโบสสไตล์Gothic แล้วเดินชมสะพาน Iron Footbridge จากนั้นไปถ่ายรูปกับ Euro-Skulptur สัญลักษณ์สกุลเงินยูโร และจบด้วยชมการแสดงโอเปร่าซักโชว์ อย่าลืมกินไส้กรอกเยอรมันกับขาหมูทอดเยอรมันนะอร่อยจริง ร้่นไส้กรอก Curry51 ร้าน chain ก็ไม่แย่เลย หลังจากนั้นเราก็เตรียมตัวเดินทางไป Switzerland
เรื่องการนั่งรถไฟจากFrankfurtไปSwitzerland เราเจออุปสรรคแบบในชีวิตไม่เคยเจอมาก่อน คือเรามีกระเป๋าใหญ่คนละใบกับแฟน carry out 1ใบ เราเลยจองตั๋วรถไฟชั้น1แบบจองที่นั่ง เพราะเราเข็ดจากการวิ่งแย่งหาที่นั่งแล้ว และชั้น1คนน้อยหว่าจะได้ไม่ต้องไปแย่งหาที่เก็บกระเป๋า พอใกล้ถึงเวลารถไฟออกอีก40นาทีได้รับอีเมล์รถไฟยกเลิก พอดีเราพักติดสถานีรถไฟเลยเดินไปถามเจ้าหน้าที่ว่าทำไงได้ เจ้าหน้าบอกให้ขอเงินคืนกับหารถไฟที่ไปต่อลงไปถึงสวิสเอง เค้าบอกมีขบวนนึงไป Basel แล้วค่อยไปหาต่อรถไฟไปZurichอีกที เราก็รอรถไฟจากที่ต้องนั่ง12.06 เลยต้องมาเร็วขึ้นเป็นขบวน 11.55 ดูชานชาลาขึ้นที่บอร์ดดีๆนะเปลี่ยนตลอด เราก็ถามเจ้าหน้าที่ว่าแล้วที่เราจองที่นั่งไว้ล่ะทำไงดี เจ้าหน้าที่บอกว่าก็รถไฟคุณมันยกเลิก คุณนั่งขบวนใหม่มันก็ไม่มีแล้วที่ๆคุณจองอ่ะ คุณก็ขึ้นชั้น1นั่นแหละแล้วไปหาที่นั่งว่างเอา อย่าไปนั่งที่มีคนจองนะ มันจะมีป้ายบอกตอนseatว่าคนจองจะขึ้นสถานีจากไหน อ้าวแล้วที่เราจ่ายเงินจองไปล่ะ เจ้าหน้าที่บอกช่วยไม่ได้นอกจากยกเลิกเอาเงินคืนแล้วจองใหม่ซึ่งราคาคนละเกือบ200ยูโร อึ้งไป1เรื่อง แค่ยังไม่จบนะ เราตัดสินใจขึ้นรอบ11.55 มีที่นั่งเยอะค่อยโล่ง นั่งไป1สถานีจอดรับผู้โดยสารแล้วมีประกาศภาษาเยอรมันคนลุกขึ้นกันหมด เรางงเพราะเค้าประกาศภาษาอังกฤษทีหลัง จนป้าคนนึงถามเราเข้าใจมั้ยเค้าบอก รถไฟจะไม่วิ่งแล้วนี่สถานนีสุดท้าย พระเจ้า แล้วไงต่ออ่ะทีนี้ ลงไปถามเจ้าหน้าที่ใหม่ เค้าให้หารถไฟที่จะพาไปBaselต่อ รอไปอีก2ชม ในสถานีก็หนาวแถมลากกระเป๋าไปมาอีก อยู่ที่ไหนของเยอรมันก็ไม่รู้อยากเข้าห้องน้ำอีกเดินไปเข้าห้องน้ำเสีย1.50ยูโรแพงได้ใจจริง ไปนั่งในMcDonald อุ่นๆดีกว่า รถไฟมาขึ้นต่อยกกระเป๋าขึ้นรถไฟมช้คำว่ายกนะเพราะตัวรถไฟกับชานชาลามีรูกว้างระหว่างกันลากไม่ได้แล้วรถไฟเป็นบันไดด้วย ขึ้นไปขั้น1 ยังพอมีที่ให้นั่งและเก็บกระเป๋า นั่งซักพักเอ้ะseatเรามีคนจองแต่สถานีนั้นเราไม่น่าผ่าน สงสัยรถไฟขบวนนี้สลับมาใช้ลง Basel แทน อ่ะถึง Basel ละรอขึ้นรถไฟถัดไปอีก49นาที ถึงเวลารถไฟมาหาที่นั่งนั่งกันเรียบร้อยรอรถไฟออก เลยมา15นาทีละเริ่มเอะใจทำไมไม่ออกอ่ะ สักพักมีประกาศอีกบอกรถไฟนี้ไม่ไปZurichละให้หาขบวนอื่นอีก โอยรีบCheckผ่านแอพรถไฟของสวิส SBB มีขบวนถัดไปอีก15นาที รีบลากกระเป๋าไปอีกชานชาลานึง อันนี้ที่นั่งค่อนข้างเต็มแต่ชั้น1พอมีที่นั่งแต่แน่น กระเป๋าเราวางกองพื้นเลยมีบางคนนั่งตามบันไดขึ้นลงมีลูกด้วยเราให้เค้านั่งที่เราชั้นบนเค้าบอกเค้าเอารถเข็นขึ้นไม่ได้ไม่มีที่วาง โอยสงสาร ทุกคนดูเหนื่อยมาก รถไฟยกเลิกทั้งวันวิ่งวุ่นหารถไฟกันหมด สุดท้ายถึงZurich Switzerland จองรถเช่าไว้ที่สนามบิน ดีนะไม่จองที่สถานีรถไฟมาถึงเค้าคงปิดอีก คนเดินทางโดยรถไฟแนะนำให้เผื่อเวลาเยอะๆนะ สรุปวันนั้นเดินทาง7ชม ทั้งที่ควรเป็น4.15ชม ยังมีรถไฟยกเลิกทริปจากสวิสไปปารีสอีกนะ 😂

10/11/2022

เยาวราช ไม่ใช่สิ China town in UK เหมือนเยาวราชบ้านเรามาก ช่วงหน้าร้อนหรืออากาศดี เค้าจะเอาโต้ะมาตั้งตามทางเดินด้านนอกสั่งอาหารจีนกินกัน ตามร้านต่างๆก็จะมีกุ้ง Lobster หอย ปลา สดๆในตู้ให้เลือกทำอาหารกันสดๆ คิดโคมสีแดงทั่วซอยให้ดูเพลินตาเหมือนเดินอยู่ที่ประเทศจีนจริงๆ

09/17/2022

ก่อนออกจาก Scotland แวะ Dean Village หมู่ในหุบเขาลึก กันก่อนนะ
เค้าว่ากันว่ามีหมู่บ้านนี้ตั้งแต่ 1535 แต่เริ่มปรากฎในแผนที่ 1560 แล้วเริ่มตั้งชื่อหมู่บ้านปี1585

จากเสียงเล่าลือบอกว่าที่จริงหมู่บ้านแถวนี้เค้าสร้างในยุค 1880 เป็นบ้านตัวอย่างให้คนงานแถวนี้ พยายามสร้างบ้านเพื่อให้ดูเป็นบ้านที่น่าอยู่เน้นความเป็นศิลปะเข้ามาผสมผสาน เพราะสมัยก่อนแถวนี้มีโรงงานMilling of water และบ้างก็ว่ามีโรงงานสีข้าว 11 โรงสี ยังคงมีซากหินแผ่นเต็มไปหมด แต่ปัจจุบันเป็น Art gallery แล้วจ้า เดินเรียบทางริมน้ำไปแค่2-3นาทีก็จะถึงสะพาน เค้าว่ากันว่าสะพานนี้สร้างขึ้นเพื่อข้ามฝั่งจากEdinburg มาอีกฝั่ง ข่าวลือว่าเคยมีผู้หญิงเสียชีวิตใต้สะพานนี้ด้วยไม่รู้สาเหตุใด

เดินจาก Edinburg Castle แค่20นาที ขับรถ10นาที มีที่จ่าย parking Meter แต่ต้องจอดรถระวังหน่อยนะเพราะมี permit parking ด้วย เดี๋ยวใบสั่งถามหา ยังไงไม่ควรพลาดหมู่บ้านน่ารักๆเก่าแก่ขนาดนี้นะ มุมถ่ายรูปคือบอกเลยมีทุกมุม สายsnapshotห้ามพลาด